webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

646-1

บทที่ 646-1 อย่างบ้าคลั่ง

คำพูดของเผยอี้ มันทำให้เจียงเซ่อรู้สึกอบอุ่นมากกว่าสิ่งใดๆ

ราวกับว่าถึงจะยืนอยู่ท่ามกลางลมพายุฝน แต่ก็จะยังมีเขาคอยกางร่มให้ ให้เธอรู้สึกเหมือนว่าได้อยู่ในที่ที่กำบังที่แสนสงบ ให้เธอได้รู้สึกว่ากำลังได้รับการปกป้องจากเขาอยู่จริงๆ ไม่ต้องกลัวคำด่าทอเหลวไหลพวกนั้น

นี่คือคนที่เธอรู้จักและเข้าใจดีที่สุด คนที่เคยอายุน้อยกว่าเขามาโดยตลอด แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำให้เธอรู้สึกได้ว่าเขาได้เติบโตจากเด็กหนุ่มหน้าตาหมดจด เป็นชายหนุ่มที่มีแผ่นอกอันแสนกว้าง

ในเวลาแบบนี้ ในเวลาที่ตัวเธอมีงานยุ่งรัดตัวไปหมด เธอไม่ควรที่จะมาแสดงออกถึงความคิดของพวกเด็กสาวอีกแล้ว แต่แก้มของเจียงเซ่อกลับเห่อร้อน เพียงแค่เผยอี้บอกว่าเขาอยู่ข้างๆ เธอ

‘ข่าว’ ที่โม่อานฉีพูดถึง มันได้ถูกเผยแพร่ไปบนอินเทอร์เน็ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลังจากที่เฝิงหนานเข้าวงการบันเทิงมา นอกจากชื่อเสียงจากบท ‘คุณหนูเอกุชิ’ ของเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์ที่ดังขึ้นมาได้แค่ระยะเวลาสั้นๆ นั่นแล้ว หลังจากนั้นมาหล่อนก็ไม่ได้มีผลงานอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันอีกเลย

หนังแต่ละเรื่องที่แสดงไปก็ไม่ได้ทำเงินอะไรมากมาย อย่างเรื่อง ‘Revenge’ ที่หล่อนทั้งกำกับและแสดงเองในปีก่อนนั่นก็ถูกหนังเรื่อง ‘Evil’ ที่เจียงเซ่อแสดงในปีเดียวกันกดลง ได้เข้าฉายไม่นานก็ถูกทางโรงหนังลดรอบลง และจบลงอย่างย่อยยับ และหนังเรื่องอื่นๆ ที่แสดงหลังจากนั้นก็ไม่เห็นว่าคนดูหรือกลุ่มแฟนคลับจะออกมาพูดอะไร

แต่การที่หล่อนเข้าวงการ ถึงแม้ว่าฐานะของการเป็นดารานักแสดงจะไม่ได้มีขื่อเสียงโด่งดังอะไรมากมาย แต่หล่อนก็ยังมีอีกฐานะหนึ่งที่ถือว่าทำให้มีชื่อเสียงมากๆ

คุณหนูแห่งวิสาหกิจจงหนาน อดีตหลานสาวคนโปรดของเฝิงจงเหลียงผู้ที่เป็นทหารอันมีเกียรติเลื่องลือในกลุ่มกองกำลังทหารปฏิวัติในสมัยก่อน และฐานะนี้ก็ถือว่าโดดเด่นกว่าฐานะดารานักแสดงมากทีเดียว

ดังนั้นการที่หล่อนมาออกหน้าเอง ออกมาบอกว่าเจียงเซ่อ ‘มีฐานะต้อยต่ำ สภาพครอบครัววุ่นวาย นิสัยใจคอเป็นคนต่ำช้า’ ต่างๆ นาๆ มันก็มากพอที่จะดึงดูดสายตาของใครหลายๆ คนแล้ว

อีกคนก็เป็นถึงดาราสาวที่ในหลายปีนี้กำลังมีชื่อเสียงอันทรงอิทธิพลอย่างมากในหัวเซี่ย ส่วนอีกคนก็เป็นถึงผู้ที่มีชื่อเสียงและเกิดมาพร้อมกับอำนาจ ที่จริงทั้งสองคนดูไม่น่าจะมาเกี่ยวข้องกันได้เลยด้วยซ้ำ ถ้าจะรู้จักกันจริงๆ ละก็ ก็ต้องง่ายต่อการเป็นที่สนใจของทุกๆ คนอยู่แล้ว

หลังจากที่เจียงเซ่อวางสายไปแล้ว โม่อานฉีก็เอาวีดิโอที่บันทึกมาเปิดให้เจียงเซ่อดู

ผลกระทบที่ร้ายแรงที่สุดเธอพอที่จะเดาได้อยู่แล้ว ‘เจียงเซ่อ’ ไม่ค่อยได้ถูกใครประณามหรือวิจารณ์อย่างเสียหายสักเท่าไหร่ ตอนที่เธอกลับมาเกิดใหม่ มันก็พอดีกับที่เจียงเซ่อกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ มีโอกาสได้เลือก เธอเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลม ทำให้ ‘เจียงเซ่อ’ ไม่ได้ตกต่ำไปกว่าที่เป็น ไม่ต้องหยุดเรียนหนังสือ เพื่อเข้าวงการบันเทิง

“เจียงเซ่อเกิดมามีฐานะต้อยต่ำ ประวัติครอบครัวก็ไม่ได้ดี พ่อแม่แท้ๆ ก็ไม่ใช่คนดีอะไร แม่ของเธอท้องก่อนแต่ง พ่อก็เป็นพวกกากเดน ชาติชั่ว…”

ในคลิป คือเฝิงหนานที่กำลังนั่งให้สัมภาษณ์แก่นิตยสารรายหนึ่งของฮ่องกง ตอนที่หล่อนพูดถึงเจียงเซ่อ หล่อนก็ดูไม่ค่อยสงบ ราวกับว่ามีแต่ความโกรธอยู่ตลอดเวลา

“เธอไม่มีการศึกษา แถมนิสัยก็เลวร้าย ไม่ควรที่จะได้รับความสนใจจากคนอื่นเลยสักนิด และไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคคลของสังคม หลายปีที่ผ่านมานี้ ทุกคนก็แค่ถูกเธอแสดงหลอกสร้างภาพทั้งนั้นแหละค่ะ”

ชัดว่าโม่อานฉีได้ดูคลิปนี้มาก่อนรอบหนึ่งแล้ว ถึงจะดูมาแล้วรอบหนึ่ง แต่หล่อนก็ยังโมโหและโกรธกับคำพูดของเฝิงหนานอยู่ดี

ในคลิปวีดิโอนั่นเฝิงหนานไม่มีความสำรวมและไม่เห็นแก่ฐานะชื่อเสียงเลยแม้แต่น้อย กลับทำตัวเหมือนกับว่าเป็นโรคประสาทอย่างไรอย่างนั้น

คลิปมีความยาวประมานยี่สิบวินาที เฝิงหนานเอาแต่ด่าตลอดทั้งคลิป จากนั้นก็ตัดจบไปอย่างดื้อๆ

พอเจียงเซ่อดูจบ ก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด

ตอนที่เธอเริ่มดูคลิป ที่จริงก็พอจะเตรียมใจเอาไว้แล้วว่าเฝิงหนานจะต้องพูดถึงเรื่องที่เจียงจื้อหยวนเคยลักพาตัว ‘เธอ’ ไปออกมาแน่ๆ

แต่ในคลิปนั้นเฝิงหนานเอาแต่ด่า และเรื่องหรือแกนหลักสำคัญอะไรก็ไม่มีสักอย่าง

“หมดแล้วหรือ?”

เธอเงยหน้าถามโม่อานฉี ทำเอาโม่อานฉีเองก็งงๆ ไป

“หมดแล้ว”

คำพูดพวกนี้โม่อานฉีคิดว่ามันมากเกินไปแล้วจริงๆ เจียงเซ่อกับเฝิงหนานก็ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันเลยสักอย่าง ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะเคยแสดงหนังเรื่องเดียวกัน แต่เรื่องอื่นๆ ก็แทบไม่มีอะไรเทียบกันได้เลย

ถึงจะบอกว่าหลังจากนั้น เจียงเซ่อและเฝิงจงเหลียงจะมีการไปมาหาสู่ แต่โม่อานฉีก็คิดว่านั่นคงเป็นเพียงเหตุผลเดียวที่จะทำให้เจียงเซ่อและเฝิงหนานมีความเกี่ยวข้องกัน พอลองคิดพิจารณาดูดีๆ แล้ว เฝิงหนานและเจียงเซ่อก็ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกันเลย

แต่คุณหนูแห่งวิสาหกิจจงหนานคนนี้ ตั้งแต่ที่เข้าวงการมาหล่อนก็คอยเอาแต่งพุ่งเป้ามาที่เจียงเซ่ออยู่ตลอด ในตอนที่หนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ เข้าฉาย และต้องมีการให้สัมภาษณ์เล็กๆ น้อยๆ คำพูดลามกอนาจารแปลกๆ ที่หล่อนพูดออกมาแต่ละอย่างนั้น ก็น่าขายหน้าแทนตระกูลเฝิงมากจริงๆ

เจียงเซ่อรู้สึกได้ว่านี่มันมีอะไรผิดปกติ “การสัมภาษณ์ของเฝิงหนานในครั้งนี้ มันดูผิดปกติแปลกๆ”

เธอขมวดคิ้ว โม่อานฉีเก็บมือถือลง

“ข่าวบนอินเทอร์เน็ตแพร่ออกไปไกลมาก”

เจียงเซ่อลองค้นหาข่าวบนอินเทอร์เน็ตด้วยตัวเอง ข่าวนี้แพร่ออกไปเร็วมาจริงๆ ทั้งหัวเซี่ยจือซวิ่น บันเทิงรอบโลกและสำนักข่าวอื่นๆ ในหัวเซี่ย จากตอนแรกที่กำลังประโคมข่าวเรื่องที่ ‘เถาเฉินแยกตัวออก ก่อตั้งบริษัทของตนเอง’ แต่ในตอนนี้ข่าวที่สื่อใหญ่ทั้งหลายกำลังลง กลับกลายเป็นข่าว คุณหนูวิสาหกิจจงหนานกล่าวเจียงเซ่อไม่เหมาะสมแก่การเป็นบุคคลสาธารณะ

คืนนี้มีแต่เรื่อง ‘น่าช็อค’ ขึ้นมาไปหมด จากตอนแรกก็ข่าวงานหนังรอบปฐมทัศน์ของเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ต่อมาก็เป็นเรื่องที่เถาเฉินประกาศตัวออกจากซื่อจี้หยินเหอ และยังไม่ทันที่เรื่องนี้จะได้เป็นประเด็นดัง ก็กลับมีข่าวว่า ‘คุณหนูแห่งวิสาหกิจจงหนานจวกเจียงเซ่อ’ ขึ้นมากลบอีก

ในวันสุดท้ายของหัวเซี่ยในปีนี้ สำหรับใครหลายๆ คนแล้ว ถือเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากจริงๆ

ในตึกสำนักงานของสำนักข่าวหัวเซี่ยจือซวิ่น ผู้เขียนคนหนึ่งกำลังมีสีหน้าที่เบื่อหน่ายเป็นอย่างมาก

เมื่อถึงวันสุดท้ายของทุกๆ ปี ล้วนแล้วเป็นวันที่ผู้เขียนข่าวหลายๆ คนปวดหัวกับการเขียนรายงานมากที่สุด เพราะไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาเขียนดี

ต้องทำรายงานข่าวทิ้งทวนในปีนั้นๆ จะต้องทำอย่างไรเพื่อที่จะสามารถดึงดูดชาวเน็ตได้ เอาให้หนักที่สุด ต้องเป็นเพียงสำนักข่าวเดียวที่สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้มากที่สุดในวันสุดท้ายแบบนี้ มันเป็นงานที่ทุกสำนักข่าวจะต้องทำ

แต่ปีนี้ดีหน่อย เพราะไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีข่าวมาเขียน แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกกังวล กลับคือการไม่รู้จะเขียนข่าวไหนมากกว่าต่างหาก?

จากเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ในตอนแรก ที่สามารถทำยอดขายได้ทะลุเป้าที่เคยทำไว้ในประวัติศาสตร์ และการที่นักแสดงหลักอย่างเจียงเซ่อได้มีชื่อเข้าชิงในงานหนังศิลปะหนึ่งร้อยปีถึงสองครั้ง ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้รับความสำเร็จที่แสนยิ่งใหญ่ในอเมริกาเหนือ อีกทั้งในประเทศก็ได้รับคำสรรเสริญและยอมรับในตัวเธอ

ที่สำคัญก็คือ ในงานหนังรอบปฐมทัศน์ เจียงเซ่อเหมือนจะหลุดโมโหด้วย ทำเอาคนที่ถามเรื่องข่าวของเถาเฉินโดนระเบิดใส่จนถูกเชิญออกจากงานไป

หลังจากนั้นก็มีข่าวเถาเฉิน ‘แยกตัวออกมาเปิดบริษัทเอง’ จากนักข่าวที่ได้รับข่าวมา ก็เหมือนว่าประธานบริษัทของซื่อจี้หยินเหอเองก็ได้มีการลงทุนใน ‘KONG ZHAO MEDIA’ ของหล่อนด้วย ได้ถือหุ้นบริษัทไปถึง 32%

ที่จริงข่าวนี้ควรจะเป็นข่าวที่น่าช็อคและหนักที่สุดสำหรับคืนนี้แล้ว และมันก็น่าจะมากพอที่จะกดเรื่องที่ ‘เจียงเซ่อกำลังดัง’ ได้เป็นอย่างดี แต่ใครจะไปรู้ ยังไม่ทันที่ทีมงานในหัวเซี่ยจือซวิ่นที่กำลังทำงานล่วงเวลาจะได้เขียนบทความข่าว และยังไม่ทันที่ข่าวจะได้ถูกปล่อยออกไป บนอินเทอร์เน็ตก็ดันมีคลิปวีดิโอที่ ‘เฝิงหนานออกมาด่าเจียงเซ่อ’ ออกมาเสียอย่างนั้น ทำเอาซีนของเถาเฉินถูกแย่งไปในทันที

พอเป็นแบบนี้แล้ว เรื่องที่เถาเฉิน ‘แยกตัวออกมา’ ที่ควรจะต้องดังออกไปทั่ว ก็กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปในทันที ทำเอาทุกคนต้องรีบเปลี่ยนทิศทางไปเขียนอีกข่าวแทน