webnovel

1097 ส่งสารถึงหุบเหว

ตอนที่ 1097 ส่งสารถึงหุบเหว

ถึงจุดนี้ สองสาวพลันเปลี่ยนสีหน้า

ผู้หญิงชุดดำกล่าวว่า “อะ โอ๊ะ พลังที่สนับสนุนพวกข้าในโลกนี้ใกล้หมดแล้ว”

ผู้หญิงชุดขาวรีบกล่าวว่า “ราชาภูตผี เจ้าต้องระวังตัวไว้ด้วย”

กู่ฉิงซานถามว่า “ระวังอะไรหรือ”

“สถานการณ์ซับซ้อนมาก ตอนนี้ยังไม่แน่ชัด” ผู้หญิงชุดดำตอบอย่างเคร่งขรึม

ผู้หญิงชุดขาวชำเลืองมองนางแล้วกล่าวว่า “พูดตามตรง พวกข้าไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นยังไงเหมือนกัน”

ผู้หญิงชุดดำชำเลืองมองผู้หญิงชุดขาวกลับแล้วกล่าวว่า “จะข้าหรือพี่น้องข้าก็ไม่มีความทะเยอทะยาน ข้าชอบเล่นไพ่ นางชอบทำอาหาร พูดง่ายๆ พวกข้าเฝ้ารอที่จะรักษาชีวิตอันแสนสงบสุขเอาไว้ แต่ผู้ฝึกยุทธ์เหล่านั้นกลับมีความคิดต่างออกไป พวกเทพจากยมโลก พวกเขามีความทะเยอทะยานเช่นกัน ทันทีที่ทราบว่าเจ้าคือราชาภูตผีแห่งยมโลก ใครบางคนจะต้องหาทางมาจัดการเจ้าอย่างแน่นอน”

“ทำไมถึงอยากมาจัดการข้ากันล่ะ” กู่ฉิงซานถาม

สองสาวมองเขาอย่างมีนัยอันลึกซึ้ง

ผู้หญิงชุดดำตอบอย่างเกียจคร้านว่า “เจ้าลองคิดดูสิ คนตายในขุมนรกที่สิบแปดจะฟังคำสั่งของเจ้า เจ้าคิดว่าเทพที่อยู่บริเวณประตูผี สะพานแห่งความเป็นความตาย ชายฝั่งแม่น้ำลืมเลือนและโถงการกลับชาติมาเกิดจะรู้สึกยังไง”

กู่ฉิงซานประหลาดใจเล็กน้อย

ผู้หญิงชุดขาวตอบว่า “พวกข้ามีความสัมพันธ์กับเจ้าและได้คบหากัน ดังนั้นจึงอยู่ฝั่งเดียวกัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ากลุ่มอื่นจะต้องทำตามสักหน่อย”

ร่างของพวกนางค่อยๆ โปร่งแสงและบางเฉียบ

พวกนางเข้าสู่วิญญาณของสองสาวที่เป็นเจ้าของร่างก่อนโบกมือให้กู่ฉิงซานแล้วหายไป

ในที่สุด ผู้หญิงชุดขาวมองเขาแล้วกระซิบอย่างแผ่วเบาว่า “เจ้าคิดว่ามีโลกคู่ขนานแห่งเดียวที่กำลังตกต่ำ แต่มันไม่ใช่เลย”

ผู้หญิงชุดดำกล่าวว่า “โลกคู่ขนานเก้าร้อยแปดใบก่อเกิดสร้างพลังทำลายล้างขึ้นมา ทำลายกฎเกณฑ์ของโลก ตกลงสู่วังวนความว่างเปล่าก่อนจะเข้าสู่หุบเหวนิรันดร์”

ผู้หญิงชุดขาวกล่าวว่า “โชคชะตาของการทำลายล้างโลกเหล่านี้ไม่อาจหยุดยั้งได้ คาดว่ามันจะกินเวลาไม่นานนักที่หุบเหวนิรันดร์จะพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์”

หัวใจของกู่ฉิงซานสั่นสะท้าน

โลกคู่ขนาน… เก้าร้อยแปดแห่งกำลังพังทลาย

พลังอะไรกันเนี่ย ไม่สงสัยเลยว่าผู้สร้างปฐพีถึงถูกกำจัดโดยที่ไม่ทันได้สังเกตเห็นชั่วงขณะ

ใครถึงกับเป็นคนวางแผนเรื่องนี้ขึ้นมา

…ทำไมพวกเขาทำต้องลายหุบเหวนิรันดร์ด้วย

ผู้หญิงชุดดำกล่าวว่า “ราชาภูตผี นี่คือการต่อสู้ดุเดือดระหว่างโลกคู่ขนานและหุบเหวนิรันดร์ มันคือการต่อสู้วันสิ้นโลกอย่างแท้จริง ย่อมส่งผลกับสิ่งมีชีวิตและโลกนับไม่ถ้วน เจ้าต้องระวังให้ดี ซ่อนตัวและพยายามอยู่ให้ห่างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้”

ผู้หญิงชุดขาวกล่าวเช่นกันว่า “รักษาตัวด้วย หวังว่าราชาภูตผีจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อหลบหนีจากวันสิ้นโลกนี้ไปได้”

สองสาวคำนับเล็กน้อย จมดิ่งสู่ความว่างเปล่าก่อนหายไปสิ้น

กู่ฉิงซานยืนอยู่กับที่สักพัก

ความจริงช่างน่าทึ่งนัก

ไม่มีใครสามารถควบคุมเรื่องนี้ได้

นี่คือการต่อสู้เพื่อการทำลายล้าง!

เป็นเวลาเนิ่นนาน กู่ฉิงซานถอนหายใจก่อนสั่งให้ตัวเองหยุดคิด

ความผันผวนเล็กน้อยพลันมาจากนิ้ว

กู่ฉิงซานก้มมอง มันคือแหวนที่เหล่าต้ามอบให้

แหวนหุบเหว

ในเวลาเดียวกัน แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม

“หุบเหวนิรันดร์กำลังรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับโลกคู่ขนานและการกัดกร่อนของโชคชะตาอยู่”

“แหวนหุบเหวของท่านสัมผัสได้ว่าท่านติดต่อกับผู้มาเยือนจากโลกคู่ขนาน”

“มันกระหายข้อมูลจากท่าน”

“ท่านสามารถปล่อยพลังวิญญาณหนึ่งแต้มเพื่อใช้งานพลังของแหวนในการช่วยส่งผ่านความจริงไปยังหุบเหวนิรันดร์”

กู่ฉิงซานถามว่า “แล้วถ้าเกิดข้าไม่อยากบอกล่ะ”

แถวหิ่งห้อยใหม่ปรากฏขึ้นมา

“หน้าต่างระบบนี้จะลบเจตจำนงของแหวนไป มันจะไม่สามารถรับรู้ถึงหุบเหวนิรันดร์ได้อีกต่อไป… แน่นอนว่าการทำแบบนี้ต้องใช้พลังวิญญาณ”

กู่ฉิงซานเงียบไปสักพัก

…เขาพลันนึกบางอย่างออก

เขาเคยกลับไปที่เมืองเรเควี่ยมจากมรดกของเทพแห่งความตายเพื่อสนทนากับเหล่าต้า

ในตอนนั้น เขาบอกว่า “เพราะข้ามีบัญญัติราชามาร วิญญาณกรีดร้องจะต้องมาฆ่าข้าอย่างแน่นอน”

“เจ้าอยากทำอะไรล่ะ” เหล่าต้าถาม

“ข้าต้องการไพ่ของสี่เทพ ข้าอยากฟื้นคืนชีพบัญญัติเพื่อต่อสู้กับมัน”

เหล่าต้าครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวว่า “งั้นข้าจะช่วยเจ้าในเรื่องนี้ จากนั้นเจ้าก็ช่วยข้าสู้กับหายนะวันสิ้นโลก”

“ได้” เขากล่าว

“งั้นตกลงตามนี้”

“พูดคำไหนคำนั้น”

เขาได้เป็นพันธมิตรกับหุบเหวแล้ว…

ถ้างั้นตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องตอบแทนแล้วหรือเปล่า

กู่ฉิงซานพลิกแหวนบนมือก่อนถ่ายพลังวิญญาณ

เขายกมืออีกข้างขึ้น ร่ายวิชาออกมาแล้วเริ่มบันทึกฉากที่เพิ่งเกิดเมื่อครู่ลงไปในแหวน

“ไปเสีย บอกหุบเหวว่าศัตรูอาจจะทรงพลังกว่าที่คิดไว้!”

กู่ฉิงซานถอนหายใจอย่างแผ่วเบา

ลำแสงปรากฏขึ้นจากแหวนก่อนตัดผ่านความว่างเปล่าแล้วหายไปทันที

เมื่อเห็นว่าเรื่องราวจบแล้ว กู่ฉิงซานก็ไม่อยู่กับที่อีก

…ที่จริง ถ้าไม่ใช่เพราะการมาเยือนของงูแฝดขาวดำ เกรงว่าเขาคงไปถึงสถานที่ที่หอกหลากสีสันอยู่แล้ว

กู่ฉิงซานยังคงเหาะต่อไปข้างหน้า เวลาผ่านไปราวสิบห้านาที ในที่สุดก็มาถึงตำแหน่งที่ชิ้นส่วนหลากสีสันสัมผัสได้

ตำแหน่งนั้น…

กู่ฉิงซานเงยหน้าขึ้นด้วยความสับสน

เหนือขึ้นไปคือกำแพงที่มองไม่เห็น แผ่นหินบนกำแพงมีพื้นผิวแปลกประหลาด จิตเทพของเขาไม่สามารถทะลุผ่านไปได้

“ในกำแพงนี้หรือ”

กู่ฉิงซานเอื้อมมือไปสัมผัสกำแพง

เมื่อมือของเขาสัมผัสกำแพง ทันใดนั้น เสียงพลิกอย่างต่อเนื่องดังขึ้น

แผ่นหินบนกำแพงพลิกไปมา เผยให้เห็นขั้นบันไดหินมืดมน

มันอยู่ที่นี่จริงๆ!

กู่ฉิงซานถึงกับสั่นสะท้าน

ใครจะคิดล่ะว่ามีเส้นทางลับซ่อนอยู่ในกำแพงไร้ที่สิ้นสุดแห่งนี้

กู่ฉิงซานกระโจนเข้าไปก่อนหายไปอย่างรวดเร็ว

แผ่นหินส่งเสียงครืนอีกครั้งก่อนปิดไล่หลัง ไม่มีใครสามารถมองเห็นเบาะแสได้อีก

อีกด้าน

ในความว่างเปล่าอันมืดมิด

ราชาโหมวลัวร่างใหญ่ราวขุนเขา มันยืนนิ่งในความว่างเปล่า

ทันใดนั้น ลำแสงทิ่มแทงท้องนภามาจากไกลๆ ก่อนพุ่งเข้ามาสายแล้วสายเล่า

ราวกับฝนดาวตก กลุ่มผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าแห่งนี้

ราชาโหมวลัวหลับตาลง สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เจ็ดร้อย… เก้าร้อย… หนึ่งพันสองร้อย… สองพันเจ็ดร้อย… สามพัน

ผู้ฝึกยุทธ์รวมทั้งสิ้นสามพันคน

ในบรรดากลุ่มนั้นมีผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่จุดสูงสุดของระดับนภายามค่ำด้วย

นี่คือคนของราชาอิสรภาพ นับว่าหาได้ยาก

เฮ้อ…

พวกคนในยมโลกจะได้ต่อสู้ในศึกใหญ่จริงๆ

ดูท่าวิญญาณภูตเหล่านั้นจะต้องถูกกำจัดจนสิ้นจริงๆ สินะ

ราชาโหมวลัวพึงพอใจ

มันเห็นว่าผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหมดยังยืนอยู่ในความว่างเปล่า หนึ่งในผู้ฝึกยุทธ์เหล่านั้นออกมา ประสานมือให้กับราชาโหมวลัวแล้วกล่าวว่า “ท่านราชา ครั้งนี้ให้พวกข้าสะสางเอง ขอสัญญาว่าจะต้องนำคำตอบที่น่าพึงพอใจมาให้ท่านให้ได้”

พอราชาโหมวลัวมองดู อีกฝ่ายคือผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสูงสุดของระดับนภายามค่ำ

ราชากล่าวว่า “แต่คนเหล่านั้นอาจจะมีวิธีหนีก็ได้ พวกเราตามรอยไม่ได้แล้วด้วย ทั่วทางเดินลับก็ไกลนัก เกรงว่าจะต้องใช้เวลาสักหน่อย”

ผู้ฝึกยุทธ์ประสานมือ

หลังจากนั้น ผู้ฝึกยุทธ์สองคนก้าวมาข้างหน้าเพื่อร่ายวิชาพร้อมกัน

“ขอแจ้งให้ท่านราชาทราบว่าคนตายของพวกข้าได้ปล่อยวิชาเทพตามรอยไว้กับยานอวกาศของเจ้าพวกนั้น ต่อให้หนีไปสุดขอบโลก พวกเราก็สามารถตามหาจนเจอได้”

ขณะพูด ผู้ฝึกยุทธ์สองคนใช้งานวิชาตามรอยพร้อมกัน

กลิ่นอายกลายเป็นภาพมายา กระจายไปทั่วความมืด ก่อเกิดเป็นภาพขึ้นมา

บนจอ ยานอวกาศเหล็กกล้าดารากำลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆ

ซูเสวี่ยเอ้อร์ พวกหลานซิ่วและแม้กระทั่งร่างวิญญาณภูตก็ปรากฏบนจอ

ผู้ฝึกยุทธ์กล่าวว่า “ดูนี่สิ ท่านราชา พวกเราพบเป้าหมายแล้ว”

ราชาโหมวลัวกล่าวว่า “ดีมาก ข้าเห็นว่าเจ้านำคนมามากมาย ครั้งนี้จะทำอะไรหรือ”

ผู้ฝึกยุทธ์ประสานมือแล้วตอบอย่างเย็นชาว่า “มันกล้ามาฆ่าคนของพวกข้า ครั้งนี้ข้าจะฆ่าพวกมันให้หมด จากนั้นก็นำวิญญาณกลับมาเพื่อถวายให้ท่านราชา!”

ราชาโหมวลัวหัวเราะ

“ฮ่า ฮ่า ดี! ข้าชอบกินวิญญาณเจ็บปวดยิ่งนัก เจ้ารีบไปรีบกลับเถอะ ข้าจะรอฟังข่าวดีอยู่ที่นี่!”

………………………………….