webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

592

บทที่ 592 สัมภาษณ์พิเศษ

ซ่งอี้ไม่ได้โง่ เพียงแต่ว่าเมื่อเทียบกันแล้ว ทั้งวิธีการ การมองโลกต่างกันมากก็เท่านั้น

เถาเฉินพูดถึงขนาดนี้ แน่นอนว่าเขาต้องเข้าใจว่าเถาเฉินต้องการจะสื่ออะไร

ฉายาที่ว่า ‘เถาเฉินน้อย’ แบบนี้ ถ้าใช้ตอนที่เพิ่งเข้าวงการได้ไม่นานและเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก คงจะเป็นอาวุธสำคัญที่ทำให้นักแสดงใหม่สามารถโด่งดังได้อย่างรวดเร็ว

แต่ถ้าใช้กับเจียงเซ่อที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ก็ถือเป็นข้อจำกัดเป็นอย่างมาก ถ้าฝังลึกเข้าไปอยู่ในใจของทุกคน สำหรับเจียงเซ่อก็จะกลายเป็นข้อจำกัดในการพัฒนาไป

พูดให้ดูแย่กว่านี้ก็คือ ถ้าในอนาคตเจียงเซ่อเอาชนะเถาเฉินได้ แต่ถ้ามีฉายาแบบนี้เกิดขึ้นกับเธอ บางทีทุกครั้งที่ผู้ชมนึกถึงเธอ ก็จะนึกถึงคนที่ชื่อเถาเฉิน

“คุณเถาครับ ถ้าอย่างนั้น ทางเจียงเซ่อคงจะไม่พอใจ และทางคุณลัวก็...”

เขาเตือนเบาๆ “วันนี้การที่คุณนายโจวออกจากแผนอย่างกะทันหัน อาจจะเกี่ยวข้องกับคุณนายที่ทักทายเจียงเซ่อ...”

ภายใต้แผ่นมาสก์หน้า คิ้วของเถาเฉินขมวดเล็กน้อย ไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ก็ขัดจังหวะเขาเสียแล้ว

“ซ่งอี้ นายรู้ไหมว่าทำไมนายทำงานมาหลายปีขนาดนี้ แต่ก็ยังสู้เซี่ยเชาฉวินไม่ได้”

สิ่งที่เธอพูด แม้จะเป็นความจริง แต่ก็ทำร้ายจิตใจซ่งอี้เป็นอย่างมาก

ซ่งอี้รู้สึกอึดอัด ใบหน้าแดงก่ำ ผู้ช่วยที่อยู่รอบๆ ก้มหน้า ราวกับไม่เห็นถึงความอึดอัดของเขา

โชคดีที่บนเปลือกตาของเถาเฉินมีสำลีวางอยู่ จึงไม่เห็นสีหน้าของเขา

เขาเงียบ เถาเฉินเองก็ไม่ได้ต้องการให้เขาแสดงความคิดเห็น ที่เธอพูดแบบนี้ ไม่ได้ต้องการจะดูถูกเขา เพียงแค่ชี้ความจริงของเรื่องออกมาเท่านั้น

“ประสบการณ์เป็นตัวกำหนดวิสัยทัศน์และความคิดของนาย”

“คุณเถา...” ซ่งอี้พูดเบาๆ เถาเฉินประสานมือทั้งสองข้างเอาไว้ที่หน้าท้องและพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“ฉันเข้าใจว่านายกังวล แต่คู่แข่งของฉันไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นเชาฉวิน เจียงเซ่อและคุณลัว”

เธอต้องการให้ผู้จัดการเติบโตให้ไวกว่านี้ เพื่อช่วยตัวเอง ไม่ใช่รับค่าจ้างในฐานะผู้จัดการ แต่กลับทำงานเหมือนเป็นผู้ช่วย

“ฉันไม่รู้ว่าเจียงเซ่อกับคุณนายที่ปรากฏตัวในวันนี้เป็นอะไรกัน แต่ฉันมีตาและมีสมองที่คิดเป็น”

เถาเฉินกับเจียงเซ่อแข่งขันกันมานาน ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นวันสองวัน ก่อนหน้าที่จะมีพวกของคุณนายโจว การแย่งชิงระหว่างเธอกับเจียงเซ่อก็ดำเนินมาตลอดไม่เคยหยุด แต่กลับไม่เคยทำให้การพัฒนาของหน้าที่การงานถูกจำกัด แสดงให้เห็นว่าเจียงเซ่อมีเบื้องหลังที่เก่งกาจ แต่ ‘เบื้องหลัง’ ของเจียงเซ่อนั้นปล่อยให้หน้าที่การงานของเธอเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่มีท่าทีว่าจะเข้ามายุ่ง

จนกระทั่งพวกของคุณนายโจวเข้ามามีส่วนร่วม จึงได้มีคนยื่นมืออกมาเพื่อหยุดมันในงานเปิดตัวรถของ ELYSEES วันนี้

นั่นก็หมายความว่า ถ้าไม่มีอำนาจภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง ระหว่างเธอกับเจียงเซ่อก็จะแข่งกันด้วยความสามารถของตัวเอง การจากไปของกลุ่มคุณนายโจวในตอนท้ายเป็นการยืนยันการคาดเดานี้ของเถาเฉิน

สำหรับลัวหยิ่นที่ซ่งอี้เป็นกังวล ตั้งแต่ที่เขายอมแบ่งหุ้นส่วนให้เจียงเซ่อและเกลี้ยกล่อมให้เจียงเซ่ออยู่กับซื่อจี้หยินเหอ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าความยุติธรรมในบริษัทได้กลายเป็นอยุติธรรมไปแล้ว

บางทีสิ่งที่ทางบริษัทต้องการ คือการใช้ผลประโยชน์ครั้งสุดท้ายของเธอในการปูทางให้เจียงเซ่อ แล้วค่อยย้ายตำแหน่งนักแสดงหญิงอันดับหนึ่งของหัวเซี่ยจากเธอไปให้เจียงเซ่อแทน พอสำเร็จแล้วเธอก็ต้องถอยออกไป

ไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีการแย่งชิง

ทางบริษัทพอใจ แต่เธอกลับไม่พอใจ

“สิ่งที่ฉันพูดเมื่อกี้ นายกลับไปคิดดูให้ดี แล้วไปจัดการเรื่องที่ฉันสั่งก่อนหน้านี้ให้สำเร็จ”

“…” ซ่งอี้อึ้งไปครู่ใหญ่ ก่อนจะตอบกลับเบาๆ ว่า “ได้ครับ”

แม้ทางบริษัทจะกำหนดว่าช่วงเวลาครึ่งปีนี้เจียงเซ่อห้ามมีความเคลื่อนไหวประการใด กฎเป็นของตาย แต่คนนั้นมีชีวิต

อีกประการหนึ่ง เถาเฉินเป็นคนทำผิดกฎก่อน ถ้าเจียงเซ่อทำผิดบ้าง ทางบริษัทก็คงทำอะไรเธอไม่ได้

หลังจากเซี่ยเชาฉวินสัมผัสได้ว่าคำพูดของเถาเฉินในวันนี้เหมือนมีความหมายแอบแฝง ก็รีบติดต่อกับนักข่าวของ ‘หัวเซี่ยจือซวิ่น’ เสนอให้พวกเขาทำรายการสัมภาษณ์พิเศษของเจียงเซ่อและกำหนดหัวข้อข่าว

ในวงการบันเทิง หัวเซี่ยจือซวิ่นเป็นสื่อที่มีอิทธิพลมากที่สุด เรทติ้งในทุกๆ ปี ล้วนเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ

ตอนที่พวกเขาได้รับข้อเสนอจากเซี่ยเชาฉวิน แทบจะไม่อยากเชื่อว่าเป็นความจริง หลังจากยืนยันกับเซี่ยเชาฉวินหลายต่อหลายครั้ง ก็กำหนดวันสัมภาษณ์เป็นช่วงเย็นมะรืนนี้

ในด้านเวลาอาจจะเร่งรีบไปเสียหน่อย แม้ทางหัวเซี่ยจือซวิ่นจะแปลกใจที่เซี่ยเชาฉวินเข้ามาเสนอว่าอยากให้สัมภาษณ์เจียงเซ่อด้วยตัวเอง แต่ยังไงก็ตาม สำหรับนักแสดงที่มีชื่อเสียงอย่างเจียงเซ่อ ทุกการเคลื่อนไหวล้วนเป็นที่สนใจและเป็นประเด็นของประชาชนในหัวเซี่ย

ข่าวเกี่ยวกับเธอ แทบจะเป็นประเด็นฮอตได้ทั้งหมด ทุกครั้งที่มีผลงานแบรนด์แอมบาสเดอร์และหนัง ล้วนมีอิทธิพลต่อทุกคนเป็นอย่างมาก

ถ้าเธอยอมให้สัมภาษณ์ นักข่าวที่อยากให้โอกาสนี้ อาจจะโจมตีเข้ามาหาที่ซื่อจี้หยินเหอ พวกเขาจึงแปลกใจมากที่เซี่ยเชาฉวินเข้ามาเสนอด้วยตัวเอง แต่หลังจากหัวหน้าบรรณาธิการของหัวเซี่ยจือซวิ่นคิดทบทวนดูแล้ว ก็ยังคงตัดสินใจว่าจะยืมตัวเซิ่งจิ้งจือพิธีกรจากรายการ ‘คนดังนั่งคุย’ ของช่องหัวเซี่ย มาสัมภาษณ์เจียงเซ่อด้วยตัวเอง

ทุกคนต่างรู้กันดีว่า เจียงเซ่อเข้าวงการจากหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ตอนอายุสิบเจ็ด จนตอนนี้ก็เจ็ดแปดปีมาแล้ว แต่กลับใช้ชีวิตอย่างสงบเสงี่ยม ทุกคนนอกจากคุ้นเคยกับผลงานของเธอแล้ว สำหรับการใช้ชีวิตในด้านอื่นๆ ของเธอ กลับน้อยมากที่จะได้เห็น

เจียงเซ่อเองก็ไม่ค่อยให้สัมภาษณ์ส่วนตัว ของหายากมักมีคุณค่า โอกาสที่ปกติอยากได้ยังไงก็ไม่มีทางได้ กลับได้มาครอบครองอย่างน่าเหลือเชื่อ หลังจากทางหัวเซี่ยจือซวิ่นเจรจากับเซี่ยเชาฉวินและกำหนดวันเวลาเสร็จแล้ว ก็พลันรู้สึกเหมือนถูกโชคลาภชิ้นใหญ่ตกใส่

พอเซี่ยเชาฉวินตัดสินใจดังนี้ โม่อานฉีและทุกคนก็ยุ่งขึ้นมาทันที

การสัมภาษณ์ที่ดูเหมือนจะธรรมดานี้ เพราะเวลาถูกกำหนดให้กระชั้นชิดมากเกินไป นอกจากต้องรีบปล่อยข่าวล่วงหน้า ตั้งประเด็น ดึงดูดความสนใจของผู้ชมแล้ว ยังต้องเตรียมคำถามเอาไว้ล่วงหน้าด้วย

แนวคำถามการถามตอบ ทั้งสองฝ่ายก็ต้องเตรียมให้เรียบร้อย สถานที่สัมภาษณ์ถูกกำหนดให้อยู่ที่สำนักงานใหญ่ของหัวเซี่ยจือซ่วิ้น วันนั้นห้องอัดให้เตรียมเอาไว้เพื่อเจียงเซ่อเพียงนเดียว ตารางงานทั้งหมดที่วางไว้ล้วนถูกเลื่อน เป็นเพราะอิทธิพลจากนักแสดงหญิงแถวหน้าของหัวเซี่ย และเป็นสิ่งที่เถาเฉินหวังมาโดยตลอด

การสัมภาษณ์และการถ่ายทอดสดได้ถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แฟนคลับของเจียงเซ่อในหัวเซี่ยและต่างประเทศ ล้วนจะได้เห็นภาพนี้โดยพร้อมเพรียงกัน ขอเพียงแค่คนที่ติดตามเธออยากจะดูเท่านั้น

หลังจากเสร็จจากงานเปิดตัวของ ELYSEES ในขณะที่นักข่าวต่างลงข่าวที่เถาเฉินและเจียงเซ่อจะร่วมกันในหนังของฮั่วจือหมิง หน้าเพจของหัวเซี่ยจือซวิ่นล้วนเป็นข่าวเกี่ยวกับเจียงเซ่อ ‘เจียงเซ่อ ความโชคดีเพียงหนึ่งเดียวของคนในยุคนี้ นักแสดงที่เป็นหนึ่งไม่มีสอง จะมาพบกับคุณหนึ่งทุ่มตรงในวันที่ยี่สิบเจ็ด พบกันแน่นอน’

หลังจากเหอฉงเห็นถ่ายทอดสดงานเปิดตัวของ ELYSEES แล้ว ก็นัดกับเพื่อนสาวที่ร้านกาแฟร้านหนึ่งในตลาดสือไต้เทียนเจีย ท่ามกลางกลิ่นกาแฟที่หอมกรุ่น สองสาวต่างถือโทรศัพท์เอาไว้และเลื่อนดูข่าว

ตั้งแต่โฆษณา leopard ที่เจียงเซ่อเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ถูกเปิดตัว เหอฉงก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เจียงเซ่อเหมือนเหมือนเกิดมาเพื่ออยู่บนจอ ไม่ว่าเธอในอยู่ในงานแบรนด์แอมบาสเดอร์หรือหนังก็ล้วนมีเสน่ห์ที่ยากจะอธิบาย

เพื่อนสาวเห็นข่าวที่หัวเซี่ยจือซวิ่นอัปเดตเป็นคนแรก เธอจึงตะโกนเรียก

“เหล่าเหอ”

ในขณะที่พูดก็โน้มตัวไปข้างหน้า ยื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้าเหอฉง เพื่อให้เธอดู

“นี่อะไรน่ะ”

เธอคลิกเข้าไปในหัวข้อที่น่าดึงดูดเป็นอย่างมาก สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือตัวเลขที่กำลังนับถอยหลัง และนั่นก็เป็นช่องทางเข้าสู่การถ่ายทอดสด เพียงแค่ตอนนี้ยังไม่มีเนื้อหาก็เท่านั้น

ข้างล่างมีตัวอักษรแถวหนึ่งที่แนะนำโฆษณานี้ ‘สัมภาษณ์พิเศษของเจียงเซ่อ’

คนที่เข้ามาพร้อมกันนี้ ยังมีชาวเน็ตมากมายที่ค้นพบช่องทางนี้ ตอนที่เพื่อนสาวเห็นหัวข้อนี้ หัวเซี่ยจือซวิ่นคงจะเพิ่งสร้างหัวข้อนี้เสร็จไม่นาน ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ไม่ถึงห้านาที ก็มีผู้เข้าชมมากกว่าหนึ่งแสนคนและในกล่องแสดงความคิดเห็นก็มีความคิดเห็นปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เลื่อนจนตาลาย

โทรศัพท์ของเพื่อนสาวเพิ่งจะกดเข้าไป พอเปิดหน้าเว็บขึ้นมา เธอก็ถึงกับเบิกตาโต

“คนเยอะมาก”

ยังไม่มีอะไรเลยแท้ๆ มีเพียงแค่หัวข้อ ก็ทำให้แฟนคลับของเจียงเซ่อและชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยต่างเข้ามาอย่างต่อเนื่องแล้ว

รู้เลยว่า ตอนที่เจียงเซ่อปรากฏตัวในถ่ายทอดสดจริงๆ จะเกิดความฮือฮาและตื่นเต้นดีใจมากเพียงใด

ด้านบนแสดงตัวเลขว่าอีกสี่สิบห้าชั่วโมงจะถ่ายทอดสด สำหรับเพื่อนสาวแล้ว ทุกวินาทีล้วนผ่านไปอย่างเชื่องช้า เธออดยื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้าเหอฉงไม่ได้

“นี่มันอะไรกัน งานก็เธอก็เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อยู่บ้างนี่ เธอไม่ได้ข่าวอะไรเลยเหรอ”

เหอฉงส่ายหน้าและรู้สึกแปลกใจเช่นกัน เธอเองก็เปิดโทรศัพท์ของตัวเอง เข้าเว็บเดียวกันกับเพื่อนสาว แต่กลับไม่มีข่าวอะไรเลย

แต่เธอเดาว่า ในเมื่อข้างบนบอกว่าเป็นการสัมภาษณ์พิเศษของเจียงเซ่อ ก็คงจะเป็นหัวข้อที่สัมภาษณ์เจียงเซ่อ แต่ว่า วิธีการแบบนี้ อาจจะมีการเปิดเผยเรื่องส่วนตัวของเจียงเซ่อก็ได้

เพื่อนสาวได้ยินดังนี้ ก็พูดด้วยความดีใจ

“ยอมเปิดเผยอะไรบ้างแล้วเหรอ ปกติการจะเจอเธอไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากเห็นในหนัง โฆษณา ก็มีแค่ในข่าวช่วงโปรโมทหนัง”

ทั้งสองต่างตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แม้ทั้งสองจะปฏิเสธและไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นแฟนคลับของเจียงเซ่อ แต่ต่างก็ติดตามข่าวของเธอ เวลาพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับนักแสดงหญิงในวงการบันเทิง ส่วนมากก็วนเวียนอยู่กับเรื่องของเจียงเซ่อ

หนังทุกเรื่องของเธอ ทั้งสองล้วนนัดกันไปดูตั้งแต่รอบแรกที่ฉายและวิจารณ์เนื้อหาของหนังด้วยกัน

ก่อนหน้านี้เรื่องที่ทั้งสองคุยกันคือเรื่องที่เจียงเซ่อและเถาเฉินจะร่วมงานกันในหนังเรื่อง ‘Suspect’ ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นเรื่องการสัมภาษณ์พิเศษของเจียงเซ่อและการจัดการเวลา ตั้งแจ้งเตือนในโทรศัพท์เอาไว้ล่วงหน้าไปแล้ว

ทั้งสองคาดเดาถึงประเด็นที่เจียงเซ่อจะพูดถึงในวันนั้น เดาว่าเธอจะใส่ชุดอะไร เครื่องประดับอะไร ยิ่งพูดก็ยิ่งตื่นเต้น ก่อนกลับ เพื่อนสาวยังคงเตือนเหอฉงซ้ำว่า

“ถึงวันนั้นอย่าลืมจัดคิวงานให้ว่าง ฉันจะไปบ้านเธอ ไปดูถ่ายทอดสดในครั้งนี้กับเธอ!”

เหอฉงโบกมือหลายที แสดงความหมายว่า ‘ไม่ต้องห่วง’

ด้านหลังเวทีหัวเซี่ยจือซวิ่น ตอนนี้ได้เตรียมความพร้อมแล้ว

ข่าวที่ว่าเจียงเซ่อจะไปเป็นแขกรับเชิญพิเศษของหัวเซี่ยจือซวิ่น หลังจากทางหัวเซี่ยจือซวิ่นได้เผยแพร่ออกมาเป็นที่แรก สื่อต่างๆ เองก็เผยแพร่ข่าวนี้อย่างรวดเร็ว

ทั้งในเวยป๋อ ทวิตเตอร์และเว็บไซต์ใหญ่ๆ ต่างเผยแพร่ข่าวนี้กันอย่างต่อเนื่อง ชาวเน็ตที่เข้ามาอ่านมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวเลขที่แสดงอยู่ข้างหลังมากขึ้นจนถึงขั้นที่ไม่สามารถกวาดมองด้วยสายตาได้ เพียงไม่นานก็มากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมก่อน

เพียงแค่ชาวเน็ตที่กดติดตามการถ่ายทอดสดในครั้งนี้ก็มาถึงสิบล้านคนแล้ว นี่ยังเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น

กระแสที่เจียงเซ่อจะมีสัมภาษณ์พิเศษในคืนวันที่ยี่สิบเจ็ดได้กลบข่าวที่ว่าจะร่วมงานกับเจียงเซ่อที่เถาเฉินเป็นคนเปิดเผยออมาด้วยตัวเองในงานเปิดตัวของ ELYSEES ไปแล้ว

บรรณาธิการของหัวเซี่ยจือซวิ่นได้มาดูแลเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เขาเดาออกตั้งแต่แรกแล้วว่าข่าวนี้จะต้องเป็นข่าวหน้าหนึ่ง แต่เขาคิดไม่ถึงว่าข่าวที่ว่า ‘เจียงเซ่อจะมาร่วมสัมภาษณ์พิเศษกับหัวเซี่ยจือซวิ่น’ จะได้รับผลตอบรับมากถึงเพียงนี้

อย่างไรก็ตาม เวลาในการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ถูกกำหนดอย่างกระชั้นชิดมาก ไม่ทันได้ปล่อยข่าวออกมาก่อนเป็นเดือนเพื่อสร้างกระแส การตัดสินอย่างเร่งด่วนในครั้งนี้ เพราะมีชื่อ ‘เจียงเซ่อ’ จึงอาจจะดึงดูดแฟนคลับของเธอได้ แต่ไม่มีใครคิดถึงว่าเจียงเซ่อจะมีอิทธิพลมากถึงเพียงนี้

ยอดคนดูยังคงมากขึ้นเรื่อยๆ บรรณาธิการเข้ามาสั่งการด้วยตัวเอง ขอให้ภายในสองวันนี้ ทีมเทคนิคจะต้องควบคุมการขนย้ายของอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และจะต้องตรวจเช็คสถานที่สัมภาษณ์ให้แน่ใจ การติดต่อกับทางเซิ่งจิ้งจือก็ราบรื่นเป็นอย่างมาก

การเชิญเซิ่งจิ้งจือมาเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่หลังจากที่เซิ่งจิ้งจือรู้ว่าเป็นการสัมภาษณ์พิเศษของเจียงเซ่อก็รีบรับปากอย่างไม่ลังเล

เขาเคยสัมภาษณ์เจียงเซ่อมาสองครั้ง ครั้งแรกตั้งแต่ก่อนที่เจียงเซ่อจะมีชื่อเสียง และครั้งที่สองหลังจากเจียงเซ่อมีชื่อเสียง การวางตัวของเธอก็ยังคงเหมือนเดิม ทำให้เซิ่งจิ้งจือประทับใจในตัวเจียงเซ่อเป็นอย่างมาก รวมทั้งชื่อเสียงของเธอโด่งดัง โอกาสที่จะได้สัมภาษณ์เธอแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เซิ่งจิ้งจือไม่สามารถพลาดได้ไม่ว่าจะเป็นเพราะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว

ผู้ติดตามการถ่ายทอดสดมากขึ้นเรื่อยๆ ความคิดเห็นก็ได้มากกว่าหนึ่งล้านไปแล้ว ในที่สุดก็ถึงวันที่ยี่สิบเจ็ด

เจียงเซ่อได้มาถึงสำนักงานของหัวเซี่ยจือซวิ่นตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อเตรียมซ้อมบล็อกกิ้ง

คำถามและคำตอบที่เป็นประเด็นหลักทั้งสองคุยกันแทบจะทั้งหมดแล้ว สิ่งที่ไม่สามารถถามได้ก็ถูกตัดออกตั้งแต่แรก เธอกับเซิ่งจิ้งจือก็ถือเป็นคนที่คุ้นเคยกันแล้ว ทั้งสองล้วนเป็นคนฉลาด เพราะฉะนั้นประเด็นที่จะคุยกันในวันนี้ นอกจากคำถามที่ทีมงานเตรียมไว้ให้แล้ว ส่วนมากทั้งสองก็คิดเอง

สำหรับเรื่องที่ว่า ในรายการจะมีบรรยากาศอันน่าอึดอัดเกิดขึ้นอย่างกะทันหันหรือไม่นั้น จนถึงตอนนี้ก็ทำได้เพียงแค่ทำให้ดีที่สุด

เวลาเตรียมตัวน้อยมาก เซี่ยเชาฉวินให้เวลาเพียงแค่สองวันและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพื่อให้ได้โอกาสสัมภาษณ์นี้ หัวหน้าบรรณาธิการของหัวเซี่ยจือซวิ่นจึงต้องยอม

หวังเพียงแค่ว่าเซิ่งจิ้งจือจะสามารถควบคุมสถานการณ์ให้ดีที่สุด ที่เหลือก็แล้วแต่ชะตาฟ้าลิขิต

เหอฉงรู้สึกว่าวันนี้เวลาผ่านไปช้ามาก เธอทำงานเสร็จตั้งแต่เช้าแล้ว พอถึงเวลาเลิกงาน เธอกลับไปถึงบ้าน รีบอาบน้ำก่อนเป็นอันดับแรก และเตรียมขนมเอาไว้ ตอนที่เพื่อนสาวมาถึงก็เพิ่งจะห้าโมงครึ่ง ส่วนเพื่อนก็เอาของใช้ส่วนตัวมาด้วย แสดงให้เห็นว่าคืนนี้หลังจากดูถ่ายทอดสดของเจียงเซ่อจบ จะนอนบ้านเธอ

ผู้หญิงคนนี้ได้ทานอาหารมาจนอิ่มแล้ว เชื่อมต่อหน้าจอทีวีกับคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันจากนั้นก็คลิกเข้าไปที่ถ่ายทอดสด หลังจากทำทั้งหมดนี้เสร็จอีกครึ่งชั่วโมงจะหนึ่งทุ่ม

ครึ่งชั่วโมงนี้เป็นช่วงเวลาที่ทรมานมาก หน้าจอโทรศัพท์ของทั้งสองมีคนเข้ามานับถอยหลังในช่องแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง

อีกสามสิบนาที...

อีกยี่สิบแปดนาที

อีกยี่สิบห้านาที...

อีกสิบนาที...

……

ในที่สุดตอนที่ถึงหกโมงห้าสิบเก้านาที ไม่รู้ว่าเพราะตื่นเต้นหรือเหตุผลอะไร ทำให้เหอฉงจัดท่าทางการนั่งให้ดีไปตามสัญชาตญาณและหยุดสายตาลงบนหน้าจอโทรทัศน์