649-1

บทที่ 649-1 กังวล

เฝิงหนานได้ออกมาพูดถึงฐานะที่แท้จริงของเจียงเซ่อ เรื่องทุกอย่างมันวุ่นวายจนกลับมายังจุดเดิมไม่ได้อีกแล้ว สำหรับเจียงเซ่อแล้ว นี่ถือว่าเป็นการโจมตีที่ถึงชีวิตเลยทีเดียว

แต่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ ตระกูลเผยก็ออกมาประกาศเรื่องงานแต่งงาน ทำให้จากตอนแรกที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจกับความเป็นมา ฐานะที่แท้จริงของพ่อเจียงเซ่อ เรื่องพื้นฐานครอบครัวและสิ่งต่างๆ ของเจียงเซ่อที่เฝิงหนานออกมาพูดทั้งหมด กลายมาเป็นให้ความสนใจกับการแต่งงานของหลานชายคนโตแห่งตระกูลเผยแทน

เธอเป็นเหมือนคนที่สาวๆ หลายคนวาดฝันเอาไว้ และแนวโน้มในการวิพากษ์วิจารณ์ครั้งนี้ มันเป็นเพราะตระกูลเผยออกมาจัดการได้ทันท่วงทีทั้งสิ้น

“สิ่งที่เฝิงหนานพูด เธอไม่ต้องไปสนใจหรอก”

พอคุณย่าเผยได้ยินเธอพูดถึงเรื่องนั้นขึ้นมา น้ำเสียงที่พูดออกมาก็เต็มไปด้วยความขบขัน

“เธอเป็นเด็กดี คบหากับอาอี้มาตั้งหลายปี พวกเราเองก็เห็นอยู่” ชาติกำเนิด และพ่อแม่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเลือกได้ แต่ตัวเองจะใช้ชีวิตและทำตัวอย่างไร ก็ต้องเป็นตัวเองที่กำหนด

“ในสถานการณ์แบบนี้ก็ยังสามารกจัดการเรื่องราวได้อย่างสุขุมรอบคอบ” รักษาท่าทางและคงความสงบเยือกเย็นเอาไว้ ในขณะที่คนทั่วไปพากันร้อนรนกระวนกระวาย สิ่งแรกที่คิดถึงก็คือยอมรับกับตัวเองว่าเฝิงหนานคือคนที่สร้างปัญหาขึ้นมา ถึงคุณย่าเผยจะไม่พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกสบายใจ

“คนนอกเขาไม่เข้าใจอะไรหรอก ได้แต่พูดมั่วไปเรื่อย”

คุณย่าเผยไม่ได้พูดถึงเฝิงหนาน หล่อนเองก็เห็น ‘เฝิงหนาน’ มาตั้งแต่เด็ก เคยเป็นเด็กสาวที่เผยอี้ชอบมากๆ คนหนึ่งเช่นกัน แต่แค่ไม่รู้ว่าทำไมพอเด็กสาวคนนี้เติบโตขึ้นแล้ว ถึงได้เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้

หล่อนรู้ถึงฐานะชาติกำเนิดของเจียงเซ่อ แล้วยังมาไม่พอใจในตัวเจียงเซ่ออีก ไหนจะสิ่งที่พูดออกมาแต่ละอย่าง คุณย่าเผยรู้สึกไม่พอใจมาก แต่ก็ไม่อยากจะไปเพิ่มปัญหาอะไรอีก “แค่ว่าตอนนี้อาอี้ออกไปทำงานข้างนอก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในบ้านของพวกเราจะไม่มีคนที่ใช้การได้”

นิสัยของคุณย่าเผยเจียงเซ่อเองก็รู้และเข้าใจดี ทั้งความรู้คุณธรรม ความภูมิฐานมันอยู่ในตัวท่านมานานหลายสิบปี เรียกได้ว่าอยู่ในสายเลือดเลยก็ว่าได้

ท่านจะไม่พูดถึงคนในทางที่ไม่ดี ถ้าไม่ชอบ ก็จะไม่พูดถึง ไม่ไปเข้าใกล้ ไม่ติดต่อหรือพูดคุยกัน การที่ท่านพูดออกมาแบบนี้แล้ว ก็ถือว่าท่านปกป้องเจียงเซ่อมากแล้ว

“ขอบคุณนะคะคุณย่า” เธอตอบกลับเสียงเบา คุณย่าเผยเองก็ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้แล้ว เรื่องที่พูดถึงถูกเปลี่ยนเรื่องไป และกลับมาร่าเริงอีกครั้ง

“ปีนี้เป็นวันที่ดีมากเลยนะ เธอกับอาอี้ได้ประกาศงานแต่งงานกันแล้ว คุณปู่เธอบอกว่า ก่อนที่จะถึงวันตรุษจีนก็ให้มาถ่ายรูปครอบครัวด้วยกัน จะได้ปล่อยออกไปให้ทุกคนได้เห็น จะได้เลี่ยงไม่ให้คนอื่นมาคอยนินทาเดาสุ่มไปเรื่อยด้วย”

เจียงเซ่อรับคำ และสัญญาว่าหลังจากที่จบการโปรโมทหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ แล้วจะรีบกลับไปเล่นไพ่นกกระจอกกับคุณย่าที่บ้านตระกูลเผยทันที ทำเอาคุณย่าเผยดีอกดีใจใหญ่ จากนั้นก็พูดคุยเล่นกับคุณย่าเผยอีกครู่หนึ่ง แล้วถามถึงคนอื่นๆ ในตระกูลเผย จากนั้นก็วางสายไป

คืนนี้มีข่าวออกมาติดต่อกันไม่หยุด และล้วนเกี่ยวกับเจียงเซ่อทั้งนั้น โดยเฉพาะกับข่าวใหญ่ที่ว่าเจียงเซ่อกำลังจะมีงานแต่งงาน มันสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้มาทีเดียว

บนหัวเซี่ยฟอรั่ม คลิปวีดิโอที่เผยอี้ออกมาพูดด้วยตัวเองนั้นถูกให้ความสนใจจากชาวเน็ตและมีการแชร์ต่ออย่างแพร่หลาย ทำให้เรื่องการประกาศแต่งงานที่ออกมาได้มานานกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์หลักในทันที

ตระกูลเผยเปิดเผยประวัติส่วนตัวของเผยอี้ออกมาแล้ว ถึงแม้ว่าจริงๆ แล้วตอนที่เขาเป็นวัยรุ่นจะเคยใช้ชีวิตตามอำเภอใจมากแค่ไหน แต่เมื่อประวัติส่วนตัวถูกปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการแล้วก็ต้องมีแต่เรื่องดีงาม

เริ่มจากประวัติการศึกษาของเขา ก็อย่างที่เขาบอกเอาไว้ ผลคะแนนอันยอดเยี่ยมในระดับมหาวิทยาลัยแถมยังสอบเข้ามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของตี้ตูได้ แถมยังมีการทำเรื่องขอจบก่อน หลังจากนั้นก็ไปสอบเข้าที่มหาวิทยาลัยการทหารในระดับปริญญาโท และรับราชการอยู่ที่คิวชู

และสิ่งที่ประกาศออกไปพร้อมๆ กัน ก็คือภาพถ่ายของเขาตั้งแต่สมัยเด็กๆ มีตั้งแต่ตอนเป็นทารกที่ถูกคุณปู่เผยประคองบ้าง อุ้มบ้าง และพาไปเจอกับแขกต่างๆ และมีตอนที่เขาเป็นเด็กซน และตอนที่เป็นเด็กหนุ่มที่มีความเอาแต่ใจอย่างชัดเจน และยังมีตอนที่กำลังซ้อมต่อสู้อยู่ในมหาวิทยาลัยทหารด้วย

ส่วนแฟนคลับของเจียงเซ่อที่ได้เห็นคลิปประกาศแต่งงานของตระกูลเผยแล้ว ตอนแรกก็พากันตื่นตกใจ แปลกใจและไม่อยากจะเชื่อ จนเมื่อได้รับการยืนยันแล้วว่าเจียงเซ่อกำลังจะได้แต่เข้าตระกูลเผยเป็น ‘สะใภ้ตระกูลเผย’ แล้ว ต่างก็พากันดีใจแทนเธอ

เถาเถาเองก็เป็นแฟนคลับของเธอ และเป็นอีกคนที่ดีใจแทนเธอไม่แพ้กัน

หล่อนติดตามเจียงเซ่อมาตั้งหลายปี แน่นอนว่ารู้เรื่องแฟนหนุ่มของเธอแล้ว

และรู้มานานแล้วว่าไอดอลของตัวเองนั้นมีการแอบเตรียมงานแต่งแล้ว แต่สำหรับเรื่องของคู่หมายของเจียงเซ่อ หล่อนไม่ได้รู้อะไรมากมาย ก็เพิ่งจะมารับรู้พร้อมๆ กับทุกคนเหมือนกัน รู้แค่ว่าสามีในอนาคตของเจียงเซ่อนั้นเป็นคนที่มีฐานะสูงส่งเท่านั้นเอง

ในตอนที่ตระกูลเผยออกมาประกาศในคืนนี้ นอกจากหล่อนจะดีใจแล้ว ก็กลับรู้สึกกังวลอยู่ในใจด้วย

ในสายตาของเถาเถา เจียงเซ่อคือคนที่ดีที่สุด ที่จริงยากมากที่คิดว่าคนที่เหมาะสมกับเธอ จะเป็นคนประเภทนี้

ถึงแม้ว่าเจียงเซ่อและเผยอี้นั้นจะเคยถูกแอบถ่ายมาก่อน แต่รูปก็เป็นรูปที่เลือนรางเหลือเกิน แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะเห็นได้ชัด แถมหลังจากนั้นก็ยังมีการถูกตามลบออกจนหมดอีก จนกระทั่งตอนนี้ ที่ได้ประกาศเปิดเผยอย่างเป็นทางการ

เขาดูไม่เหมือนกับทายาทรุ่นที่สามของตระกูลเผยตามที่คาดกันเอาไว้เลยสักนิด อีกทั้งยังดูหน้าตาดีและโดดเด่นกว่าที่ใครหลายๆ คนคิดเอาไว้มากทีเดียว

ประวัติที่สวยงามเหล่านั้น อาจจะทำให้เจียงเซ่อถูกมองว่า ‘บางทีที่เจียงเซ่อแต่งเข้าตระกูลเผย อาจเป็นเพราะว่าเล็งเห็นถึงอำนาจอิทธิพลและฐานะของเผยอี้ก็เท่านั้นเอง’

ไม่มีรูปร่างที่อ้วนท้วม ไม่มีคนที่มีแต่ไขมันเต็มตัว แต่กลับเป็นชายหนุ่มรูปร่างสง่างามแทน

ภาพถ่ายที่เป็นเหมือนผืนผ้าไหมปักดิ้นด้ายทอง ประวัติความเป็นมาที่โดดเด่น ชีวิตที่มีแต่ความขาวสะอาด ไม่เคยมีประวัติเสียหายหรือข่าวลือไม่ดี ยิ่งทำให้ทุกคนรู้สึกประทับใจในตัวเขาเป็นอย่างมาก

ไม่มีใครพูดถึงคุณหนูแห่งวิสาหกิจจงหนานอย่างเฝิงหนานอีก ไม่มีใครพูดถึงพ่อของเจียงเซ่อ บนอินเทอร์เน็ตสิ่งที่มีการพูดถึงมากที่สุด ก็คือเรื่องการแต่งงานของเจียงเซ่อ ที่ตระกูลเผยได้แอบจัดการมาอย่างเงียบๆ นานแล้ว

ในบ้านตระกูลเฝิง เฝิงชินหลุนตัวสั่นไปหมด และยังคงฟังสายของคนเป็นพ่อ

หลังจากที่เกิดเรื่องกับเฝิงหนานขึ้นในครั้งนั้น เฝิงจงเหลียงก็เริ่มที่จะเพ่งเล็งลูกชายที่ไม่เอาไหนของตัวเองคนนี้เป็นพิเศษแล้ว ถึงแม้ว่าในหลายปีมานี้เขาจะทำงานและประพฤติตัวดีขึ้น แต่เฝิงจงเหลียงก็ยังไม่มาสนใจใยดี ทำให้เฝิงชินหลุนเริ่มมองว่าผู้อาวุโสคนนี้ช่างเอาใจยากเสียเหลือเกิน

“คุณพ่อ คุณพ่อให้ผม ‘ปล่อย’ เฝิงหนานไปเถอะครับ ตอนนี้เธอไปทำให้ตระกูลเผยไม่พอใจเข้าแล้วนะครับ…”

คืนนี้ตระกูลเผยมีการประกาศงานแต่งงานของหลานชายคนโต ไม่เพียงแค่ประกาศในหัวเซี่ยเท่านั้น ยังมีการประกาศไปถึงฮ่องกงด้วย ทำเอาหลังจากที่ตระกูลเฝิงได้รู้ข่าวเหล่านั้นแล้ว ต่างก็พากันไม่สบายใจ กลัวว่าเฝิงหนานจะไปทำให้ตระกูลเผยไม่พอใจเข้า

“ตอนนี้พวกเราก็อยู่ในช่วงสำคัญของการร่วมมือกันกับเจียงหัวกรุ๊ปด้วย…”

เฝิงชินหลุนพูดอย่างระมัดระวัง พยายามไม่ให้เฝิงจงเหลียงจับได้ว่าในคำพูดของเขานั้นมีการแอบตำหนิอยู่ด้วย

ความร่วมมือกันระหว่างวิสาหกิจจงหนานและเจียงหัวกรุ๊ปมีการพูดคุยกันมานานหลายปีแล้ว ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีการกำหนดการร่วมมือกันได้แถมใช้เวลามากว่าเจ็ดแปดปีแล้ว แต่ดันมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอีก เกรงว่าจะทำให้เกิดผลกระทบภายในประเทศไปด้วย

“แกจะร้อนรนไปทำไม?”

เขาแสดงออกมาได้ดีมาก แต่เฝิงจงเหลียงก็ยังสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงตำหนิในคำพูดของเขาอยู่ดี สำหรับลูกชายคนนี้ น้อยครั้งมากที่เฝิงจงเหลียงจะตะคอกใส่

“ฉันรู้ดีว่าควรจะต้องทำยังไง! ถ้าทำให้ผิดใจจริงๆ พวกผู้ใหญ่ก็ไปขอโทษกันสิ!”