webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

555

บทที่ 555 สัญญา

เฝิงจงเหลียงทุ่มเททุกอย่างแบบนี้ จะโกรธเจียงเซ่อและไม่สนใจเธอลงได้อย่างไร

“ไม่มีเรื่องแบบนั้นแน่ครับ”

เสี่ยวหลิวส่ายหน้าและชี้ไปที่สวนดอกไม้

“ไม่ว่าคุณท่านจะโกรธใคร คนๆ นั้นก็ไม่มีทางเป็นคุณ”

เขาพูดขึ้นตรงนี้ เจียงเซ่อดูอึ้งไปครู่หนึ่ง

“แล้วลุงหลิวรู้มั้ยคะว่าวันที่ยี่สิบเก้าคุณปู่จะไปทำอะไร”

หนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ มีความหมายกับเธอ เธอเองก็หวังว่าเฝิงจงเหลียงจะอยู่ข้างเธอ

เสี่ยวหลิวเงียบ ดวงตาของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าแฝงการรอคอย

เขาเคยระแวงและมองเธอในแง่ร้ายเพราะเจียงจื้อหยวน แต่หลังจากหนังเพราะเธอช่วยอ้อนวอน จึงทำให้เฝิงจงเหลียงให้โอกาสตนเองได้อยู่ที่ตี้ตูต่อ

ตามหลักแล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไร เสี่ยวหลิวก็ไม่ควรปิดบังเธอ ควรจะบอกเธอตามความจริง

อีกอย่างเฝิงจงเหลียงและเจียงจื้อหยวนนัดกันดูหนังเรื่องนี้ และยังเป็นหนังที่มีเนื้อเรื่องในลักษณะพิเศษอย่างเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ ที่เจียงเซ่อแสดงอีกด้วย

หลังจากดูหนังจบเจียงจื้อหยวนจะระเบิดความโกรธออกมาเพราะความอับอายและก่อเรื่องหรือไม่ เสี่ยวหลิวไม่สามารถคาดการณ์ได้เลย

เขาในตอนนั้น ล้มเหลวจากการลักพาตัวเฝิงหนานเพื่อเรียกค่าไถ่ สุดท้ายถูกเฝิงจงเหลียงจับเข้าคุก และติดคุกอยู่สิบเก้าปี โจวฮุ่ยแต่งงานกับตู้ชางฉวิน ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกของเขาและเจียงเซ่อกลายเป็นคนแปลกหน้า ความแค้นที่สะสมจากเรื่องราวทั้งหมดนี้ประเมินไม่ได้เลยจริงๆ

เสี่ยวหลิวถอนหายใจ แม้ว่าเขาจะโทรไปจองโรงหนังแล้ว และถึงขั้นนัดเจียงจื้อหยวน บอกสถานที่และเวลากับเขาตามคำสั่งของเฝิงจงเหลียงแล้วก็ตามที

แต่ทว่า เรื่องนี้จะผ่านมาหลายวันแล้ว เขากลับยังคงไม่เข้าใจว่าเฝิงจงเหลียงคิดจะทำอะไรกันแน่

เจียงจื้อหยวนเป็นบุคคลอันตราย เฝิงจงเหลียงอยู่กับเขาเพียงลำพัง ถึงขั้นปฏิเสธที่จะให้เสี่ยวหลิวไปเป็นเพื่อน ทำให้เสี่ยวหลิวระแวงมาก

แต่ว่า นี่เป็นการตัดสินใจของเฝิงจงเหลียง เสี่ยวหลิวไม่สามารถเกลี้ยกล่อมให้เขาเปลี่ยนใจได้ ตอนนี้ พอเจียงเซ่อถามขึ้น ความจริงเขาควรจะบอกเรื่องนี้กับเธอ

ฐานะของเจียงเซ่อนั้นพิเศษ เธอเป็นลูกสาวของเจียงจื้อหยวน แต่เฝิงจงเหลียงกลับเอ็นดูเธอมาก

เฝิงจงเหลียงรักเธอถึงขั้นที่แม้ในร่างกายของเธอจะมีเลือดของเจียงจื้อหยวนไหลเวียนอยู่ ก็ยังปฏิบัติกับเธอเหมือนเดิมไม่เหินห่าง

ถ้าบอกเรื่องนี้กับเธอ ด้วยความฉลาดหลักแหลมของเธอแล้ว เธอจะต้องคิดหาวิธีมาเกลี้ยกล่อมเฝิงจงเหลียงไม่ให้ทำแบบนี้และสามารถจับตาดูเจียงจื้อหยวนเอาไว้ ให้บุคคลอันตรายอย่างเขาระวังการกระทำของตนเองแน่

แต่ทว่า พอเสี่ยวหลิวเห็นท่าทางที่เธอเอียงหน้ารอคำตอบจากเขา คำพูดที่อยู่ข้างปากกลับพูดไม่ออก

ดวงตาที่มีสีขาวและดำตัดกันอย่างชัดเจนนั้น เสี่ยวหลิวรู้สึกละอายใจกับความคิดก่อนหน้านี้ของตนเอง

ความแค้นระหว่างผู้ใหญ่ ไม่เกี่ยวกับเธอเลย

ตอนที่เจียงจื้อหยวนลักพาตัวเฝิงหนาน เธอเพิ่งจะเกิดไม่นาน จนถึงตอนนี้เธอเองก็อาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อแท้ๆ ของตนเองเป็นคนร้ายคดีลักพาตัว เฝิงจงเหลียงต้องมีเหตุผลที่ไม่เล่าเรื่องพวกนี้ให้เธอฟัง แล้วตนเองมีสิทธิ์อะไรไปคิดเองเออเอง ทำอะไรโดยพลการจนสุดท้ายทำให้คุณท่านไม่พอใจด้วย

“คุณเจียง คุณลองเข้าไปถาม ถ้าคุณท่านอยากบอกคุณ ท่านคงจะไม่ปิดบังคุณแน่ครับ”

น้ำเสียงของเขาอ่อนโยน สายตาแฝงมาด้วยการให้กำลังใจ

“แต่ว่า ไม่มีทางที่คุณท่านจะไม่ไปดูหนังของคุณ ตอนที่คุณอยู่ที่ฝรั่งเศส คุณท่านก็บ่นว่าจะไปดูหนังอยู่ทุกวัน”

ช่วงนี้เขายังมีความคิดที่จะปรับแก้ห้องใต้ดินของบ้านหลังนี้ให้เป็นโรงหนังครอบครัวและบอกว่าต่อไปนี้ถ้าคิดถึงเธอ ก็สามารถมาดูหนังที่เธอแสดงได้

เสี่ยวหลิวได้พูดในสิ่งที่ควรพูดไปหมดแล้ว เจียงเซ่อเองก็ทำได้เพียงพยักหน้า

ในสวนดอกไม้ เฝิงจงเหลียงถือกรรไกรเล่มหนึ่งเอาไว้ กำลังแต่งกิ่งดอกบ๊วยในสวนถาด ตอนที่เสี่ยวหลิวพาเจียงเซ่อเข้าไป ความจริงเขารู้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่กลับไม่หันหน้าขึ้นมามอง

“คุณปู่”

เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเทา ทับด้วยเสื้อกันหนาวตัวหนา เหมือนผอมไปจากภาพในความทรงจำก่อนหน้านี้ของเจียงเซ่อเล็กน้อย

“กลับมาแล้วเหรอ”

เฝิงจงเหลียงพยายามเก็บอาการเพราะความดีใจเอาไว้แล้วเอ่ยถาม

“อืม”

เธอพยักหน้า ในขณะที่กำลังจะพูด เฝิงจงเหลียงก็พูดขึ้นอีกว่า

“อาอี้ก็มาด้วยหรือ”

เธอพยักหน้าอีกครั้ง “คุณปู่......”

เฝิงจงเหลียงรู้ดีว่าเจียงเซ่อจะพูดอะไร “ทำไมคุณปู่ถึงไม่ไปร่วมงานพิธีเปิดฉายรอบปฐมทัศน์ของหนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ ที่หนูเป็นนักแสดงนำล่ะค่ะ”

ท่าทางของเธอกระวนกระวาย “คุณปู่กลัวว่าหนูจะทำออกมาได้ไม่ดี แสดงบทบาทนี้ออกมาได้ไม่ดีเหรอคะ”

“เหลวไหล!” เขาพลันวางกรรไกรลงด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

“มีเรื่องอะไรบ้างที่เธอจะทำออกมาได้ไม่ดี หนังเรื่อง ‘Evil’ ในตอนนั้นสนุกมากแค่ไหน ที่ไม่ได้รับรางวัลไม่ใช่เพราะเธอ แต่เพราะฝรั่งพวกนั้นไม่รู้จักชื่นชมต่างหาก”

เขาชื่นชม เจียงเซ่อได้ยินคำพูดที่แสดงการปกป้อง จึงคลายความกังวลลงบ้าง แต่ก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี

“งั้นทำไมคุณปู่ถึงไม่อยากไปล่ะค่ะ”

“ปู่ไม่ได้ไม่อยากไป แต่ปู่มีธุระอื่นแล้ว” เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ตนเองมีนัดกับเจียงจื้อหยวน แต่ก็เห็นว่าหลังจากที่ตนเองปฏิเสธไปเธอก็ยังคงนั่งลง ช่วยตนเองเก็บใบไม้ที่ถูกตัดทิ้ง จึงอดสงสารไม่ได้ พลันวางกรรไกรลง

“เธอโตแล้ว ไม่ใช่เด็กเล็กๆ อีกต่อไป เรื่องบางเรื่อง ปู่จะต้องวางมือและส่งต่อให้คนที่คู่ควรจะอยู่เคียงข้างเธอมาดูแลแทน”

น้ำเสียงของเขาแฝงความลึกซึ้ง ทำให้เจียงเซ่อรู้สึกอยากร้องไห้ พลันเรียกออกมาเบาๆ

“คุณปู่....”

“ฉันเห็นอาอี้มาตั้งแต่เด็ก มีเขาอยู่ข้างๆ เธอ ฉันเองก็วางใจ” หลานสาวคนนี้เขาก็เป็นคนเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ในใจเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เขาย่อมรู้ดี

เรื่องที่โดนลักพาตัวตอนเด็ก สร้างผลกระทบต่อจิตใจของเธอเป็นอย่างมาก เขาพาเธอเดินออกจากบ้านอันมืดสนิทที่เธอถูกขังอยู่ แต่คนที่จะอยู่เคียงข้างเธอไปตลอดชีวิตต่างหากที่พาเธอเดินออกจากเงามืดในใจนั้นได้

ความจริงเป็นแบบนี้ก็ดีมากแล้ว เฝิงจงเหลียงเองก็ดีใจแทนเธอ

“คืนนี้ป้าหวังได้เตรียมอาหารที่เธอชอบเอาไว้แล้ว ให้อาอี้ดื่มกับปู่สักแก้ว ตอนกลับเธอค่อยขับรถแทน”

เขาไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้แล้ว นั่นแสดงว่าเขาได้ตัดสินใจไปแล้ว

พิธีเปิดฉายรอบปฐมทัศน์ของหนังเรื่อง ‘PROOFOF LIFE’ คืนนั้น ยิ่งใหญ่ไม่น้อยเลยทีเดียว

นอกจากหนังเรื่องนี้เป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของเจียงเซ่อและหลิวเย่แล้ว ยังเป็นผลงานอีกหนึ่งชิ้นหลังจาก ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ของผู้กำกับมือทองอย่างจางจิ้งอานด้วย

จางจิ้งอานได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจากเทศกาลหนังฝรั่งเศส คนจำนวนไม่น้อยในประเทศได้รอการเข้าฉายของหนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ มาตั้งนานแล้ว

พิธีเปิดฉายรอบปฐมทัศน์ยังไม่ทันเริ่ม

คนที่เคยดูหนังเรื่องนี้ในเทศกาลหนังฝรั่งเศสกำลังคุยกันถึงฉากบางฉากในหนังและวิธีการถ่ายทอดตัวละครของนักแสดงนำหญิงและชาย

และในตอนนี้ ในโรงหนังแห่งเดียวกัน เฝิงจงเหลียงเองก็เข้ากำลังเข้าไปในลิฟต์ โดยมีเสี่ยวหลิวคอยพยุง

จนถึงตอนนี้แล้ว แม้เสี่ยวหลิวจะรู้ว่าตนเองไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของเฝิงจงเหลียงได้ แต่เขาก็ยังอดถามไม่ได้

“ท่านจะไปดูหนังเรื่องนี้กับเจียงจื้อหยวนจริงๆ หรือครับ”

เขากังวลใจ ยิ่งใกล้เวลานัดเจียงจื้อหยวนมากเท่าไหร่ ยิ่งเข้าใกล้ชั้นที่จองโรงหนังเอาไว้มากเท่าไหร่ เสี่ยวหลิวก็ยิ่งยากจะสงบจิตใจได้

ต่างกับท่าทางที่ดูกระวนกระวายของเสี่ยวหลิว ท่าทางของเฝิงจงเหลียงกลับดูสงบมาก

ก่อนออกจากบ้าน เขาได้ตั้งใจแต่งตัว หวีผมให้ดูเรียบร้อย สวมชุดจงซานจวง ด้านนอกทับด้วยเสื้อกันหนาวขนสัตว์ ถือไม้เท้า ราวกับให้ความสำคัญกับมาเจอเจียงจื้อหยวนเป็นอย่างมาก ไม่เหมือนมาเจอหน้าศัตรู แต่กลับเหมือนมาพบเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานานคนหนึ่งเสียมากกว่า