webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

615

บทที่ 615 นางเอก

เขาอดไม่ได้ที่จะหลุดปากออกมาแบบนั้น นี่มันช่างเซอร์ไพรส์เกินไปแล้ว นอกจากคำพูดนั้นที่เขาเพิ่งได้พูดออกไป ก็ไม่มีคำพูดไหนที่จะพูดได้อีก

ภรรยาของเขายังนั่งดูภาพฉากบนหน้าจอนั่นอยู่ ซูเพ่ยเอินกะว่าพอดูตัวอย่างหนังรอบนี้จบแล้ว จะลองไปดูเสียงตอบกลับจากชาวเน็ตเสียหน่อย แต่ในวินาทีนี้แม้แต่จะนั่งก็ยังแทบจะนั่งไม่ติดอยู่แล้ว เขารีบลุกขึ้น แล้วลูบกระเป๋าเสื้อตัวเอง

“มือถือผมไปไหนแล้วล่ะเนี่ย?”

เขาถามขึ้นมา “ผมต้องโทรไปหาชุยจางเฉิงสักหน่อยแล้ว”

ข่าวนี่มันอยู่เหนือความคาดหมายของเขามาก มันไม่ได้เป็นเหมือนที่เขาคิดเอาไว้เลยสักนิด เขาอยากจะรู้คำตอบเร็วๆ ภรรยาเห็นเขาเดินออกจากห้องหนังสือไป คอมพิวเตอร์ที่อยู่ในห้องยังไม่ทันจะได้ปิดเลยด้วยซ้ำ หล่อนจึงเปิดมันดูอีกรอบ ซูเพ่ยเอินก็หามือถือตัวเองเจอพอดี และรีบต่อสายหาชุยจางเฉิง

“จางเฉิง ใน ‘The second coming of Jesus Christ’ เจียงเซ่อแสดงเป็นนางเอกอย่างนั้นหรือ?”

“อาจารย์ซู ดูวีดิโอตัวอย่างจบแล้วหรือครับ?”

ชุยจางเฉิงไม่ได้ตอบคำถามของซูเพ่ยเอินในทันที แต่กลับย้อนถามแทน “ตัวอย่างหนังไม่เลวเลยใช่ไหมละครับ?”

“ดีเลยล่ะ” ซูเพ่ยเอินพยายามผ่อนคลายความตื่นเต้นของตัวเองลง แล้วพยักหน้าเห็นด้วย จากมุมมองของนักวิจารณ์หนังภาพยนตร์มืออาชีพ กระบวนการสร้างหนังของเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ นั้น คงจะใช้ความตั้งอกตั้งใจไปไม่น้อยเลยทีเดียว

เรื่องดนตรีประกอบคงไม่ต้องพูดถึงเลย มันเป็นคนดรีที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นฮึกเหิม ตั้งแต่ที่ตัววีดิโอเริ่มจนไปถึงตอนจบสามารถทำให้คนฟังรู้สึกตามไปได้อย่างดี กับฉากหนังที่น่าตื่นเต้นติดกันอย่างต่อเนื่อง มากมายไปด้วยเทคนิคต่างๆ อีกทั้งยังมีกลิ่นอายของการบรรเลงเสียงดนตรีของวงดนตรีที่มีชื่อเสียงของฟินแลนด์อย่าง ‘Times’ อีกด้วย

วีดิโอตัวอย่างหนังที่ถูกคัดออกมานั้น ฝีมือการแสดงขอวโดนัลด์ถือว่าขั้นเทพมาก เจียงเซ่อที่แสดงอีกบทบาทกับน้ำตาที่ยังไม่ไหลลงมา เสียงหัวเราะนั่น มันมีแรงกระตุ้นความรู้สึกของคนดูเป็นอย่างมาก มันยิ่งทำให้รู้สึกเกิดความสงสัยในเนื้อหาของตัวหนัง อยากจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ กับท่าทีของในตอนแรก และการปรากฏตัวครั้งล่าสุดของเธอ มันทำรู้สึกควบคุมความอยากรู้ไม่ได้เลย

ผลลัพธ์ที่ออกมายิ่งไม่ต้องพูดถึง ฉากก็มีความยิ่งใหญ่อลังการขนาดนั้น ตัวเนื้อหาก็มีความเกี่ยวข้องกับศาสนาและ ‘พระเจ้า’ เป็นหลัก หนังเรื่องนี้จะต้องเป็นหนังที่มีเนื้อหาที่อัดแน่นมากแน่ๆ

“ดูจากวีดิโอตัวอย่างที่ปล่อยออกมาแล้ว ถ้าหากว่าตัวหนังทั้งเรื่องสามารถสร้างผลลัพธ์ได้เหมือนอย่างตัววีดิโอตัวอย่างแล้วละก็ อย่างนั้นหนังเรื่องนี้ของเชี่ยซ่าเหลยก็อาจจะได้เป็นหนังที่เป็นที่จดจำไปเลยก็ได้นะครับ”

ตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมาเมื่อเทียบกับตัวหนังทั้งเรื่องแล้ว มันก็เหมือนกับที่พึ่งที่จะหวังพึ่งไม่ได้นาน

ถ้าหากว่าต้องการแค่ผลลัพธ์ของตัวหนังทั้งเรื่องจริงๆ ก็คงไม่ต้องพูดถึงตัวอย่าง แค่ปล่อยตัวอย่างที่มีเนื้อหาเรียบๆ ง่ายๆ ออกมา ก็เพียงพอที่จะแสดงถึงความสำเร็จของเชี่ยซ่าเหลยได้แล้ว เมื่อเอาความเปลี่ยนแปลงของการตลาดมารวมกับศิลปะ สิ่งที่จะได้ออกมาก็คือผลงานชิ้นเอก

แต่ในตอนนี้สิ่งที่ซูเพ่ยเอินยิ่งรู้สึกกังวลมากขึ้นไปอีก ก็คือตัวหนังจริงๆ ของ ‘The second coming of Jesus Christ’ ที่เชี่ยซ่าเหลยเป็นคนกำกับ ว่ามันจะสามารถโดดเด่นและน่าติดตามได้เหมือนอย่างในตัวอย่างสัก 20% ไหม ไหนยังจะต้องเอาเนื้อเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาดึงกลุ่มคนดูที่เป็นวัยรุ่นให้ได้ ต้องคอยรักษายอดขาย แต่ก็ต้องมีเนื้อหาทางด้านศิลปะที่สูงขึ้นมาอีกให้มากพอที่จะทำให้คนดูทุกคนพึงพอใจ เพื่อให้หนังมันมีความหมายมากขึ้น และนั่นก็เป็นเรื่องที่ยากลำบากที่สุด เพราะมันเป็นสิ่ยที่ยากจะควบคุมได้

“คุณวางใจเถอะครับ” ชุยจางเฉิงพูดขึ้นมา พอกำลังจะพูดอะไรต่อ ซูเพ่ยเอินก็ไม่รอให้เขาพูด จึงรีบถามแทรกขึ้นมาทันที

“นายยังไม่ได้บอกฉันเลยนะ ว่าในเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ เจียงเซ่อแสดงเป็นนางเอกหรือเปล่า?”

ตอนที่หนังเรื่องนี้เริ่มถ่าย ซูเพ่ยเอินยังจำได้ว่าเริ่มแรกมีข่าวดังว่าดาราสาวฮอลลีวูดอย่างราล่าเองก็เป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทำหนังเรื่องนี้

ตามเหตุผลแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันเรื่องยอดขายบัตรของฝ่ายนักลงทุน คนที่ควรจะเลือกมาเป็นนางเอกก็ควรที่จะเป็นลาร่าที่ยังเป็นเด็กสาวอยู่ เพื่อเผยศักยภาพของดาราสาวถึงจะถูก

สำหรับซูเพ่ยเอินแล้ว หนังเรื่อง ‘Evil’ และ ‘Proof of Life’ ที่เจียงเซ่อแสดงไปก็ถือว่าเป็นอะไรที่ได้มาตรฐานและโดดเด่นเช่นกัน ชื่อเสียงของเธอในหัวเซี่ยเองก็ดังไม่น้อย แต่ชื่อเสียงในระดับนานาชาติ เธอถือว่ายังด้อยกว่าลาร่าอยู่มาก และแรงดึงดูดผลกระทบก็ยังมีไม่เท่ากับลาร่าด้วย

ถ้าหากว่าหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ มีบริษัทลงทุนเป็นของหัวเซี่ยก็ว่าไปอย่าง แต่หนังเรื่องนี้มีกลุ่มนักลงทุนเป็นถึงบริษัทบอร์เจียและฮว๋านเต่าซึ่งเป็นบริษัทลงทุนของต่างประเทศที่ใหญ่มากๆ แถมยังมีการเชิญนักแสดงชายที่มีชื่อเสียงอย่างโดนัลด์มาร่วมแสดงด้วยอีกต่างหาก อีกทั้งยังไม่ใช่แค่หนังเล็กๆ มันเลยทำให้ซูเพ่ยเอินนึกไม่ออกจริงๆ

แต่ว่าการที่เจียงเซ่อได้ไปเปิดตัวต่อสายตาชาวโลกในหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีแล้ว ฝีมือการแสดงของเธอก็ไม่ถูกดาราอย่างโดนัลด์กดลงจนต้องกลัวไปหมดทุกอย่าง กลับกันซูเพ่ยเอินคิดว่าเธอนั้นเป็นพวกที่ถ้าเจอคนที่แกร่งกว่า ตัวเธอเองก็จะทำตัวเองให้แกร่งขึ้นไปอีก

ความรู้สึกนั้น เขาเริ่มสัมผัสได้ตั้งแต่ที่เธอแสดงเรื่อง ‘Evil’ กับหลิวเย่แล้ว และได้เห็นสิ่งนั้นมากขึ้นในเรื่อง ‘Proof of Life’

ซูเพ่ยเอินเริ่มรู้สึกได้อย่างชัดเจนก็ในเรื่องหลังๆ มา การแสดงออกของเธอนั้นมันดูโดดเด่นเสียยิ่งกว่าหลิวเย่เสียอีก ถ้าหากว่าคนที่แสดงในเรื่อง ‘Proof of Life’ ไม่ใช่หลิวเย่ ถ้าเปลี่ยนไปเป็นใครคนอื่นละก็ก็คงจะโดนรัศมีจากเจียงเซ่อกลบจนมิดไปแล้ว

ตัวอย่างหนังสามนาทีนั่น การปะทะกันระหว่างเธอและโดนัลด์ก็เป็นอะไรที่เขาชื่นชอบมากๆ แค่เริ่มแรกมาก็ทำให้ลุ่มหลงเข้าไปได้แล้ว แม้แต่เจียงเซ่อเขาก็ยังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ กลับได้แต่หลงใหลไปกับเนื้อเรื่อง ใครจะไปรู้ว้าเจียงเซ่อจะทำให้ตัวเองโดดเด่นได้ถึงขนาดนั้น

“กำลังจะพูดถึงเรื่องนี้พอดีเลยครับ” ต่อหน้าซูเพ่ยเอินที่เริ่มเร่งรัด ชุยจางเฉิงกลับดูไม่เร่งร้อนอะไรเลยสักนิด เหมือนกับว่ายังอยากทำให้เขามีความอยากรู้มากขึ้นอีก

“ในวีดิโอตัวอย่างหนัง แค่สามนาทีสั้นๆ เธอได้แอร์ไทม์ตั้งเท่าไหร่คุณได้ลองนับดูไหม?”

ซูเพ่ยเอินส่ายหน้า

“ไม่ได้นับ พอจำได้ว่าเป็นเธอ ก็รีบติดต่อกลับหานายเพื่อถามทันทีนี่แหละ”

ชุยจางเฉิงเป็นบรรณาธิการของนิตยสาร ‘สือไต้ผิงซัว’ ถ้ามีข่าวอะไรเขาจะต้องรู้เป็นคนแรกแน่ๆ และในคืนนี้เขาเองก็ตั้งใจที่จะโทรมาคุยกับเขาเป็นพิเศษ ก็คงจะต้องมีเรื่องในใจอยู่แล้วแน่นอน

“แต่ว่าเธอได้ออกมาถึงสองรอบ ดูจากลักษณะแล้วก็คงจะสำคัญไม่น้อยเลย” เขาเว้นไปช่วงหนึ่ง แล้วพูดต่อ

“คุณได้เห็นตัวโปสเตอร์หนังแล้วหรือยัง?”

บนโปสเตอร์หนัง เงาดำขนาดใหญ่นั่นต้องใช่เจียงเซ่อแน่ๆ เธอทำให้หนังได้ก้าวข้ามไปอีกขั้นแล้ว และในเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ โอกาสที่เธอจะเป็นนางเอกก็มีสูงมากๆ

“ก่อนหน้านี้เหมือนว่าพวกเราจะโดนทางออฟฟิเชียลปล่อยข่าวลวงมาโดยตลอด ทำให้เข้าใจว่าเป็นลาร่าที่ได้เล่นเป็นตัวหลักกับโดนัลด์”

ชุยจางเฉิงหัวเราะ “ในวีดิโอตัวอย่างหนังสามนาที ผมลองคำนวณดูแล้ว นอกจากตัวอินโทรเริ่มคลิปในแปดวินาทีแรก มันก็ยังเหลืออีกหนึ่งร้อยห้าสิบสองวินาที ฉากการต่อสู้ต่างๆ กินไปอีกสามสิบเจ็ดวินาที เหลืออีกหนึ่งร้อยสิบห้านาที โดนัลด์ได้แอร์ไทม์ไปทั้งหมดหกสิบสองนาที ส่วนของเจียงเซ่อรวมทั้งครึ่งแรกกับครึ่งหลังที่มีคาแรคเตอร์แตกต่างกันแล้ว ทั้งหมดก็ห้าสิบสามวินาทีกว่าๆ”

ถ้าหากว่ามองในบทบาทพิเศษ โดนัลด์เองก็เป็นพระเอก ทำให้ในวีดิโอเขาจึงมีแอร์ไทม์ที่เน้นหนักกว่าใครๆ เจียงเซ่อได้แอร์ไทม์ไปทั้งหมดห้าสิบสามวินาที มันก็แตกต่างจากเขาเพียงแค่ไม่กี่วิเท่านั้น และเกือบจะเป็นหนึ่งในสามของทั้งคลิปแล้วด้วยซ้ำ “ถ้าบอกว่าเธอไม่ใช่นางเอก ก็คงจะไม่มีใครเชื่ออีกแล้วละมั้งครับ”

จากวีดิโอตัวอย่างของเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ การที่ตัดต่อคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันของเธอออกมาในก่อนและหลังนั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นการบอกให้รู้ถึงเนื้อเรื่องของตัวหนังคร่าวๆ อยู่แล้ว ทำให้คนดูที่ได้ดูแค่สามนาทีสั้นๆ ได้รับรู้ถึงความเนื้อหาที่มีความขัดแย้งในเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’

อย่างที่สอง อาจจะเป็นเพราะฝีมือของการตัดต่อ ที่ไม่เอาช่วงเวลาการออกของเจียงเซ่อมารวมเข้าด้วยกันทีเดียว ก็เพื่อเป็นหลอกตาคนดูว่าเธอได้แอร์ไทม์น้อยกว่าโดนัลด์