webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

558

บทที่ 558 ในมุม

ฉากนี้ไม่รู้ว่าเจียงจื้อหยวนรู้สึกอย่างไร แต่ทว่า เฝิงจงเหลียงกลับตั้งใจดูอย่างใจจดใจจ่อ

วินาทีที่ถังจิ้งที่รับบทโดยเจียงเซ่อปรากฏตัว เฝิงจงเหลียงหันมามองเจียงจื้อหยวน เขาจ้องมองจอจนแทบจะไม่กะพริบตา ราวกับไม่รู้ว่าเฝิงจงเหลียงกำลังมองตนอยู่

สีหน้าของเขาดูอ่อนโยน ท่ามกลางแสงหน้าจอที่ไม่ได้สว่างมากนัก ความอบอุ่นของเขาถ่ายทอดออกจากภายในสู่ภายนอก ทำให้ดวงตาและมุมปากของเขาดูอ่อนลง

เจียงจื้อหยวนในตอนนี้ไม่ใช่คนร้ายที่น่าหวาดผวาอีกต่อไป เขาดูหนังอย่างตั้งอกตั้งใจ ไม่ได้เอนตัวพิงบนเบาะ แต่ถึงขั้นที่โน้มตัวไปข้างหน้า ตั้งใจจดจ่อกับการแสดงของลูกสาว

เพราะหนังเรื่องนี้ ได้กลายเป็นสิ่งเดียวที่สามารถทำให้เขาและเจียงเซ่อเชื่อมโยงถึงกัน

ในหนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ เฉิงเจี้ยนกั๋วที่รับบทโดยหลิวเย่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์จนตรอก นั่นบีบให้เขาจำต้องเข้าร่วมแผนการลักพาตัวถังจิ้งเพื่อเรียกค่าไถ่ หลังจากผ่านขั้นตอนอันแสนรอบคอบ พวกเขาก็ได้ตัวประกันมาในเวลาอันสั้น

ตั้งแต่ถังจิ้งที่รับบทโดยเจียงเซ่อปรากฏตัว จนถูกลักพาตัว จางจิ้งอานเพียงพูดถึงคร่าวๆ ไม่ได้บรรยายให้ยืดยาว แต่ให้ความสำคัญกับเรื่องราวหลังจากลักพาตัวมากกว่า

ตอนที่ถังจิ้งอยูในมือของเฉิงเจี้ยนกั๋ว ตอนที่ถูกคนกลุ่มหนึ่งพาตัวออกจากบ้านตระกูลถัง เฝิงจงเหลียงก็ไม่มีกะจิตกะใจจะหันมามองเจียงจื้อหยวนแล้ว

ความจริงแล้ว หนังเรื่องนี้นอกจากเจียงจื้อหยวนที่ควรดูแล้ว เฝิงจงเหลียงเองก็เตรียมจะมาดูอย่างตั้งใจ

เขารู้ว่าหลังจากเฝิงหนานถูกลักพาตัว ได้ถูกเจียงจื้อหยวนทำร้าย ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไปช่วยได้ทันเวลา บางทีเฝิงหนานอาจจะต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นั่นแล้ว

การที่ตกอยู่ในกำมือของคนอย่างเจียงจื้อหยวน เขาสามารถจินตนาการได้เลยว่าเฝิงหนานต้องประสบกับอะไรมาบ้าง แต่ว่า เธอกลับไม่เคยพูดถึงมัน

ในหนัง พวกของเฉิงเจี้ยนกั๋วลากตัวถังจิ้ง ตอนที่ลากตัวเธอลงมาจากรถอย่างป่าเถื่อนนั้น มือที่วางอยู่บนหน้าตักของเฝิงจงเหลียงก็กำแน่น ตอนเด็กเฝิงหนานเองก็อาจจะเคยโดนแบบนี้ใช่มั้ย

ในบ้านหลังเล็กๆ ที่อยู่กลางป่ามืด ถังจิ้งนั่งขดตัวเป็นก้อนกลม ชุดที่เธอใส่เป็นชุดในงานวันเกิด เธอนั่งกอดเข่าแล้วฝังหน้าลงที่หัวเข่าทั้งสอง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอยังคงสั่นและขาข้างที่รองเท้าหล่นไปแล้วถูไปมากับพื้น ทุกคนอาจจะคิดว่าเธอสลบไปแล้วก็ได้

“ตระกูลถังร่ำรวย เพื่อเด็กคนนี้ จะยอมให้ได้สักเท่าไหร่กันนะ”

โทมัสดึงผมของถังจิ้งขึ้นมา ลากเธอออกจากที่มืดมาอยู่ท่ามกลางแสงไฟ พลันออกแรงดึง จนทำให้เธอจำต้องเงยหน้าขึ้น

กล้องถ่ายลงจากมุมสูง สะท้อนใบหน้าของเจียงเซ่อออกมาอย่างชัดเจน

บนหน้าจอฉายภาพใบหน้าที่ขาวซีดจนไร้เลือดของเธอ เพราะทั้งตื่นตระหนกและหวาดกลัวมาก แม้แต่เส้นขนบนใบหน้าของเธอยังตั้งขึ้นมา ท่ามกลางแสงไฟ เธอเบิกตาโต ราวกับสูญเสียการมองเห็นไปแล้ว

เธอถึงขั้นไม่กล้าหายใจเสียงดัง กัดฟันแน่น ค่อยๆ สูดลมหายใจผ่านทางไรฟัน

แค่เห็นหน้าเจียงเซ่อ ก็รู้แล้วว่าเธอกลัวจนแทบสิ้นสติแล้ว

หลังจากที่หนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ เข้าฉายในเทศกาลหนังฝรั่งเศส การแสดงของเจียงเซ่อก็ได้รับคำชื่นชมเป็นเสียงเดียวกันจากผู้วิจารณ์หนังจำนวนมาก แต่เฝิงจงเหลียงกลับรู้ว่าเธอกลัวจนแทบจะเสียสติจริงๆ

สำหรับเจียงเซ่อแล้ว หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่มีความหมายแตกต่างจากเรื่องอื่น ไม่แปลกที่ตอนถ่ายทำเธอจะใส่ความรู้สึกจริงตอนที่ถูกลักพาตัวในตอนนั้นเข้าไปด้วย

ตอนที่เฉิงเจี้ยนกั๋วกำมัดแล้วเล็งไปที่เธอ เธอปิดตารับโดยไม่ร้องสักคำ ภาพที่กลัวจนพูดอะไรไม่ออก แม้เฝิงจงเหลียงจะรู้ว่านี่เป็นเพียงแค่หนัง ไม่ใช่ความจริง แต่เจียงเซ่อที่แสดงเป็นนางเอกเป็นหลานสาวของเขาที่เคยถูกลักพาตัวมาก่อน เขาจึงโกรธขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ

เพราะหนังเรื่องนี้มีสถานการณ์การลักพาตัวปรากฏขึ้นอีกครั้ง สำหรับเฝิงจงเหลียง มันจึงมีความหมายเช่นกัน เขาราวกับเห็นเฝิงหนานที่ถูกลักพาตัวในตอนนั้น เห็นความโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่งบนใบหน้าของเธอ

เมื่อคนร้ายเสนอเงินแลกตัวประกัน คนในตระกูลถังก็เริ่มถกเถียงกัน

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ตอนนี้ได้ดำเนินไปตามเนื้อเรื่องของหนัง และค่อยๆ ผ่านเข้ามาในหัวของเฝิงจงเหลียง

เขายังจำได้ว่าตอนนั้น วิสาหกิจจงหนานเพิ่งจะเข้าสู่ตลาดได้ไม่นาน ธุรกิจครอบครัวอยู่ในช่วงสำคัญของการพัฒนา เขายุ่งจนไม่มีเวลา ต้องทำงานกองโตทุกวัน ในหนึ่งวันต้องทำงานสิบห้าถึงสิบหกชั่วโมง ยุ่งจนการนอนและการพักผ่อนกลายเป็นสิ่งที่เขาปรารถนาเป็นอย่างมาก

ธุรกิจของตระกูลเฝิงใหญ่โตและลูกหลานก็มีมาก ชื่อเสียงของวิสาหกิจจงหนานในตอนนั้นถือเป็นผู้นำของธุรกิจในแขนงเดียวกัน

งานด้านสังคมที่เขาต้องไปร่วมก็มีมากมาย วันนั้นเขาไปร่วมงานการกุศลงานหนึ่ง เพื่อเจรจาซื้อที่ดินผืนหนึ่ง ที่ดินผืนนั้นเป็นที่ดินที่เฝิงจงเหลียงจับจองมาเป็นเวลานาน เพื่อที่ดินผืนนั้นพนักงานในวิสาหกิจจงหนานทำงานจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนไปพร้อมกับเขาเป็นเวลานาน จนได้มันมาครอบครองในที่สุด เขาดื่มไปหลายแก้วด้วยความดีใจ กว่าจะกลับไปถึงบ้านตระกูลเฝิงก็ห้าทุ่มกว่าแล้ว

ในบ้านเงียบสนิท ตอนนั้นเสี่ยวหลิวให้พี่อิงที่เป็นแม่บ้านต้มซุปหวานให้เขาดื่มให้ชุ่มคอ

คนรับใช้ในบ้านยกน้ำชาที่มีสรรพคุณช่วยให้สร่างเมาเข้ามาให้และเหมือนคิดอะไรบางอย่างออก จึงบอกเขาว่า

“คุณเฝิงคะ เย็นวันนี้ อาเสียงได้รับพัสดุ แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งมา ด้านบนระบุว่าให้คุณชายใหญ่เป็นผู้เซ็นรับค่ะ”

ธุรกิจของตระกูลเฝิงใหญ่โตและมักจะเป็นที่สนใจ แต่ละปีได้รับของไร้สาระแบบนี้มากมาย ส่วนมากมักจะให้ลูกน้องจัดการ มีที่ตกหล่นเข้ามาบ้างแต่ก็ให้เสี่ยวหลิวเป็นคนจัดการเรื่องพวกนี้

แต่ทว่า ตอนนั้นเสี่ยวหลิวกำลังสั่งงานแม่บ้าน แต่อยู่ๆ ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างดลใจให้เฝิงจงเหลียงสั่งให้เอาพัสดุนั้นมา

พัสดุนั่นเบามาก เหมือนประกอบขึ้นมาจากกล่องกระดาษแข็ง ตอนที่ถือขึ้นมา เฝิงจงเหลียงเขย่าเบาๆ ทีหนึ่ง ข้างในเหมือนมีของชิ้นเล็กๆ อยู่

อาจจะมีคนจงใจแกล้งก็เท่านั้น

ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นบนกล่องมีที่อยู่ของบ้านตระกูลเฝิง เบอร์โทรศัพท์และชื่อของเฝิงชินหลุนที่ตัดจากหนังสือพิมพ์มาประกอบกันทีละตัวๆ เฝิงจงเหลียงอาจจะเอาทิ้งไปแล้ว

เพราะเห็นตัวอักษรที่ตัดจากหนังสือพิมพ์หลายฉบับมาประกอบกัน ทำให้เฝิงจงเหลียงพลันรู้สึกถึงความผิดปกติตามสัญชาตญาณ จึงแกะพัสดุออก

ข้างในมีเล็บเล็กๆ ที่มีคราบเลือดแห้งกรังติดวางอยู่สามชิ้น เพราะอยู่ในกล่องมาหลายชั่วโมง เลือดเนื้อที่ติดอยู่ก็แห้งหดและเล็บก็สูญเสียสีสันสวยงามที่มีแต่เดิมไปหมดแล้ว

นี่มันเล็บที่ถูกถอดออกมาสดๆ จากขนาดและรูปทรงของเล็บแล้ว เหมือนจะเป็นของเด็ก

ในพัสดุยังมี ‘จดหมาย’ ที่ประกอบขึ้นจากเศษกระดาษ ข้างบนเขียนว่า ‘หนึ่งร้อยล้านไถ่ตัวเฝิงหนาน’

เฝิงจงเหลียงสร่างเมาในทันที

ท่ามกลางความตกใจ เขาเรียกหาเสี่ยวหลิวทันทีและถามถึงที่มาของพัสดุนี้ แต่ทว่า ลูกน้องในบ้านตระกูลเฝิงกลับไม่มีใครสามารถอธิบายชัดเจนได้เลยสักคน

จำได้แค่ว่าตอนที่ได้รับพัสดุนี้คือเมื่อเจ็ดแปดชั่วโมงที่แล้ว เฝิงจงเหลียงยังยุ่งอยู่กับงาน ยังไม่กลับบ้าน

แม่ของเฝิงหนานนัดเพื่อนไปเล่นไพ่ เธอออกไปตั้งแต่เข้าจนถึงตอนนี้ก็สิบเอ็ดชั่วโมงแล้ว ตอนเฝิงจงเหลียงให้เสี่ยวหลิวโทรไป เธอยังอยู่ในวงไพ่และหลังจากที่รู้ว่าที่บ้านเกิดเรื่องขึ้น เธอก็ยังบอกปัด บอกว่าเล่นไพ่เสร็จแล้วค่อยว่ากัน