651

บทที่ 651 ผลพวง

ในงาน ‘หนึ่งร้อยปีของคนสร้างหนัง’ ตอนที่เจียงเซ่อใส่ต่างหูคู่นี้ เธอได้รับการติดตามและถูกถามถึงไม่น้อย รวมทั้งตอนนี้เธอกำลังโด่งดัง ยิ่งทำให้มูลค่าของต่างหูที่เธอเคยใส่ด้วยตัวเองสูงขึ้น เหล่าหญิงสาวที่มีฐานะต่างใส่ตุ้มหูแบบเดียวกับเธอ

รายได้ของกังหัวก็เป็นไปในทางที่ดี คอลเลคชั่น ‘น้ำตานางเงือก’ ในล็อตแรกเพิ่งจะเปิดจองก็หมดเสียแล้ว จากเรื่องนี้ทำให้เห็นถึงอิทธิพลของเจียงเซ่อ

สำหรับเรื่องนี้แน่นอนว่ากังหัวดีใจมาก “ก่อนหน้านี้ฉันได้รับโทรศัพท์ เจิ้งซื่อหรงโทรมาด้วยตัวเองบอกว่านอกจากต่างหูคู่ที่ส่งมาให้เธอใส่ออกงานก่อนหน้านี้ จะสั่งทำ ‘น้ำตาลน้ำเงือก’ คู่พิเศษให้เธอด้วย”

“ยอดจองของนาฬิกาข้อมือแบรนด์ Federer ก็ไม่น้อยเลย ทางด้าน ELYSEES จำนวนคนที่เข้ามาถามถึงรถสปอร์ต leopard ก็ทุบสถิติไปแล้ว” สถิติเหล่านี้เหมาะสมกับเจียงเซ่ออย่างแท้จริงและยังมี Adeele ที่เธอเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์มาหลายปี ในทุกปีรุ่นที่เจียงเซ่อถ่ายโฆษณาก็ล้วนเป็นที่นิยม คนสั่งซื้อเยอะจนของขาด

การที่เจียงเซ่อประกาศแต่งงาน เป็นผลดีกับเธออย่างชัดเจน การที่แบรนด์ Melovin ที่เซี่ยเชาฉวินไปเจรจายอมเซ็นสัญญาอย่างรวดเร็วขนาดนี้ ก็เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย

“นอกจากพวกนี้” โม่อานฉีนั่งลง “รายได้ของหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว”

เพราะตรงกับช่วงวันหยุดปีใหม่พอดี ตอนที่แฟนหนังจะเลือกดูหนัง จึงมักจะเลือกหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมภาพยนตร์ในงาน ‘หนึ่งร้อยปีของคนสร้างหนัง’ มาเป็นอันอับแรก ส่วนคนที่ไม่ได้ตั้งใจมาดูหนังตั้งแต่แรก เพราะชื่อเสียงของเจียงเซ่อที่สร้างความฮือฮาในครั้งนี้ทุกคนจึงมักจะซื้อตั๋วเข้าโรงหนังเพราะความอยากรู้อยากเห็น

โดยรวมแล้ว เจียงเซ่อประกาศแต่งงานได้ถูกเวลาจึงสร้างประโยชน์มากมายให้แก่เธอ

“ไม่ใช่แค่เรื่องของเฝิงหนานที่ไม่มีใครพูดถึงอีกเลย แม้กระทั่งเถาเฉินก็ออกจากซื่อจี้หยินเหอไปแล้ว แต่กลับมีคนพูดถึงเรื่องนี้ไม่มากนัก”

โม่อานฉีพูดถึงสองเรื่องนี้ พลันรู้สึกมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นไม่น้อย

เถาเฉินเลือกประกาศว่าตัวเองหมดสัญญากับซื่อจี้หยินเหอในคืนวันที่หนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ เข้าฉาย จุดประสงค์ที่เธอทำแบบนี้ทุกคนต่างรู้ดี

เสียดายที่ท้ายที่สุดไม่ใช่เพียงแต่ไม่สำเร็จ ข่าวนี้ของเธอยังถูกสองข่าวใหญ่ที่เกิดขึ้นกลบจนไม่สามารถสร้างกระแสได้เลยแม้แต่น้อย สำหรับนักแสดงอย่างเธอแล้ว ถือว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่ แต่เป็นการเริ่มที่ไม่ดีมากนัก ตอนนี้ไม่รู้ว่าในใจของเถาเฉินจะอึดอัดมากเพียงใด

“ฉันไปดูในเพจของเธอ คนที่เข้าไปแสดงความคิดเห็นไม่มากนัก ส่วนใหญ่เป็นแฟนคลับที่ติดตามเธอมาหลายปี” เมื่อเปรียบกับความร้อนแรงของข่าวที่ผ่านๆ มาของเถาเฉิน เมื่อคืนข่าวของเถาเฉินถือว่า ‘เงียบ’ มาก อยู่ในมุมเล็กๆ ของเหล่าสำนักข่าวใหญ่ๆ คนพูดถึงก็น้อย ความกระตือรือร้นของชาวเน็ตล้วนอยู่ที่เจียงเซ่อจนหมด

หลังจากคุยเรื่องข่าวจบ โม่อานฉีก็พูดถึงเรื่องงาน

“เซ่อเซ่อ หลังจากประกาศข่าวแต่งงานของเธอ สื่อต่าง ๆ ก็โทรมาแล้วอยากจะสัมภาษณ์เธอน่ะ แต่พี่เซี่ยคิดว่าถึงแม้ทางคุณเผยจะพูดถึงเรื่องแต่งงานแล้ว แต่เธอยังไม่ได้ออกไปพูดอะไร เมื่อเทียบกับการสัมภาษณ์ทีละสำนักแล้ว ควรจัดถ่ายทอดสดแถลงข่าวไปเลยดีกว่า” ยิ่งสร้างกระแสได้มากก็ยิ่งเป็นผลดีต่อชื่อเสียงของเจียงเซ่อ โดยเฉพาะในช่วงที่ผลงานของเธอกำลังเข้าฉาย ถือเป็นการสร้างกระแสให้หนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ อีกทางหนึ่ง

เจียงเซ่อพยักหน้า เรื่องงานเซี่ยเชาฉวินวางแผนเป็นอย่างดีมาโดยตลอด เธอไม่ค่อยได้ยุ่งอะไรมากนัก

ทั้งสองต่างร่วมด้วยช่วยกัน เคารพการตัดสินใจของอีกฝ่าย ความเข้าใจและการเคารพกันแบบนี้ ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองมั่นคงมากขึ้น

“แต่ว่าฉันบอกพี่เซี่ยแล้วว่า นักข่าวที่ถามคำถามเสียมารยาทเมื่อคืนเป็นนักข่าวจากเทียนเซี่ยเอนเตอร์เทนเมนต์ เธอเคยบอกแล้วว่าจะไม่รับการสัมภาษณ์จากสื่อสำนักนี้ ถึงตอนนั้นก็จะไม่เชิญเขา”

ทันทีที่สิ้นเสียงของโม่อานฉี เจียงเซ่อก็รับคำและย้ำว่า

“แต่ช่วงนี้เรื่องของฉันกำลังเป็นประเด็น พวกเธอต้องระวัง อย่าให้ใครจับจุดอ่อนได้”

ตอนนี้เธอกำลังตกเป็นศูนย์กลางของการวิพากษ์วิจารณ์ ปกติก็มีคนให้ความสนใจมากมายอยู่แล้ว แต่หลังจากประกาศแต่งงานยิ่งต้องระวังจะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด

ท่ามกลางการยกย่องสรรเสริญ จะต้องมีคนไม่ชอบใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เบื้องหลังเกียรติยศ นอกจากหมายถึงตัวเธอแล้ว ในขณะเดียวกันทุกการกระทำของเธอก็เชื่อมโยงไปถึงตระกูลเผยด้วย

เธอเตือนแบบนี้ ท่าทางของโม่อานฉีก็เคร่งขรึมขึ้นมาและพูดอย่างจริงจังว่า

“ฉันเข้าใจแล้ว”

ความฮือฮาที่เกิดขึ้นจากการประกาศแต่งงานมากกว่าที่เจียงเซ่อคิดเอาไว้ นอกจากแบรนด์ที่เธอเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ถูกพูดถึงแล้ว รูปออกงานจำนวนมาก รวมถึงรูปส่วนน้อยจากปาปารัสซี่ในช่วงหลายปีมานี้ ล้วนถูกนำออกมาวิพากษ์วิจารณ์

ทุกคนเหมือนจะคาดหวังกับเธอสูงกว่าที่ผ่านมา โชคดีที่เจียงเซ่อไม่เคยมีประวัติเสียหาย ในฐานะนักแสดง เจียงเซ่อควบคุมตัวเองได้ดีและพูดง่ายเป็นอย่างมาก

เธอเป็นคนเข้มงวด น้อยมากที่จะปล่อยตัว

ทางด้านของนักข่าวไม่เคยมีภาพที่เธอออกไปเที่ยวเล่น

ด้านครอบครัว เซี่ยเชาฉวินเคยสืบมาแล้ว ข่าวที่นักข่าวปล่อยออกมาน้อยมาก รู้เพียงแค่ว่าเธอสวยตั้งแต่เด็ก ได้รับคำชมจากเพื่อนบ้านและทุกคนในซอยตั้งแต่เล็กจนโต แถมยังเป็นคนพูดน้อย

ผลการเรียนของเธอพุ่งสูงอย่างกะทันหันตอนมัธยมศึกษาปีที่หกและสอบติดมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง

หลังจากเข้าวงการบันเทิงหนัง แม้แต่ในหนังหลายเรื่องที่เป็นเอ็กซ์ตร้าก็ถือว่าใช้ได้ พอเข้าสู่วงการบันเทิงเต็มตัว การแสดงในหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ก็ดีมาก รวมทั้งความสวยที่โดดเด่น ไม่นานนักเธอก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้กำกับมือทองอย่างจางจิ้งอานและความพยายามของเธอก็ทำให้ได้รับการยอมรับจากผู้กำกับจ้าวร่างในเรื่อง ‘99 Love Letter’ หลังจากนั้นก็กลายเป็นพื้นฐานให้ทั้งสองได้มาร่วมงานกันในหนังเรื่องที่สอง

ในวงการผู้กำกับหลายคนที่เคยร่วมงานกับเธอไม่มีใครที่ไม่ชอบเธอ อยู่ในวงการมาหลายปี แม้จะเคยร่วมงานกับคนจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีข่าวบาดหมางกับใคร ส่วนเรื่องความรักนั้นก็เหมือนที่เผยอี้บอกว่าเปิดเผยตั้งแต่เปิดกล้องหนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping' แล้ว

บทวิจารณ์ของผลงานที่เคยมีส่วนร่วมก็ดีมาก หลายปีมานี้ หนังส่วนมากที่เธอเป็นนักแสดงนำล้วนกลายเป็นตำนาน ทำให้แฟนคลับของเธอมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

ตลอดทั้งวันมานี้ ทุกคนยังวิพากษ์วิจารณ์การแต่งงานของเธออย่างดุเดือด มีทั้งคำอวยพร คนอิจฉา นอกจากคนจำนวนหนึ่งที่ยังไม่อยากจะเชื่อ คนจำนวนมากที่ไม่ได้ติดตามเธอเป็นพิเศษก็รู้สึกดีกับเธอ เพราะเรื่องการแต่งงานของเธอกับเผยอี้

รายได้วันแรกของหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ พุ่งทะยานขึ้นสูงมาก แน่นอนว่ายิ่งเป็นการทำให้ชื่อเสียงของเจียงเซ่อโด่งดังมากขึ้นเช่นกัน

เถาเฉินรู้ข่าวนี้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เธออยู่ในวงการมานาน ผูกมิตรกับคนจำนวนมาก ความสัมพันธ์ของคนรอบข้างกับวงการนักข่าวก็ไม่เลว

ตระกูลเผยจงใจประกาศเรื่องการแต่งงาน เธอรู้ข่าวนี้ก่อนชาวเน็ตที่เพิ่งรู้ข่าวในตอนหลังเสียอีก

ตอนที่สำนักงานหัวเซี่ยเผยแพร่ข่าวออกมา เธอก็รู้เลยว่าสถานการณ์ไม่ดีแน่และรู้ว่าการที่ตัวเองออกจากซื่อจี้หยินเหอ ไม่เพียงแค่ไม่สามารถล้มหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ขัดขวางการพัฒนาของเจียงเซ่อได้อย่างที่ตัวเองต้องการแล้ว ยังอาจจะเป็นการทำลายโอกาสอันน้อยนิดหลังจากตัวเองออกจากซื่อจี้หยินเหอในครั้งนี้ด้วย

แต่การยิงธนูนั้นลูกธนูไม่อาจย้อนกลับมาได้ จนถึงตอนนี้แม้ว่าเธอจะรู้ผลลัพธ์นั้นดี แต่ก็ไม่สามารถหันหลังกลับไปได้อีก

ถ้าเป็นเรื่องอื่น เธอยังสามารถคิดวิธีอื่นในการขัดขวางเจียงเซ่อได้

แม้กระทั่งหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ที่กำลังดังอยู่ในตอนนี้ ในตอนที่เข้าสู่หัวเซี่ย เข้ามาในถิ่นของเธอเองก็อาจจะโดนแผนการของเธอขัดขวางเอาไว้ได้ด้วยเช่นกัน

แต่เธอไม่สามารถกลบข่าวที่ออกมานี้ได้ เพราะตระกูลเผย ไม่ใช่สิ่งที่เธอจะแตะต้องได้ การที่ตระกูลเผยประกาศแต่งงาน เธอไม่สามารถขัดขวางได้เลย เธอต้องทนดูเรื่องทั้งหมด โดยไม่สามารถทำอะไรได้

ทั้งวันผ่านไป เธอยังไม่สามารถควบคุมความโกรธของตัวเองได้ ซ่งอี้ก็วุ่นอยู่ทั้งวัน พยายามหากระแสท่ามกลางข่าวของเจียงเซ่อ แต่ในสถานการณ์ที่ประชาชนกำลังถูกข่าวของเจียงเซ่อดึงดูด การจะสร้างข่าวดีๆ สักข่าวช่างเป็นเรื่องที่ยากนัก

แม้ว่าตอนนี้จะมีข่าวเสียหายสะเทือนฟ้าดินมากเพียงใด แต่พอเจอกับข่าวการแต่งงานของตระกูลเผย เบื้องบนก็จะต้องขอให้นักข่าวปิดข่าว จะสร้างความลำบากใจให้ตระกูลเผยตอนนี้ไม่ได้

นี่เป็นพลังของตระกูลเผย เธอไม่สามารถทำอะไรได้

การวางแผนอยู่ที่คน แต่จะสำเร็จไหมฟ้าเป็นผู้ลิขิต เธอเตรียมความพร้อมเต็มที่ เตรียมรับมือกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทว่าโอกาสกลับพัดเข้าหาเจียงเซ่อเสียอย่างนั้น

เรื่องราวมากมายที่ก่อนหน้านี้ไม่เข้าใจ ในเวลานี้ล้วนเข้าใจทั้งหมดแล้ว

ไม่แปลกที่ในงานเปิดตัวของรถสปอร์ตของ leopard คุณนายโจวที่นัดแนะกันไว้อย่างดีแล้วว่าจะใช้ความสำเร็จอันงดงามของเธอมากดเจียงเซ่อลง กลับเกิดปอดแหกขึ้นมากะทันหัน ยอมให้คนอื่นหัวเราะเยาะ แต่ไม่ยอมออกตัวในตอนนั้น

ช่วงนี้การพัฒนาของอสังหาริมทรัพย์จิ่งไท่ถูกขัดขวางทุกทาง กฎหมายใหม่ที่เบื้องบนกำหนดล้วนไม่เป็นผลดีต่อจิ่งไท่ ปีนี้ทั้งปีสามีของคุณนายโจววุ่นมาก หุ้นของจิ่งไท่ก็ตก ทำให้ฐานะของสองสามีภรรยาตกต่ำลงไปมาก

พอที่บ้านเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แน่นอนว่าคุณนายโจวก็ไม่มีกะจิตกะใจจะออกงานสังคม เพราะถึงอย่างไร ความวุ่นวายทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นเพราะเธอไม่เจียมตัวหาเรื่องใส่ตัวเอง

หลังจากเจอคุณนายใหญ่เผยที่งานโชว์รูมของ ELYSEES แล้วคุณนายเผยบอกว่าเจียงเซ่อเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ในอนาคตของเธอ คุณนายโจวเองก็เคยพูดถึงเรื่องนี้กับเพื่อนสนิทที่อยู่รอบตัวของตัวเองแล้ว ตอนแรกพวกของคุณนายเวิงก็ไม่ยอมเชื่อ จนกระทั่งตอนเคาท์ดาวน์ ตระกูลเผยประกาศเรื่องแต่งงาน จึงทำให้พวกของคุณนายเวิงขึ้นกับหน้าเสียขึ้นมาทันที

ไม่แปลกที่ปีนี้ตระกูลโจวจะขยับขยายกิจการได้ไม่ราบรื่นนัก แม้จะพยายามผูกมิตรแล้วแม้จะพยายามใช้เส้นช่วย แต่ก็ไม่สามารถชดเชยได้

ตอนนั้นคิดว่าคุณนายโจวแค่พูดให้กลัวเฉยๆ ตอนนี้ถึงเพิ่งจะรู้ว่าเป็นความจริง

ตอนนั้นคุณนายเวิงถึงขั้นนั่งไม่ติด ในงานโชว์รูมของ ELYSEES แม้จะผ่านมาเป็นปีแล้ว และตอนนั้นแกนนำต่อต้านการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์รถสปอร์ต ELYSEES ของเจียงเซ่อก็ไม่ใช่ตัวเอง แต่เธอก็มีส่วนร่วมด้วย ความพินาศของตระกูลโจวก็เป็นตัวอย่างให้เห็นแล้ว เธอเองก็กลัวว่าจะทำให้บริษัทของสามีต้องลำบาก เพราะฉะนั้นหลังจากมั่นใจว่าข่าวเป็นความจริง จึงรีบโทรไปจองรถสปอร์ต leopard ที่เจียงเซ่อเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างเปิดเผยทันที

การโปรโมทหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แค่เพียงสัปดาห์เดียวรายได้ในหัวเซี่ยก็มากกว่าอเมริกาเหนือได้ ตัวเลขมากถึงหนึ่งพันห้าร้อยล้าน

ตอนที่หัวเซี่ยนำเข้าหนังเรื่องนี้ ส่วนแบ่งที่เซ็นต์สัญญากับทางผู้ลงทุนต่ำมาก ตามกฎแล้ว รายได้ต้องมากถึงสองพันล้านจึงจะได้กำไร

จากการพัฒนาดูจากแนวโน้มตอนนี้ที่เห็น ท้ายที่สุดแล้วรายได้ของหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ อาจจะไม่ใช่เพียงแค่สองพันล้าน แต่อาจจะมากกว่านั้น

ตอนแรกทางผู้ลงทุนไม่ได้ตั้งความหวังกับหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ สูงมากนัก หลังจากเปลี่ยนตัวนางเอก ขอเพียงแค่หนังไม่ขาดทุนก็พอแล้ว

แต่ไม่คิดว่าผลลัพธ์ของหนังจะออกมาดี ในสถานการณ์ที่นักแสดงค่าตัวต่ำ เงินของทางผู้ลงทุนไปลงในหนังทุกบาททุกสตางค์ ทำให้หนังไม่เพียงแค่ได้รับทำให้งาน ‘หนึ่งร้อยปีของคนสร้างหนัง’ ต้องตะลึง แต่ยังทำให้แฟนหนังทั่วโลกต่างต้องตะลึงเช่นกัน

ตอนนี้เชี่ยซ่าเหลยเป็นหนึ่งในผู้กำกับระดับเทพ ในประวัติอันเป็นเกียรติของโดนัลด์ก็มีผลงานที่ควรค่าแก่การจดจำมากขึ้นอีกเรื่อง ชื่อเสียงและฐานะของเจียงเซ่อในต่างประเทศสูงขึ้นอีกระดับ บริษัทลงทุนทั้งบอร์เจียและฮว๋านเต่าต่างได้รับผลประโยชน์ทั้งคู่

ในประเทศนอกจากการโปรโมทก่อนหน้านี้ รายได้ในช่วงหลังก็ไม่น้อยเลย พวกของเนี่ยต้านเตรียมจะใช้หนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ในการปูทาง ส่งบริษัทเข้าสู่ตลาดเพื่อขยายกิจการ

สิ้นเดือนมกราคมหลังจากหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ เข้าฉายได้ยี่สิบวัน เพราะคำวิจารณ์และการโปรโมท ทำให้รายได้ของหนังมากถึงสี่พันล้านแล้ว หนังเรื่องนี้ได้ทำลายสถิติหนังในหัวเซี่ยและเป็นการสร้างปรากฏการณ์ในชีวิตการแสดงของเจียงเซ่อในอีกขั้นและเพียงพอที่จะเป็นเครื่องการันตีอิทธิพลของเธอ

ตอนนี้เจียงเซ่อเสร็จจากงานแล้ว อยู่ในช่วงทบทวนบทเรียนและเตรียมงานแต่งของตัวเองกับเผยอี้

ตระกูลเผยเพิ่งจะประกาศเรื่องที่หลานชายคนโตจะแต่งงาน ในสถานการณ์ที่ประชาชนยังคงติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง คุณท่านเผยก็อยากจะถ่ายรูปครอบครัวเผยแพร่ให้ทุกคนได้เห็น

ก่อนตรุษจีนเจียงเซ่อได้กลับเซี่ยงไฮ้พร้อมกับคุณหญิงเผย เจอญาติคนอื่นๆ ของเผยอี้ เพราะมารยาททางสังคมที่ได้เรียนตอนเป็นลูกหลานของตระกูลเฝิง ทำให้ผู้ใหญ่หลายคนที่สงสัยในตัวเธอหลังจากเจอกันก็ยอมรับในตัวเธอ

หลังจากประกาศแต่งงาน เธอจะต้องเป็นคุณผู้หญิงของบ้านตระกูลเผย ต้องคอยต้อนรับแขกที่มาอวยพรในเทศกาลตรุษจีนที่บ้านตระกูลเผยพร้อมกับคุณหญิงเผยและคุณนายเผย ทั้งยังคุยเรื่องพิธีในงานแต่ง

ฤกษ์แต่งของเธอกับเผยอี้คือเดือนกันยายน เวลากระชั้นชิดเข้ามามากแล้วและยังมีอะไรอีกมากมายให้ต้องเตรียมตัว

วันที่สองของปีตามปฏิทินจีน เฝิงจงเหลียงมาอวยพรปีใหม่ที่บ้านตระกูลเผย จึงได้ยินคุณย่าหญิงเผยพูดถึงว่ากำลังจะตกแต่งเรือนหอในอนาคตของเผยอี้พอดี

ก่อนหน้านี้เจียงเซ่อกับเผยอี้ต่างก็งานยุ่ง ผู้ใหญ่จึงช่วยดูบ้านให้ คุณย่าหญิงเผยเตรียมความพร้อมเพื่องานนี้มาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ตอนที่เผยอี้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ตระกูลเผยก็เตรียมบ้านให้เขาเอาไว้หลายหลังสำหรับใช้ตอนเขาแต่งงาน

เรือนหอที่เลือกอยู่ทางทิศใต้ของปักกิ่ง ตี้ตู ถือเป็นที่ๆ ถึงแม้มีเงินก็ไม่แน่ว่าจะสามารถซื้อได้ มีต้นไม้รายล้อมอย่างแน่นหนา ตัวบ้านก็ใหญ่มาก แต่กลับถูกทิ้งให้ว่างอยู่นานหลายปี ตอนนี้จึงเตรียมจะซ่อมแซมและตกแต่งใหม่

“ถือโอกาสตอนนี้ พวกเธอลองดูว่าชอบสไตล์ไหน คุยกันไว้ก่อน ถึงเวลาจะได้เริ่มทำเลย”

การตกแต่งนี้ คิดว่าน่าจะเสร็จก่อนงานแต่ง

เจียงเซ่อมองเผยอี้แวบหนึ่ง ความคิดในใจของเธอ เผยอี้คงจะรู้ดี

บ้านหลังนี้จะเป็นที่ในอนาคตอยู่ในอนาคตของทั้งสอง เธอเองก็อยากจะมีส่วนร่วมและเตรียมจะออกค่าตกแต่ง

เผยอี้จับมือเธอเอาไว้ ช่วงหลายปีที่เธอเข้าวงการ ดูเหมือนว่าจะมีเงินเก็บไม่น้อยและความจริงค่าใช้จ่ายก็ไม่มาก เธอมีทรัพย์สินอยู่เท่าไหร่นั้น เผยอี้ไม่ได้ถามถึง ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเธอ

แต่เธอมีทรัพย์สินอยู่ทั้งหมดเท่าไหร่นั้น เผยอี้สามารถคำนวณได้

รายได้ของเธอจะหลังจากแบรนด์แอมบาสเตอร์และต้นสังกัดของเธอรับส่วนแบ่งไปก็เหลือไม่มาก จนปีที่แล้วตอนต่อสัญญากับซื่อจี้หยินเหอ หลังจากได้รับส่วนแบ่งจากบริษัท รายได้ของเธอเพิ่มมากขึ้น

ราคาของค่าตกแต่ง เขาเคยได้ยินคุณนายเผยพูดถึง เงินก้อนนี้แม้เจียงเซ่อรับไหว แต่เขาจะยอมแตะต้องเงินของเจียงเซ่อได้ยังไง ในขณะที่กำลังจะพูด เฝิงจงเหลียงที่กำลังคุยกับคุณปู่ท่านเผยหันกลับมาพูดกับเขาพร้อมรอยยิ้มว่า

“อาอี้เผย พวกเธอเลือกสไตล์เรือนหอเสร็จแล้วหรือยัง”

ทุกคนไม่คิดเลยว่าเขาจะสนใจเรื่องนี้ คุณย่าหญิงเผยอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเผยรอยยิ้มและยกภาพร่างหลายภาพขึ้นมา

“คุณแม่ของเขาจัดการติดต่อดีไซเนอร์แทนเขาไว้หลายที่ ออกแบบมาหลายฉบับ อยู่ตรงนี้ เสี่ยวเฝิงลองดูสิ”

ด้วยนิสัยของเฝิงจงเหลียงไม่น่าจะสนใจเรื่องแบบนี้ ไม่คิดว่าคุณย่าหญิงเผยเพียงยื่นไปตามมารยาท ตอนแรกคิดว่าเขาจะบ่ายเบี่ยงไม่รับ ไม่คิดว่าเขาจะรับไปจริงๆ แถมยังดูอย่างพินิจพิเคราะห์

“สายตาของเสี่ยวหนิง แน่นอนว่าสุดยอด” เขาพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นมา

“ผมฉันเองก็เห็นเผยอี้มาตั้งแต่เด็ก เขาจะแต่งงานแล้ว ผมฉันก็คงอยู่เฉยไม่ได้ รวมทั้งผมเองฉันก็รักเซ่อเซ่อมาก ในเมื่อเรียกผมฉันว่าคุณปู่ เธอก็ถือเป็นหลานสาวของผมฉัน หลังจากออกแบบเสร็จแล้ว ผมผมขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง”

หลังจากเฝิงหนานเกิดใหม่ แม้ภายนอกม้ทางกฎหมายเธอจะไม่ใช่หลานสาวของเขาอีกต่อไป แต่สำหรับเฝิงจงเหลียงแล้วหลานสาวจะแต่งงาน เขาก็ต้องคอยดูแลหลายเรื่องให้เธอมักจะคอยเป็นห่วงเรื่องต่างๆ แทนเธอ

คำพูดของเขาทำให้คนตระกูลเผยอึ้งไปทันที แม้เฝิงจงเหลียงจะรักษาความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลเผยมาโดยตลอดและสนิทสนมกัน แต่ไม่ว่าเขาจะรักเผยอี้มากเท่าไหร่ ทุกคนก็ไม่คิดว่าเขาจะเหมาค่าใช้จ่ายการตกแต่งบ้านทั้งหมดเอาไว้เอง ยังไงก็ตามเงินก้อนนี้ก็มูลค่าไม่น้อยเลย