webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

624

บทที่ 624 ฝีมือการแสดง 

ตอนที่เธอพูดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่ไม่เห็นอังเดรที่ถึงกับเบิกตาโตและจ้องเขม็งขณะที่เธอพูด

ฟืนในเตาผิงส่งเสียงเบาๆ เพราะถูกเผาไหม้ แต่ตอนนี้ เสียงหัวใจของอังเดรกลับดังจนกลบเสียงทุกอย่างรอบข้าง ในดวงตานั้นของเขาเริ่มหรี่ลง ท่าทางเสียงหายใจอันรุนแรงของเขา เสียงพูดของเขาแทบจะฟังไม่ได้ยินแล้ว

“พระเจ้ามีอยู่จริงเหรอ”

“ใช่!” เชอรีนพยักหน้าอย่างจริงใจ เด็กสาวผู้น่าสงสารคนนี้ สายตาเผยความเชื่อมั่นในตัวพวกพ้องโดยไม่ปกปิดเลยแม้แต่น้อย

“กลับนครรัฐวาติกันครั้งนี้ฉันจะรายงานเรื่องนี้กับพระสันตปาปา”

เมื่อรู้บทสวดนี้ ทางนครรัฐวาติกันจึงจะมีความสามารถในการสื่อสารกับพระเจ้าได้และกลายเป็นตัวแทนของพระเจ้าในโลกมนุษย์ รับใช้ชาวคริสเตียนให้ดีกว่าเดิม

การเข้ามาของเชอรีนทำลายชีวิตอันสงบสุขของอังเดรลง หลังจะรู้ความลับอันยิ่งใหญ่นี้ ปฏิกิริยาของเขากับเชอรีนต่างกันมาก

เขาหลอกถามบทสวดจากเชอรีนมาได้อย่างง่ายดาย รู้แล้วว่าจะต้องขอพรกับพระเจ้า เพียงใช้วิญญาณอันบริสุทธิ์เป็นเครื่องเซ่น ก็จะสมดั่งปรารถนาทุกประการ

หลังจากเชอรีนบอกบทสวดทั้งหมดกับเขา ในโรงหนังมีเสียงถอนหายใจดังขึ้น เห็นได้ชัดว่า ผู้ชมดูมาถึงตรงนี้ ต่างก็รู้ว่าเชอรีนโดนหลอกแล้ว

อังเดรไม่สามารถควบคุมความพลุ่งพล่านในใจได้เลย ชีวิตของเขาเรียบง่ายมานานเกินไปแล้ว เมื่อมีโอกาสเข้ามา แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยไปแน่

ความลับนี้ ถ้าเป็นความจริง เมื่อเทียบกับการบอกพระสันตปาปาแล้ว ให้เขารู้คนเดียวยังจะดีเสียกว่า

เชอรีนไม่ได้ระวังตัวจากเขา ตอนที่เขาใช้เชอรีนเป็นเครื่องเซ่นและเริ่มท่องบทสวด หญิงสาวคนนี้ก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ท่าทางเหมือนยังไม่ได้สติ “พระเจ้าผู้สถิตอยู่บนสรวงสวรรค์อันสูงสุด ข้าขอใช้เชอรีน...เป็นเครื่องเซ่นสังเวย...โปรดประทานพรให้แก่ข้าด้วยเถิด...”

ใบหน้าของเชอรีนเผยความเจ็บปวด ตอนที่ได้ยินอังเดรใช้เธอเป็นเครื่องเซ่นเพื่อแลกพลังจากพระเจ้า เธอทั้งโกรธทั้งไม่อยากจะเชื่อ

ฉากนี้ใช้นักแสดงชาวอิตาลี ฝีมือการแสดงของเธอไม่เลวเลย แต่พอมาแสดงร่วมกับอังเดรก็ถูกออร่าของอังเดรที่รับบทโดยโดนัลด์กลบไปจนหมด

การแสดงของเธอ ดูออกว่าเลียนแบบเจียงเซ่อ เพราะอย่างไรก็ตาม เชี่ยซ่าเหลยก็พอใจกับเชอรีนที่เจียงเซ่อแสดงเอาไว้ในตอนแรกเป็นอย่างมากแล้ว ภายหลังได้เปลี่ยนนักแสดงกะทันหัน การแสดงส่วนใหญ่ของเธอจึงได้รับผลกระทบมาจากเจียงเซ่อ รวมทั้งการเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ ก็ล้วนถูกเลียนแบบมาทั้งหมด

ในขณะที่ผู้ชมกำลังดูอย่างตื่นเต้น เจียงเซ่อกลับหยุดสายตาที่อังเดรที่โดนัลด์แสดงออกมามากกว่า

โดนัลด์ถ่ายทอดความห่วงหน้าพะวงหลังของอังเดรเพราะชีวิตที่ผ่านมาผ่านทุกอณูรูขุมขน หลังจากนั้นทุกคนก็สามารถรับรู้ได้ว่าสายตาของเขาได้เปลี่ยนไปเพราะความโลภ

การตอบโต้ของเชอรีนและอังเดรในฉากนี้ การแสดงอันยอดเยี่ยมของโดนัลด์ ทำให้ผู้ชมถูกเขาดึงดูดจนไม่สามารถละสายตาจากเขาได้ แม้กระทั่งฉากที่เชอรีนถูกไฟคลอกตอนสังเวย ความรู้สึกของผู้ชมส่วนมากก็คล้อยตามการกัดฟันแน่นของอังเดรมากกว่า ไม่ใช่เห็นใจเธอ

เชอรีนโกรธมาก เธอเป็นอัศวินของพระเจ้า ทั้งความสามารถและความมุ่งมั่นล้วนมากกว่าใครๆ หลังจากเธอรู้ว่าโดนหลอก เธออยากจะตอบโต้ทันที เพื่อหยุดการกระทำของอังเดร

ท่ามกลางเสียงสวดที่ดังขึ้นเรื่อยๆ เปลวเพลิงในตัวของเชอรีนก็ลุกโหมมากขึ้น ในขณะที่เธอพุ่งตัวเข้าหาอังเดร เสียงสวดก็ใกล้จบลงไปทุกที เสียงกรีดร้องของเธอหยุดลงทันที ร่างกายแตกสลายกลายเป็นเศษผงที่ส่องแสงประกายและหายไปจากโลกใบนี้

อังเดรเหงื่อผุดเต็มหน้าผากและตกใจที่เชอรีนพุ่งเข้ามาหาก่อนจะหายไปจนล้มลงพื้น ตัวสั่นเทาไปหมด

เขาได้รับพลังแล้วในโลกใบนี้ คนที่รู้บทสวดนี้ ความลับนี้มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น

เขาเหมือนได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้โดยไม่ต้องมีอาจารย์ วินาทีนี้ ร่างกายของอังเดรเหมือนเต็มไปด้วยพลัง เขาจมอยู่ท่ามกลางความสุข ในชานเมืองเสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดแหวกอากาศทำลายความเงียบสงบในยามค่ำคืน

ตอนที่เชอรีนสลายหายไปพวกปีศาจก็ได้ทำการผนึกเธอเอาไว้ เพราะก่อนหน้านี้ตัวเธอได้ใช้ร่างกายของตนเองเป็นสื่อในการขับไล่วิญญาณชั่วร้ายจากนรกเหล่านี้ออกไป

หลังจากที่ร่างกายของเธอสลายไป มนต์สะกดนั้นก็ถูกทำลายลง ชานเมืองได้ถูกยึดครองโดยพวกปีศาจที่เพิ่งจะออกมาจากประตูมิติ

คืนนี้อังเดรเพิ่งจะได้รับพลัง แต่กลับนำพาปัญหาใหญ่หลวงมาด้วย เขาอยู่ในชานเมืองมานาน คุ้นเคยกับทุกคนในชานเมืองนี้เป็นอย่างดี

คนเหล่านี้เคยนับถือเขา เคยแบ่งอาหารจำนวนนับไม่ถ้วนให้เขา แต่ตอนนี้เพราะการกระทำของเขา กลับนำพาความพินาศมาให้

เขาใช้พลังที่ได้มาจากพระเจ้ากำจัดปีศาจ ไล่ปีศาจเหล่านี้กลับนรกไปอีกครั้ง เพราะภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกว่าค่ำคืนนี้ช่างแสนยาวนาน ผู้คนวิ่งหนีกันกระจัดกระจาย พยายามเอาตัวรอดจากสิ่งชั่วร้ายที่หมายเข้ามาเอาชีวิต

สถานการณ์ที่เหมือนอยู่ในนรกแบบนี้ สิ่งแรกที่บริตนีย์คิดถึงคือความคุ้มครองจากพรเจ้า เธอเป็น คริสเตียนที่จงรักภักดีต่อศาสนาคริสต์ เธอมีหัวใจที่บริสุทธิ์และอ่อนโยน เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า พระเจ้าจะทำให้ข้ารับไช้ทุกคนรอดพ้นจากอันตรายทั้งปวง

ท่ามกลางเสียงกรีดร้องและการฆ่าฟัน หญิงสาวแอบหนีเข้าโบสถ์ไป รูปปั้นพระเจ้าในตอนนี้ ดูเย็นเยียบและเฉยชามากกว่าปกติ เธอคุกเข่าลงหน้ารูปปั้นและอธิษฐานอย่างตั้งใจ

“พระเจ้าบนสรวงสวรรค์ โปรดช่วยชีวิตข้ารับใช้ที่จงรักภักดีต่อท่าน...”

ฉากนี้ ได้กลายเป็นภาพสะท้อนของฉากที่อังเดรท่องบทสวด

ร่างอันอ่อนแรงของหญิงสาวสั่นไม่หยุด ดูไร้ที่พึ่ง น้ำเสียงของเธอยังแฝงความหวาดกลัวอีกด้วย

วินาทีที่เธอปรากฏตัว ผู้คนในโรงหนังก็รู้ทันทีว่าเธอเป็นหญิงสาวหัวเซี่ยที่เชี่ยซ่าเหลยเลือกในหนังเรื่องนี้ เมื่อเปรียบกับทุกคนในจอที่ตาโตและจมูกสูงโด่งแล้ว ใบหน้าของเธอไม่ได้คมขนาดนั้น แต่กลับยิ่งดูอ่อนเยาว์

ตอนที่เธอวิ่งออกมา คงจะรีบมาก แม้แต่รองเท้าก็เลยไม่ทันได้ใส่ 

เสื้อผ้าของเธอบางมาก ผมยาวห่อหุ้มร่างกายอันผอมแห้งของเธอเอาไว้ เธอยังคงอธิษฐาน แม้ว่าจะมีปีศาจตัวหนึ่งพังประตูโบสถ์เข้ามาภายใน เสียงคำรามที่ดังขึ้นสะเทือนจนกระเบื้องบนโบสถ์ที่ไม่ได้ซ่อมแซมมานานร่วงหล่นลงอย่างต่อเนื่อง

“หนีเร็ว” นี่เป็นความคิดแรกที่เกิดขึ้นในหัวของซูเพ่ยเอินในตอนนี้ เขาถึงขั้นลืมไปแล้วว่าตอนนี้ วินาทีนี้ ตนเองยังอยู่ในโรงหนัง และทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า เป็นเพียงโลกในจินตนาการที่ผู้กำกับสร้างขึ้น แต่ซูเพ่ยเอินถึงขั้นลืมเรื่องนี้ไปจนหมดสิ้น เขาเหมือนเข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการที่สมจริงเป็นอย่างมาก เสียงคำรามของปีศาจและเสียงสั่นๆ ของหญิงสาวหลอมรวมกัน หัวที่ก้มต่ำเหมือนกำลังหลบหนีโลกแห่งความเป็นจริง เมื่อเปรียบกับร่างกายอันใหญ่โตของปีศาจแล้ว ราวกับเพียงนิ้วเดียวของปีศาจก็สามารถทำให้ร่างกายของเธอทะลุได้

ความรู้สึกของผู้ชมเหมือนถูกพาเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ในตอนนี้ ซูเพ่ยเอินตื่นเต้นมาก วินาทีต่อมา ปีศาจสังเกตเห็นหญิงสาวที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้ารูปปั้นพระเจ้าและกำลังเดินเข้ามาหาเธอทีละก้าว

เสียงฝีเท้า “ตึกตึกตึก” ยิ่งเข้าใกล้หญิงสาวมากเท่าไหร่ก็ทำให้ทุกคนเป็นห่วงมากเท่านั้น พื้นในโบสถ์ได้แตกออกจากกันเพราะปีศาจเหยียบย่ำ เศษกระเบื้องที่ตกลงมาจากเพดานไวขึ้นกว่าเดิม รูปปั้นพระเจ้าก็กำลังสั่นสะเทือน ราวกับจะพังลงมาได้ตลอดเวลา

ฉากนี้ทำให้ผู้ชมประทับใจเป็นอย่างมาก บริตนีย์อดทนต่อความเจ็บปวด กล้องแพลนไปที่ใบหน้าอันขาวซีดของเธอ เธอคลานเข้าไปใต้รูปปั้นพระเจ้า พอหันกลับไปก็เห็นปีศาจที่หน้าตาโหดเหี้ยมยื่นมือมาทางเธอ