webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

568

บทที่ 568 โอกาส

เซี่ยเชาฉวินพูดถึงตรงนี้ พลันหยุดไปครู่หนึ่ง

“ฉันว่าคุณชายเผยของเธอคงจะรู้ว่า รถยี่ห้อนี้มีรุ่นใหม่ออกมาหลายปีครั้ง เพราะฉันรู้จักกับ Piech เป็นการส่วนตัวจึงรู้ล่วงหน้าโดยบังเอิญว่า รถรุ่นต่อไปของเขาได้ตั้งชื่อเอาไว้แล้ว”

ปลายปากกาของเธอ จุดลงบนโต๊ะเบาๆ ทีหนึ่ง ส่งเสียง ‘กึก’

“leopard”

เธอยกมุมปาก “งานโฆษณารถรุ่นใหม่ที่ชื่อ leopard ที่ ELYSEES เปิดตัว ไม่ได้ขัดแย้งกับที่เถาเฉินเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อยู่”

เพียงแต่ว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้ชมในหัวเซี่ยหรือตัวเถาเฉินเองต่างก็รู้สึกว่า สำหรับ ELYSEES แล้ว แบรนด์แอมบาสเดอร์ควรจะมีเพียงคนเดียว “ความคิดแบบนี้จะต้องถูกทำลายลงในสักวัน ตอนนี้เพียงแค่จะทำให้มันเร็วขึ้นเท่านั้น”

“พี่เชาฉวินคิดว่าโอกาสที่ฉันจะได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์มีสูงไหมคะ”

เจียงเซ่อมองตารางงานของตนเองแวบหนึ่ง ตารางเดือนมิถุนายนเพียงแค่เว้นเอาไว้ชั่วคราวเท่านั้น ก่อนหน้านี้ตนเองยังไม่เคยได้ยินเธอพูดถึง อาจจะเพราะเป็นเธอยังไม่ได้ตัดสินใจ และยังไม่ได้ปรึกษากับทางซีเหวินและ ‘เซียนหยวน’

ด้วยนิสัยของเซี่ยเชาฉวินแล้ว ถ้าเธอสามารถพูดออกมาได้ว่า ‘มีความเป็นไปได้สูงมาก’ อาจจะเป็นเพราะเธอมั่นใจหรือเจรจาเกี่ยวกับโฆษณานี้ไว้ในระดับหนึ่งแล้ว

แม้ว่าตอนนี้เถาเฉินจะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ ELYSEES มาเป็นสิบปีแล้ว สำหรับหลายๆ คน เธอได้กลายเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมส่วนหนึ่งของ ELYSEES ไปแล้ว

“อืม”

เซี่ยเชาฉวินพยักหน้า เจียงเซ่อพูดออกมาอย่างไม่ทันได้คิดว่า

“เพราะอะไร”

อย่างที่โม่อานฉีบอก หลิวเย่ที่ตอนนั้นอยากได้ตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ ELYSEES ท้ายที่สุดยังต้องพ่ายแพ้กลับไป ไม่สามารถแบ่งงานในมือของเถาเฉินได้สำเร็จ เพราะเหตุใดตอนนี้เซี่ยเชาฉวินกลับคิดว่าสามารถแย่งงานจากมือเถาเฉินมาได้

เซี่ยเชาฉวินไม่ตอบเธอ พลันเปลี่ยนเรื่อง

“ฉันจำได้ว่า ตอนนั้นคุณชายเผยอี้ของเธอกับเพื่อนอีกหลายคนขับรถรถสปอร์ตที่ฝรั่งเศส จนทำให้ทางตำรวจแตกตื่นกันนี่ใช่ไหม”

คำพูดของเธอ ทำให้เจียงเซ่อคิดออกทันที

ตอนนั้นเธอเพิ่งเกิดใหม่ได้นาน เผยอี้และพวกของเนี่ยต้านแข่งรถที่ฝรั่งเศส จนเป็นเรื่องใหญ่ สุดท้ายทางตำรวจเข้ามาขัดขวาง ถึงขั้นมีการใช้เฮลิคอปเตอร์ ในตอนนั้นจึงตกเป็นข่าว เรื่องราวโกลาหลมากขึ้น แม้กระทั่งในประเทศยังมีการเผยแพร่ข่าวนี้

แต่ทว่า พอคิดทบทวนดูให้ดีแล้ว นี่ก็เป็นเรื่องเมื่อหกเจ็ดปีที่แล้ว เพราะเนื้อหาข่าวมีการพูดขึ้นเผยอี้ สุดท้ายข่าวเลยถูกปิดไป หลังจากถูกเผยแพร่ออกมาได้ไม่นานก็หายเงียบ แล้วก็ถูกข่าวอื่นกลบไปในที่สุด

เรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่คนที่ให้ความสนใจอย่างเจียงเซ่อ คนปกติไม่แน่ใจว่าจะจำได้หรือไม่

ตอนที่เซี่ยเชาฉวินพูดถึงเรื่องนี้ เจียงเซ่อยังอุตส่าห์หันมองโม่อานฉีและผู้ช่วยอีกสองคนที่อยู่ในบ้านด้วย สีหน้าของทุกคนต่างดูมึนงง เห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจว่าเซี่ยเชาฉวินหมายถึงอะไร

และนี่ก็เป็นการยืนยันความจำที่ดีผิดปกติของเซี่ยเชาฉวิน เรื่องเล็กๆ ที่ไม่มีความสำคัญแบบนี้ เพียงแค่เห็นในข่าวไม่กี่ครั้ง เธอก็สามารถจำได้

“ใช่แล้วคะ”

ตอนแรกโม่อานฉีรู้สึกสงสัย อยากถามว่าเผยอี้เป็นข่าวที่ฝรั่งเศสเมื่อไหร่ แต่พอเห็นสีหน้าของเซี่ยเชาฉวิน จึงไม่กล้าพูดแทรก และตัดสินใจว่าหลังจากคุยเรื่องโฆษณาของ ELYSEES จบค่อยถามเจียงเซ่อ

“หลังจากนั้นฉันได้ตามสืบ เหมือนว่าเพื่อนของคุณชายเผยของเธอ หลายปีหลังจากได้ใบขับขี่ตอนอายุสิบหกถึงสิบเก้า เป็นช่วงที่พวกเขามีคลั่งไคล้ในการสะสมรถสปอร์ตที่มีการออกแบบและรูปลักษณ์ภายนอกเท่ทันสมัย”

ตอนนั้นเธอเองก็สงสัยและให้คนไปสืบข้อมูล จึงเผยฐานะของเผยอี้ ตอนนั้นเธอสืบจากพี่น้องตระกูลเซี่ยงที่ใกล้ชิดกับนักแสดงหญิงในวงการบันเทิงมากที่สุด หลังจากไขข้อสงสัยได้แล้ว เธอก็วางมือจากเรื่องนี้ไป

หลายปีผ่านไปจนถึงตอนนี้ เพราะเธออยากให้เจียงเซ่อได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของรถยี่ห้อ ELYSEES จึงนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา

เจียงเซ่อไม่คิดเลยว่าเซี่ยเชาฉวินเองก็มีสิ่งที่ตนเองสงสัย ในความทรงจำของเธอ เซี่ยเชาฉวินเป็นคนที่ใจเย็น มีความมั่นใจและยิ่งใหญ่ไม่มีอะไรสามารถเปรียบได้มาโดยตลอด เหมือนเครื่องจักรที่หมุนอย่างรวดเร็ว มีพลังตลอดเวลา ไม่เคยหยุดพัก

เซี่ยเชาฉวินไม่สนใจสายตาที่กำลังมองตนเองอยู่ของเจียงเซ่อ และพูดต่อด้วยท่าทางที่จริงใจมาก

“หลายปีหลังจากนั้น พวกเขาก็เปลี่ยนความสนใจเสียแล้ว”

เธอพูดถึงตรงนี้ เจียงเซ่อก็เข้าใจความหมายที่เธอต้องการจะสื่อทันที

ความจริงก็เหมือนที่เธอพูด ตอนเป็นหนุ่มไฟแรง พวกของเผยอี้เคยหลงใหลรถสปอร์ตประเภทต่างๆ

แต่เพราะอายุที่มากขึ้น พวกเขาก็ตามเดินตามเส้นทางของตนเอง เผยอี้ไปเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร หลังจากจบมาก็ไปรับตำแหน่งอยู่ที่คิวชู เนี่ยต้านและคนอื่นๆ เปิดบริษัทด้วยกัน ท่าทางไปได้ดีมาก

รถสปอร์ตเหล่านั้นเหมือนจมไปกับเศษฝุ่นพร้อมความทรงจำของพวกเขา

หลายปีมานี้หลังจากทุกอย่างมั่นคง รถที่เผยอี้ขับบ่อยที่สุดก็คือรถออฟโรดเพราะพื้นที่กว้างกว่า ทำให้สองขายาวของเขาไม่ต้องลำบากอีกต่อไป

เจียงเซ่อเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ผู้ช่วยคนอื่นๆ กลับไม่เข้าใจความหมายของเซี่ยเชาฉวิน

หลังจากเซี่ยเชาฉวินเห็นว่าเจียงเซ่อเข้าใจแล้ว จึงไม่คิดจะพูดถึงเรื่องนี้อีก จึงสั่งให้ผู้ช่วยของตนเองจางฉือให้มาเก็บของบนโต๊ะ โม่อานฉีจึงอดถามไม่ได้

“เซ่อเซ่อ เผยอี้เป็นข่าวอะไรที่ฝรั่งเศสเหรอ”

“ตอนฉันเรียนมัธยมศึกษาปีที่หก เขา อาต้านและพวกของหรูหนิงขับรถจนสร้างความตื่นตระหนกให้ทางตำรวจ เลยตกเป็นข่าวเล็กน้อยน่ะ”

เพราะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งตรงกันข้ามกับตระกูลเผยที่เก็บตัวเงียบมาโดยตลอด หลังจากผู้ใหญ่ออกมาปิดข่าว เจียงเซ่อได้ข่าวว่าพวกเขาถูกผู้ใหญ่สั่งสอนไปชุดใหญ่

โม่อานฉีฟังเธอพูดถึงตรงนี้ แล้วยิ่งสงสัยมากกว่าเดิม

“ถ้าอย่างนั้น ที่พี่เซี่ยบอกว่า หลายปีมานี้พวกเขาเปลี่ยนความสนใจหมายความว่ายังไง”

“ตอนนั้นอาอี้คลั่งไคล้ในการสะสมรถสปอร์ตเป็นมาก” รถสปอร์ตในโรงจอดรถของเขาไม่น้อยไปกว่าโชว์รูมรถเล็กๆ โชว์รูมหนึ่งเลย เจียงเซ่ออธิบายว่า

“แต่ว่า หลายปีมานี้ไม่ค่อยได้เล่นแล้ว เปลี่ยนไปทำอย่างอื่น”

ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ มองเซี่ยเชาฉวินแวบหนึ่ง สุดท้ายจึงอดถามไม่ได้

“ถ้าอย่างนั้นที่พี่เซี่ยพูดมาทั้งหมด เกี่ยวอะไรกับการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ ELYSEES ล่ะคะ”

เธอรวบรวมความกล้าในการถามคำถามนี้จนจบ เห็นเพียงแค่เซี่ยเชาฉวินกอดอกและจ้องเธอ ทำให้ผู้ช่วยตัวน้อยกลัวจนคอหด เจียงเซ่อเห็นว่าทุกคนล้วนมองเซี่ยเชาฉวินด้วยความหวาดกลัว จึงอดพูดพร้อมรอยยิ้มไม่ได้

“แน่นอนว่าเกี่ยว”

การที่เซี่ยเชาฉวินยอมเสียเวลามาคุยเรื่องในอดีตพวกนี้กับตนเอง แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะว่างงานเท่านั้น

เธออธิบายให้พวกเขาฟัง

“ตอนหนุ่มๆ พวกของอาอี้ อาต้าน เคยคลั่งไคล้รถสปอร์ตพวกนี้ หลังจากอายุมากขึ้น ต่างคนก็ต่างเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง ไม่เอาแต่เล่นอีกต่อไป”

และสถานการณ์ของพวกของเผยอี้ก็หมายความถึงลูกค้าที่จะต้องเสียไป

กลุ่มลูกค้าของรถสุดหรูของ ELYSEES เป็นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ รูปแบบของรถที่แตกต่างกันตอบสนองความต้องการของลูกค้าในช่วงอายุที่แตกต่างกัน

เถาเฉินเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์มานับสิบปี ภายนอกที่สวยงามและราคาที่ดูแพง ชื่อเสียงและฐานะของเธอในหัวเซี่ยก็เหมาะสมกับแบรนด์ ELYSEES เป็นอย่างมาก แต่เพราะอายุที่มากขึ้น สิ่งที่เปรียบเทียบกับประสบการณ์และฐานะของเถาเฉินคือ “อายุ”

นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ไม่ว่าเถาเฉินจะดูแลตัวเองดีเท่าไหนแต่ก็อายุสามสิบกว่าแล้ว เวลานำมาซึ่งความสง่างามและความชำนาญ ในขณะเดียวกันก็ทำให้แรงกระตุ้นในแบบฉบับของวัยรุ่นหายไป

เซี่ยเชาฉวินตาแหลมจึงเห็นโอกาสกับแบรนด์ ELYSEES เธอไม่ได้คิดจะแย่งงานทั้งหมดของ ELYSEES จากเถาเฉินตั้งแต่แรก ทำแบบนี้มันไม่สมเหตุสมผลและไม่คุ้ม

เถาเฉินที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ ELYSEES มานานนับสิบปี เธอไม่ยอมให้ตนเองหลุดการการโอบอุ้มของ ELYSEES แน่ ทั้งยังติดต่อและรักษามิตรภาพที่ดีกับ Piech ตัวแทนในแถบเอเชียเป็นอย่างดีมาโดยตลอด

แม้ว่าเซี่ยเชาฉวินจะรู้จักกับ Piech มาก่อนแล้ว แต่ว่าตอนนั้นเธอเป็นคนทำให้เถาเฉินได้เป็น แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ ELYSEES และส่งเถาเฉินให้ Piech ด้วยตนเอง

ตอนนี้เธอมีความคิดที่จะใช้เจียงเซ่อเขี่ยเถาเฉินทิ้ง ถ้าอย่างนั้นนี่เป็นการขัดแย้งกับตัวของเซี่ยเชาฉวินในตอนนั้น

ตลอดระยะเวลาสิบปีที่เถาเฉินเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ ELYSEES ในสถานการณ์ที่ชื่อเสียงไม่เคยเสียหาย ยังไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างเซี่ยเชาฉวินกับ Piech แต่มันก็ไม่คุ้มกับการเขี่ยเถาเฉินทิ้งเพื่อเซี่ยเชาฉวิน แม้ว่า Piech จะใช้เรื่องส่วนตัวในการตัดสิน แต่ถ้า ELYSEES เปลี่ยนแบรนด์แอมบาสเดอร์กะทันหัน โดยเฉพาะรถแบรนด์ระดับสูงแบบนี้ จะทำให้ทุกคนต่างคาดเดาและเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับ ELYSEES แน่

อีกอย่างเถาเฉินเองก็ไม่ใช่คนที่ควรมีปัญหาด้วย

แต่ทว่า ถ้าสิ่งที่เซี่ยเชาฉวินต้องการคือเป็นเพียงแค่แบรนด์แอมบาสเดอร์ของรถสักรุ่นใน ELYSEES ด้วยความสัมพันธ์ของเธอกับ Piech รวมทั้งที่เซี่ยเชาฉวินบอกว่า ปีนี้เจียงเซ่อมีหนังฟอร์มยักษ์อย่าง ‘PROOF OF LIFE’ เข้าฉาย รายได้ไม่ธรรมดา ซึ่งเป็นการการันตีความสามารถของเธอ การจะได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์รถรุ่น leopard ของ ELYSEES ก็ถือว่ามีความหวังสูงมาก

เรื่องพวกนี้ เซี่ยเชาฉวินคงจะตรวจสอบมาอย่างละเอียดและให้คนช่วยเปรียบเทียบแล้ว เพราะเรื่องนี้เริ่มมีหนทาง เธอจึงดูมั่นใจขนาดนี้

สำหรับเหตุผลที่หลิวเย่พลาดจากการตีตลาด ELYSEES อาจจะเป็นเพราะภาพลักษณ์ ฐานะของเขาคล้ายกับเถาเฉิน

ทั้งสองมีชื่อเสียงมานานหลายปี ล้วนเป็นชายหญิงวัยสามสิบกว่าที่ประสบความสำเร็จ ในสถานการณ์ที่มีเถาเฉินอยู่แล้ว แน่นอนว่าหลิวเย่จึงไม่ได้อยู่ในตัวเลือกของ ELYSEES

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับทั้งชื่อเสียง ฐานะและรางวัล สิ่งที่เจียงเซ่อได้เปรียบมากที่สุด คือความสาวและความสวยของเธอก็เท่านั้น

เพราะฉะนั้นแม้ว่าจะได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ ELYSEES แต่ทว่า ระหว่างเธอกับเถาเฉินก็ยังคงต่างกันและเรื่องพวกนี้ก็เป็นข้อได้เปรียบที่มาพร้อมกับอายุของเถาเฉิน

หลังจากเซี่ยเชาฉวินพูดเรื่องนี้จบก็ดูนาฬิกาอีกครั้ง

“แต่ว่า หลังจากได้สัญญามาแล้ว ยังต้องหารือกันเรื่องเวลาถ่ายทำโฆษณา”

ถ้าบริษัท ELYSEES ให้ความสำคัญกับเจียงเซ่อมาก อาจจะออกแบบโฆษณารถให้เธอโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้น แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะถ่ายโฆษณาในช่วงเดือนมิถุนายน

ยิ่งให้ความสำคัญ เวลาเตรียมงานก็จะยิ่งนาน นี่จึงเป็นเหตุผลที่เซี่ยเชาฉวินเปลี่ยนตารางงานชั่วคราวและไม่ได้บอกทางกองถ่ายหนังเรื่อง ‘เซียนหยวน’

อีกเดี๋ยวเธอยังมีงานต้องไปทำ หลังจากสั่งงานโดยคร่าวๆ ก็รับโทรศัพท์สายหนึ่งแล้วออกไปอย่างเร่งรีบ

กลางเดือนเมษายน รายได้ของหนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ กำลังจะแตะสองพันล้านแล้ว รายได้นอกประเทศไม่ได้โดดเด่นเหมือนตอน ‘Evil’ แต่ว่า นักวิจารณ์หนังจำนวนมากต่างชื่นชมการแสดงของเจียงเซ่อในหนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ และเสียดายแทนเธอที่ไม่ได้รับรางวัล ‘นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม’ ในเทศกาลหนังฝรั่งเศสประจำปีนี้

เจียงเซ่อได้รับคำเชิญจากงานประกาศรางวัลไป๋ฮวา หนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ เข้าสู่รอบสำคัญของงาน ตอนนี้เซี่ยเชาฉวินเองก็พาพวกของเจียงเซ่อ ทุ่มเทความพยายามไปในหลายๆ ด้าน และได้พาเจียงเซ่อไปเจอ Piech สองครั้งแล้ว ในที่สุดก็ได้ร่วมงานกับ ELYSEES ในการเปิดตัวรถสปอร์ต leopar ในครึ่งปีหลังของปีหน้า

วันที่ทั้งสองฝ่ายมั่นใจแล้วว่าจะร่วมงานกัน เถาเฉินเองก็รู้ข่าวนี้อย่างรวดเร็ว

ซ่งอี้ผู้จัดการของเธอทั้งโกรธทั้งแค้น คิดจะให้บริษัท ELYSEES ล้มเลิกความคิดแบบนี้ด้วยพร้อมใบหน้าอันเหลืออด ในโทรศัพท์น้ำเสียงของผู้ช่วยของ Piech อ่อนหวาน ปฏิเสธซ่งอี้ที่อยากคุยกับ Piech โดยตรงอย่างมีมารยาทและเย็นชา

“ต้องขอโทษคุณซ่งด้วยนะคะ คุณ Piech กำลังยุ่งอยู่กับการประชุมทางไกล หลังจากเสร็จการประชุม ดิฉันจะแจ้งให้ท่านทราบว่าคุณโทรมา”

“คุณเถาร่วมงานกับ ELYSEES มานานหลายปีและทั้งสองฝ่ายก็ร่วมงานกันอย่างราบรื่น หลายเดือนก่อนหน้านี้ยังได้ไปร่วมชมโรงงานของเบอร์ลินกับคุณ Piech และคุณเถาก็สนใจรถรุ่น leopard ที่ ELYSEES กำลังจะเปิดตัวเป็นอย่างมาก”

ซ่งอี้พูดออกมาอย่างรวดเร็ว ในสายหญิงสาวรอเขาพูดให้จบอย่างมีมารยาท แล้วจึงพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยนว่า

“เรื่องพวกนี้ หลังจากคุณ Piech เสร็จจากการประชุม ดิฉันจะแจ้งให้เธอทราบเองค่ะ”

ซ่งอี้วางสายไปอย่างเหลืออด ใบหน้าเต็มไปด้วยความทุกข์

ความจริง ทุกคนล้วนรู้ดีแก่ใจว่า สิ่งที่เขากำลังทำอยู่ในตอนนี้ เป็นการกระทำที่ทำไปโดยเปล่าประโยชน์เท่านั้น

ข่าวการร่วมงานของเจียงเซ่อกับ ELYSEES จนถึงตอนนี้เพิ่งจะปิดไม่มิด จนเถาเฉินรู้ บางทีอาจจะเป็นเพราะเป็นเรื่องที่คนพูดถึงกันและทั้งสองฝ่ายก็ตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น

คนรอบข้างเถาเฉินล้วนเดาเรื่องนี้ออก ผู้จัดการและผู้ช่วยต่างอึดอัดใจ

เมื่อเปรียบกันแล้ว เถาเฉินที่กำลังจะถูกแย่งงานกลับใจเย็นเป็นอย่างมาก หลังจากซ่งอี้วางสายไป เธอถึงขั้นที่ไม่มีท่าทีว่าจะพูดถึงเรื่องที่ ELYSEES มีความคิดที่จะเพิ่มแบรนด์แอมบาสเดอร์เลยแม้แต่น้อย

“เตรียมชุดของฉันเสร็จแล้วหรือยัง”

กลางเดือนพฤษภาคมเป็นคืนแห่งการจัดงานเลี้ยงการกุศล ‘สือไต้เฟิงฉ่าย’ ในวันนี้จะมีการเชิญดารา นักธุรกิจและผู้มีชื่อเสียงจำนวนมากมาร่วมงาน หลายปีมานี้เถาเฉินให้ความสำคัญกับงานต่างประเทศ ในหนึ่งปี ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในต่างประเทศ ถ้าไม่ถ่ายหนังก็เจรจาสัญญาโฆษณาและแบรนด์แอมบาสเดอร์ ไม่ได้มาร่วมงานเลี้ยงการกุศลหลายปีแล้ว มีเพียงผู้จัดการข้างกายของเธอที่คอยจัดการเรื่องนี้ให้เธอ

ปีนี้เธออยู่ในประเทศและได้รับการ์ดเชิญจาก ‘สือไต้เฟิงฉ่าย’ หลังจากเธอรับเอาไว้ ทีมของเธอก็ได้เตรียมความพร้อมตั้งนานแล้ว

เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นที่เธอจะต้องมาพูดถึงด้วยความกังวล ซ่งอี้ทำได้เพียงพยักหน้าอย่างเหลือทน

“เตรียมพร้อมแล้วครับ” เขาไม่จำยอม จึงพูดถึงเรื่องเดิมอีกครั้ง

“คุณเถาครับ ถ้าอย่างนั้นคุณโทรหาคุณ Piech เองเลยดีกว่ามั้ยครับ รถยี่ห้อ ELYSEES ตลอดระยะเวลาทั้งสิบปี รถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวทุกสองปีมีคุณเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์มาโดยตลอด”

เถาเฉินเอามือเท้าที่วางมือบนเก้าอี้ นิ้วมือวางอยู่บนใบหน้า ส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม เก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจ

“ไม่เป็นไร”

ถ้าคนของบริษัท ELYSEES คิดว่าภาพลักษณ์และตัวตนของเธอเหมาะสมกับรถของ ELYSEES แม้ว่าเธอจะไม่โทรไป Piech เองก็จะเป็นคนปฏิเสธเซี่ยเชาฉวินเอง

และถ้า Piech ถูกเซี่ยเชาฉวินเกลี้ยกล่อมไปแล้ว คิดว่ารถรุ่นสปอร์ตรุ่นใหม่ leopard ที่ ELYSEES กำลังจะเปิดตัวเปลี่ยนแบรนด์แอมบาสเดอร์แล้วจะช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้น แม้ว่าเธอจะโทรไปตามคำสั่งของซ่งอี้ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจ Piech ได้อยู่ดี

เถาเฉินสามารถรักษามิตรภาพตลอดสิบปีกับ Piech ได้ การวางตัวและความฉลาดของเธอก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลัก

แม้ว่าซ่งอี้จะเดาคำตอบของเธออกตั้งแต่แรกแล้ว แต่พอได้ยินเธอพูดแบบนี้ ก็ยังคงรู้สึกหมดหวังเป็นอย่างมาก

“ถ้าอย่างนั้นก็ทำตามนี้เลยหรือครับ”

เถาเฉินก้มสายตาลงเพื่อปกปิดความคิดที่แสดงออกจากดวงตา

“แน่นอนว่าไม่ใช่”

เจียงเซ่อเองก็ได้รับการ์ดเชิญจากงานเลี้ยงการกุศลของ ‘สือไต้เฟิงฉ่าย’ ก่อนที่จะไปร่วมงานประกาศรางวัลไป๋ฮวา เธอต้องไปร่วมงานเลี้ยงการกุศลงานนี้ก่อน เพราะงานเลี้ยงของ ‘สือไต้เฟิงฉ่าย’ ในปีนี้ นอกจากเชิญดาราและผู้มีชื่อเสียงมาเป็นตัวอย่างในการทำการกุศลแล้ว ในขณะเดียวกันก็ได้เชิญคุณ Chapman ผู้แทนในหัวเซี่ยของ Steinway อีกด้วย

หลายปีมานี้เจียงเซ่อกับบริษัทเปียโน Steinway ร่วมงานกันอย่างแน่นแฟ้น ตอนแรกเพราะหนังเรื่อง ‘99 Love Letter’ และต่อมาเพราะบริษัทเปียโน Steinway จัดงานครบรอบสามสิบปีที่หัวเซี่ยและเชิญเจียงเซ่อไปร่วมงาน ทำให้เธอได้สร้างความเป็นมิตรไว้กับคุณ Federer จนคว้าตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ของนาฬิกาข้อมือแบรนด์ Federer ในหัวเซี่ยมาได้

หลังจากนั้น เซี่ยเชาฉวินก็พยายามรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจียงเซ่อกับบริษัทเปียโน Steinway มาโดยตลอด และคิดจะหาโอกาสให้เจียงเซ่อได้ร่วมงานกับ Steinway