648

บทที่ 648 ให้รู้กันทั่ว

“อาอี้ชอบเธอจริงๆ เลยน้า เซ่อเซ่อ เธอลองดูบนอินเทอร์เน็ตสิ ลองดูเว็บหัวเซี่ยฟอรั่ม”

เนี่ยต้านเอ่ยเตือนเธอ เจียงเซ่อที่ดูเป็นคนนิ่งเงียบและเยือกเย็นมาโดยตลอด แต่ตอนนี้กลับเหมือนเด็กสาวที่ทำอะไรไม่ถูกคนหนึ่ง พอเนี่ยต้านพูดจบ เธอก็ลนลานเปิดดูทันที

“เธอลองค้นหาชื่อของอาอี้ดูสิ”

และเธอก็รีบทำตามที่เนี่ยต้านบอก หัวเซี่ยฟอรั่มคือที่ที่ชาวเน็ตในหัวเซี่ยใช้พูดคุยกันมากที่สุด และเว็บเพจออฟฟิเชียลของเจียงเซ่อเองก็อยู่ในนั้นเช่นกัน

ในตอนแรกที่สร้างแอคเคาน์ขึ้นมา ทางเซิร์ฟเวอร์ก็ได้มีการตั้งสถานะตัวบุคคลพิเศษไว้ให้เรียบร้อย ในขณะที่เธอกำลังเตรียมตัวที่จะค้นหาอยู่นั้น ก็พบว่าชื่อ ‘เผยอี้’ ไม่น่าที่จะค้นหาจากที่นี่ได้

นี่คือสิทธิ์พิเศษที่ทางหัวเซี่ยฟอรั่มมีให้กับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง เพื่อเป็นการป้องกันว่าชื่อหรือข้อมูลส่วนตัวอะไรจะรั่วไหลออกไป นอกเสียจากว่าชื่อหรือสิ่งๆ นั้นจะเป็นที่สนใจและจับตามอง

พอเจียงเซ่อคิดได้แบบนั้น การกระทำของเธอก็ไปไวกว่าความคิดของตัวเองทันที เธอพิมพ์ชื่อของเผยอี้ลงไป จากนั้นก็กดยืนยัน จากตอนแรกที่คิดว่าไม่มีทางที่จะหาชื่อๆ นี้เจอ แค่พอกดค้นหาแล้วจริงๆ กลับพบชื่อของ ‘เผยอี้’ ไล่ลงมายาวเหยียด

“นี่มัน…”

คำพูดที่เธออยากจะพูดเหมือนถูกกลืนลงไปหมด พอกดเข้าไปในหน้าหลักของเผยอี้ บนแอคเคาท์ออฟฟิเชียลนี่ ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งจะลงทะเบียนได้ไม่นานนี้เอง บนหน้าเพจมีข่าวประกาศตั้งไว้เพียงแค่โพสเดียว เพียงแค่เธอกดเปิดวีดิโอนั่น ก็ได้พบกับเผยอี้

เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า พับแขนเสื้อขึ้นมา ดูเหมือนว่าจะเป็นวีดิโอที่ถ่ายเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อเหลาของเขาลดลงเลย ได้รับอิทธิพลมาจากเผยจิ้นฮว๋ายมาตั้งแต่เด็กๆ อีกทั้งยังเรียนอยู่ในโรงเรียนทหารมาตั้งหลายปี ทำให้ท่าทางการยืนของเขาดูดีสุดๆ ลำคอของเขาตั้งตรงและดูแข็งแกร่ง สงบนิ่งและดูถือดี เค้าโครงใบหน้าของเขาก็เป็นเป็นสันคม

“ผมคือเผยอี้” เขามองมาที่กล้อง และพูดเข้าประเด็นอย่างไม่อ้อมค้อม เขาพูดถึงตั้งแต่ตอนที่ได้รู้จักกับเจียงเซ่อ ตอนที่คบกันจนไปถึงการแต่งงาน

“การเลือกที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผม ในตอนที่ผมอายุได้สิบแปดปี ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของตี้ตู แต่หลังจากนั้นสองปี ก็โชคดีได้พบความรักของตัวเอง และได้คบหากับเธอมาอย่างราบรื่น หลังจากที่คบหาดูใจมากว่าเจ็ดปี พวกเราทั้งสองก็ได้ตัดสินใจว่าเราจะอยู่เป็นคู่ชีวิต อยู่เคียงข้างกันตลอดไป หลังจากผ่านการคิดพจารณาอย่างรอบคอบแล้ว พวกเราก็ได้ตัดสินใจที่จะแต่งงานกันครับ”

เขาพูดคำพูดที่ฟังดูโรแมนติกออกมาได้อย่างหนักแน่น และจริงจัง ความรักของทั้งสองคนนั้นที่จริงแล้วมันก็เป็นเหมือนความรักธรรมดาๆ ทั่วไป แต่กลับต้องประกาศให้คนอื่นได้รู้ด้วยวิธีที่ไม่ธรรมดาเอาเสียเลย

เขากำลังปกป้องและยืนยันตัวเธออยู่!

เจียงเซ่อกุมอกตัวเองเอาไว้ ริมฝีปากเม้มเข้าหากันและพูดอะไรไม่ออกสักคำ

คำพูดของเขามันดูแก่ไปหน่อย แต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนว่าได้เห็นแววการเป็นคนกุมอำนาจใหญ่สุดในตระกูลเผยรางๆ แล้ว

เธอเคยคิดมาโดยตลอดว่าเขากับคุณปู่เผยและเผยจิ้นฮว๋ายนั้นมีบุคลิกและนิสัยที่แตกต่างกันราวกับฟ้ากับเหว ถ้าหากบอกว่าการเลี้ยงดูของคุณปู่เผยนั้นเข้มงวดเป็นไปตามกฎเกณฑ์ เผยจิ้นฮว๋ายที่ทั้งเข้มแข็งและเอาจริงเอาจัง ในสายเลือดของตระกูลเผยนั้นสืบทอดมาจากตระกูลอันสูงส่ง ทำให้ท่าทางที่แสดงออกมานั้นมีความ ‘หยิ่งยโส’ ละก็ อย่างนั้นบุคลิกเหล่านั้นในตัวของเผยอี้ก็ค่อยๆ ปรากฏชัดขึ้นมากแล้วจริงๆ

เขาไม่ใช่ประเภทเก็บความรู้สึก เป็นเหมือนแสงอาทิตย์อันเจิดจ้า เป็นเหมือนม้าที่ใจร้อนและชอบพยศโดยไม่กลัวอะไรสักอย่าง แต่ก็แฝงไปด้วยความเป็นเด็กหนุ่มที่แสนบริสุทธิ์และงดงาม

ความย้อนแย้งของบุคลิกเหล่านั้น คือสิ่งที่มันวุ่นวายอยู่ในใจของเธอมานาน ยากที่จะลบมันออกไป สำหรับความรักครั้งนี้ของเธอ เธอรู้สึกถึงความอบอุ่น คุ้นเคย เพราะว่าเป็นคนที่ได้รับความรักมาตั้งแต่เด็ก เพราะว่าเขามีความรู้สึกที่แรงกล้าและบริสุทธิ์ เพราะอย่างนั้นเธอถึงสัมผัสได้ถึงความอุ่นใจและปลอดภัยมากเป็นพิเศษ

แต่ตอนนี้ในวีดิโอของเขา มันกำลังส่งผลต่อความรู้สึกในใจของเธอที่มีต่อเผยอี้ เธอพบว่าตอนนี้เผยอี้ในใจของเธอที่เป็นเหมือนเด็กหนุ่มมาโดยตลอด ได้โตเป็นผู้ใหญ่มากแล้ว

จากเด็กหนุ่มที่มักจะปฏิเสธความรับผิดชอบหลายๆ อย่าง กลับเติบโตขึ้นมาเป็นชายหนุ่มที่มีความรับผิดชอบสูง

การเปลี่ยนแปลงของเขา มันดูสง่างามขึ้นเรื่อยๆ อาจเป็นเพราะภาพในอดีตต่างๆ ที่ยังจดจำ ทำให้เธอเอาแต่มองเขาด้วยสายตาแบบเดิม ถึงได้ไม่ทันได้สังเกตว่าเขาเปลี่ยนไปมากขนาดนี้แล้ว

“เซ่อเซ่อ…เซ่อเซ่อ?”

หัวใจของเธอเต้นระรัว เสียงที่ดัง ‘ตึกๆๆ’ มันกลบเสียงเนี่ยต้านที่ดังผ่านมือถือจนแทบไม่ได้ยิน เผยอี้ที่อยู่บนหน้าจอทำไมเหมือนยิ่งมองก็ยิ่งหล่ออย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่าเขาจะแค่ยืนนิ่งๆ อยู่ตรงนั้น แต่ก็ทำให้เธอใจเต้นหน้าแดงได้ขนาดนี้เลยหรือ?

จู่ๆ ความรู้สึกเหล่านั้นก็โผล่ขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจ เธอสัมผัสได้เลยว่าความร้อนมันแล่นขึ้นมาตั้งแต่ลำคอจนมาถึงข้างแก้ม

ทั้งเรื่องข่าวเถาเฉิน ข่าวเฝิงหนาน อะไรก็ลืมไปหมดแล้ว

“เซ่อเซ่อ?”

เนี่ยต้านยังคงเรียกเธอ เธอได้สติกลับมา แล้วรีบตอบรับกลับไป

“อ่า ฟังอยู่”

เธอยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเอง บางทีอาจจะเป็นเพราะฮีตเตอร์ในห้องก็ได้ ที่ทำให้แก้มเธอเห่อร้อนได้ขนาดนี้ เธอหันหันกลับไปมองเผยอี้บนหน้าจออีกครั้ง หลังจากที่เขาต้องการพูดสิ่งที่ตัวเองต้องการพูดจบ วีดิโอก็ตัดจบไปสนทันที เธอพยายามห้ามไม่ให้ตัวเองกดเปิดดูมันอีกรอบ ส่วนเนี่ยต้านก็พูดเตือนเธออีกครั้ง

“ที่ตระกูลเผยประกาศไปพวกคนนอกก็เอาไปพูดถึงกันแล้วนะ เซ่อเซ่อ สุขสันต์วันปีใหม่ นี่อาอี้จะหึงไหมเนี่ย ที่ฉันชิงพูดกับเธอก่อน?”

พอเขาพูดถึงตรงนี้ ก็หัวเราะขึ้นมา

เจียงเซ่อเองก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมาเช่นกัน

“เพราะงั้นคำว่า ‘สุขสันต์วันปีใหม่’ ฉันจะพูดกับนายก่อนไม่ได้สินะ”

และเขาเองก็หัวเราะขึ้นมาอีกเพราะคำพูดของเจียงเซ่อ พูดคุยกันอีกนิดหน่อย ทางอีกฝั่งก็มีคนเรียกชื่อเขาขึ้นมา เนี่ยต้านบอกลาเจียงเซ่อแล้วก็วางสายไป

อย่างที่เขาพูด การประกาศออกไปให้คนภายนอกได้รับรู้ของตระกูลเผย ก็คือการพุ่งเป้าไปที่การทำให้กลายเป็นข่าวในวันนี้

ใจความของมันก็ไม่ได้ต่างไปจากที่เผยอี้ได้พูดเอาไว้ในคลิปวีดิโอสักเท่าไหร่ เป็นการพูดถึงการรู้จักกันของทั้งสองคนตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งเหมือนกัน รวมไปถึงนิสัยใจคอของทั้งสองฝ่าย ผ่านการคิดพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว และตกลงปลงใจว่าจะใช้ชีวิตที่เหลือไปด้วยกัน

ส่วนเรื่องรายละเอียดของงานแต่งงาน จะมีการประกาศให้ได้รู้กันในภายหน้า

ในส่วนท้ายของการประกาศเหมือนเป็นการตอบโต้คำพูดของคุณหนูแห่งวิสาหกิจจงหนานอย่างเฝิงหนาน ที่เน้นเป็นพิเศษเรื่องชาติกำเนิดและข้อได้เปรียบจากสภาพสิ่งแวดล้อม แต่เป็นเพราะจุดเริ่มต้นสูงกว่าคนอื่นมากดังนั้นจึงต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ

การที่ตระกูลเผยจะเลือกคู่ชีวิต นอกจากชาติตระกูลและพื้นฐานต่างๆ แล้ว ก็ต้องดูที่นิสัยใจคอของตัวบุคคลเป็นหลักด้วย

การประกาศในครั้งนี้ ก็เหมือนเป็นการยืนยันฐานะของเจียงเซ่อไปด้วย ทำเอาเหล่าแฟนคลับของเจียงเซ่อพากันกรีดร้องกันอย่างตื่นเต้น

ตระกูลเผยออกหน้ามาประกาศด้วยตัวเอง ก็ถือว่ามีนัยยะสำคัญมากแล้ว ไม่มีทางที่คลิปวีดิโอของเฝิงหนานที่เอามาปล่อยลงอินเทอร์เน็ตจะมาสู้อะไรได้

ที่บริเวณใต้ตึกของสถานีโทรทัศน์หัวเซี่ย ทางตำรวจได้เริ่มเข้ามาควบคุมพื้นที่เอาไว้แล้ว ในวีดิโอการเผยแพร่ภาพสดสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าทางเดินถนนเส้นนี้มีตำรวจอยู่ในทุกๆ จุด แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบนั้น แต่ก็ยังมีกลุ่มคนพากันมาที่นี่อย่างไม่ขาดสาย

สถานที่สำคัญในการเคาท์ดาวน์ในปีนี้ จากปีก่อนๆ ที่ไปรวมตัวกันที่ลานรวมตัวของตี้ตู ในปีนี้กลับพากันเคลื่อนตัวมาที่สถานีโทรทัศน์หัวเซี่ย หรือตามตึกที่มีการถ่ายทอดสด หน้าบริษัทซื่อจี้หยินเหอและรวมไปถึงสถานที่ต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับเจียงเซ่อแทน

ในใจของเจียงเซ่อรู้สึกตื่นเต้นไปหมด เธอติดต่อหาที่บ้านตระกูลเผย เธอรู้ดีว่าตอนนี้ที่บ้านตระกูลเผยกำลังมีการจัดงานปีใหม่กันอยู่ ตอนแรกที่โทรไปก็ต้องรอสาย รออยู่พักหนึ่งถึงจะสามารถติดต่อได้

พอคุณนายเผยเรียกชื่อเธอขึ้นมา โทรศัพท์ก็ถูกคุณย่าเผยแย่งไปทันที

“เซ่อเซ่อหรือ คุณย่าคุณยายเพิ่งจะโทรมาไม่นานนี่เอง บอกว่าปีนี้อยากเจอเธอนะ อาอี้เองก็ลางานเรียบร้อยแล้วด้วย”

ตางรางงานของเจียงเซ่อ มันถูกส่งให้กับเผยอี้นานแล้ว ทำให้ง่ายต่อการจัดเตรียมงานแต่งต่างๆ ตอนที่คุณย่าเผยพูดถึงเผยอี้ขึ้นมา หัวใจของเจียงเซ่อก็เต้นแรงขึ้นมาทันที พอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้แล้ว ก็เกิดความลังเลขึ้นมาทันที

“คุณย่าคะ เรื่องข่าวที่เฝิงหนานออกมาพูดวันนี้…”