webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

678-1

บทที่ 678-1 จบบริบูรณ์

“หรูอิง เธอดูตรงนั้นสิ” หญิงสาวคนหนึ่งพูดเบาๆ มือชี้ผ่านกระจกในร้านกาแฟ ไปยังจอใหญ่บนกำแพงนอกสนาม ตอนนี้เป็นช่วงโฆษณา บนหน้าจอกำลังฉายทีเซอร์ของหนังเรื่องหนึ่งอยู่

เป็นภาพเงาของผู้หญิงผมยาวประมาณเอวในชุดกระโปรงยาวถึงพื้น ท่ามกลางแสงเทียน ครึ่งหน้าของเธอดูนุ่มละมุน แสงเทียนส่ายไหวไปมา โครงหน้างดงามเป็นประกาย ทำให้ดูน่าหลงใหล

น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาตรงแก้มของเธอ ท้ายที่สุดก็หยุดอยู่ที่คาง น้ำตานั่นส่องแสงประกายดั่งสายรุ้ง ดึงดูดความสนใจจากผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ทันที

ด้านล่างกำแพงนั้น คนจำนวนไม่น้อยหยุดเดินเพื่อดูวิดีโอเพียงสั้นๆ นี้ในวิดีโอเรื่องราวดำเนินไปเรื่อยๆ ท้ายที่สุดน้ำตาหยดนั้นก็กระจายตัวออกบนจดหมาย

มุมกล้องเปลี่ยน พระเอกที่รับบทโดยชุยซิ่งเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ จดหมายในมือ ค่อยๆ กลายเป็นเศษผงสีทองแล้วกระจายหายไป

ทีเซอร์ที่มีความยาวเพียงยี่สิบกว่าวินาที แม้จะไม่มีเสียง มีเพียงแค่ภาพก็เพียงพอจะดึงดูดสายตาของผู้ชมได้แล้ว

“นี่เป็นหนังเรื่องใหม่ของเจียงเซ่อเหรอ”

ผู้หญิงที่ถูกเรียกว่า ‘หรูอิง’ ถามขึ้น คนที่พูดก่อนหน้านี้จึงพูดว่า “ใช่ นี่คือหนังเรื่องใหม่ของเจียงเซ่อ ‘เซียนหยวน’ เพิ่งจะเข้าฉาย แต่กระแสในอินเทอร์เน็ตดีมากเลยนะ หนังของเธอส่วนใหญ่มักจะถูกพูดถึงในทางที่ดีและได้รับคำชื่นชมมากมาย ปีนี้เธอยังได้รับรางวัล ‘นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม’ จากเทศกาลหนังฝรั่งเศสอีก หนังเรื่อง ‘เซียนหยวน’ นี่ก็ได้รับคำชื่นชมตั้งแต่เพิ่งเข้าฉายเลยด้วยนะ” หญิงสาวคนที่พูดหยุดไปครู่หนึ่ง ก้มหน้าลงดื่มกาแฟคำหนึ่ง “ฉันเคยดูหนังเรื่อง ‘Suspect’ ที่เธอแสดงกับเถาเฉินด้วยล่ะ แต่น่าเสียดายที่ตอนนั้นฉันท้อง ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ต้องนอนพักกับเตียงตลอดเวลา เลยพลาดไป ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้เราไปดูเรื่อง ‘เซียนหยวน’ ด้วยกันไหม ฉันดูทีเซอร์แล้วมันน่าสนใจมากเลยล่ะ”

‘หรูอิง’ ตอบรับ ทั้งสองเช็กบิลแล้วเดินออกไป

ในอีกมุมหนึ่งของร้านกาแฟ หลินซีเหวินและเจียงเซ่อเองก็นัดเจอกันที่นี่เหมือนกัน ทั้งยังอยู่โต๊ะข้างๆ หญิงสาวสองคนนั้นพอดีด้วย จึงได้ยินบทสนทนาก่อนหน้านี้ของทั้งสอง

ภายในร้าน ต้นคริสต์มาสที่ใช้ตกแต่งต้นหนึ่งบังทั้งสองเอาไว้ จึงทำให้หญิงสาวที่คุยกันไม่ทันสังเกตว่า คนที่ตนเองชื่นชมก่อนหน้านี้อยู่ข้างๆ ไม่ไกลจากตนเองนี่เอง

“หนังเรื่อง ‘เซียนหยวน’ สมัครเข้าร่วมเทศกาลหนังนานาชาติหัวเซี่ยแล้วล่ะ”

หนังเรื่อง ‘เซียนหยวน’ เข้าฉายได้แค่ครึ่งเดือน รายได้ก็มากกว่าสองพันล้านแล้ว ในสถานการณ์ที่รายได้หนังหลายเรื่องก่อนหน้านี้ของหลินซีเหวินไม่ดีมากนัก รายได้ของหนังเรื่องนี้จึงแทบจะมาจากอิทธิพลของเจียงเซ่อทั้งหมดเลยก็ว่าได้

หลังจากหนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping' หลินซีเหวินก็ได้สร้างผลงานที่มีกระแสดีและถูกชื่นชมในเรื่องของรายได้อีกครั้ง เขาต้องการคว้าสักรางวัลของเทศกาลหนังนานาชาติหัวเซี่ยด้วยหนังเรื่องนี้ เพื่อเพิ่มปรากฏการณ์ในประสบการณ์การทำงานของตนเองอีกครั้ง

ตอนนี้หลินซีเหวินได้ลบล้างคำสบประมาทหลายปีที่ผ่านมาจนหมดสิ้น การที่หนังเรื่อง ‘เซียนหยวน’ ประสบความสำเร็จก็เป็นการยืนยันฐานะของเขาในวงการนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

เจียงเซ่อร่วมงานกับเขามาสองครั้งและได้ทำรายได้อย่างมหาศาลทั้งสองครั้ง ทำให้หลินซีเหวินรู้สึกขอบคุณเธอมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะตอนที่เธอรับหนังเรื่อง ‘เซียนหยวน’ ซึ่งเป็นช่วงที่เธอกำลังประสบความสำเร็จ ในทางกลับกันหน้าที่การงานของเขากำลังตกต่ำ

ตอนนั้นทุกคนต่างหลีกเลี่ยงไม่ยอมร่วมงานกับเขา กลัวว่าตนจะลำบากเพราะชื่อเสียงในทางที่ไม่ดีของเขาในตอนนั้น มีเพียงเจียงเซ่อคนเดียวที่ยังคงจดจำมิตรภาพเก่าก่อนได้ หลังจากอ่านบท เธอก็รับหนังเรื่องนี้เอาไว้ทันที

ตอนนี้ ความสำเร็จของหนังเรื่อง ‘เซียนเหยวน’ นั้นแทบจะมาจากชื่อเสียงและความสามารถของเธอทั้งหมด เพราะรายได้ดี ทำให้ผู้สนับสนุนมากมายที่ก่อนหน้านี้ไม่ยอมลงทุนกับหนังของเขา เพราะกลัวว่าจะขาดทุนต่างก็โทรหาเขาเพื่อเจรจาหนังเรื่องต่อไปที่จะถ่ายทำ

“เซ่อเซ่อ ขอบคุณเธอมากเลยนะ” หลินซีเหวินคิดไม่ถึงว่า หญิงสาวที่ตอนนั้นกู้เจียเอ่อร์แนะนำมาและในตอนแรกก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา หลังจากนั้นหลายปีจะเป็นคนนำพาเรื่องเหนือความคาดหมายมาให้เขาได้มากขนาดนี้ “ฉันขอไม่พูดอะไรมากแล้วกัน ในอนาคตถ้าเธอมีอะไรให้ฉันช่วยขอให้บอกหลังจากนี้บทดีๆ ฉันจะเก็บไว้ให้เธอทั้งหมด รับรองว่าจะให้เธอเลือกก่อนเลย”

วงการนี้จะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะว่าเล็กก็ไม่เล็ก เพื่อนกินน่ะเยอะ แต่เพื่อนที่สนิทสนมกันจริงๆ กลับหายากมาก

เจียงเซ่อตอบว่า “ผู้กำกับหลิน คุณเกรงใจกันมากเกินไปแล้วค่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนคอยผลักดันในตอนนั้น ก็คงไม่มีฉันในวันนี้”

เธอเป็นคนที่รู้คุณคน เรื่องนี้หลินซีเหวินรู้ดี ‘โต้วโค่ว’ ในหนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping' แม้จะทำให้เธอเป็นที่รู้จัก แต่ในขณะเดียวกันก็เพราะเธอเช่นกันที่ทำให้ตัวละครที่ชื่อ ‘โต้วโค่ว’ สามารถแสดงออกมาได้อย่างถึงจิตวิญญาณเช่นนั้น หลายปีผ่านไปก็ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของแฟนหนังจำนวนมาก

สิ้นเดือนกันยายน หนังเรื่อง ‘เซียนหยวน’ ปิดตัวลงในรายได้สองพันแปดร้อยล้าน ตัวเลขนี้ หมายความถึงแรงดึงดูดและอิทธิพลของตัวเจียงเซ่อ แม้การที่หนังเรื่อง ‘เซียนหยวน’ ประสบความสำเร็จจะมาจากหลายปัจจัย นอกจากการแสดงที่เข้าถึงของเจียงเซ่อที่ทำให้เกิดตัวละครที่หลากหลาย เพิ่มความน่าสนใจให้หนัง ใช้ความสามารถของตนเองทำให้หนังทั้งเรื่องมีความสมจริงแล้ว ก็ยังพอดีกับการที่เจียงเซ่อได้รับรางวัล ‘นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม’ จากเทศกาลหนังฝรั่งเศสและงานแต่งงานอันยิ่งใหญ่อลังการก่อนหน้านี้ของเธอที่เข้าไปเป็นสะใภ้ของตระกูลสูงส่งอย่างตระกูลเผยและคว้าแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Melovin รวมทั้งมีหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ เมื่อปีที่แล้วเป็นฐานอีกด้วย...

แต่อย่างไรก็ตาม หนังที่เจียงเซ่อเป็นตัวหลักครั้งแรกก็ทำรายได้มากกว่าหนังที่เถาเฉินเป็นนักแสดงหลักอยู่มาก

ตอนนี้เจียงเซ่อเป็นนักแสดงอันดับหนึ่งของหัวเซี่ยอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะมีผลงานให้เห็น จึงไม่มีอะไรมาโต้แย้งได้อีก

สื่อต่างๆ ต่างถ่ายทอดสดงานอันยิ่งใหญ่อย่างงานเทศกาลหนังนานาชาติหัวเซี่ยที่จัดขึ้นในเดือนธันวาคม

ภายในเทศกาลหนัง แฟนคลับจำนวนมากรู้ข่าวว่าเจียงเซ่อจะมาร่วมเทศกาลหนังในครั้งนี้และมาถึงงานตั้งแต่นานแล้ว จึงล้อมสถานที่จัดงานไว้อย่างแน่นหนา

ทางผู้จัดงานจำเป็นต้องเรียกกำลังพนักงานรักษาความปลอดภัยมาเพิ่มอย่างกะทันหัน เพื่อรักษาความเรียบร้อยภายในงาน

เหล่าคนดังเดินบนพรมแดงตามลำดับ ในงานแสงไฟระยิบระยับ เหล่าคนดังต่างแสดงความโดดเด่นของตนเองออกมา

รถของเจียงเซ่อจอดติดถนนเอาไว้ สองข้างของรถมีพนักงานรักษาความปลอดภัยแน่นหนา เซี่ยเชาฉวินกลับประเทศตั้งแต่หนึ่งเดือนที่แล้วและกำลังขยายงานของเจียงเซ่อเข้าสู่ระดับอินเตอร์ ส่วนงานในประเทศให้โม่อานฉีเป็นคนดูแล

ตอนนี้โม่อานฉีไม่อยู่ในรถเพราะกำลังเจรจากับทางผู้จัดเทศกาลหนังนานาชาติหัวเซี่ย ให้เฉินซั่น ช่างแต่งหน้า ช่างผมและทีมงานอยู่เป็นเพื่อนเจียงเซ่อในรถ

เฉินซั่นมองออกนอกหน้าต่าง สองข้างพรมแดงมีแฟนคลับจำนวนมากที่ตามมาหลังจากรู้ข่าวยืนอยู่ ในมือของคนจำนวนมากชูป้ายไฟชื่อของเจียงเซ่อและกำลังรอคอยการปรากฏตัวของเธอ

“ทางผู้จัดงานให้เราออกไปเป็นลำดับสุดท้าย”

ผู้ช่วยจำตารางงานของเจียงเซ่อได้ขึ้นใจแล้ว เธอดูเวลาแวบหนึ่ง

“พี่อานฉีบอกว่า อีกประมาณครึ่งชั่วโมง”

เหล่าคนดังที่มาร่วมงานในคืนนี้ไม่น้อยเลย คนบนพรมแดงก็เยอะมากเช่นกัน ทีมงานของหลายทีมที่มาพร้อมผลงานต่างปรากฏตัวบนพรมแดงพร้อมกัน หยุดอยู่บนพรมทีละสองสามคน ให้นักข่าวเก็บภาพได้ตามต้องการ

อวี๋จือหลินจากหัวเซี่ยจือซวิ่นก้มมองนาฬิกาหลายที คืนนี้ถ่ายมากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ได้ภาพดารามาไม่น้อยเลยทีเดียว เธอถามเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างๆ ว่า

“พรมแดงนี้ต้องเดินนานเท่าไหร่เหรอ” เธอถามอย่างอึดอัด

“ไหนบอกว่าเจียงเซ่อจะมาร่วมงานในคืนนี้ไง”

เพื่อนร่วมงานเองก็แปลกใจ “เจียงเซ่อน่าจะมานะ ฉันเช็คกับทางซื่อจี้หยินเหอและส่งข้อความหาผู้ช่วยของเธอแล้ว ตามกำหนดการที่ทางผู้จัดการส่งมา งานเดินพรมแดงจะเริ่มตอนหนึ่งทุ่มและสิ้นสุดตอนสองทุ่มครึ่งถึงจะถูก” เพื่อนร่วมงานเหลียวซ้ายแลขวา ในบริเวณที่ไกลออกไป รถของเหล่าดาราถูกคุ้มกันไว้อย่างแน่นหนา ดูไม่ออกเลยว่าคันไหนคือรถของเจียงเซ่อ

“แต่คืนนี้หลังจากมาถึงงาน ทางผู้จัดงานได้แจ้งว่าจะเลื่อนเวลาเดินพรมแดงขึ้นมาครึ่งชั่วโมงไม่ใช่เหรอ”

ตอนนี้หนึ่งทุ่มสี่สิบห้านาทีแล้ว ตามกำหนดการเดิม หลังจากเลื่อนเวลาเดินพรมแดงให้ไวกว่าเดิมครึ่งชั่วโมง การเดินพรมแดงที่จะต้องสิ้นสุดตอนสองทุ่มครึ่ง ก็ควรจะสิ้นสุดตอนสองทุ่มแทน

ตอนนี้อีกสิบห้านาทีจะสองทุ่ม ไม่ว่ายังไง แม้เจียงเซ่อจะไม่ได้เดินพรมแดง แต่ตอนนี้ก็ควรจะปรากฏตัวได้แล้ว

“ฉันได้ยินว่าแฟนคลับฝั่งโน้นที่มาเพราะเจียงเซ่อโดยเฉพาะลนลานกันใหญ่แล้ว มีคนพยายามติดต่อทางผู้จัดงานเพื่อถามรายละเอียดด้วย”

ในขณะที่อวี๋จือหลินจากหัวเซี่ยจือซวิ่นและเพื่อนร่วมงานกำลังซุบซิบเรื่องนี้ บนพรมแดงพนักงานรักษาความปลอดภัยก็เตรียมพร้อมที่จะเคลียร์คนแล้ว

สถานการณ์แบบนี้ เหนือความคาดหมายของทุกคนไม่น้อย ดาราส่วนใหญ่เข้างานไปแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ ผู้ที่ดึงดูดความสนใจจากเทศกาลหนังนานาชาติหัวเซี่ยมากที่สุดอย่างเจียงเซ่อยังไม่ปรากฏตัว และพนักงานรักษาความปลอดภัยก็เริ่มเคลียร์คนแล้วด้วย แบบนี้จะเร็วไปหน่อยไหม

อวี๋จือหลินเบิกตาโต แปลกใจกับสถานการณ์แบบนี้ไม่น้อย มีคนกระวนกระวาย อยากให้ทางผู้จัดการออกมาชี้แจง แต่ก็ถูกทางผู้จัดงานปฏิเสธ

แฟนคลับบางส่วนโกรธมาก เจียงเซ่อยังไม่มาแต่จากท่าทีของเทศกาลหนังนานาชาติหัวเซี่ยแล้ว ราวกับไม่อนุญาตให้ดาราหยุดบนพรมแดง ดาราหลายคนที่ยืนนิ่งไม่ยอมเดิน เพื่อรอให้สำนักข่าวและสื่อมวลชนเก็บภาพล้วนถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยเชิญเข้างานอย่างมีมารยาทแล้ว

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

“คืนนี้เจียงเซ่อจะมาไหม”

“เจียงเซ่อยังไม่มา แต่งานเดินพรมแดงของเหล่าคนดังกำลังจะจบแล้วอย่างนั้นเหรอ”

“ทางผู้จัดงานควรจะอธิบายเรื่องนี้นะ...”

“……”

ภายในงานเต็มไปด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ผู้ชมต่างก็ไม่เข้าใจ ในรถเฉินซั่นเองก็นั่งไม่ติดหันไปมองข้างนอกอยู่ตลอดเวลา

บนพรมแดง ผู้คนหายออกไปอย่างรวดเร็ว ทีมงานเปลี่ยนตำแหน่งพรมแดง พรมแดงผืนยาวนั้น ยาวออกมาจากภายในงาน ลงบันไดแต่ละขั้น ไปยังตำแหน่งที่รถของเจียงเซ่อจอดอยู่

คนที่เห็นฉากนี้ก็พอจะเดาความคิดของทางผู้จัดงานออกบ้างแล้ว ตำแหน่งที่สำนักข่าวหลงสิงยืนอยู่ นักข่าวหน้าใหม่ที่มากับเถาเถากรีดร้องออกมาเบาๆ อย่างกลั้นไม่อยู่

“ไม่หรอกมั้ง ไม่มีทางน่า!”

ตั้งแต่เทศกาลหนังนานาชาติก่อตั้งมาจนถึงตอนนี้ เป็นเวลาเกือบห้าสิบปีแล้ว ในงานดารามักจะเดินบนพรมแดงเป็นกลุ่มท่ามกลางแสงไฟระยิบระยับ เป็นบรรยากาศที่ทุกคนต่างคุ้นชินกันไปแล้ว

แต่การที่ทางผู้จัดงานเร่งเคลียร์พรมแดง เพื่อเก็บไว้ให้คนเพียงคนเดียวนั้น ตั้งแต่เทศกาลหนังนานาชาติหัวเซี่ยก่อตั้งมา เหตุการณ์นี้ยังไม่เคยมีมาก่อน

อวี๋จือหลินตื่นตระหนก แฟนคลับของเจียงเซ่อที่อยู่ในงานเห็นฉากนี้แล้วต่างก็ตื่นเต้นเป็นที่สุด

ท่ามกลางการรอคอยด้วยความตื่นเต้นของทุกคน ประมาณสองทุ่มยี่สิบห้านาที ในที่สุดก็จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจียงเซ่อที่อยู่บนรถเติมหน้าเสร็จแล้ว โม่อานฉีจัดกระโปรงให้เธอ ในหูฟังทางผู้จัดงานส่งสัญญาณให้ทีมงานเชิญเจียงเซ่อลงจากรถ

เฉินซั่นเปิดประตู ท่ามกลางสายตาที่กำลังจับจ้องของทุกคน ตอนที่เฉินซั่นปรากฏตัว คนที่คุ้นเคยกับทีมงานของเจียงเซ่ออยู่แล้วต่างส่งเสียงกรีดร้องและปรบมือด้วยความตื่นเต้นเพื่อต้อนรับเจียงเซ่อ

หน้าเพจถ่ายทอดสดข่าวของสำนักข่าวหลงสิง เถาเถาที่ถือไมโครโฟนเอาไว้ตื่นเต้นจนสองแก้มแดงก่ำ เพราะเสียงเรียกด้วยความกระตือรือร้นของแฟนคลับ ทำให้เธอจำเป็นต้องพูดเสียงดังตอนเป็นพิธีกร

“ตอนนี้ข้างหลังดิฉัน เป็นพรมแดงผืนหนึ่งของเทศกาลหนังนานาชาติหัวเซี่ยค่ะ” พรมปูจากสนามยาวไปถึงภายในพิธีประกาศรางวัล ความยาวเกือบห้าสิบเมตร สองข้างพรมแดงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคส่องแสงระยิบระยับ แสดงให้เห็นถึง ‘เส้นทางอันสว่างไสว’ ของนักแสดงที่เดินผ่าน

“พรมแดงผืนนี้ เป็นพรมแดงของดาราที่เดินเข้าไปร่วมเทศกาลหนังนานาชาติหัวเซี่ย แต่ตอนนี้วินาทีนี้ ทุกคนจะสามารถเห็นได้ว่า บนพรมแดงผืนนี้ ไม่มีดาราคนอื่นยืนอยู่แล้ว” น้ำเสียงของเธอแฝงความตื่นเต้น ราวกับกำลังพยายามเก็บซ่อนความดีใจเอาไว้

“อีกสักครู่เจียงเซ่อจะเข้าพิธีประกาศรางวัล ทางผู้จัดงานยกพรมแดงให้เธอเดินผ่านเพียงแค่คนเดียว นี่ถือว่าเป็นความพิเศษครั้งแรก ตั้งแต่เทศกาลหนังนานาชาติก่อตั้งขึ้นเลยล่ะค่ะ”