webnovel

1248 รายชื่อผู้ที่หนีรอดออกมาได้

ตอนที่ 1248 รายชื่อผู้ที่หนีรอดออกมาได้

ประตูเปิดออก

“ข้ากลับมาแล้ว!” กู่ฉิงซานกล่าว

“กลับมาแล้วหรือ เข้าครัวทำอาหารเลย” เสียงของหลี่ชิวอวี่ดังขึ้น

“นี่คือการทักทายคนอื่นงั้นหรือ”

กู่ฉิงซานบ่นขณะเดินเข้าครับไป เขาเห็นว่าผักทั้งหมดถูกซื้อมาวางบนเขียงอย่างเป็นระเบียบ

“ให้ข้าช่วยเอง”

ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในครัว เป็นจ้าวเฉียงนั่นเอง

“หืม พี่จ้าวหรือ” กู่ฉิงซานถามด้วยความประหลาดใจ

“ข้ามาเพื่อสนทนาบางสิ่งกับพี่สาวเจ้าน่ะ แต่มันล่าช้านิดหน่อย ดังนั้นนางเลยให้ข้าช่วยทำมื้อเย็นด้วย” จ้าวเฉียงกล่าวด้วยใบหน้าแดงก่ำ

กู่ฉิงซานมองออกไปนอกหน้าต่าง

ข้างนอกใกล้จะมืดแล้ว

“งั้นท่านช่วยข้าล้างจานพวกนี้ ข้าจะดูแลส่วนที่เหลือเอง”

“ได้”

ทั้งสองคนเริ่มทำงาน

ขณะหั่นผัก กู่ฉิงซานชำเลืองมองจ้าวเฉียง

เขาเห็นว่านางกำลังล้างผักอย่างตั้งใจ หลังจากล้างเสร็จ นางนำจานกับตะเกียบไปวาง

ผู้หญิงคนนี้… น่าจะไม่มีปัญหาอะไร

กู่ฉิงซานถอนสายตากลับก่อนเริ่มทำอาหาร

ผ่านไปหลายสิบนาที

โต๊ะเต็มไปด้วยอาหารโอชะ

“หลี่ซานหลาง ผู้ชายอย่างเจ้าจะต้องเนื้อหอมเมื่อโตขึ้นอย่างแน่นอน” จ้าวเฉียงกล่าว

หลี่ชิวอวี่หาวขณะเดินออกจากห้องนอน สายตาของนางกวาดมองโต๊ะ

“หืม ทำไมวันนี้ถึงมีอาหารเยอะจังล่ะ” นางถามด้วยความประหลาดใจ

“วันนี้อารมณ์ดีน่ะ” กู่ฉิงซานยิ้ม

หลี่ชิวอวี่หยิบชามกับตะเกียบก่อนเริ่มชิม

“อื้ม จานนี้ไม่เลว จานนี้ไม่เลวเหมือนกัน… อร่อยหมดทุกจานเลย ซานหลาง ตั้งใจฟังให้ดีนะ ตอนเที่ยงเจ้าก็ต้องทำอาหารเยอะๆ แบบนี้ในอนาคต”

กู่ฉิงซานพึมพำว่า “ในอนาคต ข้าไม่อยากทำฟาร์มหมูหรอกนะ…”

“หลี่ชิวซาน เจ้าว่าอะไรนะ!”

พวกเขาสามคนกินอาหารเสร็จก่อนนั่งลงดื่มชาด้วยกัน

“ซานหลาง ทำไมวันนี้เจ้าถึงอารมณ์ดีล่ะ” จ้าวเฉียงถาม

“ข้ามีความคืบหน้าในการฝึกฝนน่ะ ข้ารู้สึกว่ากำลังจะได้มรดกใหม่จากพลังจิต” กู่ฉิงซานตอบ

ทั้งจ้าวเฉียงและหลี่ชิวอวี่ประหลาดใจ

“ไวขนาดนั้นเลยหรือ” หลี่ชิวอวี่อดที่จะถามไม่ได้

กู่ฉิงซานถามกลับว่า “นี่เรียกว่าไวแล้วหรือ”

“ก็ไวน่ะสิ น้อยคนนักที่จะสามารถไวเท่าเจ้าได้ น่าทึ่งนัก” จ้าวเฉียงอุทาน

กู่ฉิงซานรู้สึกหัวใจบีบรัดแต่ก็ยิ้มออกมา “จะว่าไปแล้ว พี่ชิวอวี่ ข้ามีคำถามจะถามท่านน่ะ”

หลี่ชิวอวี่พ่นลมออกจมูกเล็กน้อยเมื่อเห็นเขาทำสีหน้าอ้อนวอนก่อนกล่าวว่า “เจ้าถามมาสิ”

“ตอนข้าใช้พลังจิต ท่านดูข้าจากด้านข้าง… ข้าหลับไปในทันทีเลยหรือเปล่า” กู่ฉิงซานถาม

หลี่ชิวอวี่ครุ่นคิดสักพักก่อนตอบว่า “ตอนนั้นเจ้ามองข้าแล้วก็หลับไปเลย”

“พี่ชิวอวี่ ข้าจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าได้มองท่านนะ” กู่ฉิงซานกล่าว

หลี่ชิวอวี่ไม่เห็นด้วยก่อนกล่าวว่า “ไม่เลย บางครั้งคนก็จะทำการเคลื่อนไหวเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว พวกขาอาจจะจำไม่ได้”

กู่ฉิงซานไม่เซ้าซี้คำถามนี้อีก

เขาหันมาหาจ้าวเฉียงแล้วถามว่า “พี่จ้าว ข้าได้ฟังบทเรียนจากอาจารย์วิชาประวัติศาสตร์มา เขาบอกว่ามีสัตว์ประหลาดแห่งความว่างเปล่าจำนวนมากที่ลอบเข้าสุสาน มันเป็นความจริงหรือเปล่า”

นี่คือสิ่งที่รู้กันดีอยู่แล้ว จ้าวเฉียงจึงไม่สนใจ นางจึงพยักหน้าแล้วตอบว่า “ใช่ สุสานเพิ่มปรากฏในตอนนั้น สมบัติหายากจำนวนมากทะลักออกมา สิ่งมีชีวิตทรงพลังจากโลกทั้งสิบทิศล้วนมุ่งเข้าสู่สุสาน”

หลี่ชิวอวี่จิบชาก่อนขัดขึ้นว่า “จะถามไปทำไม แม้แต่พวกเราก็สามารถศึกษาบริเวณรอบสุสานได้อย่างช้าๆ หากพวกมันกล้าบุกเข้าไปตรงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องบอกหรอกว่าจุดจบจะเป็นยังไง”

กู่ฉิงซานกล่าวกับตัวเองว่า “ข้าเกรงว่านับตั้งแต่นั้นมาจะไม่มีใครกล้าบุกเข้าสุสานโดยไม่ได้รับอนุญาต”

หลี่ชิวอวี่ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “เจ้าคิดผิดแล้ว ขอแค่มีของดีก็มีคนที่ไม่เชื่อเรื่องน่ากลัวแบบนั้นเสมอ จกาอดีตถึงปัจจุบัน ทุกๆ ทศวรรษหรือศตวรรษ จะมีใครบางคนไม่แจ้งพวกเราแล้วบุกเข้าไปโดยไม่ขออนุญาต”

“ไม่มีใครน่าจะได้ออกมาสินะ” กู่ฉิงซานกล่าว

“แน่นอนว่าไม่มี” หลี่ชิวอวี่ยิ้ม

จ้าวเฉียงเสริมให้ถูกต้อง “ยังมีคนโชคดีอยู่บ้าง พวกมันอาจจะไม่ได้เข้าไปลึกนัก ทำให้สามารถรอดกลับมาได้… แต่จำนวนคนเหล่านั้นก็น้อยเหลือเกิน ต่อให้ออกมาได้ พวกมันก็ใกล้ตายแล้ว”

“ถ้างั้นพวกมันก็ต้องถูกพวกเราจับสินะ” กู่ฉิงซานกล่าว

“ไม่ พวกเราไม่กล้าแตะต้องพวกมันหรอก เพราะพวกเราไม่รู้ว่าพวกมันนำวันสิ้นโลกน่าสะพรึงอะไรออกมาบ้าง พวกเราเพียงแค่หวังว่าพวกมันจะออกจากถ้ำหมื่นอสูรให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” หลี่ชิวอวี่กล่าว

หลังจากพูดจบ นางเคาะศีรษะของกู่ฉิงซานแล้วกล่าวว่า “เจ้าหนู ทำไมถึงถามมากขนาดนี้ หาทางเพิ่มระดับพลังจิตจะดีกว่า เมื่อพละกำลังสูงส่งจนถึงระดับหนึ่งแล้ว เจ้าย่อมได้รู้อีกหลายสิ่งหลายอย่างเลยล่ะ”

“โอ๊ย เบาๆ หน่อย” กู่ฉิงซานอุทานขณะกล่าวอย่างหมองหม่นว่า “ข้าเพิ่งอายุสิบสามปีเอง เมื่อไหร่ถึงจะได้รู้ความลับมากมายกันล่ะ”

จ้าวเฉียงรู้สึกไม่พอใจที่เขาถูกพี่ใหญ่เคาะศีรษะ หัวใจของนางอ่อนยวบ

นางแตะศีรษะของกู่ฉิงซานแล้วกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ในสองปี เมื่อเจ้าจบการศึกษาจากสำนักซานไห่ เจ้าจะสามารถตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานในห้องรวบรวมได้… พวกเรามีบันทึกเกี่ยวกับตัวตนของผู้ที่บุกรุกสุสานเข้ามา เจ้าสามารถไปดูด้วยตัวเองได้”

“พี่จ้าวเฉียงใจดีจัง” กู่ฉิงซานกล่าว

หลี่ชิวอวี่ชำเลืองมองเขาแล้วกล่าวว่า “ดื่มชาเสร็จหรือยัง ดื่มเสร็จแล้วก็ไปฝึกฝนสิ!”

กู่ฉิงซานยืนขึ้น กล่าวลาจ้าวเฉียงก่อนเข้าห้องนอนไป

ทันทีที่ประตูปิด เขาได้ยินเสียงผู้หญิงทั้งสองสนทนากัน

“เด็กคนนี้นี่นะ…”

“ช่างเถอะ เมื่อก่อนพวกเราก็เคยสงสัยเรื่องพวกนี้มากไม่ใช่หรือ”

กู่ฉิงซานยืนอยู่หลังประตูสักพักก่อนทบทวนบทสนทนาก่อนหน้านี้ในใจ

ข้าฝึกพลังจิตเร็วงั้นหรือ

เขาครุ่นคิดกับตัวเองขณะเดินไปที่เตียงแล้วนั่งลง

มีทั้งความคิดและการคาดเดา แต่ไม่มีหลักฐาน

ความจริงซ่อนอยู่ในหมอกไร้ที่สิ้นสุด หากอยากเข้าใกล้ทีละน้อยก็ห้ามเดินทางผิดเด็ดขาด

ทาง…

กู่ฉิงซานนั่งอยู่กับที่ขณะรอเงียบๆ

นอกหน้าต่าง ราตรีมืดมิดขึ้นเรื่อยๆ

ในที่สุดเขาได้ยินเสียงจ้าวเฉียงและหลี่ชิวอวี่ออกไป

ประตูปิดลง

หลี่ชิวอวี่เดินกลับมาล้างมือก่อนกลับเข้าห้องนอน

กู่ฉิงซานรอสักพักจนกระทั่งถึงเที่ยงคืน เขาจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้องก่อนตรงไปยังห้องนอนของหลี่ชิวอวี่

เขาเปิดประตูแล้วเดินเข้าไป

เขาเห็นหลี่ชิวอวี่อยู่บนเตียง กำลังนอนหลับสนิท

กู่ฉิงซานมองนาง

หลี่ชิวอวี่ไม่รู้ตัวแม้แต่นิดเดียว

เสียงของฉานนู่ดังขึ้น “นายท่าน ท่านจะยืนอย่างเดียวหรือ ถ้านางตื่นขึ้นมาจะทำยังไง”

“ไม่ตื่นหรอก” กู่ฉิงซานกล่าว

“นายท่านทำอะไรกับอาหารงั้นหรือ”

“ที่จริง มันคืออาหารบำบัดวิญญาณอย่างหนึ่งน่ะ มันเป็นประโยชน์กับลมปราณและโลหิต ทำให้สงบและมีกำลังวังชา หลักฐานก็คือการนอนหลับสนิทนี่แหละ” กู่ฉิงซานกล่าว

ดาบบินสามเล่มปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าด้านหลังของเขา

“ในเมื่อนางไม่ตื่น แล้วพวกเรา… จะทำอะไรหรือ” ดาบพิภพถาม

“คิดว่านายท่านจะทำอะไรล่ะ” ฉานนู่ถามกลับ

“ดาบพิภพกล่าวว่า “ลองเดาสิ”

ฉานนู่ไม่หลงกล ดังนั้นนางจึงถามกู่ฉิงซานตรงๆ “นายท่าน ตอนนี้พวกเราจะทำอะไรหรือ”

กู่ฉิงซานหยิบจัตุรัสแผ่นหนึ่งออกมา เขาสะบัดมือเพื่อเริ่มติดตั้งค่ายกล

“ตอนนี้นางหลับอยู่ ไม่มีความสามารถการป้องกันที่แข็งแกร่ง ข้าจะติดตั้งค่ายกลสองสามชั้นไว้ที่นาง หากมีอะไรเกิดขึ้น ข้าจะรู้ได้ทันที”

ขณะพูด เขาวางค่ายกลป้องกันไว้รอบเตียงหลายสิบชุด

หลี่ชิวอวี่หลับสนิท ไม่รู้เรื่องอะไร

“นายท่านจะออกไปหรือ” ฉานนู่เดา

“ใช่ ไปห้องโบราณเพื่อตรวจสอบว่าสัตว์ประหลาดแห่งความว่างเปล่าในอดีตตัวไหนที่เคยหลบหนีออกจากสุสานได้” กู่ฉิงซานกล่าว

“จะต้องมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวดมากแน่ๆ ” ฉานนู่กล่าว

“ขอแค่จบการศึกษาจากอาศรมก็สามารถเข้าไปดูอย่างเปิดเผยได้ ไม่ต้องเสี่ยงอะไรเลย” ดาบพิภพกล่าว

“รอไม่ได้แล้ว” กู่ฉิงซานกล่าว

“ทำไมไม่ใช้ ‘เทพท่องราตรี’ ล่ะ” ฉานนู่แนะนำ

กู่ฉิงซานไม่ตอบ

เขากลับห้อง เปิดหน้าต่างแล้วกระโดดออกไป

ขณะลงไปได้ครึ่งทาง เขากลายเป็นแมวสีส้มตัวใหญ่ก่อนตกลงบนพื้นอย่างนุ่มนวล

เงาภูตผีแห่งราตรีมายา ทำงาน!

ด้วยการพึ่ง “หยกไร้ข้อบกพร่อง” ของจี้น้ำเต้าหยกเหวยจุน แมวสีส้มวิ่งไปตามถนนได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ถูกทหารยามที่ตรวจตราตอนกลางคืนเห็น

แมวสีส้มวิ่งไปตามทางจนมาถึงตำแหน่งของห้องโบราณ

ห้องโบราณคือหอคอยจัตุรัสสีดำที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง

ตอนนี้ ราตรีมืดมิดยิ่งขึ้น ไม่มีคนอยู่ในห้องโบราณ แต่ยังมีทหารยามจำนวนมากประจำการอยู่ที่นี่

ยังไงเสีย มีเรื่องราวแปลกประหลาดและความลับถูกเก็บไว้ในห้องโบราณมากเกินไป สำหรับคนในถ้ำหมื่นอสูร นี่คือสิ่งที่มีค่ามากที่สุด

แมวสีส้มมองดูเงียบๆ สักพักก่อนเดินวนไปมาแถวห้องโบราณจนพบช่องลมอย่างรวดเร็ว

มีชิ้นส่วนกระดูกจำนวนมากอยู่ที่นี่ เห็นได้ชัดว่าผู้เชี่ยวชาญกระดูกทิ้งมาตรการป้องกันเอาไว้ที่ช่องลมด้วย

“เหมียว…”

แมวสีส้มส่งเสียงร้องอย่างแผ่วเบา

เขาเห็นดาบขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพพลันปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าก่อนแทงไปทางช่องลมอย่างรุนแรง

ทุกวิชา ทุกวิถี ทั้งหมดถูกทำลายด้วยการแทงนี้

แมวสีส้มพุ่งเข้าไปราวกับสายฟ้า

ในเวลาเดียวกัน

“นั่นใครน่ะ!”

มีเสียงตะโกนดังสนั่นขึ้นมา

ทหารยามแปดคนเคลื่อนลงมาจากท้องนภาก่อนลงมาอยู่ใกล้ช่องลม

พวกเขามองรอบข้าง แต่ไม่พบอะไร

ชิ้นส่วนกระดูกทั้งหมดอยู่ในสภาพสมบูรณ์

คาถาบนชิ้นส่วนกระดูกทำงานเมื่อครู่ แต่ทันใดนั้นก็หายไป

ทหารยามรีบติดต่อผู้เชี่ยวชาญกระดูกที่คุ้มกันห้องโบราณ

ผู้เชี่ยวชาญกระดูกมาถึงที่ก่อนพาทหารยามตามหาร่องรอยอย่างช้าๆ

แต่ไม่พบอะไร

ผิดปกติ!

ในท้ายที่สุด ผู้เชี่ยวชาญกระดูกตัดสินว่าน่าจะเป็นใบไม้ที่บังเอิญโดนลมพัดมาจนไปสัมผัสกับชิ้นส่วนกระดูกเข้า ทำให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้

เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผลลัพธ์นี้จึงเป็นสิ่งที่ยอมรับได้

ทุกคนต่างแยกย้าย

อีกด้าน

กู่ฉิงซานเข้าสู่ห้องโบราณเพื่อค้นหาทีละชั้น

ตอนนี้เขาเข้าใจสถานการณ์พื้นฐานของอารายธรรมนี้แล้ว สายตาของเขากวาดมองข้อมูลโบราณโดยไม่ได้รับผลจากความมืดใดๆ

ไม่ช้า เขาตัดสินใจได้ว่าข้อมูลที่จะหานั้นอยู่ระดับต่ำสุด

…ยังไงเสีย เด็กใหม่ที่จบการศึกษาจากอาศรมสามารถตรวจสอบความลับเหล่านี้ได้ ดังนั้นก็ไม่น่าจะมีการคุ้มกันที่แน่นหนา

ตอนนี้ ผู้เชี่ยวชาญกระดูกที่ทำหน้าที่กลับมาประจำตำแหน่ง เขาตรวจสอบความลับสำคัญเหล่านั้นที่บนหอคอยจัตุรัส ไม่สนใจจะมาที่นี่อีก

ห้องโบราณมืดและเงียบสงบ

แมวสีส้มที่ตรวจจับไม่ได้ก้าวไปตามแถวชิ้นส่วนกระดูกที่ถูกวางอย่างเป็นระเบียบช้าๆ

“บันทึกการตายและรายละเอียดคร่าวๆ ของสัตว์ประหลาดโลกอื่น”

แมวสีส้มหยุดอยู่ตรงหน้าป้ายนี้

มันเริ่มหยิบชิ้นกระดูกยาวขึ้นมา

…ส่วนนี้คือความลับพื้นฐานที่สุด ดังนั้นจึงเป็นชิ้นส่วนกระดูกเพียงชิ้นเดียว

แมวสีส้มผิดหวังเล็กน้อย แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว…

มันเหมือนกับคนขณะย่อตัวลงกับพื้น ถือชิ้นส่วนกระดูกเอาไว้แล้วอ่านอย่างตั้งใจ

ทันใดนั้น

มันคล้ายกับพบบางสิ่งเข้า หางข้างหลังที่กระดิกช้าๆ ก็แข็งทื่อกลางอากาศ

มันเห็นชิ้นส่วนข้อมูลที่ถูกบันทึกบนชิ้นส่วนกระดูกด้วยคำพูดจากโลกถ้ำหมื่นอสูร

“ใช่แล้ว มีสัตว์ประหลาดแห่งความว่างเปล่าที่โชคดีมากจนหลบหนีออกมาจากสุสานได้ จำนวนของพวกมันน้อยนิดนัก”

“รายชื่อผู้ที่หนีรอดออกมาได้”

“…”

“ลำดับที่ห้า สัตว์ประหลาดหุบเหว วิญญาณกรีดร้อง”

……………………………………