webnovel

เหนือฟ้าใต้หล้า ภรรยาข้าเจ๋งสุด!

"ก่อนจะมาที่นี่ มารสวรรค์ได้สั่งให้พวกข้าน้อยจัดเตรียมเคล็ดวิชากำลังภายนอกจำนวนนับไม่ถ้วนให้ใต้เฒ่าได้เลือกฝึก หากใต้เฒ่าไม่รังเกียจ ข้าน้อยสามารถเป็นที่ปรึกษาให้กับใต้เฒ่า" หนึ่งในบรรพบุรุษนิกายมารเอ่ยด้วยความเคารพ

ชายชราผู้นี้คือ จักรพรรดิมารจี้เทียน สมควรทราบว่า เขานั้นคือระดับครึ่งก้าวปรมาจารย์ยุทธ์คนหนึ่ง หากเป็นศิษย์คนอื่นสามารถได้รับการชี้แนะจากจี้เทียนล่ะก็ นับว่าเป็นวาสนาที่ยิ่งใหญ่มากแล้ว เวลานี้ฟังดูเหมือนเป็นจี้เทียนที่ร้องขอให้หนิงหลงฝึกยุทธ์กับเขาอย่างนั้น

คนหนุ่มลักษณะเช่นนี้ตามหลักแล้วจะไม่สามารถให้ระดับบรรพบุรุษของนิกายมารให้ความสนใจหรือทำความเคารพนอบน้อมได้นอกจากมารสวรรค์

แต่ทว่า บรรดาบรรพบุรุษเหล่านี้กลับปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่ย่อท้อ พวกเขาจะไม่ดูถูกหนิงหลงเนื่องจากหนิงหลงนั้นอ่อนด้อยกว่า และไม่เป็นเพราะหนิงหลงที่เป็นเพียงเด็กน้อยที่ดูเจ้าสำอาง เหมือนพวกลูกคุณหนู คุณชายเสเพลบ้านรวย

เมื่อมารสวรรค์ได้จัดตั้งให้หนิงหลงเป็นเจ้าเหนือหัวสูงสุดของนิกายมาร หนิงหลงก็คือนายของพวกเขา และพวกเขาก็จะปฏิบัติตามคำสั่งของหนิงหลงอย่างเคร่งครัด

สิ่งนี้ก็คือสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของนางมารสวรรค์เย่ฉุ่ยเหยา และเป็นสิ่งที่เรียกว่าเป็นเหตุผลที่ว่าเพราะอะไรทั่วทั้งนิกายมารจึงได้ยอมศิโรราบและเลือกที่จะเชื่อฟังคำสั่งของนางอย่างเคร่งครัด

"เลือกเคล็ดวิชา?" หนิงหลงหัวเราะทีหนึ่ง และกล่าวตามอารมณ์ว่า "มีภรรยางามสองนางที่เป็นถึงระดับครึ่งก้าวปรมาจารย์ยุทธ์ ข้ายังจะต้องฝึกยุทธ์ไปเพื่ออะไรกัน" หนิงหลงหัวเราะและกล่าว

จักรพรรดิมารจี้เทียนถึงกับยิ้มเจื่อนๆ เมื่อได้ยินคำพูดของหนิงหลง ยังคงกล่าวด้วยความพยายามอย่างยิ่งว่า "ใต้เฒ่าจะกล่าวเช่นนี้ก็ไม่ถูก ยอดฝีมือใต้หล้ามีมากดั่งหมู่ดาว ไม่แน่เสมอไปว่าท่านหญิงทั้งสองจะให้การคุ้มครองใต้เฒ่าไปได้ตลอด หากใต้เฒ่าฝึกสุดยอดเคล็ดวิชาไว้ป้องกันตัวบ้างย่อมจะดียิ่งกว่า"

"แม้แต่ภรรยาทั้งสองของข้ายังไม่ไหว พวกศัตรูตึงจัด แล้วข้าจะไปเหลืออะไร? ในเมื่อไม่มีประโยชน์แล้วจะต้องฝึกไปเพื่อ? หรือว่าเจ้าสามารถทำให้ข้ากลายเป็นระดับปรมาจารย์ยุทธ์เพียงชั่วข้ามคืน?" หนิงหลงยิ้มยักไหล่กล่าวอย่างไม่แยแส

คำพูดของหนิงหลงสร้างความตะลึงงันให้กับกลุ่มของบรรพบุรุษนิกายมารได้จริงๆ แม้ว่าคำพูดของหนิงหลงจะไม่น่าฟัง แต่นับว่ามีเหตุผลจริงๆ

เหมือนดั่งตัวจักรพรรดิมารจี้เทียนแม้ว่าจะเป็นระดับครึ่งก้าวปรมาจารย์ยุทธ์ที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่งแล้วก็จริง แต่เมื่อลองเทียบกับเย่ฉุ่ยเหยาและฟู่เยว่เทียนที่เป็นระดับครึ่งก้าวปรมาจารย์ยุทธ์เช่นเดียวกันแล้ว นับว่าใช้การอะไรไม่ได้จริงๆ ดูเหมือนเป็นเพียงแค่ครึ่งก้าวปรมาจารย์ยุทธ์ในนามมากกว่า

ถ้าหากแม้แต่ระดับครึ่งก้าวปรมาจารย์ยุทธ์ที่ผิดปกติเช่นเย่ฉุ่ยเหยาและฟู่เยว่เทียนยังต้านรับเอาไว้ไม่ได้ เกรงว่าหนิงหลงที่ไร้ซึ่งลมปราณกำลังภายใน ต่อให้ได้ฝึกสุดยอดเคล็ดวิชากำลังภายนอกจนแตกฉานหยั่งรู้ หากพานพบกับอันตรายจริงๆ ก็ไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด

"ข้าน้อยไม่มีวิธีที่จะทำให้ใต้เฒ่าเป็นระดับปรมาจารย์ยุทธ์ได้จริงๆ" จักรพรรดิมารจี้เทียนถึงกับหัวเราะเจื่อนๆ และยอมรับไปตามสภาพ เพราะขนาดตัวมันเองยังไม่แม้แต่จะไปถึงระดับปรมาจารย์ยุทธ์ด้วยซ้ำ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าหนิงหลงนั้นร่างกายไร้ซึ่งลมปราณกำลังภายใน

"ข้าจะบอกอะไรให้พวกเจ้าฟังอย่างหนึ่ง" หนิงหลงผายมือและยิ้มกล่าวว่า "ต่อให้เทพเซียนเสด็จจุติลงมาจากสวรรค์ เหนือฟ้าใต้หล้า ภรรยาข้าเจ๋งสุด!"

"..." จักรพรรดิมารจี้เทียนและกลุ่มบรรพบุรุษได้แต่มองหน้ากันหมดสิ้นคำจะพูด

แต่พวกเขาต้องยอมรับเลยว่า นางมารสวรรค์เย่ฉุ่ยเหยาและพระเชษฐภคินีฟู่เยว่เทียนนั้นตึงจริง ในยุคสมัยนี้จะหาคนที่เทียบเคียงกับพวกนางได้นั้นแทบจะไม่มี ยามที่พวกนางชวนตีขอวัดเวท ฮ่องเต้ขอยอมสละราชสมบัติขอลี้ภัยต่างแดน เจ้ายุทธภพแสร้งเก็บตัวอ้างว่าเพื่อฟันฝ่า แม้แต่ระดับปรมาจารย์ยุทธ์ยังหลบหนีออกเดินทางไกลสุดขอบหล้าฟ้าเขียว จะเก่งเจ๋งมาจากไหนก็ไม่มีใครไหวกับพวกนางสักคน (จากใจคนไม่อวย)

แว้ง แว้ง แว้ง !!!

ในระหว่างที่หนิงหลงกำลังประชุมเรื่องลับสะเทือนฟ้าอยู่กับนิกายมารนั่น ภายในยุทธภพก็เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมาเรื่องหนึ่ง

โลกยุทธภพหรือขุมกำลังซ่อนเร้นบนทวีปนิรันดร์ ภายในเทือกเขาลึกที่ตัดขาดกับโลกภายนอก ที่ตรงนี้จะเห็นเป็นภูเขาที่ขึ้นลงสลับ ยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ที่เหมือนทะลุเชื่อมต่อกับจักรวาลก็มีอยู่นับไม่ถ้วน หุบเหวลึกที่อยู่ระหว่างช่องเขาขนาดใหญ่มีอยู่ดาษดื่น นับเป็นเทือกเขาที่มีขนาดใหญ่โตกว้างขวางเป็นอย่างยิ่ง

เทือกเขาคุนหลุนอุดมไปด้วยสมุนไพรวิเศษ เรียกได้ว่าเป็นสวนสมุนไพรหลังบ้านของสำนักคุนหลุนก็ไม่ผิด เนื่องจากอาณาเขตปกครองส่วนใหญ่ในละแวกนี้ถูกครอบครองโดยสำนักคุนหลุน

โอสถวิเศษสมุนไพรวิเศษที่ล้ำค่าจำนวนไม่น้อยของสำนักคุนหลุนล้วนแล้วแต่ยอดเยี่ยมทั้งนั้น อีกทั้งยังเหมาะแก่การนำไปกลั่นเป็นยาทิพย์ล้ำค่า สมุนไพรวิเศษเหล่านี้หาใช่มาจากสวนสมุนไพรที่สำนักคุนหลุนสร้างขึ้นมาเอง แต่เกิดขึ้นมาจากธรรมชาติ ไม่ทราบด้วยเหตุผลอันใด เทือกเขาคุนหลุนจึงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสมุนไพรวิเศษจำนวนมาก

ด้วยเหตุนี้เอง จึงมีสัตว์ดุร้ายปรากฏตัวที่เขาเทือกเขาคุนหลุนอยู่บ่อยครั้ง แมลงหนอนพิษและปรากฏการณ์เหนือทางธรรมชาติก็มีจำนวนไม่น้อย ดังนั้น จึงมีเหตุให้ผู้บำเพ็ญตนที่ต้องการมาเสาะแสวงหาโชคลาภในเทือกเขาคุนหลุนเสียชีวิตกันอยู่เป็นประจำ

ในวันนี้เอง เทือกเขาคุนหลุนพลันปรากฏนิมิตประหลาด ณ หุบเขาขนาดยักษ์แห่งหนึ่งของเทือกเขาคุนหลุนได้ปรากฏเมฆมงคลสีทองอร่าม ส่องประกายแสงออกมาเป็นเจ็ดสี โดยที่ประกายแสงเจ็ดสีนี้ดูพร่างพราวยิ่งนัก ประกายแสงเจ็ดสีทุกๆ สายล้วนแล้วแต่เหมือนหนึ่งผ่านการหักเหจากปริซึมมาแล้วอย่างนั้น มีความงดงามยิ่งนัก

จังหวะประกายแสงเจ็ดสีที่พร่างพราวลอยขึ้นมานั้น มีผู้ที่มองเห็นร่างเงาทะยานพุ่งตัวขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยที่ร่างเงาดังกล่าวแลดูคล้ายม้า แต่ทว่าบนหัวของมันปรากฏเขาเหมือนกวาง อีกทั้งบนลำตัวยังมีเกล็ด เมื่อมันพุ่งตัวขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วนั้น ฉับพลันมันก็หนีหายเข้าไปในบริเวณที่ลึกเข้าไปยิ่งกว่าของเทือกเขาคุนหลุน

"นั่นตัวอะหยังกะ?" ปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นกะทันหัน สร้างความสนใจให้กับผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเทือกเขาคุนหลุนจำนวนไม่น้อย และมีผู้ที่เอ่ยขึ้นมาด้วยความตระหนก

"กิเลน!" ผู้บำเพ็ญตนรุ่นอาวุโสพลันที่เห็นร่างเงาขนาดเล็กได้คำรามเสียงยาวออกมา เคลื่อนกายบุกเข้าไปยังส่วนลึกภายในเทือกเขาคุนหลุนทันที ไล่ติดตามไปยังทิศทางที่ร่างเงานั้นหายตัวไป

วันรุ่งขึ้นได้ปรากฏข่าวที่แพร่สะพัดออกไปยังทั้งยุทธจักรดั่งพายุฝนฟ้าคะนองภายในระยะเวลาอันสั้น เกี่ยวกับการปรากฏตัวของกิเลน ทุกสำนักล้วนแล้วแต่ได้ยินข่าวเรื่องนี้กันทั่วหน้า ไม่เว้นแม้แต่ทางราชสำนักต้าเจิ้งเองก็ได้ยินข่าว

"กิเลนปรากฏตัวขึ้นที่เทือกเขาคุนหลุน!" แรกเริ่มทีเดียว ข่าวที่แพร่สะพัดยังไม่ไร้เหตุผลสักเท่าไร

แต่ทว่า เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไป ทำให้ข่าวเริ่มเหลือเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าผู้ใดสามารถเป็นเจ้าของกิเลนได้เท่ากับครอบครองสมบัติทั้งหมดบนโลก เพราะตามตำนานกิเลนนั้นเกิดจากธาตุทั้งห้า คือ ดิน, น้ำ, ไฟ, ไม้ และโลหะ ผสมกัน ผู้คนจึงได้มีความเชื่อว่ากิเลนนั้นมีความสามารถพิเศษที่สามารถตอบสนองกับสมบัติล้ำค่าต่างๆ ได้

และสุดท้ายส่วนเขาของกิเลนยังถูกลือกันว่าเป็นส่วนประกอบของยาอายุวัฒนะ ที่ช่วยทำให้มีชีวิตเป็นอมตะนิรันดร์

"มันคือกิเลนจริงๆ ขณะที่มันปรากฏตัวออกมา ประกายแสงเจ็ดสีแวบวับไปปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า ปรากฏเป็นเหตุการณ์ประหลาดต่างๆ นานา มีเมฆมงคลสีทองอร่ามปรากฏ มีเงินทองนับไม่ถ้วนตกจากฟ้า" หลังจากข่าวนี้ได้แพร่ออกไปแล้ว มีผู้ที่กล่าวในลักษณะดีไข่ใส่สีเข้าไป

"นี่มันเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ กิเลนนั้นเรียกได้ว่าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ในตำนานนิยายปรัมปรา จะมาปรากฏตัวบนโลกได้อย่างไรกัน" มีผู้ที่ได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้วต่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

"จริงแท้แน่นอน อาจารย์ของข้าเห็นกับตาด้วยตนเอง" ผู้ที่พูดเรื่องนี้กล่าวด้วยคำสาบานที่น่าเชื่อถือ "กิเลนตัวนี้มีเขาเหมือนกวาง รูปร่างคล้ายม้า ส่วนหางเหมือนวัว และส่วนหัวเป็นมังกร! ยามที่มันปรากฏตัวขึ้นมานั้น มีสรรพสัตว์นับไม่ถ้วนมาแสดงคารวะกราบไหว้ พื้นดินพวยพุ่งเป็นน้ำพุทองคำ บนท้องฟ้าปรากฏเงินทองตกลงมาโปรยปรายเหมือนห่าฝน"

"และยังปรากฏอัญมณีนิรันดร์ทั้งหกเม็ด ที่มีคำเล่าลือกันว่า ผู้ใดสามารถรวบรวมอัญมณีครบทั้งหกเม็ดพร้อมกับถุงมือวิเศษที่ถูกสร้างจากเขาของกิเลน จะสามารถกลายเป็นเจ้าเหนือหัวแห่งยุคสมัยได้เพียงชั่วข้ามคืน"

ยามที่คนผู้นี้เล่าถึงตอนที่น่าตื่นเต้นแล้วเรียกได้ว่าน้ำลายแตกกระจาย ชี้มือชี้ไม้ไปด้วย ท่าทางดูตื่นเต้นดีใจยิ่ง

ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างยิ้มเหยเกมองหน้ากันและกัน เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้ว