webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

644-2

บทที่ 644-2 สองพยัคฆ์

“คุณเซี่ยเองก็พูดเอาไว้ ว่าถ้าเธอไม่เห็นด้วย ก็ให้ลองคิดหาวิธีอื่นดู”

พอโม่อานฉีได้ยินเธอพูดแบบนั้น ก็ยอมแพ้กับความคิดของตัวเอง

“คุณเซี่ยบอกว่า การที่จะรับมือกับข่าวใหม่ข่าวนี้ มีอยู่สองวิธี” หล่อนยื่นมือออกมา “ทำเป็นไม่รู้เรื่องไม่สนใจ ปล่อยให้คนอื่นเขาเล่นใหญ่เล่นโตกันไป รอให้กระแสมันผ่านไปก็พอ”

วิธีนี้ดูจะอับจนหนทางไปหน่อย ดูไม่เหมาะสมกับคนอย่างเจียงเซ่อและเซี่ยเชาฉวินเลยสักนิดเดียว

ดูเหมือนว่าในใจของโม่อานฉีเข้าใจชัดเจนดีอยู่แล้ว ดังนั้นจึงรีบยกนิ้วขึ้นมาอีกนิ้ว

“หรือสร้างข่าวใหญ่ขึ้นมาอีกข่าว แล้วกดคนพวกนั้นลงซะ”

ช่วงเวลาที่หนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ จะเข้าฉาย ที่จริงถ้าหากว่าเจียงเซ่อตัวคนเดียว เรื่องใหญ่ที่จะสร้างขึ้นมาได้ก็พอที่จะเป็นข่าวคนรักได้อยู่ แต่เธอไม่ยอมที่จะปล่อยข่าวเรื่องการแต่งงานของตัวเองแน่ๆ ยิ่งเป็นเรื่องสร้างกระแสคู่รักก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ ก็คงต้องหาเรื่องอื่นมารับมือแทนแล้ว

“ในเวลาแบบนี้ มันเหมาะสมที่สุดแล้ว ที่จะเอาเรื่องลาร่าออกมาใช้”

เจียงเซ่อเผยรอยยิ้มออกมา ลาร่าที่ตอนแรกถูกวางตัวให้เป็นนางเอกของเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ก่อนหน้านี้ ข่าวลือที่ว่าเจียงเซ่อและลาร่าไม่ค่อยลงรอยกันมีออกมาอยู่ตลอดเวลา แถมหนึ่งในข่าวลือเหล่านั้นก็ยังมีข่าวๆ หนึ่ง ที่พูดว่าเจียงเซ่อแย่งบทของลาร่ามาด้วย ในงาน ‘หนึ่งร้อยปีของคนสร้างหนัง’ ครั้งนี้ ในตอนที่ต้องขึ้นไปกล่าวคำขอบคุณบนเวที ก็มีแฟนคลับหลายๆ คนของลาร่ายืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าที่ที่มีเกียรติตรงนั้นสมควรที่จะเป็นของลาร่ามากกว่า

“ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ ยังไงสื่อต่างๆ ก็ต้องให้ความสนใจกับข่าวใหม่แบบนี้มากกว่าแน่ๆ”

โม่อานฉีที่ฟังเธอพูดแบบนั้น ก็พยักหน้า

“คุณเซี่ยเองก็พูดแบบนี้เหมือนกัน แต่ว่านะเซ่อเซ่อ เรื่องที่เถาเฉินออกจากซื่อจี้หยินเหอมันเป็นเรื่องใหญ่มากเลยนะ”

ถึงแม้ว่าจะเป็นลาร่า แต่ก็คงไม่มีผลกระทบมากพอเท่ากับเถาเฉินที่มีอิทธิพลภายในประเทศแน่ๆ

เจียงเซ่อมองหล่อนยิ้มๆ ดวงตาเป็นประกายวาววับ แววตาที่เหมือนว่าได้วางแผนช่องทางอื่นเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และมันก็ทำเอาในใจของโม่อานฉีรู้สึกไม่สงบเอาเสียเลย รู้สึกเหมือนว่ายังมีบางอย่างที่เธอยังไม่ยอมบอกออกมาให้หมด

หล่อนกำลังคาดเดาอยู่ในใจ แต่เจียงเซ่อก็ไม่ปล่อยให้หล่อนได้ใช้เวลาคิดอีกนิด พูดต่อทันที “แล้วใครบอกจะให้พวกสื่อพูดถึงด้านดีๆ ของฉันกันล่ะ? แน่นอนว่ามันต้องเป็นการพูดถึงว่าฉัน ‘แย่งบท’ มาได้ยังไงต่างหาก ตอนนั้นก็มีข่าวโคมลอยออกมาอยู่เลยไม่ใช่หรือ ว่าฉัน ‘แย่ง’ บทในเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ มาจากเถาเฉิน?”

สำหรับใครหลายๆ คน ‘เรื่องดีๆ’ ของพวกดาราก็เหมือนเห็นกันมามากแล้ว แต่ในด้านที่ไม่สวยหรูต่างหากที่สามารถดึงดูดความสนใจจากทุกคนได้

บวกกับที่หนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ กำลังจะเข้าฉาย และข่าวลือเรื่องที่เจียงเซ่อแย่งบทมาจากลาร่าก็มีมานานแล้ว เรื่องนี้สิที่จะสามารถสร้างหัวข้อขึ้นมาพูดได้

สำหรับผลกระทบที่จะส่งผลกับชื่อเสียงของเจียงเซ่อ ก็รอให้เซี่ยเชาฉวินเจรจาเรื่องสัญญากับ Melovin เสร็จก่อน แน่นอนว่าหล่อนสามารถจัดการทุกอย่างให้กลับมาโปร่งใสอย่างเดิมได้

สร้างเรื่องและตามเก็บกวาด ให้ทีมของตัวเองเป็นคนทำเองทุกอย่าง ก็ถือว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ได้เองด้วย หลังจากจบเรื่องนี้ไปแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะดีต่อตัวเจียงเซ่อเสียด้วยซ้ำ

โม่อานฉีรับคำ

ในคืนจัดงานหนังรอบปฐมทัศน์ของหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ดูเหมือนว่าจะได้รับความสนใจจากสื่อต่างๆ และมีคนเข้ามารับชมมากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้เสียอีก เชี่ยซ่าเหลยเอาแต่เอ่ยปากชื่นชมเจียงเซ่อไม่ขาดปาก แสดงออกอย่างชัดเจนว่าชื่นชมและประทับในตัวเจียงเซ่อมากแค่ไหน หรือแม้แต่โดนัลด์ที่เป็นคนไม่ค่อยพูดแต่พอพูดถึงเจียงเซ่อ ก็ออกปากชมเช่นกัน

กับสถานการณ์ตรงหน้านี้ ภายในงานมีแต่เสียงหัวเราะไม่ขาด แต่ในใจของเถาเถากลับรู้สึกกังวลไปหมด

ความรู้สึกของหล่อนในวันนี้มันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอดเวลา ตอนแรกก็นึกถึงเรื่องที่ตัวเองชนะรางวัลใหญ่จากการเดิมพัน จากนั้นก็เป็นเรื่องที่หนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ที่มีเจียงเซ่อเป็นนักแสดงหลักได้รับรางวัลใหญ่ สำหรับเถาเถาแน่นอนว่ามันต้องเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ แต่ใครจะไปรู้ว่าพอตกบ่ายข่าวที่ได้รับมา จะเป็นเรื่องที่เถาเฉินกำลังจะฉีกสัญญาออกจากบริษัทซื่อจี้หยินเหอไปเสียได้

เรื่องที่เถาเฉินยกเลิกสัญญา ถ้าถูกเปิดเผยออกมาเมื่อไหร่จะต้องเรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างมากแน่ๆ ในใจของเถาเฉินเองก็รู้ดี

ช่วงบ่ายวันนี้ทีมงานในสำนักข่าวต่างก็ยุ่งจนหัวหมุน ต่างก็พากันแยกตัวออกสืบหาความจริงมายืนยัน และคืนนี้หล่อนก็ต้องออกนอกสถานที่เพื่อมาเข้าร่วมงานหนังรอบปฐมทัศน์ของ ‘The second coming of Jesus Christ’ และได้รับคำสั่งจากหัวหน้า ว่าจะต้องสัมภาษณ์เจียงเซ่อหลังงานจบให้ได้ และอย่าลืมที่จะถามถึงเรื่องที่เถาเฉินยกเลิกสัญญากับซื่อจี้หยินเหอด้วย

หล่อนสอดสายตามองไปยังนักข่าวหลายๆ คน คนกลุ่มนี้ ก็คงมีความคิดที่จะทำเหมือนกับที่หัวหน้าสำนักข่าวสิงหลงจะทำแน่ๆ

หัวหน้าสั่งเอาไว้แล้ว ว่าข่าวเรื่องนี้จะน้อยหน้าไปกว่าสำนักข่าวอื่นไม่ได้เด็ดขาด ข่าวนี้สำคัญมากจริงๆ ไม่ว่าจะจริงหรือไม่จริง หัวข้อข่าวในคืนนี้ จะต้องเอาเรื่องที่เถาเฉินยกเลิกสัญญาออกมาปล่อยให้ได้ เพื่อที่จะดึงดูดชาวเน็ตให้เข้ามาสนใจก่อน

เถาเถากังวลว่าถ้าข่าวนี้ออกมาเมื่อไหร่ มันจะต้องดึงความสนใจจากชาวเน็ตไปจริงๆ แน่ และมันก็จะส่งผลกับการโปรโมทหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ด้วย

หล่อนถอนหายใจออกมา แล้วยกมือขึ้นนวดขมับตัวเอง เรียกสติกลับมาหาวิธีรับมือกับเรื่องนี้ก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที

หนังเรื่องนี้มันวิเศษมากจริงๆ ถึงแม้ว่าเถาเถาจะเคยชิงดู ‘The second coming of Jesus Christ’ ที่ฉายรอบแรกในอเมริกาไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่พอได้ดูมันอีกครั้ง ก็ยังรู้สึกสั่นสะเทือนและประทับใจไปหมด

พอมีคำบรรยายภาษาหัวเซี่ยแล้ว ตอนที่ดูที่อเมริกา เพราะว่าเป็นคนที่มีข้อจำกัดเรื่องภาษา พอได้ดูแบบนี้อีกรอบก็เหมือนได้เข้าใจเนื้อเรื่องทุกอย่างมากขึ้นไปอีก

พอตัวหนังเริ่มเข้าสู่ช่วงท้าย เมื่อหยดน้ำตาของบริตนีย์หยดลงบนมือของอัศวิน มันก็เป็นช่วงเวลาที่ได้ยกคุณค่าของหนังเรื่องนี้ให้สูงขึ้น มือถือของเถาเถาสั่นขึ้นมา ทำเอาหล่อนตื่นจากภวังค์ความรู้สึกทันที

หล่อนอดทนรอจนหนังจบ จนเมื่อไฟในห้องฉายหนังสว่างขึ้น ถึงค่อยหยิบมือถือขึ้นมาดู ข้อความที่เข้ามาคือข้อความจากหัวหน้า มันเขียนเอาไว้ว่า

‘เถาเฉินยกเลิกสัญญากับซื่อจี้หยินเหอแล้ว ข่าวได้รับการยืนยันเรียบร้อย!’

ในแทบจะในเวลาเดียวกัน เถาเถาก็รีบเงยหน้าขึ้นมองสีหน้าของนักข่าวคนอื่นๆ ใบหน้าของทุกๆ ก็มีทั้งความตกตะลึง มีทั้งความตื่นเต้นดีใจ มีทั้งความยินดี และความแปลกใจ

ในวินาทีที่โม่อานฉีได้รับข่าวนั้น เฉินซั่นเองก็หยิบมือถือขึ้นมารับสาย และเดินกลับเข้ามาด้วยสีหน้าที่จริงจัง ก่อนจะกระซิบเบาๆ กับโม่อานฉี

“พี่อานฉีคะ เถาเฉินออกมาประกาศ ว่าได้ยกเลิกสัญญากับซื่อจี้หยินเหอแล้วค่ะ และได้ก่อตั้ง ‘KONG ZHAO MEDIA’ ขึ้นมา แถมยังดึงความสนใจจากชาวเน็ตไปเรียบร้อยแล้วด้วย”

น้ำเสียงของเฉินซั่นสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้ หล่อนเพิ่งจะมาทำงานกับเจียงเซ่อได้ไม่นานเท่าไหร่ แต่เรื่องพวกนี้ ก็พอจะรู้อยู่บ้างว่ามันหนักมากทีเดียว

การที่เถาเฉินออกมา ‘แถลงข่าว’ ในช่วงเวลาแบบนี้ แน่นอนว่าเจตนาทำแน่นอน ปล่อยข่าวสร้างเรื่องขึ้นมาขนาดนี้ สถานการณ์ที่คนทั่วๆ ไปต่างก็ต้องจับตามอง นักข่าวทุกคนที่อยู่ในงานก็คงจะรู้เรื่องนี้กันแล้วแน่ๆ

“ฉันกังวลว่า…”

เฉินซั่นไม่ได้พูดประโยคที่เหลือต่อ แต่สิ่งที่หล่อนกังวล โม่อานฉีรู้ดี สิ่งที่หล่อนกังวลก็คือ ในงานหนังรอบปฐมทัศน์ของหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ในคืนนี้ จะกลายเป็นว่าพูดถึงแต่เรื่องของเถาเฉินกันหมดแทน

ถึงแม้ว่าเถาเฉินจะไม่ได้อยู่ในงาน แต่พอมีข่าวแบบนี้ผุดขึ้นมา การที่เป็นถึงหนึ่งในนักแสดงหญิงที่อยู่ในจุดสูงสุดของจี้หยินเหอเหมือนกัน คำถามต่างๆ ที่พวกนักข่าวจะถามหลังหนังจบ เจียงเซ่อก็คงไม่พ้นที่จะถูกถามเรื่องที่เถาเฉินยกเลิกสัญญากับซื่อจี้หยินเหอแน่ๆ คงจะต้องมีการไล่ถามถึงเรื่องที่ ‘ไม่ถูกกัน’ เรื่องที่มีการ ‘แข่งขัน’ กัน จนอาจจะพากันมองข้ามเรื่องตัวหนังไป และมันอาจจะเป็นเรื่องที่รับไม่ได้สำหรับเจียงเซ่อด้วย

ตอนนี้เหงื่อหลายเม็ดเริ่มผุดขึ้นมาบนหน้าผากของโม่อานฉี และค่อยๆ ไหลลงมา

ในเมื่อเฉินซั่นนึกถึงปัญหาเหล่านั้นได้ แน่นอนว่าหล่อนเองก็นึกได้เช่นกัน

แต่ว่าจะจัดการอย่างไรดีล่ะ? ถ้าหากว่าเซี่ยเชาฉวินอยู่ตรงนี้ ถ้าหากว่าหล่อนต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้ หล่อนจะรับมือกับมันยังไงกันนะ?

เรื่องของลาร่ากับเจียงเซ่อที่ได้ปรึกษากันเอาไว้แต่แรก ในตอนนี้คงจะรับมือเรื่องที่เถาเฉินสร้างขึ้นมาไม่ได้แล้วแน่นอน เจียงเซ่อเองก็ปฏิเสธที่จะปล่อยข่าวเรื่องงานแต่งกับเผยอี้ แล้วเผยอี้ล่ะ?

โม่อานฉีคิดได้แบบนั้น ก็สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วดึงเฉินซั่นเข้ามา

“เธอคอยดูสถานการณ์เอาไว้ก่อน ฉันจะออกไปโทรศัพท์ก่อนแล้วค่อยว่ากัน”