webnovel

0079 เดิมพัน

ตอนที่ 79 เดิมพัน

ภายในเฉินเตี้ยนเฮ่า

 หน้าจอมอนิเตอร์ทั้งสิบสองจอทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยม่านแสง

ภายในหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีด้วยอาวุธชนิดใด ก็ไม่อาจสร้างความเสียหายแก่ภูเขาก้อนเนื้อได้เลย

ทันใดนั้นเอง บนจอม่านแสงก็สามารถตรวจจับได้ถึงภาพๆ หนึ่ง มันคือ... 

ภาพของบริเวณพื้นที่เปิดโล่งในภูเขาก้อนเนื้อ ภายในภาพ ทหารของรัฐบาลกลางได้ปีนป่ายออกจากซากปรักหักพังของเกราะรบขับเคลื่อน และใช้ความแข็งแกร่งเฮือกสุดท้ายของเขาโจมตีเข้าใส่ผิวหนังชั้นนอกของภูเขาก้อนเนื้อ

โผ๊ะ!

ผิวหนังชั้นนอกของมันถูกเจาะทะลุ และเลือดสีฟ้าก็พุ่งกระฉูดออกจากรูเล็กๆดังกล่าว

และแทบจะในทันที หนวดหลายสิบเส้นของมันก็ปราดเข้าไปพัวพันร่างกายของทหารคนนั้น และทำการดูดกลืนทุกสิ่งอย่างภายในร่างกายของเขา เหลือไว้แต่เพียงชั้นผิวหนังบางๆ

ฉากการโจมตีนี้ถูกจับภาพไว้ได้อย่างรวดเร็ว มันถูกส่งไปปรากฏขึ้นบนจอม่านแสงทั้งหมด และถูกซูมเข้าไป

ด้านซ้ายบนของจอม่านแสงปรากฏรายละเอียดข้อมูลของทหารคนดังกล่าว

 “เซ่าหยู หวูเต๋าระดับปรมาจารย์นักสู้ ความสามารถ หวูเต๋ากุ่ยชั่ง หวนคืนไร้ลักษณ์ กำปั้น”

 “ได้รับการยืนยันแล้วว่า พลังของหวนคืนไร้ลักษณ์สามารถสร้างความเสียหายแก่มอนสเตอร์ได้”

 “เริ่มทำการค้นข้อมูลระบบพลังของมนุษย์จำพวกมืออาชีพ เพื่อเริ่มต้นทำการทดลองพลังโจมตีอื่นๆ ของพวกเขา และพิสูจน์ทฤษฎีดังกล่าว”

 เมื่อกู่ฉิงซานเห็นย่อหน้าในส่วนนี้ เขาก็ไม่คิดจะจ้องมองมันอีกต่อไป

 เทพธิดากงเจิ้งได้ค้นพบเบาะแสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นเธอก็จะทำการทดลองไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็จะพบกับความจริงได้ในที่สุด

 แม้ว่ามอนสเตอร์ตัวนี้จะมีขนาดใหญ่ แต่มันก็มีแค่เพียงตัวเดียว หากเหล่ามืออาชีพมากมายเข้าปิดล้อมและโถมโจมตี มันก็จะถูกปลิดชีพลงในที่สุด

 สิ่งที่จำเป็นต้องใส่ใจอย่างแท้จริงก็คือวันสิ้นโลกที่กำลังจะมาถึงในอนาคต และเหล่ามอนสเตอร์ที่กำลังค่อยๆ เติบโตขึ้นและจะปรากฏตัวขึ้นตามมาต่างหาก

 ทันใดนั้นกู่ฉิงซานก็เริ่มที่จะรู้สึกเกิดความไม่เชื่อมั่นในตัวเองเล็กน้อย

 เขาไม่มั่นใจว่าสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตก่อนหน้า มันจะยังคงเกิดขึ้นในช่วงชีวิตใหม่นี้หรือไม่

 หากมอนสเตอร์ตัวต่อไปยังคงแตกต่างจากในห้วงความทรงจำ ถ้าเช่นนั้นมันกำลังหมายความว่าอะไรกันแน่?

 คิ้วของกู่ฉิงซานขมวดเข้าหากันจนหน้าผากเกิดรอยยับย่น

 แต่เพียงชั่วครู่เขาก็ส่ายหัว

 มันคือการเปลี่ยนแปลงระดับโลกทั้งใบ และนั่นหมายความว่ามันอยู่นอกเหนือการควบคุมของเขา และสิ่งที่เขาทำได้ก็แค่เพียงมุ่งก้าวต่อไปทีละก้าว ทีละก้าวเท่านั้น

 “เทพธิดากงเจิ้ง?”

 “ฉันอยู่นี่”

 “โปรดช่วยส่งตัวฉันกลับไปยังเมืองหลวงด้วย”

 “ตกลง”

 กู่ฉิงซานก้าวออกไป ปีนขึ้นบนเรือรบขนาดเล็ก ก่อนจะบินออกไปภายใต้แสงดาว

 หลังจากนั้นไม่นาน กู่ฉิงซานก็กลับมาถึงเมืองหลวง

 ครั้งนี้มีเรือรบคอยคุ้มกันติดตามมาด้วย ดังนั้นกู่ฉิงซานจึงไม่จำเป็นต้องวิ่งฝ่าถิ่นทุรกันดาร แต่กลับถูกส่งลงบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมฟรีฮอลิเดย์โดยตรง

 เขาเดินกลับไปยังห้องของตัวเอง ก่อนจะเปิดประตู และเดินเข้าไป

 หลังจากอาบน้ำเย็นจนสดชื่น กู่ฉิงซานก็เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่สะอาดเอี่ยม และทิ้งตัวลงนั่งไขว้ขาลงบนเตียง

 เขายังพอมีเวลาอยู่จนกว่าจะถึงช่วงตอนเย็น ดังนั้นตอนนี้ก็สมควรที่จะพักผ่อนสักเล็กน้อย

 ทว่าเพียงแค่เริ่มปิดตาลง จู่ๆ ร่างของคนคนหนึ่งก็พลันปรากฏวูบขึ้นภายในห้อง

 คนคนนั้นนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามกู่ฉิงซาน และยกขาข้างหนึ่งพาดลงบนโต๊ะ

 “นายเป็นใครกัน?” กู่ฉิงซานกลายเป็นตื่นตัว ขณะที่ลืมตาขึ้นจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความระมัดระวัง

 “ฉันอาจจะเป็น...อ่า ผู้สังเกตการณ์ล่ะมั้ง” คนคนนั้นกล่าว

 “สังเกตการณ์อะไร?”

 “ก็สังเกตการณ์นายที่กำลังจะถูกฆ่าน่ะสิ”

 คนตนนั้นเอ่ยปากกล่าวอย่างช้าๆ

 เขาสวมเสื้อโค้ตสีดำ มือทั้งสองก็สวมถุงมือหนังสีดำ คู่ดวงตาของเขากระจ่างใสเป็นประกายราวกับน้ำค้าง ลักษณะโดยรวมทั้งหมดดูสงบและมั่นคง

 “พูดแบบนี้แสดงว่านายไม่ใช่นักฆ่าสินะ? แล้วพวกมันไปไหนซะล่ะ?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

 “ฉันจงใจทำให้การมาถึงของเขาล่าช้าออกไปสักเล็กน้อยน่ะ หลังจากทั้งหมดนี้ ต้องบอกว่าน่าเสียดายจริงๆที่คนน่าสนใจแบบนายจะต้องมาตายลง”

 ชายคนนั้นกล่าว

 “รู้มั้ยว่าฉันก็เป็นหนึ่งในเก้าตระกูลใหญ่แห่งรัฐบาลกลาง ชื่อของฉันคือ ซางหยิงฮ่าวจากตระกูลซาง ส่วนในโลกมืด ฉันเป็นถึงหัวหน้าของสมาคมนักล่า”

 สมาคมนักล่า คือกลุ่มนักฆ่าซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในโลกใต้ดิน พวกเขามีกฎการลอบสังหารที่ค่อนข้างพิเศษแต่ก็มีอัตราความสำเร็จที่สูงมากเช่นกัน

 อีกฝ่ายได้เปิดเผยตัวตนทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของตนออกมาอย่างหมดเปลือก โดยไม่หวั่นเกรงหรือมีลับลมคมในใดๆ แอบแฝง

 กู่ฉิงซานยังไม่ทันได้เอ่ยตอบ ซางหยิงฮ่าวก็กล่าวตัดหน้าเสียก่อน “ส่วนท่านลุงสองของฉัน คือเทพนักสู้ซางซ่งหยาง”

 พอได้ฟังถึงจุดนี้ กู่ฉิงซานก็ลุกขึ้น และยื่นมือออกไปทักทายอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มทันที

 “โชคดีจริงๆ ที่ได้พบกัน ฉันต้องการจะสานต่อความสัมพันธ์ระหว่างลุงสองของนายอยู่พอดี ต้งแต่ครั้งก่อนที่เขาเคยได้ช่วยเหลือฉันเอาไว้”

 “ก็ถ้านายว่าแบบนั้นละก็...” ซางหยิงฮ่าวยืนขึ้น และยืนมือไปเช็กแฮนด์ตอบ

 สีหน้าของซางหยิงฮ่าวดูจะผ่อนคลายลงเล็กน้อย

 ปฏิกิริยาตอบโต้ของอีกฝ่ายทำให้เขาค่อนข้างพอใจ

 จนกระทั่งถึงตอนนี้ เจ้าหนูนี่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่พวกที่ทำตัวเป็นหมาป่าแต่แท้จริงแล้วตาขาว

 ซางหยิงฮ่าวเปลี่ยนทัศนคติเล็กน้อยและกล่าว “กู่ฉิงซานการกระทำที่ผ่านมาของนาย ฉันได้เห็นกับตาแล้ว รวมไปถึงเรื่องหุ่นรบที่นายสร้าง นอกจากนี้ยังได้เห็นเทคนิคบางอย่างที่เกิดขึ้นในหอธนูมาแล้วด้วย” 

 “ตอนนี้ฉันจึงอยากจะขอเชิญนายเข้าร่วมกับสมาคมนักล่า หากนายตกลง ฉันจะออกหน้าปกป้องนายไม่ให้ได้รับบาดเจ็บใดๆ เอง”

 “ไม่จำเป็นหรอก” กู่ฉิงซานกล่าวปฏิเสธโดยตรง

 ซางหยิงฮ่าวเผยรอยยิ้มจางๆ และกล่าว “ปฏิเสธกันง่ายๆ แบบนี้มันจะดีเหรอ?”

 กู่ฉิงซานยิ้มตอบแต่ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา

 “นายต้องรู้นะว่ามันจะเป็นการดีที่จะติดตามฉัน ฉันน่ะต่างกับพวกขยะอย่างตระกูลเนี่ยหรือตระกูลไป่ อย่าเอาพวกเราไปเปรียบเทียบกันจะดีกว่า”

 “ที่บอกว่าต่างน่ะ ไหนลองอธิบายรายละเอียดให้ฉันฟังหน่อยสิ” กู่ฉิงซานกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 ก่อนหน้านี้เทพนักสู้ก็เคยได้ช่วยเหลือเขาเอาไว้แล้ว ดังนั้นกู่ฉิงซานจึงไม่คิดจะทำตัวยุ่งยากกับอีกฝ่ายมากเกินไป

 ซางหยิงฮ่าวหยิบกล่องใบเล็กๆ ออกมา ก่อนจะยื่นซิการ์ที่อยู่ภายในให้แก่กู่ฉิงซาน

 “ขอบคุณ แต่ฉันไม่สูบ” กู่ฉิงซานกล่าว

 ซางหยิงฮ่าวยักไหล่ก่อนจะยื่นซิการ์เข้าปากแล้วจุดไฟด้วยตัวเอง

 “อย่างที่ฉันได้บอกไปพวกชนชั้นสูงน่ะจะถูกแบ่งออกเป็นสองประเภท”

 เขาเอ่ยออกมาอย่างช้าๆ หลังจากที่พ่นควันซิการ์ออกมาเป็นวงกลม

 “แบ่งเป็นสองประเภท?” กู่ฉิงซานถาม

 “อ่าถูกต้อง และคนประเภทแรกก็คือ พวกที่ค้นพบว่าตัวเองเกิดมาพร้อมกับความสูงส่งเหนือผู้อื่น ดังนั้นพวกเขาจึงใช้ความได้เปรียบนั้นออกมาอย่างไร้ขีดจำกัด ใช้อำนาจของเงินตราสร้างสงคราม หลอกลวงผู้คนไม่ให้แสวงหาความก้าวหน้า ทำลายชื่อเสียงของชนชั้นสูงด้วยกันเอง และสุดท้ายก็กลายเป็นมะเร็งร้ายของทั้งประเทศ”

 “ฟังดูน่าสนใจดีนี่ แล้วประเภทที่สองล่ะ?” กู่ฉิงซานถามต่อ

 “ประเภทที่สอง ก็เป็นอย่างฉันคนนี้ หรือคนอย่างลุงสองของฉัน”

 ซางหยิงฮ่าววางซิการ์ลง ก่อนจะนั่งยืดตัวตรงและกล่าว “ทว่าไม่มีอำนาจใดอยู่ยงไปชั่วนิรันดร์ ไม่มีโครงสร้างทางสังคมใดที่อยู่ยงถาวร มีเพียงตัวตนที่เข้มแข็งเท่านั้น! พวกเราจะต้องปล่อยให้ผู้ที่แข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้อย่างเช่นนาย! ให้นายนำพามนุษยชาติผ่านพ้นช่วงเวลาอันยากลำบาก และสุดท้ายอารยธรรมของพวกเราก็จะยังคงดำเนินต่อไป”

 “พวกเรานี่สิถึงจะนับว่าเป็นชนชั้นสูงที่แท้จริง ถึงแม้ว่าพวกคนหัวโบราณจะไม่ได้ชอบพวกเรามากนักก็เถอะนะ”

 “นี่มันฟังดูเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากทีเดียว” กู่ฉิงซานพยักหน้า “นี่มันทำให้ฉันรู้สึกเขินมากจริงๆ เพราะฉันเคยชินกับการอยู่คนเดียวมาโดยตลอด”

 “พูดแบบนี้หมายความว่านายจะยอมรับการร่วมลงทุนนี้ใช่รึเปล่า?” ซางหยิงฮ่าวดีดตัวขึ้นและกล่าวอย่างเป็นเรื่องเป็นราว “ฉันต้องการแทงฝั่งนาย”

 “ลงทุนอย่างงั้นเหรอ? แทงฝั่งฉัน?” กู่ฉิงซานหลุดปากออกมาอย่างไม่ตั้งใจ

 “ใช่แล้ว มันคือการลงทุน หรือจะเรียกว่าการเดิมพันก็ได้”

 ซางหยิงฮ่าวกล่าวอย่างซื่อตรง ไม่คิดปกปิด

 การกระทำเช่นนี้ ทำให้กู่ฉิงซานรู้สึกชื่นชมอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก

 “เชิญพูดต่อ” กู่ฉิงซานส่งสัญญาณให้เขาอธิบายต่อ

 “ฉันว่ามันชักจะแปลกๆ แล้วสิ” ซางหยิงฮ่าวส่ายหัวและกล่าว “ก่อนหน้าที่ฉันจะเดินเข้าประตูมา ฉันวางแผนว่าจะเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์เท่านั้น แต่หลังจากที่ฉันได้พบนาย ฉันกลับคิดที่จะให้นายมาทำงานเป็นผู้ช่วย แต่ตอนนี้ ฉันมีความคิดใหม่แล้ว”

 “สมองของนายดูจะหมุนเร็วจี๋เลยสินะ” กู่ฉิงซานเอ่ย

 “นี่เป็นเรื่องธรรมดา มันคือสิ่งจำเป็นสำหรับการอยู่รอดของคนกลุ่มใหญ่ และยังเกี่ยวพันถึงเรื่องปากท้องของคนที่ติดตามฉันด้วย” ซางหยิงฮ่าวกล่าว

 “ฉันจะพูดตรงๆ เลยก็แล้วกัน มีคนจำนวนมากต้องการให้นายตาย แต่หลังจากที่ฉันได้พบนาย ฉันกลับคิดว่านายคงจะไม่ตายง่ายๆ แบบนั้น ดังนั้นฉันจึงอยากจะทุ่มชิปทั้งหมด เพื่อแทงเดิมพันทางฝั่งนาย”

 กู่ฉิงซานยิ้มและกล่าว “ฉันคงไม่สามารถยอมรับชิปของนายได้ง่ายดายแบบนั้น แต่ขอยืนยันได้เลยว่า ท้ายที่สุดแล้ว การทุ่มเดิมพันของนายจะต้องได้รับผลรางวัลตอบแทนอย่างแน่นอน”

 “งั้นก็ดี เพื่อแสดงความจริงใจของฉัน ฉันคิดว่านายจำเป็นต้องการสิ่งนี้”

 ซางหยิงฮ่าวหยิบกล่องโลหะ สีเงินวาวขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อของเขา

 “เจ้าสิ่งนี้คืออะไร?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

 “มันคือหุ่นยนต์นาโนที่มีไว้ใช้เก็บกวาดสนามรบ” ซางหยิงฮ่าวฉีกยิ้มและกล่าว “หลังจากที่ฆ่าคน ก็ให้ใช้มันเสีย เพื่อให้แน่ใจว่าฉากทั้งหมดจะไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ เอาไว้ อ้อจริงสิ หลังทำความสะอาดมันจะมีกลิ่นหอมของมะนาวด้วยนะ แต่ถ้านายไม่ชอบมะนาว ก็ยังคงมีอีกสามสิบกว่ากลิ่นให้นายได้เลือกใช้ อยากได้อันไหนก็ตั้งค่าเอาเลยตามที่ชอบ”

 “ดังนั้น ไม่ว่านายจะฆ่าไปกี่คนก็ตาม สุดท้ายถ้าไม่มีหลักฐาน หัวนายก็คงจะไม่หลุดจากบ่าเอาง่ายๆ”

 “แน่นอนว่าถ้านายไม่มั่นใจว่าจะสามารถต้านทานสมาคมจูซิงได้ ฉันก็ยินดีหยุดพวกนักฆ่าให้ ขณะเดียวกันนายก็ต้องรีบหลบหนีไปให้ไว” เขากล่าวในที่สุด

 กู่ฉิงซานมองไปยังอีกฝ่ายอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็เอ่ยถาม “แล้วทำไมนายต้องหยุดพวกนักฆ่าให้ฉันด้วย? หรือว่านั่นก็อยู่ในการลงทุนที่ว่าหรือเปล่า?”

 ........................................