webnovel

1023 กู่ฉิงซานและสัตว์ประหลาด

ตอนที่ 1023 กู่ฉิงซานและสัตว์ประหลาด

ตรีศูลที่สามารถปล่อยน้ำพุออกมาได้ถูกกู่ฉิงซานซัดทิ้งไป ดังนั้นจึงไม่มีเสียงน้ำไหลในน้ำพุอีกต่อไป

ส่วนซากศพ

น่าเสียดายที่เป็นราชา

ก่อนที่กู่ฉิงซานจะทันตอบสนอง ตรีศูลสีดำดูดวิญญาณกับเลือดเนื้อของเขาไป เหลือไว้เพียงหนังมนุษย์บางเท่านั้น

ในสวน ทุกสิ่งตกอยู่ในความเงียบ

ร่างของนางเงือกไร้ศีรษะยืนอยู่ในน้ำพุขณะถือโล่ไว้ในมือ

ลูกตาแนวตั้งบนโล่จับจ้องกู่ฉิงซาน

ลูกตาแนวตั้งพบว่าอีกฝ่ายถอดผ้าสีดำบนใบหน้าออกแล้ว ดวงตาของอีกฝ่ายลืมขึ้นขณะมองมาที่มันอย่างไร้อารมณ์

เหยื่อตัวนี้กล้ามองมันโดยไร้ซึ่งความหวาดกลัว

“บัดซบ…”

ลูกตาแนวตั้งพึมพำด้วยน้ำเสียงขมขื่น

กู่ฉิงซานไม่ได้ยิน

ตราบที่แหวนสีทองยังอยู่ในมือ สัตว์ประหลาดก็ไม่สามารถทำร้ายเขาได้

เขาหยุดมองสัตว์ประหลาด เก็บดาบพิภพและดาบขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพไว้ในความว่างเปล่าเพื่อซ่อนพวกมันเอาไว้

หลังจากนั้น เขาตบถุงเก็บของ หยิบฟูกออกมาแล้วนั่งลง

สัตว์ประหลาดสังเกตการณ์กระทำทั้งหมดเงียบๆ จนกระทั่งกู่ฉิงซานบีบค่ายกลด้วยมือทั้งสองข้าง ดวงตาของเขาหลับลงก่อนเริ่มปรับลมหายใจแล้วพักผ่อน

ขณะเวลาผ่านไป ลมหายใจของกู่ฉิงซานค่อยๆ สม่ำเสมอเป็นจังหวะ

นี่มัน…

หลับเหรอ?

ลูกตาแนวตั้งบนโล่พลันใหญ่ขึ้นจนปกคลุมทั้งโล่

“ไอ้สารเลว!”

สัตว์ประหลาดแผดเสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดออกมา

ทั้งสวนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเพราะเสียงคำราม

ต้นไม้บางต้นที่ขลาดกลัวหดลงไปในพื้นทันที

กู่ฉิงซานย่อมตื่นขึ้นเป็นธรรมดา

เขาลืมตาขึ้นมองสัตว์ประหลาดด้วยเหตุผลใดไม่ทราบ

“เจ้าจะตะโกนทำไม”

กู่ฉิงซานถาม

“ข้าต่างหากที่ควรถาม! เจ้ากล้าหลับต่อหน้าข้าได้ยังไง แบบนี้มันดูถูกกันชัดๆ” สัตว์ประหลาดเกรี้ยวกราดมากขึ้น

กู่ฉิงซานถามกลับด้วยความงุนงงว่า “สถานการณ์ตอนนี้คือเจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ข้าก็ฆ่าเจ้าไม่ได้ แล้วเจ้ายังต้องการอะไรอีก”

สัตว์ประหลาดตอบอย่างเย็นชาว่า “ไม่สนร่างของสหาย ไม่สนที่จะแก้แค้นข้า เจ้าเป็นคนที่โหดเหี้ยมจริงๆ”

กู่ฉิงซานปฏิเสธที่จะตอบก่อนหาวออกมาแล้วพึมพำว่า “ช่วงนี้ข้าอยู่ดึกตลอดจนแทบไม่ได้พัก ข้าขอนอนก่อนล่ะ”

เขาหลับตาลง เตรียมจมดิ่งสู่ความฝันอีกครั้ง

สัตว์ประหลาดพูดไม่ออก

ความโกรธสุดบรรยายสั่งสมอยู่ในใจของมัน

สัตว์ประหลาดอดที่จะตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดไม่ได้ “ห้ามนอน!”

กู่ฉิงซานลืมตาขึ้นอีกครั้ง

เขากล่าวอย่างไม่พึงพอใจว่า “เจ้าฆ่าข้าไม่ได้แท้ๆ แล้วจะตะโกนให้มันได้อะไร ไม่มีอะไรทำเป็นประจำทุกวันหรือ”

สัตว์ประหลาดเย้ยหยันแล้วตอบว่า “หลังจากเจ้าติดอยู่ที่นี่มานานกว่าหนึ่งหมื่นปี เจ้าจะได้รู้ว่าการไม่มีอะไรให้ทำนั้นมันเป็นยังไง”

จิตของกู่ฉิงซานขยับ

ดูท่าสัตว์ประหลาดตัวนี้ไม่ได้อยู่ที่นี่นาน มันอยู่แค่หนึ่งหมื่นกว่าปีเท่านั้น

น่าเสียดาย เขาไม่รู้ว่าสัตว์ประหลาดได้ไปรุกรานพื้นที่อื่นของซากปรักหักพังของเทพแห่งชีวิตหรือเปล่า

ตอนเผชิญหน้ากับเทพแห่งความว่างเปล่าก่อนหน้านี้ เขาสามารถตัดลิ้นยาวด้วยหอกปีศาจแดงได้ พี่ปืนใหญ่เองก็สามารถระเบิดมันได้เช่นกัน

แต่สัตว์ประหลาดตัวนี้คือตัวตนแปลกประหลาด สามารถกลืนกินวิญญาณและเลือดเนื้อก่อนกลายเป็นอาวุธและเกราะได้ ไม่มีทางที่จะสังหารมันได้เลย

“แบบนี้ พวกเราอาจจะต้องเป็นเพื่อนบ้านกันไปตลอดกาลน่ะสิ” กู่ฉิงซานถอนหายใจ

สัตว์ประหลาดกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ตัวตนอย่างเจ้าอยู่ในสภาพเวียนว่ายตายเกิด ไม่ช้าก็ต้องตกอยู่ภายใต้กฎแห่งความตาย ไม่มีทางได้เป็นเพื่อนบ้านกับข้าตลอดกาลหรอก”

กู่ฉิงซานปรบมือแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ดังนั้นเจ้าต้องดูแลข้าให้ดีในแต่ละวัน ไม่อย่างนั้นพอข้าตายไป เจ้าจะตกอยู่ในความโดดเดี่ยวชั่วนิรันดร์ ไม่มีใครให้คุยด้วยอีก”

สัตว์ประหลาดเงียบ

คนคนนี้มันเป็นบ้าอะไร

ประสาทเสียไปแล้วหรือ

เจ้าหรือข้ากันแน่ที่เป็นสัตว์ประหลาด

สัตว์ประหลาดเงียบไปหลายอึดใจก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงชั่วร้ายว่า “…เจ้าน่าจะรู้นะว่าข้าเพิ่งฆ่าสหายของเจ้าพร้อมกับกินเลือดเนื้อและวิญญาณของพวกมันเข้าไป”

จิตของกู่ฉิงซานขยับ เขาโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “พวกเขาล้วนเป็นคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีความข้องเกี่ยวอะไรกับข้า เจ้ากินอิ่มไหมล่ะ”

สัตว์ประหลาดกล่าวอย่างเหยียดหยันว่า “ไม่มากพอจะมีเศษมาติดฟันด้วยซ้ำ แต่ข้าคิดว่าตั้งแต่อยู่ในวังวนความว่างเปล่า เตร็ดเตร่มานานนับปี ทั้งสิ่งที่ได้เห็นและสิ่งที่ได้กิน ความรู้สึกนี้คงเรียกว่าไม่อิ่มล่ะมั้ง”

ขณะพูด สัตว์ประหลาดสังเกตสีหน้าของกู่ฉิงซานอย่างละเอียดจนเห็นว่าเขาไม่เผยอารมณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ

ดูท่าคนพวกนี้จะไม่ใช่สหายของมันจริงๆ

เหลวไหลนักที่มันขอให้คนพวกนั้นสังหารอีกฝ่าย

มันครุ่นคิดเงียบๆ แต่สายตาก็เหลือบไปเห็นกู่ฉิงซานวางมือบนถุงเก็บของก่อนนำวัตถุดิบสดๆ จำนวนมากออกมา

“ข้าหิวแล้ว หลังจากนี้จะเริ่มทำอาหาร เจ้าอยากนั่งกินข้าวด้วยกันไหมล่ะ” กู่ฉิงซานถาม

สัตว์ประหลาดตกตะลึง

คนคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่

สัตว์ประหลาดรู้สึกว่ามันไม่อาจสรรหาคำมาด่าอีกฝ่ายได้แล้ว

ตรงข้ามมัน กู่ฉิงซานเริ่มทำอาหารแล้ว

ไม่ช้า ชุดอาหารวิญญาณขนาดใหญ่เตรียมพร้อมแล้ว

นี่คืออาหารวิญญาณระดับสูงสุด มีพลังงานสวรรค์และปฐพีเต็มเปี่ยม เป็นประโยชน์ยิ่งแก่ผู้ฝึกยุทธ์ยามที่กินเข้าไป

สัตว์ประหลาดชอบกินวิญญาณและเลือดเนื้อ พวกมันไม่มีทางปฏิเสธอาหารพวกนี้แน่

กู่ฉิงซานครุ่นคิดเงียบๆ หยิบตะเกียบออกมาแล้วเริ่มกินหม้อไฟ

“ในเมื่อกินไม่อิ่ม เจ้าก็ควรมานั่งกินด้วยกันกับข้านะ”

เขาเชื้อเชิญสัตว์ประหลาด

ขณะได้กลิ่นหอม ลูกตาแนวตั้งบนโล่ค่อยๆ ขยับสายตามายังชุดอาหารวิญญาณ

“ช่างเป็นอาหารที่แย่อะไรอย่างนี้” มันเย้ยหยัน

กู่ฉิงซานส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “การกินเป็นวิธีการฆ่าเวลาอย่างหนึ่ง ส่วนเจ้าจะกินหรือไม่ก็ไม่ใช่กงการของข้า ยังไงก็ตาม ข้าต้องกินสามมื้อทุกวัน”

เขาคีบเนื้อชาบูจากหม้อไฟด้วยตะเกียบ จุ่มลงไปในซอส เอาเข้าปากเพื่อลิ้มรสชาติของมัน

หลังจากกินเนื้อชาบูเข้าไป ตะเกียบก็ขยับไปหาปลาผัดสีขาวที่อยู่ด้านข้าง

หลังจากกินไปสักพัก เขาวางตะเกียบลงก่อนจิบสุรา

มีความเผ็ดร้อนในความหวานและความสดชื่น

นี่คือสุราหลิงกู่ชั้นยอด

ฮ่า

“ในวันแบบนี้ เทพก็ยังไม่แปรเปลี่ยน” กู่ฉิงซานถอนหายใจ

เขาวางแก้วสุราขณะขยับตะเกียบต่อ

สัตว์ประหลาดเฝ้ามองเงียบๆ

มันติดอยู่ในสวนอันว่างเปล่านี้มานานกว่าหนึ่งหมื่นปี ไม่มีทางที่จะสามารถทำอะไรได้

ถึงแม้เมื่อครู่จะกินวิญญาณไปบางส่วน แต่กลับไม่เติมเต็มให้ท้องอิ่มได้ มีแต่จะทำให้ความหิวทวีคูณมากยิ่งขึ้น

ถึงแม้มดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจะอ่อนแอมาก แต่ก็มีฝีมือทำอาหารเพื่อช่วยฆ่าเวลาได้เป็นอย่างดี

ฆ่าเวลา…

ลูกตาแนวตั้งบนโล่ขยับช้าๆ ขณะจ้องหม้อไฟ

ไม่ช้า

เงาสีดำพุ่งออกจากโล่ก่อนพุ่งเข้าไปในจานเนื้อด้วยความเร็วราวสายฟ้า

จานเนื้อทั้งหมดหายไปทันที

กระบวนการนี้เหมือนกับตอนโจมตีพวกจางหยิงห่าว

เงาสีดำพุ่งกลับมาที่โล่ขณะลิ้มรสเมื่อครู่อย่างระวัง

ถึงแม้พลังที่อยู่ภายในอาหารจะน่าเวทนา ไม่อาจเทียบได้กับเนื้อและวิญญาณสดๆ แต่หลังจากกินเข้าไป มันก็แปรเปลี่ยนเป็นพลังได้บางส่วน

ถึงแม้พลังนี้แทบจะจับต้องไม่ได้ แต่มันก็ดีกว่าไม่ได้อะไร

ดีกว่าไม่ได้อะไร

ในด้านรสชาติก็ถือว่าใช้ได้

ฆ่าเวลา…

เมื่อคิดดังนี้ สัตว์ประหลาดปล่อยเงาสีดำอีกครั้งเพื่อกวาดทั่วโต๊ะ

เมื่อใดก็ตามที่เงาสีดำผ่าน จานอาหารเย็นล้วนถูกกวาดจนเกลี้ยง

กู่ฉิงซานกล่าวอย่างเหยียดหยันว่า “นี่ เจ้ากินมากเกินไปแล้ว เหลือให้ข้าบ้าง”

คาดไม่ถึง หลังจากได้ยินเขาพูดแบบนี้ เงากลับขยับเร็วมากยิ่งขึ้น

ทั่วทั้งโต๊ะ ไม่ว่าจะของนึ่ง ของผัด ของทอด หินวิญญาณที่ใช้ต้มมากมาย แม้กระทั่งจานอาหารเย็นและผลไม้ รวมถึงสุราวิญญาณก็ถูกสัตว์ประหลาดกวาดจนเกลี้ยง

“เจ้าสหายที่น่าสงสาร อาหารของเจ้าเป็นของข้าแล้ว” สัตว์ประหลาดกล่าวอย่างสนุกสนาน

“ไม่มีทาง!”

กู่ฉิงซานตะโกนก่อนรีบเอื้อมมือไปคว้าชามก๋วยเตี๋ยวไว้

แต่แม้ว่าเขาจะเร็วแล้ว แต่เงาสีดำก็ยังเร็วยิ่งกว่า

เมื่อกู่ฉิงซานกำลังจะเอื้อมถึงชามก๋วยเตี๋ยว ก๋วยเตี๋ยวก็ถูกเงากวาดจนเกลี้ยง

บนโต๊ะแทบไม่มีอะไร เหลือเพียงฐานหม้อไฟเดือดพล่านเท่านั้น

เงาสีดำพุ่งกลับเข้าไปในลูกตาแนวตั้ง

กู่ฉิงซานถามว่า “เจ้าทำกับข้าแบบนี้ แสดงว่าคราวหน้าอยากกินของดีๆ อีกสินะ”

ลูกตาแนวตั้งปิดลงช้าๆ ขณะสัมผัสถึงอาหารที่เพิ่งกินเข้าไปก่อนกล่าวอย่างพึงพอใจว่า “เมื่อครู่เจ้าชวนข้ากินเองนะ อีกอย่าง ข้ายังเหลือของกินไว้ให้เจ้าอยู่”

กู่ฉิงซานกล่าวอย่างเดือดดาลว่า “นั่นมันฐานหม้อไฟ กินได้ที่ไหนกันล่ะ!”

สัตว์ประหลาดเมินเขาอย่างไม่ไยดี

กู่ฉิงซานอดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้

เขามองความว่างเปล่า

บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กยังคงปรากฏขึ้น

“ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ท่านยังฝืนใช้งานโลกแห่งเนตรอีก”

“โลกแห่งเนตรของท่านยังตื่นขึ้นมาไม่สมบูรณ์ ตอนนี้พลังกำลังจะหมดลงแล้ว”

“โลกจะยังคงอยู่ในอีกสามนาที”

“ในสามนาที โลกแห่งความฝันเสมือนจริงคู่ขนานนี้จะถูกทำลาย ท่านและศัตรูของท่านจะกลับสู่ความเป็นจริง”

“โปรดเร่งมือด้วย”

กู่ฉิงซานชำเลืองมอง

สามนาที

กู่ฉิงซานหันสายตามายังสัตว์ประหลาดก่อนใช้งาน “ได้พบกันอีกครั้ง” อย่างเงียบงัน

“เอาล่ะ บอกข้ามาว่าเจ้าเป็นตัวอะไร”

กู่ฉิงซานกล่าว

.............................