webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

647-1

บทที่ 647-1 ประกาศ

หลังจากที่ได้รับข่าวนั้น เหล่าสื่อใหญ่ต่างๆ ก็พากันตื่นตะลึง

ถ้าหากว่าข่าวนี้ไม่ใช่เบื้องบนเป็นคนประกาศออกมาละก็ ถ้าหากไม่ใช่ว่าเหล่าผู้รับผิดชอบของแต่ละสำนักข่าวได้รับการยืนยันข้อมูลมาแล้วว่าเป็นเรื่องจริง เป็นใครก็คงจะคิดว่า ในการข้ามปีครั้งนี้ ทางเบื้องบนคงจะแค่แกล้งเล่นครั้งใหญ่กันแน่ๆ

ในสำนักงานหัวเซี่ยจือซวิ่น ทุกคนพากันตื่นตะลึงและช็อคกันหมด

ทั้งอวี๋จือหลินและคนอื่นๆ ในสำนักงานต่างก็เตรียมต้นฉบับคอลัมน์เอาไว้เสร็จก่อนตอนเที่ยงคืนแล้ว แค่รอเวลาที่ปล่อยเท่านั้น แต่ดูเหมือนจะเสียเปล่าเสียแล้ว

เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ทุกคนยังพากันพูดเล่นอยู่เลย ว่ากังวลว่าในครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเดือนธันวาคม ในประเทศจะเกิดมีข่าวใหญ่อะไรขึ้นมาอีก และทุกคนต่างก็คิดว่าสถานการณ์แบบนั้นคงมีความเป็นไปได้น้อยมาก แต่ใครจะไปรู้ว่าเรื่องมันจะบังเอิญได้เหมือนกับนิยายได้ขนาดนี้ จู่ๆ ก็ดันเกิดเรื่องแบบนั้นจริงๆ ขึ้นมา!

“ก่อนหน้านี้ใครพูดนะ ว่าถ้าเป็นข่าวลูกหลานของตระกูลเผยประกาศแต่งงาน ข่าวมันจะสามารถกลบข่าวของเฝิงหนานในก่อนหน้านี้ไปได้น่ะ?”

ในสำนักงาน ทุกคนพากับเงียบ แล้วจู่ๆ ก็มีคนเอ่ยขึ้นมา

“บอกหน่อยได้ไหม ว่าหวยรางวัลที่หนึ่งพรุ่งนี้จะซื้อเลขอะไรดี?”

สำนักงานยุ่งวุ่นวายกันไปหมด เพื่อนร่วมงานต่างก็พากันโอดครวญเพราะต้นฉบับที่อุตส่าห์นั่งเขียนมาตั้งนานสุดท้ายกลับไม่ได้ใช้ ความเหน็ดเหนื่อยทั้งวันของอวี๋จือหลินเองก็ถือว่าเสียเปล่าเช่นกัน

เรื่องการแต่งงานของหลานในตระกูลเผย ผลกระทบและแรงอิทธิพลของมันต้องมีมากกว่าข่าว ‘เล็กๆ น้อยๆ’ ระหว่างดาราอยู่แล้ว

ตระกูลเผยนั้นเป็นเหมือนตำนานเรื่องหนึ่ง ยังไม่ต้องพูดถึงฐานะอำนาจและบารมีที่มีมาตั้งแต่สมัยอดีต แค่การแต่งงานของนายท่านเผยในตอนนั้น ก็ยังเป็นตำนานคู่สร้างคู่สมที่เป็นการเกี่ยวดองระหว่างตระกูลชนชั้นสูงกับตระกูลเก่าแก่ที่ชาวเน็ตต่างก็ยังพูดถึงกันมาจนทุกวันนี้อยู่เลย

เมื่อถึงรุ่นของเผยจิ้นฮว๋าย ก็ได้มีการประกาศให้รู้กันทั่วประเทศ แต่ปัจจุบันนั้นเป็นยุคสมัยใหม่ที่สามารถติดต่อเชื่อมโยงกันได้ด้วยอินเทอร์เน็ต ความยิ่งใหญ่ของข่าวในปีนั้นเมื่อเทียบกันแล้วก็ดูด้อยกว่ามากทีเดียว

แต่ถึงแม้ว่าตระกูลเผยจะมีบทบาทในเรื่องต่างๆ น้อยลง แต่บนอินเทอร์เน็ตก็ยังมีคำเล่าลือเกี่ยวกับตระกูลเผยอยู่บ้าง

“คุณหยาง”

อวี๋จือหลินเซฟตัวต้นฉบับเอาไว้อย่างไม่พอใจเท่าไหร่ “ถึงแม้ว่าหัวเซี่ยจือซวิ่นจะดันข่าวนี้ให้กลายเป็นพาดหัวข่าว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข่าวนี้จะเป็นกระแสได้นานเสียหน่อยนี่”

ประชาชนทั่วไปคงจะมีความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นในตระกูลที่สูงส่งอย่างตระกูลเผยอยู่บ้าง แต่การวิพากษ์วิจารณ์ที่เกี่ยวข้องกับพวกดารา เรื่องก๊อสซิปของพวกชาวเน็ตเองก็ไม่แน่ว่าจะมีคนให้ความสนใจน้อยกว่าเรื่องการแต่งงานนี่

“หรือว่ารอให้เรื่องงานแต่งของตระกูลเผยผ่านไปก่อน แล้วค่อยปล่อยข่าวของเฝิงหนานออกมาดี”

หัวหน้ากองบรรณาธิการมองหล่อนแวบหนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้าอย่างแน่วแน่

“ไม่ต้องแล้วล่ะ เอาแค่ข่าวนี้ลงก็พอแล้ว”

“ทำไมละคะ?”

พอหัวหน้ากองบรรณาธิการพูดจบ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมาแบบนั้น ใบหน้าของหญิงสาวที่ถูกเรียกว่าคุณหยางกระตุกเล็กน้อย

“เพราะว่าข่าวของเฝิงหนาน ไม่จำเป็นต้องเอาลงอีกต่อไปไงล่ะ”

หล่อนไม่รอให้ใครได้พูดอะไร จึงพูดต่อทันที

“พวกเธอรู้ไหม ว่าใครที่ได้แต่งเป็น “หลานสะใภ้” เข้าตระกูลเผย?”

คุณหยางก็บอกแล้วว่าให้ลบต้นฉบับคอลัมน์ข่าวไปได้เลย แต่ทุกคนยุ่งกับมันมาทั้งวัน จะมาบอกว่าให้ลบก็ลบได้เลยได้อย่างไรกัน

หล่อนเอ่ยถึง ‘หลานสะใภ้’ ขึ้นมา แต่เหมือนว่าทุกคนจะไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่ เพราะเดากันว่าคงจะต้องเป็นลูกคุณหนูผู้ดีของตระกูลผู้สูงส่งเหมือนกันแน่ๆ พออวี๋จือหลินเห็นว่าไม่มีใครพูดอะไร ก็ถามออกไปอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก

“ใครหรือคะ?”

หัวหน้ากองบรรณาธิการเม้มปาก แล้วยกมือกอดออก

“เจียงเซ่อไงล่ะ!”

“…”

แวบแรกที่หล่อนพูดจบ ทุกคนก็ยังไม่ทันได้รู้สึกตัวอะไร จนกระทั้งสติกลับมา ทุกคนก็มั่นใจแล้วว่าไม่ได้ฟังผิด จึงอดไม่ได้ที่จะถามออกไปอีกครั้ง

“คุณหยาง คุณบอกว่าเป็นใครนะ?”

ทุกคนต่างก็เป็นนักข่าวของข่าวบันเทิง ชื่อเจียงเซ่อนี่คุ้นเสียยิ่งกว่าคุ้นเสียอีก

อวี๋หลินยังคิดอยู่เลยว่า นี่อาจจะเป็นคนที่ชื่อเหมือนกันหรือเปล่า คงไม่ใช่เจียงเซ่อที่เล่นหนังที่เพิ่งเข้าฉายไปอย่าง “The second coming of Jesus Christ’ หรอก คงจะเป็นคุณหนูของตระกูลใดตระกูลหนึ่งมากกว่า

“เจียงเซ่อไง”

การตอบสนองของพวกหล่อน ก็ไม่ได้ต่างจากที่คุณหยางคิดเอาไว้สักเท่าไหร่

ตอนที่หล่อนเพิ่งได้รับข่าวนั้น ก็ตั้งนานกว่าจะได้สติขึ้นมา จนกระทั่งได้รับคำยืนยันหลายครั้งจนแน่ชัดแล้ว ถึงนึกขึ้นได้ว่าเรื่องนี้มันคือเรื่องจริง!

ข่าวนี่ถือว่ามีมูลค่ามากจริงๆ มันมากเสียยิ่งกว่าข่าวการออกจากซื่อจี้หยินเหอของเถาเฉิน หรือข่าวที่เฝิงหนานออกมาประณามเจียงเซ่อเสียอีก

“เจียงเซ่อ? นักแสดงหญิงที่ชื่อเจียงเซ่อน่ะหรือ? เจียงเซ่อที่แสดงหนังที่เพิ่งเข้าฉายอย่าง ‘The second coming of Jesus’ นั่นหรือคะ?”

“ใช่!”

หัวหน้ากองบรรณาธิการพยักหน้ายืนยันคำตอบ เหมือนเป็นการทำให้คนทั้งสำนักงานคลุ้มคลั่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ

อวี๋จือหลินเองก็ร้องขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

“หา…”

“นี่มันเรื่องจริงหรือหลอกล่ะเนี่ย?”

ทุกคนต่างก็มีการตอบสนองไม่ต่างไปจากหล่อน คนในสำนักงานเริ่มตะโกนและร้องกันเสียงดัง นี่มันสั่นสะเทือนวงการมากจริงๆ ทำเอาทุกคนแทบจะใจเย็นลงไม่ได้เลย

หัวหน้ากองบรรณาธิการเองก็พยายามให้ตัวเองไม่ตื่นเต้นมาก ยกมือขึ้นปรบมือเข้าหากัน

“ได้รับข่าวนี้เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับการยืนยันที่แน่เสียยิ่งกว่าแน่จากเบื้องบน ไม่ผิดพลาดแน่นอน คืนนี้เวลาเที่ยงคืนตรง ทางการจะมีการประกาศข่าวนี้ด้วยตัวเอง พวกเธอจะต้องชิงลงก่อนให้ได้ รีบเขียนสกู๊ปข่าวนี้ออกมาให้ไว รีบลงให้ทันภายในเที่ยงคืนนี้!”

ข่าวนี้จะต้องทำเอาคนทั้งหัวเซี่ยเดือดพล่านกันแน่ๆ อาจจะทำให้หลายวันหลังจากนี้ เกิดระลอกคลื่นระลอกแล้วระลอกเล่า

“ปีนี้ทุกคนทุกคนทำงานหนักหน่อยนะ หลังจากที่ประชาชนทุกคนได้รับข่าวกันแล้ว ก็อาจจะได้รู้เรื่องราวความเป็นไปที่แท้จริงด้วย”

ชื่อเสียงและฐานะของเจียงเซ่อในหัวเซี่ย จะเป็นแรงดึงดูดทีมหาศาลทีเดียว

มิน่าล่ะทำไมหัวหน้ากองบรรณาธิการถึงได้บอกว่าไม่ต้องลงข่าวของเฝิงหนานแล้ว เพราะว่าถ้าหากปล่อยข่าวเรื่องที่เจียงเซ่อและทายาทรุ่นที่สามของตระกูลเผยกำลังแต่งงานกันออกไปแล้วละก็ คนที่จะให้ความสนใจกับข่าวของเฝิงหนานก็จะน้อยลงไปด้วย

หรือพูดอีกนัยหนึ่ง คำพูดต่างๆ ที่เฝิงหนานพูดเอาไว้ว่า ‘เจียงเซ่อเป็นพวกคนชั้นต่ำ เกิดมาในฐานะที่ไม่ได้สูงส่งอะไร’ เหล่านั้น กับชื่อเสียงของตระกูลเผยที่มันชัดเจนอยู่แล้ว ก็เท่ากับแพ้ไปโดยที่ยังไม่มีใครทำอะไรด้วยซ้ำ

เด็กสาวที่สามารถแต่งเข้าตระกูลเผยได้ แน่นอนว่าจะต้องผ่านการพิจารณาจากผู้ใหญ่ในตระกูลเผยมาแล้วทั้งสิ้น และการที่ตระกูลเผยยืนยันในตัวเธอ ก็เท่ากับว่าทั้งตัวฐานะและนิสัยในด้านต่างๆ ของเจียงเซ่อนั้นไม่มีที่ติ

แต่ถึงจะตัดประเด็นเหล่านี้ออกไป เมื่อมีตระกูลเผยเข้ามากดดัน สิ่งต่างๆ ที่เฝิงหนานพูดออกมา ก็คงไม่มีสำนักข่าวไหนที่จะกล้าออกมารับแรงกดดันแน่ ในสถานการณ์แบบนี้ การประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ วิพากษ์วิจารณ์และตั้งตัวเป็นศัตรู หากดึงดันที่จะปล่อยข่าวของเฝิงหนานออกไป ก็จะต้องจับผิดออกมาให้ได้ว่าฐานะของเจียงเซ่อมันไม่ได้ ‘สวยหรู’ แบบนั้นจริงๆ

ดังนั้นสกู๊ปข่าวของเฝิงหนานมันไม่จำเป็นแล้วจริงๆ อวี๋จือหลินยื่นมือออกไปอย่างเซ็งๆ แล้วกดลบไฟล์

“แต่ทำไมกันล่ะ?” ถึงแม้ว่าจะกดลบไฟล์ไปแล้ว แต่ในสำนักงานก็ยังเหมือนจะยังสงบลงไม่ได้

“เรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้มา ก็ไม่เห็นว่ามีข่าวหรือกระแสอะไรบ้างเลยนี่”

อวี๋จือหลินยกมือขึ้นกอดอก

“แต่เหมือนว่าฉันจะเคยเห็นเจียงเซ่อควงแขนแฟนหนุ่มออกงานอยู่สองสามครั้งเลยนะ”

ครั้งแรกเหมือนจะเป็นตอนที่หล่อนยังไม่ได้ย้ายมาแผนกข่าวบันเทิง ตอนนั้นเป็นในงานครบรอบสามสิบปีของเปียโน Steinway เจียงเซ่อได้รับเชิญพร้อมกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ในชุดสูทสีขาวแถมควงแขนมาด้วย ก่อนหน้านี้อวี๋จือหลินเองก็เหมือนจะจำได้ว่าพวกเขาถูกแอบตามถ่ายที่สนามบิน แต่ข่าวก็ถูก

ลบออกไปอย่างรวดเร็ว

ตอนนั้นก็มีข่าวลือออกมาว่าแฟนหนุ่มของเจียงเซ่อนั้นมีฐานะที่ไม่ธรรมดาเลย แต่น่าเสียดายที่พอข่าวนั้นถูกปล่อยออกไปแล้ว เป็นเพราะว่าไม่ค่อยมีใครพูดถึง และไม่มีใครออกมายืนยันหรือพูดอะไร สุดท้ายก็แค่ปล่อยมันไปแบบนั้น

หลังจากนั้นอวี๋จือหลินก็มีโอกาสได้พบเข้ากับเจียงเซ่อ ตอนนั้นจำได้ว่าเธอใส่แหวนตรงนิ้วนางเอาไว้ด้วย พอรีบถามเธอถึงเรื่องนี้ ก็ได้รู้ว่าเธอหมั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ฉันยังเคยแอบถ่ายพวกเขาด้วยนี่…”

อวี๋จือหลินหยิบมือถือขึ้น แล้วรีบรื้อหารูปๆ นั้นทันที

ทุกคนต่างก็มุงเข้ามาดู แม้แต่หัวหน้ากองบรรณาธิการเองก็เข้ามาดูด้วย อวี๋จือหลินมือไม้พันกันไปหมด หลายครั้งที่มืออ่อนจนเกือบจะทำมือถือตกพื้น

หล่อนพยายามตั้งสติปลดล็อกมือถือ แล้วเปิดรูปเจียงเซ่อที่ถ่ายมาได้ตอนอยู่ในงาน Steinway ขึ้นมาให้ทุกคนได้ดู