webnovel

1022 ฆ่าสหาย

ตอนที่ 1022 ฆ่าสหาย

นางเงือกมองราชาแล้วกล่าวว่า “ลูกหลานของเทพแห่งชีวิต ข้าคือผู้รับใช้ใต้อาณัติของเหล่าเทพ ชื่อห้วนเฉา”

“ถ้าอยากให้ข้าร่วมมือกับเจ้าก็ต้องแสดงข้อมูลประจำตัวให้ดู”

ราชายกมือขึ้นแล้วกล่าวว่า “แหวนแห่งเทพธิดาอยู่ในมือข้า เจ้าน่าจะมองเห็นมันได้ชัดเจนสินะ”

เขาแสดงแหวนสีทองให้อีกฝ่ายดู

นางเงือกจับจ้องสายตามายังแหวนก่อนพยักหน้าเล็กน้อย

“ใช่จริงๆ มันคือแหวนของเทพแห่งชีวิต ไม่ผิดแน่นอน กรุณาส่งมันมาด้วย”

ทันทีที่ราชาถอดแหวนออก เขาพลันนึกบางอย่างได้ก่อนส่ายหน้า “ในผนึกความทรงจำของข้า ดูเหมือนขั้นตอนนี้จะไม่จำเป็นนะ”

เขากล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้น มากับพวกข้า”

แสงสีดำวาบขึ้น

ตรีศูลทะลวงร่างของราชาก่อนตรึงเขาไว้กับพื้น

ราชากระอักโลหิตออกมาแล้วตะโกนอย่างสิ้นหวัง “ไม่!”

วิญญาณในร่างกายล้วนถูกพรากไปโดยตะขอยาวของเย่เฟยหลีจนสิ้น ทำให้ตอนนี้เขาเหลือเพียงชีวิตเดียวเท่านั้น

นางเงือกเผยสีหน้าเฉยชาออกมาแล้วกล่าวว่า “ส่งแหวนนั่นมาเพื่อใช้แลกกับชีวิตของเจ้า”

เสียงเพิ่งจางไป

สายลมอ่อนๆ พัดพา

ศีรษะของนางถูกฟันโดยดาบก่อนถูกสายลมพัด

ใบหน้าของนางเงือกเผยความประหลาดใจออกมา แต่มันถูกดาบยาวอีกเล่มที่รออยู่บนท้องนภาสับเป็นชิ้นๆ

“เป็นไงบ้าง” กู่ฉิงซานหาถึงตัวราชาขณะถาม

ตรีศูลสีดำคล้ายกับมีพลังเวทมนตร์บางอย่าง มันทะลวงร่างของราชา ภายในไม่กี่อึดใจ ใบหน้าของราชาซูบผอมจนดูเหมือนหัวกะโหลก

ตอนนี้ ราชาคล้ายกับรู้แจ้งบางอย่าง

เขาส่งแหวนสีทองให้กู่ฉิงซานแล้วกล่าวว่า “ช่วยผ่านแทนข้าด้วย”

‘กรุ้งกริ้งๆ’

แหวนสีทองตกลงบนพื้น

โดยไม่ทันกล่าวจบประโยค ราชาตายแล้ว

ก่อนทุกคนจะทันระวัง ราชาแห่งเมืองเรเควี่ยมกลับมาตายอย่างไร้ค่าอยู่บนพื้น

กู่ฉิงซานสะบัดมือ เก็บแหวนสีทองไปแล้วกล่าวกับทุกคนว่า “เตรียมตัวต่อสู้”

“หืม เจ้าเพิ่งฆ่านางเงือกนั่นไปไม่ใช่หรือ” จางหยิงห่าวถามด้วยความประหลาดใจ

“ไม่ มันยังไม่ตาย” เย่เฟยหลีกล่าวจากด้านข้างก่อนเสริมว่า “ข้าไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวของวิญญาณเลย”

ทุกคนมองไปที่น้ำพุพร้อมกัน

พวกเขาเห็นซากศพไร้ศีรษะยื่นมือออกไปคว้าในความว่างเปล่า โล่สีแดงเข้มขนาดเล็กปรากฏขึ้นในมือ

ลูกตาแนวตั้งถูกสลักบนโล่ขณะมองมาที่ทุกคน

เกราะสีเนื้อที่เต็มไปด้วยลูกตาแนวตั้งค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนร่างของซากศพไร้ศีรษะ

“อาหารสดๆ พวกเจ้ามารบกวนการหลับลึกของข้า…”

เสียงเย็นเยือกดังมาจากซากศพไร้ศีรษะ

ลอร่าหดตัวอยู่หลังกู่ฉิงซานขณะกล่าวอย่างวิตกว่า “กู่ฉิงซาน สิ่งนี้ทำให้หนังศีรษะข้าชาด้าน”

กู่ฉิงซานหันมาถามว่า “เหล่าต้า เจ้ารู้หรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น”

“นี่คือวิญญาณประเภทหนึ่งในวังวนความว่างเปล่า มันมาจากทางฝั่งแปลกประหลาด ไม่สามารถป้องกันมันจากการใช้ชีวิตในร่างของตัวตนอื่นได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยการกินวิญญาณและเลือดเนื้อของอีกฝ่าย ร่างของมันจะเปลี่ยนเป็นอาวุธและเกราะ!” เหล่าต้าตอบ

“ทำไมก่อนหน้านี้เจ้าไม่บอกล่ะ!” จางหยิงห่าวตะโกน

ไม่สามารถป้องกันได้ สามารถใช้ชีวิตในร่างของตัวตนอื่นได้ กินวิญญาณและเลือดเนื้อ

ไม่มีทางที่จะสู้ได้เลย

ในฐานะศัตรู พวกเขาทำได้แค่รอความตายเท่านั้น!

“ข้าแค่เคยได้ยินน่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นเหมือนกัน!” เหล่าต้ากล่าว

กู่ฉิงซานรีบถามว่า “มีกฎในการใช้ความสามารถของมันหรือเปล่า หรือเจ้าจะบอกว่ามันสามารถใช้ชีวิตในร่างอื่นได้ตามที่ต้องการ”

เหล่าต้าตอบว่า “ข้าไม่รู้เหมือนกัน!”

หัวใจของทุกคนดิ่งวูบ

กู่ฉิงซานพลันคว้าดาบพิภพจากความว่างเปล่าก่อนฟาดใส่ตรีศูลสีดำจากด้านข้าง

พลังของ “แดนศักดิ์สิทธิ์” จากดาบพิภพทำงานทันที ในเวลาเดียวกัน การโจมตีสุดกำลังของกู่ฉิงซานก็ถูกซัดออกไป

‘ตึง!’

การสั่นสะเทือนรุนแรงดังก้องทุกหนแห่ง

ตรีศูลสีดำกลายเป็นสายฟ้าแลบ ทะลวงใส่ความว่างเปล่า ไม่อาจทราบได้ว่าพุ่งไปทิศใด

“บัดซบ! เทวภัณฑ์ของข้า!”

คำสบถชั่วร้ายและเย็นเยือกดังมาจากซากศพนางเงือกไร้ศีรษะ

เพราะมันกลืนกินวิญญาณกับพลังของราชาเข้าไป ตรีศูลสีดำจึงทรงพลังยิ่ง

ตอนนี้อาวุธถูกซัดออกไปจนพ้นสายตา

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ขอโทษด้วย ข้าคิดว่าถ้าอยากทำข้อตกลงกับเจ้าได้ จำเป็นต้องป้องกันไม่ให้เจ้าฆ่าพวกเราทั้งหมดได้ก่อน”

“ข้อตกลงเหรอ”

เสียงเย็นเยือกนิ่งไป ทันใดนั้นก็หัวเราะออกมา

“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ไม่มีข้อตกลงอะไรทั้งนั้น ข้าไม่อยากเสียเวลาพูดกับเจ้ามากไปกว่านี้แล้ว”

“พวกเจ้าเป็นเพียงอาหารของข้า”

กู่ฉิงซานตกตะลึงเล็กน้อย

อีกฝ่ายไม่แม้แต่อยากจะพูดคุยด้วย นับว่าหาได้ยากนัก

นางเงือกไร้ศีรษะชูโล่ที่มีลูกตาแนวตั้งขึ้นสูงก่อนคำรามออกมา “ต่อให้ไม่มีตรีศูล ข้าก็ยังสามารถฆ่าพวกเจ้าได้อยู่ดี!”

ในลูกตาแนวตั้ง เงาสีดำนับไม่ถ้วนพลันแยกออกก่อนพุ่งเข้าสู่ร่างของทุกคนด้วยความเร็วปานสายฟ้า

จางหยิงห่าว เย่เฟยหลี ลอร่า เหล่าต้าและแม้กระทั่งแมวสีดำ ทุกคนยืนนิ่ง

พวกเขาหมดลมหายใจอย่างรวดเร็วก่อนลงไปกองกับพื้น

มีเพียงกู่ฉิงซานที่ยังยืนอยู่กับที่

เสียงเย็นเยือกดังขึ้นอีกครั้ง “เจ้าทำอาวุธข้าหายไป นั่นคืออาวุธวิเศษที่ข้าฝึกฝนมาหลายปี”

“แต่เจ้าฆ่าสหายของข้า”

ขณะกู่ฉิงซานกล่าว ไม่มีร่องรอยของอารมณ์อยู่บนใบหน้า

เขากุมดาบพิภพไว้ในมือ หายใจอย่างแผ่วเบาขณะนึกถึงดาบที่เขาใช้ขัดขืนการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ก่อนหน้านี้

ทุกคนตายแล้ว เหลือแค่เขาเท่านั้น

เขาสามารถสัมผัสถึงความตายที่กำลังเข้ามาได้

ในการต่อสู้อันยาวนาน นี่คือช่วงที่อันตรายที่สุด

สัตว์ประหลาดกล่าวช้าๆ อย่างติดตลกว่า “เจ้าสามารถมาที่นี่เป็นกลุ่มได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าพละกำลังของพวกเจ้าใกล้เคียงกัน”

“เพื่อให้เจ้าทนรับความเจ็บปวดและความทรมานแสนสาหัสที่สุดก่อนตาย ข้าจึงตัดสินใจจะให้เพื่อนของพวกเจ้าร่วมมือกันฆ่าเจ้ายังไงล่ะ”

กลุ่มเส้นสีดำปรากฏขึ้นจากโล่ลูกตาแนวตั้ง พวกมันยึดร่างของพวกจางหยิงห่าวเอาไว้

จางหยิงห่าว เย่เฟยหลี ลอร่าและเหล่าต้ายืนขึ้น

พวกเขาล้วนมองกู่ฉิงซานอย่างไม่เป็นมิตร

“ตายซะเถอะ กู่ฉิงซาน” จางหยิงห่าวกล่าว

“พวกข้าจะร่วมมือกันฆ่าเจ้า” เย่เฟยหลีกล่าว

“อย่าขัดขืน อย่างไรเสีย ข้าเชื่อว่าเจ้าจะยอมแต่โดยดี” ลอร่ากล่าว

“เจ้าไม่สามารถเอาชนะพวกข้าสี่คนได้หรอก” เหล่าต้ากล่าว

พวกเขาพุ่งเข้าหากู่ฉิงซาน

มีเสียงหัวเราะหมองหม่นบนโล่ลูกตาแนวตั้ง

“เอาสิ ฆ่าสหายของเจ้าแล้วตายอย่างสิ้นหวัง นี่คือจุดหมายที่ข้าเตรียมไว้ให้เจ้า!”

วินาทีต่อมา

กู่ฉิงซานปล่อยดาบพิภพแล้วจับดาบเสียงคลื่นจากความว่างเปล่า

ดาบยาวกวัดแกว่งไปข้างหน้า

วิชาดาบลับ ตามติดชีพ!

วิชาดาบลับ ฟันจันทรา!

วิชาดาบลับทั้งสองระเบิดออกมาพร้อมกัน ประกายดาบโค้งวูบไหว

สหายทั้งสี่ลงไปกองกับพื้น

ก่อนพวกเขาจะเข้าใกล้ก็ถูกประกายดาบจันทราสีขาวนับไม่ถ้วนฟาดฟัน พวกเขาล้วนกลิ้งไปตามพื้น

เสียงของโล่ลูกตาแนวตั้งเย็นชามากยิ่งขึ้น

“ลงมือฆ่าพวกตัวเองอย่างไม่ลังเลแบบนี้ ช่างไร้หัวใจจริงๆ”

กู่ฉิงซานยังคงนิ่งเฉย

เขาคร่ำครวญอยู่หลายอึดใจก่อนกล่าวว่า “การที่เจ้าไม่ยอมฆ่าข้าแบบนี้… เป็นการทำผิดไปสองเรื่องนะ”

กู่ฉิงซานมองลูกตาแนวตั้งก่อนกล่าวต่อว่า

“ข้อแรก ความจริงแล้ว สหายของข้าไม่เก่งเรื่องต่อสู้ มีเพียงข้าที่สามารถต่อสู้ได้อย่างดีเยี่ยม”

“ข้อสอง ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะออมมือเพื่อทรมานข้า”

ขณะพูด เขาชูนิ้วที่มีแหวนสีทองขึ้นเพื่อแสดงให้อีกฝ่ายดู

สัตว์ประหลาดกล่าวว่า “ข้าเพิ่งเคยเห็นมดหยิ่งทะนงเช่นเจ้า นี่นับเป็นครั้งแรกที่ได้พานพบก็ว่าได้ ข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่าความตายไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความสิ้นหวัง”

กู่ฉิงซานยิ้มขณะกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า

“ราชาถอดแหวนออกมา จากนั้นเจ้าก็โจมตี”

เขานิ่งขณะมองอีกฝ่าย

สัตว์ประหลาดไม่พูด

กู่ฉิงซานกล่าวต่อว่า “ดูท่าตอนเจ้ากินวิญญาณของห้วนเฉาเข้าไป เจ้าถูกต่อต้านในระดับหนึ่ง ทำให้ติดอยู่ที่นี่เพราะคำสาบานของข้ารับใช้เทพ”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ สัตว์ประหลาดคล้ายกับถูกแทงอย่างรุนแรงก่อนคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด

“ในความว่างเปล่าอันไร้ที่สิ้นสุด ไม่มีสิ่งใดสามารถกักขังข้าได้”

กู่ฉิงซานนำดาบเสียงคลื่นกลับเข้าความว่างเปล่า จากนั้นกล่าวว่า

“จริงหรือ แต่ตอนแรกเจ้าขอให้ราชาถอดแหวนออก จากนั้นก็โจมตีทันทีแล้วมาขู่ว่าให้ใช้แหวนแลกกับชีวิต”

“แหวนคือกุญแจสู่คำสาบานของเทพแห่งชีวิต เจ้าดูเหมือนจะได้รับผลจากคำสาบานนี้”

ขณะกู่ฉิงซานพูด เขายังคงระแวดระวัง

ทว่า นอกจากการโจมตีจากการที่สหายของเขาถูกควบคุมแล้ว สัตว์ประหลาดก็ไม่ได้ทำการโจมตีด้วยตัวเอง

หัวใจของกู่ฉิงซานค่อยๆ คลายความกังวล

ดูท่าการตัดสินของเขาจะไม่ผิด

หลังจากอีกฝ่ายกินห้วนเฉาเข้าไป มันก็แทนที่ห้วนเฉาด้วยเหตุผลบางอย่างก่อนได้รับผลจากคำสาบานนั่น

แหวนถูกสวมที่มือของเขา ดังนั้นมันจึงไม่สามารถโจมตีได้

ครั้งนี้นับว่าอันตรายจริงๆ

ความแตกต่างระหว่างความเป็นความตายห่างกันเพียงนิดเดียวเท่านั้น

กู่ฉิงซานถอนหายใจ สายตาจ้องโล่แล้วกล่าวว่า

“ถ้าเกี่ยวกับแหวน การแสดงออกของเจ้ามันก็ชัดเจนมาก ข้าคิดว่าเจ้าเป็นสัตว์ประหลาดที่เถรตรงเสียอีก แต่ใครจะรู้ล่ะว่ามันเต็มไปด้วยความโกหก”

ลูกตาแนวตั้งบนโล่จ้องเขาก่อนพลันถามว่า “ทำไมกัน ทั้งที่ข้าฆ่าสหายของเจ้ามากมายก่อนจะควบคุมพวกมันแท้ๆ แต่เจ้ายังสามารถฆ่าพวกมันได้อย่างไม่ลังเล นี่ก็เพื่อเรื่องเล็กน้อยอย่างนั้นเหรอ?”

“เรื่องเล็กน้อยหรือ เจ้าหมายความว่าไง” กู่ฉิงซานถาม

“แหวนไง” สัตว์ประหลาดตอบ

“อ้อ มันเป็นแบบนี้ ไม่มีเรื่องเล็กน้อยในการต่อสู้หรอกนะ”

กู่ฉิงซานกล่าวช้าๆ

................................