webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

597

บทที่ 597 ผู้ต้องสงสัย 

การที่ฮั่วจือหมิงทุ่มเทสร้างถนนเส้นหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเป็นการกระทำที่ถูกใจเจียงเซ่อ ต้นไม้ใบหญ้าทุกต้นรวมทั้งทุกสิ่งทุกอย่างในบทประพันธ์ได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าเจียงเซ่ออย่างมีชีวิต

เจียงเซ่อแทบจะลืมฮั่วจือหมิง โม่อานฉี ผู้ช่วยของผู้กำกับฮั่วและคนอื่นๆ ที่อยู่รอบข้างจนหมดสิ้น มือของเธอล้วงอยู่ในกระเป๋าเสื้อคลุม เหมือนเธอจะหนาวไม่น้อย แต่ก็เผยรอยยิ้มบางๆ ออกมาเพราะสิ่งที่ปรารถนากำลังจะกลายเป็นจริง

ถ้าไม่ใช่เพราะฮั่วจือหมิงบ่นว่า

“ค่าตัวของพวกเธอแพงเกินไป ไม่อย่างนั้นเงินที่เหลือยังสามารถเอามาต่อยอดให้ถนนเส้นนี้สมบูรณ์แบบได้มากกว่านี้”

เม็ดเงินของทางผู้สนับสนุนส่วนหนึ่งได้เข้ากระเป๋าของนักแสดงหลักหญิงทั้งสองคน เป็นเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เหลือฮั่วจือหมิงประหยัดแล้วประหยัดอีก

ตอนที่สร้างถนนที่จะใช้ถ่ายทำ เขาลงไปเจรจากับวิศวะกรโดยไม่ห่วงภาพลักษณ์ของตนเองและเฝ้าดูความคืบหน้าของงานอยู่ในไซด์งานที่เต็มไปด้วยฝุ่นควันทุกวัน คุมกระเป๋าเอาไว้เป็นอย่างดี เงินทุกบาทที่ใช้จ่ายต้องคุ้มค่ามากที่สุด

รายจ่ายทั้งในด้านอาหารการกินและการเดินทางของทีมงาน เขาก็กดแล้วกดอีก

แม้กระทั่งโรงแรมที่ทีมงานพักก็ไม่ได้เลือกโรงแรมหรูระดับห้าดาวเพราะชื่อเสียงของเจียงเซ่อและเถาเฉิน แต่กลับเลือกโรงแรมที่อยู่ใกล้สถานที่ถ่ายทำและไม่ได้มีชื่อเสียงเท่านั้น

เพราะทางโรงแรมรู้ว่าหนังเรื่อง ‘Suspect’ จะถ่ายทำที่นี่ จึงลดราคาให้ฮั่วจือหมิง

ความตระหนี่ของคนคนนี้แสดงให้เห็นในทุกๆ ด้าน รถที่เจียงเซ่อนั่งมาก่อนหน้านี้ก็เก่ามาก แต่สำหรับทุกกระเบียดนิ้วในถนนสายนี้เขากลับไม่เสียดาย

ป้ายของโรงแรมดูก็รู้ว่ายอมจ่ายแพงเพื่อให้ทำออกมาให้ดูครึ่งเก่าครึ่งใหม่ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนสร้างขึ้นอย่างประณีต

เขาบ่นว่าเถาเฉินและเจียงเซ่อค่าตัวสูง ใบหน้าของผู้ช่วยเต็มไปด้วยความลำบากใจ กลัวเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้เจียงเซ่อโกรธ

ที่ผู้สนับสนุนยอมควักเงิน ไม่ใช่เพราะตัวหนังและบทประพันธ์ของ ‘Suspect’ แต่เป็นเพราะแรงดึงดูดจากความสามารถในการทำรายได้และชื่อเสียงของทั้งเจียงเซ่อและเถาเฉิน

อีกอย่างหัวอิ่งมีเดียก็สนิทสนมกับเจียงเซ่ออยู่แล้ว ตอนที่ลงทุนหนังเรื่อง ‘เซียนหยวน’ ได้ข่าวว่าค่าตัวของเจียงเซ่อสูงถึงแปดสิบล้านแล้ว ยังไม่รวมส่วนแบ่งจากรายได้ในตอนหลัง

เพียงเท่านี้ก็สามารถสัมผัสได้แล้วว่าหัวอิ่งมีเดียเข้าข้างเจียงเซ่อมากเป็นพิเศษ ฮั่วจือหมิงบ่นลับหลังว่าเจียงเซ่อค่าตัวแพงก็ช่างเถอะ แต่ต่อหน้าเจียงเซ่อยังพูดแบบนี้ ไม่แปลกที่จะทำให้ผู้ช่วยอึดอัดใจ

เขายื่นมือออกไปดึงฮั่วจือหมิง ใบหน้าของฮั่วจือหมิงดูไม่ชอบใจ สะบัดมือมือผู้ช่วยออกและชี้ไปยังทิวทัศน์ของถนนที่อยู่ไกลออกไป

“จริงๆ ตรงนั้นยังต้องปรับแก้ ตั้งกล้องแบบนี้ จะสมจริงมากกว่า”

เขาต่อนิ้วโป้งข้างหนึ่งกับนิ้วชี้อีกข้างให้เหมือนเป็นกล้องมาวางตรงหน้า และพูดถึงส่วนที่ไม่ได้ปรับแก้มากนัก ท่าทางดูเสียดายมาก

แม้จะมีโอกาสได้สัมผัสกับฮั่วจือหมิงยังไม่นานนัก แต่เจียงเซ่อก็พอจะรู้จักนิสัยของเขาบ้างแล้ว ตอนนี้ได้ยินเขาบ่นเสียดายและปฏิกิริยาเล็กๆ น้อยๆ ของผู้ช่วยก็ล้วนอยู่ในสายตาของเธอ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเพราะคำพูดของฮั่วจือหมิง

“สำหรับหนังเรื่อง ‘Suspect’ ค่าตัวที่ฉันได้ไม่ถือว่าสูง” นี่เป็นค่าตัวที่ทางบริษัทกำหนดมา ที่ให้เธอรับเอาไว้ เพื่อต้องการสร้างภาพความปรองดองระหว่างเธอกับเถาเฉินเท่านั้น ราคาที่ลัวหยิ่นมาเจรจาด้วยตนเอง ต่ำกว่ารายได้จากหนังเรื่อง ‘เซียนหยวน’ อยู่มาก

“ที่รับเล่นเป็น ‘ซูอี้’ ก็ไม่เกี่ยวกับค่าตัว ถ้าผู้กำกับฮั่วคิดว่าถนนสายนี้ยังไม่สมบูรณ์แบบมากพอ คุณควรจะยื่นขอทุนเพิ่มจากทางผู้สนับสนุนนะคะ”

ฮั่วจือหมิงอึ้งไป เจียงเซ่อสบตาเขาครู่หนึ่ง เขาจึงส่งเสียง ‘หึ’

“จะเป็นยังไง ก็ต้องรอดูตอนเปิดกล้องก่อน”

เขาพาเจียงเซ่อเข้าไปในโรงแรมที่สร้างเสร็จแล้ว ข้างในเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดล้วนเตรียมเอาไว้ครบแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องรับแขกล้วนพิถีพิถันเป็นอย่างมาก ทั้งพรม เคาน์เตอร์ข้างหน้าและกล่องแสดงความคิดเห็นของลูกค้า รวมทั้งรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็ล้วนเตรียมไว้แล้ว

“ก่อนที่จะถึงวันนัด เธอพยายามทำความคุ้นเคยกับทุกซอกทุกมุมของที่นี่ แผนที่ของถนนสายนี้เดี๋ยวฉันจะให้เสี่ยวเจิ้งส่งให้เธอ”

ท่าทางของเขาแข็งกระด้าง ตอนที่พูดไม่ให้โอกาสเจียงเซ่อปฏิเสธเลยแม้แต่น้อย

ผู้ช่วยเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร แต่คิดไม่ถึงว่าเจียงเซ่อกลับพยักหน้าให้กับทุกคำพูดของ ฮั่วจือหมิง การที่เธอเชื่อฟังแบบนี้ ทำให้ฮั่วจือหมิงหันมองเธอหลายที

นักแสดงที่เคยร่วมงานด้วย ไม่ว่าจะฐานะสูงแค่ไหน เป็นที่รู้จักมากเพียงใด อายุมากน้อย แต่พอมีชื่อเสียงขึ้นมา ส่วนมากไม่ชอบให้คนมาสั่งตนเองเหมือนที่ฮั่วจือหมิงกำลังทำอยู่

โดยเฉพาะหลังจากที่อายุของเขาที่มากขึ้นแต่ชื่อเสียงไม่เท่ากับฐานะของเขา ผู้สนับสนุนไม่ปลื้มเขา นักแสดงก็เช่นกัน แต่พอมาถึงสถานที่ถ่ายทำ นายท่านคนนี้ก็ยังคงเคร่งครัด คำไหนคำนั้น ชวนให้ความรู้สึกแย่เป็นอย่างมาก

ในสถานที่ถ่ายทำคนที่ขัดแย้งกับเขามากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นนิสัยแปลกๆ และความเหี้ยมโหดของฮั่วจือหมิงก็ถูกแพร่กระจายไปทั่ว

ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับเรื่องของค่าตัว ทั้งสองยังมีปากเสียงกันเล็กน้อยอยู่เลย แต่คิดไม่ถึงว่าพอ ฮั่วจือหมิงพูดเรื่องการถ่ายทำ เธอก็ราวกับควบคุมอารมณ์ทั้งหมดเอาไว้ ไม่ว่าน้ำเสียงของฮั่วจือหมิงเคร่งขรึมมากเพียงใด น้ำเสียงที่สั่งการราวกับทุกอย่างควรจะเป็นอย่างที่เขาพูดโดยไม่ต้องสงสัย จนผู้ช่วยของฮั่วจือหมิงลำบากใจ แต่เจียงเซ่อยังคงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เรื่องนี้ทำให้ฮั่วจือหมิงเปลี่ยนความคิดที่มีต่อเธอไปบ้าง

ในเรื่องซูอี้เป็นคนลึกลับ มีการศึกษาและใจเย็น เป็นผู้หญิงที่มีสภาพจิตใจดีมาก ฉลาดจนตอนที่ตำรวจอย่างเฉินซวินหรานเผชิญหน้ากับเธอยังมีความรู้สึกว่าไม่สามารถรับมือได้

หลังจากเจียงเซ่อมาดูสถานที่ถ่ายทำวันแรก ก็ได้เดินดูสถานที่รอบหนึ่งก่อน ตอนนี้ยังไม่มีตัวประกอบ ถ้าเริ่มถ่ายทำอย่างเป็นทางการ ที่นี่ก็จะกลายเป็นสถานที่เกิดเหตุที่ทำให้คนทั้งวั่งโจวตื่นตระหนกตามเรื่องราวในบท

ฮั่วจือหมิงพาเจียงเซ่อมาถึงไม่นานก็มีธุระต้องไปจัดการ เจียงเซ่อจึงอยู่ต่อ ให้พวกโม่อานฉีช่วยถ่ายทุกซอกทุกมุมของสถานที่ถ่ายทำเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือ เตรียมกลับไปทำการบ้านเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับงานที่โรงแรม

แม้ก่อนหน้านี้ฮั่วจือหมิงบอกว่าจะส่งรูปสถานที่ถ่ายทำไปให้เธอที่ห้อง แต่ก่อนที่รูปจะส่งมา เพื่อเพิ่มความทรงจำให้กับตนเอง เธอได้เดินบนถนนเส้นนี้รอบหนึ่ง และวาดภาพคร่าวๆ ออกมา

สองวันหลังจากนั้น เธออยู่ในห้องเพื่อได้จำภาพสถานที่ถ่ายทำที่ถ่ายรูปมาในวันนั้น และคืนวันที่สิบหก เถาเฉินเองก็บินมาถึงวั่งโจว และเข้าพักในโรงแรมแห่งนี้

วันที่เถาเฉินเข้าพักก็ได้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น

นักข่าวจ้างพนักงานของโรงแรมให้ช่วยนักข่าวปลอมตัวเป็นแขกที่มาเข้าพักที่โรงแรมเพื่อแอบถ่ายรูปเถาเฉินและถูกผู้ช่วยของเถาเฉินจับได้

เรื่องนี้ก็ทำให้ผู้ช่วยของเถาเฉินไมพอใจที่ฮั่วจือหมิงเลือกที่พักแบบนี้ คืนนั้นยังไม่ทันได้เข้าพักอย่างเป็นทางการ ผู้จัดการของฮั่วจือหมิงก็เสนอให้เถาเฉินเปลี่ยนที่พัก แต่กลับถูกฮั่วจือหมิงปฏิเสธในทันที

เหมือนภาพทรงจำในวันแรกที่เจียงเซ่อมีต่อฮั่วจือหมิงตอนมาเจอเขาที่วั่งโจว ฮั่วจือหมิงเป็นคนที่ดื้อรั้นมาก เขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับเถาเฉินมากเป็นพิเศษ เพราะฐานะของเถาเฉินและการที่เธอเสนอว่าจะเล่นหนังเรื่อง ‘Suspect’ ด้วยตนเอง

“ซ่งอี้คิดว่าระบบรักษาความปลอดภัยของโรงแรมนี้เชื่อถือไม่ได้ และระบบต่างๆ ของที่นี่ก็ธรรมดาเกินไป หลังจากเกิดเหตุการณ์แอบถ่าย ทำให้ทีมของเถาเฉินไม่เชื่อใจพนักงานของโรงแรมแห่งนี้ จึงอยากเปลี่ยนที่พัก”

ห้องเถาเฉินอยู่ข้างห้องเจียงเซ่อ โรงแรมนี้เก็บเสียงได้ไม่ดีนัก ทะเลาะกันดังเสียหน่อย ถ้าเอาหูแนบกำแพงก็สามารถได้ยินอย่างชัดเจน

ซ่งอี้รู้สึกว่า ตั้งแต่เถาเฉินมีชื่อเสียงจนถึงตอนนี้ ไม่ว่าจะทำงานในหรือต่างประเทศ ก็ไม่เคยพักโรงแรมที่แย่ขนาดนี้มาก่อน ระบบการจัดการก็ไม่ครบถ้วน เขาแจงเหตุผลออกมาเป็นข้อๆ สุดท้ายกลับถูกฮั่วจือหมิงตอบกลับมาคำหนึ่ง

“ถ้าเมื่อก่อนเถาเฉินไม่เคยพักโรงแรมแบบนี้มาก่อน ถ้าอย่างนั้นก็เธอถือว่านี่เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต”

คนแก่คนนี้เป็นคนหัวดื้อ เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของซ่งอี้ก็ไม่อ่อนข้อเลย โม่อานฉีเอาหูแนบกำแพงพลางฟังความเคลื่อนไหวของข้างห้อง พลางเล่าให้เจียงเซ่อฟัง

“อีกอย่างโรงแรมในวั่งโจวที่ซ่งอี้พูดถึงก็ห่างจากสถานที่ถ่ายทำมาก ขับรถไปกลับทุกวันก็เสียเวลา”

เห็นได้ชัดว่าฮั่วจือหมิงไม่อยากเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์กับการเดินทาง พักโรงแรมเล็กๆ แห่งนี้แม้จะมีหลายอย่างที่ไม่สะดวกสบาย สภาพแวดล้อมก็อาจจะสู้โรงแรมระดับห้าดาวไม่ได้ แต่เหนือกว่าในเรื่องตำแหน่งที่ตั้ง

ผลจากการโต้เถียง ฮั่วจือหมิงเป็นผู้ชนะ การที่เถาเฉินปล่อยข่าวว่าจะถ่ายทำหนังเรื่อง ‘Suspect’ ออกไปล่วงหน้าในวันนั้น สำหรับเจียงเซ่ออาจจะเป็นการจำกัดแต่สำหรับเธอก็เช่นกัน

คนคนนี้เป็นคนดื้อรั้น ไม่ไว้หน้าใคร วางท่าราวกับว่าถ้าเถาเฉินไม่พอใจก็ไม่ต้องแสดง

ทุกคนต่างรู้นิสัยของเขาดี ความเด็ดเดี่ยวของเถาเฉินก็สู้เขาไม่ได้ รวมทั้งหวงแหนชื่อเสียงของตัวเองและข่าวที่ว่าจะถ่ายหนังเรื่อง ‘Suspect’ เธอก็เป็นคนปล่อยเอง ถ้าถอนตัวตอนนี้ คนที่จะอับอายก็คือเธอ

หลังจากเรื่องราวทุกอย่างจบลงแล้ว วันที่สิบเจ็ด ทุกฝ่ายจะนัดรวมตัวกันที่วั่งโจวเพื่อเริ่มถ่ายทำหนังเรื่อง ‘Suspect’ อย่างเป็นทางการ

ความสัมพันธ์ระหว่างเจียงเซ่อและเถาเฉิน ทีมงานที่ติดตามข่าวของทั้งสองก็รู้อยู่บ้าง

หลายปีมานี้ เพราะทิศทางการพัฒนาทำให้ทั้งสองไม่ได้ปรองดองกันนัก แม้จะอยู่ในสังกัดเดียวกัน แต่ผู้ช่วยของทั้งสองฝ่ายต่างไม่เคยทักทายกันเป็นการส่วนตัว เจอหน้ากันก็ไร้ซึ่งรอยยิ้ม

ในสถานการณ์แบบนี้ ทีมงานจำนวนหนึ่งกังวลว่า เมื่อนักแสดงหญิงทั้งสองมาเจอกันในสถานที่ถ่ายทำอาจจะมองหน้ากันไม่ติดแล้วทะเลาะกันต่อหน้าทุกคน

แต่ในวันเปิดกล้อง หลังจากเจียงเซ่อและเถาเฉินพบกันอย่างเป็นทางการ บรรยากาศกลับไม่ได้ตึงเครียด เมื่อเปรียบกับใบหน้าอันเย็นเยียบของผู้ช่วยของทั้งสองฝ่าย กับใบหน้าของนักแสดงหญิงทั้งสองที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แม้ไม่ได้พูดคุยกันอย่างสนิทสนม แต่ก็ไม่ได้เชิดใส่กันต่อหน้าทุกคน

เพราะสภาพอากาศ บางสถานที่จะต้องถ่ายทำก่อน ฉากที่จะถ่ายทำเป็นอันดับแรกคือฉากของเจียงเซ่อพอดี เธอจะต้องหลบหนีออกจากโรงแรมที่เป็นสถานที่เกิดเหตุ

ฉากนี้ของเจียงเซ่อ ฮั่วจือหมิงกำหนดว่าจะเริ่มถ่ายทำอย่างเป็นทางการตอนหกโมงเช้า

ก่อนเริ่มถ่ายทำยังมีหลายสิ่งที่ต้องเตรียม เจียงเซ่อรู้ว่าตนเองจะถูกปลุกตั้งแต่เช้า เพราะฉะนั้นคืนก่อนหน้านั้นเธอนอนแต่หัวค่ำ แม้กระทั่งงานฉลองเปิดกล้องของทีมงานก็ไม่ได้ไปร่วม อาบน้ำเข้านอนและถูกปลุกตั้งแต่ตีสอง

อุณหภูมิในยามกลางคืนและกลางวันในวั่งโจวต่างกันมาก ตอนที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและนั่งรถมาจากโรงแรมเหล่าผู้ช่วยต่างก็หนาวจนตัวสั่น

ระหว่างทางมืดสนิท มีเพียงในรถที่มีไฟสว่าง เจียงเซ่อยังคงอ่านบทที่จะถ่ายทำในวันนี้ เพื่อเข้าถึงอารมณ์และทำให้ตนเองเข้าถึงโลกของซูอี้ให้เร็วที่สุด

สถานที่ถ่ายทำกลับสว่างไสว ทีมงานยังคงยุ่งๆ อยู่ ทันทีที่ลงจากรถเจียงเซ่อก็คลุมเสื้อกันหนาวตัวหนาเอาไว้แนบกาย ลมหนาวที่พัดเข้ามาทำให้เธอสั่น รู้สึกได้ว่าขนบนใบหน้าและลำตัวลุกขึ้นมาทั้งหมด

ช่างแต่งหน้าได้รออยู่ในห้องแต่งตัวของสถานที่ถ่ายทำแล้ว การแต่งหน้าของฉากที่กำลังจะถ่ายทำนี้ง่ายมากสิ่งสำคัญอยู่ที่บรรยากาศ อารมณ์และสีหน้าเล็กๆ น้อยๆ ที่นักแสดงถ่ายทอดออกมา

ผมของเจียงเซ่อถูกรวบเอาไว้ เผยให้เห็นใบหน้าอันงดงามไร้ที่ติด ฝ่ายเสื้อผ้าได้เปลี่ยนชุดเดรสสีดำคอ V ลึกให้กับเธอพร้อมรองเท้าส้นแหลมและเสื้อคลุมสีครีมที่ยาวถึงเข่า เผยให้เห็นขาที่เรียวยาว พอนั่งลงไป ก็ดูสวยแม้กระทั่งเงา

สิ่งที่เธอดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้มากที่สุดคือลิปสติกสีแดงดั่งกุหลาบอันน่าเย้ายวน ทำให้ใบหน้าของเธอแลดูขาวดังหิมะ ห้องแต่งตัวที่แสงไฟสลัว ราวกับมีระดับมากขึ้นเพราะใบหน้าอันคลาสสิกและงดงามของเธอ

ฮั่วจือหมิงมาเช้ามาก ตอนที่เจียงเซ่อเตรียมตัวเสร็จเพิ่งจะตีสี่กว่า อีกชั่วโมงเศษจึงจะเริ่มถ่ายทำอย่างเป็นทางการ เขาก็ได้เปิดม่านและเดินเข้ามาในห้องแต่งตัว

สำหรับหนังที่ฮั่วจือหมิงทุ่มเทแรงกายแรงใจไปมากถึงเพียงนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาให้ความสำคัญมาก ลงมือเองทุกอย่าง พลาดไม่ได้แม้กระทั่งรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ

ตอนที่เขาเข้ามา เจียงเซ่ออ่านบทอยู่ท่ามกลางแสงไฟพร้อมผ้าคลุมผืนหนา ตอนที่ฮั่วจือหมิงเห็นภาพนี้ใบหน้าอันเคร่งขรึมก็ผ่อนคลายขึ้นมาทันที

ตอนแรกเขาคิดว่าเจียงเซ่อคงจะถือโอกาสนี้ในการนอนหลับเพื่อพักผ่อน ไม่คิดว่าเธอยังทุ่มเทอยู่กับงาน

“จำแผนที่สถานที่ถ่ายทำได้หรือยัง”

ทันทีที่เข้ามา เขาก็ถอดถุงมือออก ถูมือและพ่นลมหายใจใส่มือ ก่อนจะถาม

ในเดือนกุมภาพันธ์ อากาศที่วั่งโจวหนาวมาก แม้ว่าเขาจะสวมถุงมือหนาเอาไว้ตลอดเวลา แต่มือคู่นั้นกลับไม่อุ่นขึ้นเลยจนตอนนี้ได้แข็งจนรู้สึกเจ็บแล้ว

เจียงเซ่อพยักหน้า “จำได้แล้วค่ะ”

ตอนที่ฮั่วจือหมิงขอความร่วมมือจากเธอ เธอก็ได้ถือโอกาสก่อนถ่ายทำอย่างเป็นทางการในการทำความคุ้นเคยกับสถานที่ถ่ายทำทั้งหมดแล้ว ระหว่างนั้นถึงขั้นที่พาโม่อานฉีมาหลายรอบ ถนนเส้นนี้เธอเดินมาแล้วนับสิบรอบและคุ้นเคยมากแล้ว

“เธอคงจะอ่านบทมาแล้ว แม้ว่าฉากนี้จะไม่มีบทพูด แต่สำคัญมาก”

ความหมายของ ‘Suspect’ เป็นเพียงผู้ต้องสงสัย แต่ไม่มีหลักฐานที่ยืนยันการทำความผิดในครั้งนี้ได้ และนี่ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เฉินซวินหรานและซูอี้ต้องเปิดศึกกันในหนังเรื่องนี้

จะแสดงออกอย่างไรให้ดูเหมือนว่าซูอี้น่าสงสัย ให้ผู้ชม ‘เชื่อ’ ว่าเธอเป็นคนฆ่า แต่กลับจับพิรุธไม่ได้เหมือนเฉินซวินหรานในเรื่อง นี่เป็นเรื่องที่เจียงเซ่อต้องฝึกฝนและทุ่มเทความพยายาม จึงจะสามารถแสดงออกตามบทประพันธ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ฮั่วจือหมิงกลัวว่าเจียงเซ่อจะไม่สามารถถ่ายทอด ‘ซูอี้’ ตามบทของเขาได้ จึงบอกแล้วบอกอีกอย่างไม่รู้เบื่อ

เปิดกล้องอย่างเป็นทางการตอนตีห้าสี่สิบนาที หลังจากช่างแต่งหน้าเติมหน้าให้เจียงเซ่อ ทีมงานก็ไปยืนประจำตำแหน่งของตนเอง

สิ่งที่เหนือความคาดหมายของเจียงเซ่อคือ ในอีกฝั่งของกล้อง เถาเฉินมาปรากฏตัวอยู่ในสถานที่ถ่ายทำแล้ว

วันนี้เธอก็มีบท แต่ไม่ใช่ในยามเช้ามืดแบบนี้ ที่ตื่นเช้ามาก็เพื่อมาดูการแสดงของเธอเท่านั้น เรื่องนี้ทำให้เจียงเซ่อแปลกใจไม่น้อย