614

บทที่ 614 ตัวหลัก

ครั้งที่สองที่ได้ดูตัวอย่างหนัง ‘The second coming of Jesus Christ’ อีกครั้ง รอบนี้เขาได้มีการเตรียมตัวเตรียมใจบ้างแล้ว ระบบการรับสัมผัสทั้งห้าที่มันตื่นตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้เริ่มผ่อนคลายลง และครั้งนี้ที่เขาได้สังเกตเห็นถึงการปะทะฝีมือกันของเหล่านักแสดง

นอกจากการที่หนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ มีนักแสดงนำหลักคือชายสัญชาติอิตาลีอย่างโดนัลด์ที่แสดงเป็นอังเดรตามที่คาดเอาไว้แล้ว ใครอีกคนที่เขาช่วยชีวิตเอาไว้ เด็กสาวที่เขาดึงมือขึ้นมาจากใต้เทวรูปนั่น กลับเป็นเจียงเซ่อ!

การค้นพบแบบนั้นทำเอาซูเพ่ยเอินรู้สึกแปลกใจไม่น้อย ตามเหตุผลแล้ว หนังระดับฮอลลีวูด เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีนักแสดงสัญชาติอื่นนอกจากนักแสดงที่เป็นชาวยุโรปอเมริกา ยุโรปและอเมริกานั้นไม่ค่อยจะยอมรับคนชาติอื่นสักเท่าไหร่ แค่ดูจากนักแสดงหัวเซี่ยอย่างเถาเฉินที่พยายามจะพัฒนาอย่างมากในต่างประเทศก็พอจะรู้แล้ว

เถาเฉินใช้เวลาไปเกือบจะสิบปีแล้ว แต่ก็ยังยากที่จะเจาะเข้าสู่ตลาดยุโรปอเมริกาได้ ในเรื่อง ‘The Lost City’ เธอก็ต้องยอมลดค่าตัวลงเพื่อที่จะได้บทมา แต่มันก็เป็นแค่บทตัวประกอบเล็กๆ ที่แทบจะไม่สำคัญอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้หนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ที่ถือว่าเป็นหนังที่มีการลงทุนมากกว่าสองร้อยล้านเหรียญสหรัฐ เป็นหนังที่มีเชี่ยซ่าเหลยเป็นคนกำกับ และยังมีนักแสดงอย่างโดนัลด์มาร่วมแสดงด้วย การที่เจียงเซ่อสามารถเป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้ได้นั้น ถึงแม้จะไม่ได้โดดเด่นอะไรแต่ก็ถือว่ามีความสามารถมากแล้ว

แต่ในตัวอย่างหนังสามนาทีสั้นๆ นี้ กลับดูเหมือนว่าจะมีตัวเธออยู่เกือบทั้งคลิปแล้ว นี่มันเกิดเรื่องผิดพลาดอะไรตรงไหนกันแน่นะ?

ตามเหตุตามผลแล้ว หนังเรื่องนี้เพิ่งจะมีวีดิโอตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมาให้คนกว่าหลายหมื่นคนได้เห็นเป็นครั้งแรก ตามความเคยชินและตามปกติของกลุ่มนักลงทุนแล้ว ก็ควรที่จะปล่อยซีนที่พระเอกและนางเอกออกมาประชันฝีมือกันไม่ใช่หรือไง?

ในใจเขารู้สึกสงสัยใคร่รู้สุดๆ ตอนที่ดูครั้งแรกก็ตื่นเต้นเกินไป ภายในสามนาทีนั้น ในทุกๆ ซีนทุกๆฉาก ล้วนแล้วเป็นฉากที่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมหาศาลทั้งนั้น ฉากทุกอย่างดูน่าตื่นตาตื่นใจเพราะความร่วมมือของทุกฝ่าย แผดเผาจนทำให้คนเกิดความเร่าร้อนและเดือดพล่าน แน่นอนว่าเขาคงไม่มีทางทันสังเกตเห็นว่าเด็กสาวที่อังเดรดึงขึ้นมาจากใต้เทวรูปนั้นคือใคร แต่แค่รู้สึกว่าแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและไม่สบายใจนั่นมันช่างตราตรึงใจมากจริงๆ

ครั้งนี้เป็นรอบที่สองแล้วที่ดู พอได้เห็นชัดๆ ว่าเด็กสาวคนนั้นคือเจียงเซ่อ ซูเพ่ยเอินก็เผลออุทานขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้

“หือ?”

“ทำไมหรือ?”

ภรรยาของเขาลากเก้าอี้เข้ามา แล้วนั่งลงข้างๆ ก่อนจะจ้องมองไปที่บนหน้าจอนั่น

ตัวอย่างหนังนั้นได้ถูกแปลออกมาเป็นภาษาหัวเซี่ยเรียบร้อยแล้ว เด็กสาวที่ปรากฏตัวอยู่บนหน้าจอนั่น ใช่เจียงเซ่อแน่ๆ

ถึงแม้ว่าในใจของซูเพ่นเอินในตอนนี้จะงุนงงสงสัยไปหมด แต่เพราะฉากในตัวอย่างหนังที่ฉายเคลื่อนไหวไปอย่างรวดเร็วทำให้เขาไม่ทันได้สังเกตถึงข้อนี้ ตัวอย่างหนังเปิดฉากมาอย่างยิ่งใหญ่ กระชับและน่าตื่นเต้น แต่ไม่ว่าซูเพ่ยเอินจะมีการเตรียมตัวเตรียมใจมาแล้วแค่ไหน แต่ตัวอย่างหนังสั้นๆ ก็ยังดำเนินจนจบไปอย่างรวดเร็วเหมือนเดิมอยู่ดี

‘ปีศาจ’ เริ่มคืบคลานเข้ามาอีกครั้ง ในตอนที่หญิงสาวผมดำยาวสะบัดปีกร่อนลงมาจากฟ้า ซูเพ่ยเอินก็เริ่มที่จะนั่งไม่ติดเสียแล้ว

“เจียงเซ่อนี่”

ในตอนนี้เขาเริ่มที่จะได้รับผลกระทบจากตัวหนัง ขนอ่อนบนแผ่นหลังเริ่มที่จะตั้งชัน เสียงดนตรีช่วยสร้างความตื่นเต้นได้เป็นอย่างดี ภาพฉากหนังที่มีความน่าสะเทือนใจของสรรพชีวิตทั้งหลายมันทำให้ร่างกายของเขาเริ่มตอบสนอง เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ราวกับว่าโดนเจียงเซ่อที่อยู่ในหนังครอบงำเอาไว้เสียแล้ว ราวกับว่าโดนตะโกนคำรามใส่จนต้องหยุดชะงักไป เหมือนตัวล่องลอยอยู่บนฟ้า แต่แผ่นอกกลับถูกบางสิ่งบางอย่างกดเอาไว้ รู้สึกกดดันสุดๆ

นี่ยังเป็นแค่ตัวอย่างหนังสั้นๆ ที่ดูผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ในบ้านเท่านั้นเอง ยังไม่ใช่ห้องดูหนังขนาดใหญ่ในโรงภาพยนตร์ เขายังไม่ทันที่จะได้ดูด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ยักษ์เลยด้วยซ้ำ

ใครจะไปรู้ ว่าถ้าหากตอนนี้เขานั่งอยู่ในโรงหนัง แล้วโดนเสียงเอฟเฟคต่างๆ โหมกระหน่ำไปทั่วทิศแล้วละก็ ฉากของเจียงเซ่อฉากนี้ อาจจะทำให้คนดูที่ได้ดูทุกคนรู้สึกสั่นสะเทือนและหวาดผวาไปเลยก็ได้!

ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่เจียงเซ่อสามารถควบคุมบรรยากาศของหนังได้ขนาดนี้?

เสียงหัวเราะ ‘’ฮะๆ’ ของเธอที่ดังออกมานั้น มันเหมือนว่ากำลังกดทับอยู่ในใจจนรู้สึกแน่นไปหมด และมีความรู้สึกเหมือนถูกเธอทำให้ตกใจกลัว

ตัวอย่างหนังรอบสองจบลงแล้ว และเสียงของภรรยาก็ปลุกเขาขึ้นมาจากความคิด

“เจียงเซ่อหรือ?”

เขาสูดหายใจเข้าลึก เพิ่งจะรู้ตัวว่าตอนนี้มันตื่นเต้นมากเกินไปแล้ว เหมือนหัวใจมันเต้นแรงอยู่ตลอดเวลา แม้แต่จะหายใจออกมาแรงๆ ก็ยังไม่กล้า เพราะรู้สึกปวดหนึบที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก

“ใช่แล้ว เจียงเซ่อ”

หลังจากกลับมามีสติ ซูเพ่ยเอินก็นึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้

เขานึกถึงก่อนหน้านี้ที่ชุยจางเฉิงโทรมาและบอกว่ามีเรื่องแปลกๆ บางอย่าง ในวีดิโอตัวอย่างหนังอันนี้ นอกจากตัวละครหลักอย่างอังเดรแล้ว หญิงสาวอีกคนที่ออกมาพร้อมๆ กับเขาและมีความเกี่ยวข้องกันนั้น คือเจียงเซ่อไม่ผิดแน่ๆ

นี่มันก็อดไม่ได้ที่จะทำให้ซูเพ่ยเอินรู้สึกแปลกใจระคนสงสัย ว่าระหว่างการถ่ายทำเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

สัดส่วนพื้นที่และซีนหนังของเจียงเซ่อนั้น มันมีมากกว่าที่ซูเพ่ยเอินคาดเอาไว้มากทีเดียว นอกจากเวลาของส่วนที่โชว์ LOGO ของบริษัทผู้ลงทุนสร้าง ในระยะเวลาสั้นๆ สองนาทีกว่านั่น เธอก็ได้ออกมาถึงสองครั้งใหญ่ๆ และที่ไม่ให้ซูเพ่ยเอินไม่แปลกใจไม่ได้เลยก็คือ ใน The second coming of Jesus Christ’ เหมือนตัวเธอนั่นแหละที่เป็นนางเอกของเรื่อง

เมื่อลองคิดพิจารณาดูดีๆ แล้ว การปรากฏตัวของเธอตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงสุดท้าย ก็คือ ‘ปีศาจ’ ที่สยายปีกใหญ่ของตัวเองออก การที่อุปมาออกมาแบบนั้น ในอีกทางด้านหนึ่ง มันก็จะไปสอดคล้องกับกับเงาดำขนาดใหญ่ปกคลุมอยู่ในโปสเตอร์หนัง

หรือพูดได้ว่า ถ้าสิ่งที่ซูเพ่ยเอินคาดการณ์เอาไว้มันไม่ผิด อย่างนั้นตามสิ่งที่ได้เห็นในโปสเตอร์หนัง ‘The second coming of Jesus Christ’ บทบาทของเจียงเซ่อในเรื่องก็คงจะโดดเด่นและมีแอร์ไทม์ไม่แพ้กับโดนัลด์เลย!

ถึงแม้ว่าในโปสเตอร์เธอจะไม่ได้มีการเปิดเผยรูปร่างหน้าตาให้เป็นที่โดดเด่นสู่สายตาของคนดูก็ตาม แต่ภาพเงาดำขนาดใหญ่นั้นก็ดูโดดเด่นกว่าโดนัลด์มากแล้ว แค่นี้ก็บอกได้แล้วว่าเธอเป็นตัวละครที่สำคัญแค่ไหนของหนังเรื่องนี้

และเมื่อซูเพ่ยเอินได้ลองคิดอย่างใจเย็นดูแล้ว บทบาทที่เจียงเซ่อได้รับเล่นและวีดิโอตัวอย่างหนัง ‘The second coming of Jesus Christ’ นั้น การออกมาทั้งสองครั้งของเธอก็ดูแตกต่างกันออกไป

ครั้งแรกที่เธอปรากฏตัวออกมา มีแต่ความหวาดกลัวและไม่สบายใจ เหมือนกับตอนที่ถูก อังเดรช่วยชีวิตเอาไว้นั้นเธออ่อนแอและไร้กำลัง

แต่การปรากฏตัวในครั้งที่สองนั้น กลับดูสวนทางและแตกต่างกับตอนแรกที่ทุกคนได้สัมผัสไปอย่างสิ้นเชิง ราวกับว่าเธอได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เหมือนเป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงของตัวอังเดร มีความเกี่ยวเนื่องกับตัวเนื้อเรื่องจนราวกับว่าไม่สามารถที่จะแยกออกจากกันได้!

ตามหนังทั่วๆ ไป สิ่งที่จะเป็นผลกระทบต่อแนวเรื่องหลักมาที่สุด ก็คือความเป็นไปของตัวละครนั่นเอง นอกจากตัวพระเอกนางเอกแล้ว ก็คงไม่มีทางที่จะเลือกใครคนอื่นขึ้นมาอีก

ซูเพ่ยเอินในตอนนี้ไม่ทันจะสังเกตเห็นถึงสีหน้าแปลกใจของภรรยาแล้ว เหมือนว่าเจ้าหล่อนยังไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดสักเท่าไหร่ จึงลองเปิดวีดิโอดูอีกสักรอบ

ถ้าหากบอกว่าที่ดูไปสองรอบก่อนหน้านี้ สิ่งที่เขาสัมผัสได้ก็คือความยิ่งใหญ่ของเนื้อเรื่อง และภาพฉากที่ทำให้คนรู้สึกตื่นตาตื่นใจแล้วละก็ งั้นการดูตัวอย่างหนังอีกรอบในครั้งนี้นั้น สิ่งที่เขาสัมผัสและสังเกตได้ก็คือบทพูดของตัวละครที่มีแรงโน้มน้าวที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากนั่นเอง

เรื่องฝีมือการแสดงของอังเดรที่มีความล้ำลึกนั้นคงไม่ต้องพูดถึงอีก เวลาที่เขาพูดบทของตัวเองออกมา ทุกๆ อารมณ์ที่เขาใส่เข้าไปในคำพูดนั้น ต่างก็เต็มไปด้วยความรู้สึกและอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป ค่อยๆ เพิ่มคาแรคเตอร์ของตัวละคร เหมือนกับหยดน้ำที่หยดลงบนก้อนหินทุกๆ หยด จนสุดท้ายหยาดน้ำที่หยดลงมาจากภูเขาก็สามารถกัดกร่อนก้อนหิน จนทะลุลงไปได้!

แต่เมื่อวนมาถึงการแสดงของเจียงเซ่อบ้าง เมื่อซูเพ่ยเอินได้ลองตั้งใจฟังดูดีๆ แล้ว อารมณ์ที่เธอใส่เข้าไปในบทพูดนั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าโดนัลด์เลย ที่สำคัญก็คือ มันคือเสียงของเธอจริงๆ ไม่ใช่เสียงที่มาพากย์เอาทีหลัง

แต่เป็นเพราะว่าสำเนียงภาษาอังกฤษของเธอที่เป๊ะมากๆ ทำให้ในตอนแรกที่ได้ดูนั้น ซูเพ่ยเอินจึงฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงของเธอ ครั้งแรกที่ได้ดูตัวอย่างไป จึงไม่รู้ว่าเป็นเธอ

นี่มันชวนให้รู้สึกตื่นเต้นและตกใจมากจริงๆ ซูเพ่ยเอินไม่คิดไม่ฝันเลยด้วยซ้ำ ว่าหนังที่มีการลงทุนมหาศาลขนาดนี้ นางเอกที่เชี่ยซ่าเหลยและกลุ่มนักลงทุนเลือก จะเป็นเจียงเซ่อ!

“เธอทำได้ยังไงกัน?”