webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

575

บทที่ 575 อุดมการณ์เดียวกัน

เจียงเซ่อนั่งลงไปแล้ว หลิวเย่ยังคงก้มหน้ามองเธอ จนกระทั่งเธอทัก

“พี่หลิว”

จนกระทั่งเธอมองไปยังกระเป๋าของตนเอง หลิวเย่จึงได้สติ แล้วยืนกระเป๋าของเจียงเซ่อกลับคืนไป

เธอขอบคุณ แต่หลิวเย่ก็ยังคงมองดูเธออย่างพิจารณา สีหน้าของเขาเหมือนเพิ่งรู้จักเธอครั้งแรก ทำให้เจียงเซ่ออดยิ้มไม่ได้

“พี่หลิว เป็นอะไรไปคะ”

“เซ่อเซ่อ เธอเคยคิดหรือเปล่าว่า การกระทำของเธอในคืนนี้ คงจะยากที่จะรักษาภาพปรองดองกับเถาเฉินได้อีก”

คืนนี้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น คนที่เห็นกับตาล้วนรู้สึกได้แล้วว่าผิดปกติ

เถาเฉินจงใจปั่นราคาของโน้ตเปียโนให้สูงขึ้น จนทำให้เจียงเซ่อต้องเสียเงินห้าล้านเพื่อที่จะได้ครอบครองมัน ตอนแรกอยากจะเล่นงานเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าท้ายที่สุดแล้วเจียงเซ่อกลับเอาของร้อนนี้ส่งกลับคืนมาให้เธอ

เจียงเซ่อไม่เพียงแค่ไม่ตกหลุมพราง แต่คนที่เห็นกับตาก็ล้วนดูออกว่าทั้งสองขัดแย้งกัน

ตอนที่หลิวเย่พูดแบบนี้ เจียงเซ่อเพียงแค่ยิ้มแต่ไม่ตอบกลับ เมื่อเห็นท่าทางอันเคร่งขรึมของเขา และนึกถึงคำเตือนของเขาก่อนหน้านี้ เธอจึงพูดว่า

“ความจริงระหว่างฉันกับคุณเถาก็ไม่ได้เป็นเพื่อนกันอยู่แล้วล่ะค่ะ” แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องไปอดทนรักษาความสัมพันธ์อันจอมปลอมกับเถาเฉิน

“เธอไม่กลัวว่าจะล่วงเกินเถาเฉินเข้าเหรอ” หลิวเย่เข้าใจสิ่งที่เธอต้องการจะสื่อ พลันยกคิ้วขึ้น เห็นได้ชัดว่าสงสัยที่เธอยอมพูดออกมาตรงๆ

เจียงเซ่อเอียงหัว

“ไม่กลัวค่ะ” หางตาของเธอเห็นโม่อานฉีที่แอบมองเธออยู่ตรงทางเดินชูนิ้วโป้งชื่นชมเธอ เจียงเซ่อจึงเผยรอยยิ้มออกมา

“เพราะไม่ว่าจะทำให้ไม่พอใจหรือเปล่า ผลลัพธ์ก็เหมือนๆ กัน”

ความจริงตั้งแต่ตอนที่เซี่ยเชาฉวินเลือกเธอและตัดขาดจากเถาเฉิน เธอและเถาเฉินก็ถูกกำหนดไว้แล้วว่าไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้อีก

รวมทั้งชื่อเสียงที่มากขึ้นของเธอ ได้ส่งผลกระทบต่อเถาเฉินไปแล้ว ทั้งยังได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ ELYSEES จนกลายเป็นคู่แข่งของเถาเฉินไปแล้วด้วย

แม้ว่าตนเองจะอดทน แกล้งเอาหูไปนาเอาตาไปไร่แค่ไหน เถาเฉินเองก็ไม่มีทางปล่อยเธอเอาไว้ เหตุการณ์ในคืนนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด

เมื่อเทียบดูแล้ว ตอกกลับอย่างเด็ดเดี่ยวไปเลยจะดีกว่า

หลิวเย่ได้ยินคำพูดแบบนี้จากเธอสายตาก็เปลี่ยนไป ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาจึงหันไปมองอีกฝั่งของงาน

ผู้จัดการและผู้ช่วยของดารามากมายล้วนยืนอยู่มุมนั้น ข้างๆ หยางป๋อซีก็คือเซี่ยเชาฉวินนั่นเอง

ในมุมๆ นั้นไม่ได้มีแสงไฟ แต่ว่า หลิวเย่ก็มองเห็นเซี่ยเชาฉวินตั้งแต่แวบแรกที่มองไป เธอสวมชุดสูทสีดำ ร่างอันสูงโปร่งในบรรดาผู้จัดการถือว่าโดดเด่นมาก

เซี่ยเชาฉวินเป็นคนสูง ไม่ได้ผอมแห้งเหมือนดารา แต่ว่า เธอกลับสามารถทำให้ชุดสูทสวยได้ในแบบของเธอ

เธอเอามือล้วงกระเป๋า แม้ว่าจะยังไม่ได้พูดอะไรก็ดูเท่มากแล้ว

ในเทศกาลหนังฝรั่งเศสก่อนหน้านี้ เธอก็ไปออกงานกับเจียงเซ่อ ตอนนั้นผมเธอยังสั้น แต่ว่า สองเดือนนี้อาจจะยุ่งมาก ผมของเธอจึงเริ่มยาวขึ้นมาก จนเลยหูลงมา แต่กลับถูกเธอรวบเอาไว้ ทำให้เห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน

ไม่ได้เป็นผู้หญิงที่น่าเย้ายวน แต่ก็เป็นคนที่เป็นตัวของตัวเองมากทีเดียว

ความใจเย็นและความมั่นใจที่แสดงออกทางใบหน้าและแววตา หลิวเย่รู้จักเธอมานานหลายปีแล้วรู้เป็นอย่างดีว่านิสัยของผู้หญิงคนนี้เข้มแข็งมากเพียงใด

เธอเหมือนเหล็ก แต่ก็ไม่ใช่เหล็กธรรมดาๆ ที่สามารถหลอมละลายลงได้ด้วยด่านทดสอบนับร้อยที่เข้ามา แต่เป็นประเภทยิ่งผ่านการเคี่ยวกรำก็ยิ่งแข็งแกร่ง

เมื่อเปรียบเทียบกันดูแล้ว รูปลักษณ์ภายนอกของเจียงเซ่อกับเธอไม่เหมือนกันเลย เจียงเซ่อสวยกว่า เป็นใบหน้าที่คู่ควรกับหน้าจอทีวี ได้รับเสียงปรบมือและดอกไม้จากผู้ชม

หลิวเย่คิดมาตลอดว่า ที่เจียงเซ่อได้รับการชื่นชมจากเซี่ยเชาฉวินและสนับสนุนอย่างสุดความสามารถแบบนี้ นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกของเธอแล้ว ยังเป็นเพราะความพยายามและความมุ่งมานะของเธอเองด้วย

แต่ว่า เขาเพิ่งค้นพบว่า เขาคิดผิด

การกระทำในคืนนี้ของเจียงเซ่อ นอกจากเป็นการยืนยันว่าไม่ว่าภายนอกเธอจะดูอ่อนโยนมากเพียงใด แต่ลึกๆ แล้ว เธออาจจะเป็นเหมือนเซี่ยเชาฉวินที่มีจิตใจอันแข็งแกร่ง จิตใจที่แข็งแกร่งนี้ ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูอ่อนโยน

เมื่อก่อนเขาเห็นเจียงเซ่อเป็นแมว ตอนนี้เพิ่งพบว่าตนเองมองเธอผิดไปเสียแล้ว

“เหมือนฉันจะเข้าใจแล้วว่า ทำไมเชาฉวินถึงชอบเธอ”

หลิวเย่พูดเบาๆ เจียงเซ่อยกมุมปากหลายทีและเงียบไป

หลังจากเสร็จจากการประมูล งานเลี้ยงหลังจากนั้นก็สงบขึ้นมาก แต่ว่า ทุกคนในงานยังคงคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เพียงแค่ยังไม่มีคนพูดถึงต่อหน้าผู้จัดงานและทั้งสองฝ่ายที่เป็นคนสร้างข่าวนี้ขึ้นมาก็เท่านั้น

หลังจากจบงานเลี้ยงการกุศล เซี่ยเชาฉวินเดินก้าวเท้ายาวเข้ามา สั่งโม่อานฉีให้ขับรถไปส่งเจียงเซ่อที่บ้านก่อน

หลังจากวันนี้อาจจะมีนักข่าวจำนวนมากอยากสัมภาษณ์เจียงเซ่อและตอนนี้เจียงเซ่อยังไม่ควรพูดอะไร

การกระทำของเธอทำได้หมดจดกว่าคำพูดเป็นไหนๆ โอกาสในการถูกนักข่าวรุมล้อมแบบนี้นั้น ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเถาเฉินผู้เสียหายจนไม่เหลือสภาพเป็นคนคิดหาคำอธิบายเสียมากกว่า

เจียงเซ่อเองก็รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไง จึงทำตามแผนของเซี่ยเชาฉวิน หลังจากออกจากทางลัดที่ทางฝ่ายผู้จัดงานเปิดให้ ก็กลับไปพร้อมโม่อานฉีก่อน แน่นอนว่าเซี่ยเชาฉวินมีวิธีการเอาตัวรอดของเธอ หลังจากเธอออกมาได้ก็จะกลับไปที่บ้านเจียงเซ่อ เพื่อหารือเรื่องนี้กับเธออีกที

กว่านักข่าวจะรู้ตัวว่าเจียงเซ่อออกไปแล้ว รถที่เจียงเซ่อนั่งก็ออกจากงานไปเรียบร้อยแล้ว

เถาเฉินถูกจับจ้องเอาไว้ จนถึงตอนนี้ไม่สามารถปลีกตัวออกไปไหนได้อีก

บวกกับเรื่องคืนนี้ที่เธอได้รับต้นฉบับที่เจียงเซ่อซื้อในมูลค่า ‘ห้าล้าน’ ถ้าไม่นับเรื่องนี้ หัวข่าวของวันพรุ่งนี้ก็คงจะน่าติดตามเป็นอย่างมาก

เพราะฉะนั้น แม้ว่าเธอจะไม่ชอบใจมากเพียงใด แต่ก็ต้องเก็บเอาไว้ ปล่อยให้คำถามจากนักข่าวรุมล้อมเธอไว้

ตอนที่เจียงเซ่อกลับถึงบ้านก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว ระหว่างนั้นเธอได้รับโทรศัพท์จากเผยอี้และเฝิงจงเหลียง

เห็นได้ชัดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงการกุศล ทั้งสองคงจะรู้แล้ว

หลังจากปลอบใจเผยอี้ที่คิดว่าตนเองโดน ‘กลั่นแกล้ง’ เสร็จแล้ว เจียงเซ่อก็ล้างเครื่องสำอาง อาบน้ำและเดินออกมา ก็พบว่าเซี่ยเชาฉวินอยู่ในบ้านแล้ว

โทรทัศน์ในห้องรับแขกถูกเปิดเอาไว้ ซึ่งก็คือการสัมภาษณ์ของเถาเฉินหลังจากเสร็จจากงานเลี้ยงการกุศลนั่นเอง

ตอนที่เจียงเซ่อเดินออกมา ใบหน้าของผู้ช่วยหลายคนล้วนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น สายตาของเซี่ยเชาฉวินจับจ้องบนโทรทัศน์อย่างไม่ละสายตา

ต้องบอกเลยว่า เถาเฉินเป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็งมาก เรื่องในวันนี้เธอถูกเจียงเซ่อเล่นงานกลับต่อหน้าคนมากมายขนาดนั้น ควรจะเป็นเรื่องที่เสียหน้ามากแท้ๆ แต่ว่า ตอนที่เธอถูกนักข่าวล้อมไว้ ก็ถือว่าสงบนิ่งมากทีเดียว หล่อนเผชิญหน้ากับกล้องด้วยท่าทางเปิดเผย ราวกับเรื่องการประมูลที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยที่ไม่มีค่าอะไรให้พูดถึง

เธอถือไมโครโฟนหลายอันเอาไว้และเผชิญหน้ากับทุกคำถามของนักข่าวอย่างคนมีประสบการณ์ แสดงความดีใจ ตอนที่ได้รับ ‘ของขวัญ’ จากเจียงเซ่อในคืนนี้

“ระหว่างฉันกับคุณเจียง ถือว่ามีวาสนาร่วมกันมากจริงๆ ค่ะ เพราะต่างก็เลือกซื่อจี้หยินเหอและมีเซี่ยเชาฉวินเป็นคนพาเข้าวงการ ทั้งยังได้ร่วมงานกับผู้กำกับเชี่ยเหมือนกัน ตอนนี้ยังมีความชอบเหมือนๆ กันอีก ตอนเห็นต้นฉบับของ Amadeus ถึงได้ประมูลอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น”