webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

547

บทที่ 547 สมผล

ความคิดอันน่ากลัวแบบนี้ แม้แต่เสี่ยวหลิวเองยังไม่กล้าคิด เฝิงจงเหลียงกลับพูดออกมาได้โดยง่าย

เขารู้อยู่แล้วว่าเจียงจื้อหยวนเป็นคนอย่างไร หลังจากที่ตนเองบอกว่าคนๆ นี้อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเฉิงเซ่า เฝิงจงเหลียงยังจะจองโรงหนังส่วนตัว แล้วชวนเจียงจื้อหยวนไปดูหนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ อีก

ทั้งสองถือเป็นศัตรูกัน ตอนที่หนังเรื่อง ‘Evil’ เข้าฉาย แม้จะเจอกันในห้องโถงท่ามกลางผู้คนก็ทำเสี่ยวหลิวก็ตื่นตระหนกจนเหงื่อท่วมตัวแล้ว

บุคคลอันตรายแบบนี้ จะทำเรื่องเลวร้ายอะไรออกมาบ้างก็ไม่มีใครคาดเดาได้ จนถึงตอนนี้นิสัยก็ยังคงไม่เปลี่ยน ถ้าคุณท่านเฝิงตกอยู่ในมือของเขา ถือเป็นปัญหาใหญ่

“ไม่ได้นะครับ!”

เสี่ยวหลิวคิดถึงตรงนี้ก็รีบส่ายหน้าปฏิเสธ

“จะทำแบบนั้นได้ยังไงกันครับ”

“ทำไมถึงจะไม่ได้ล่ะ”

เฝิงจงเหลียงดื่มน้ำอุ่นอย่างไม่เร่งไม่รีบ เพิ่งจะเงยหน้าขึ้นมองเขาแวบหนึ่ง เสี่ยวหลิวจึงรีบหันไปทันที

“ท่านจะไปดูหนังกับเขาได้ยังไงกันครับ”

“แล้วทำไมจะไม่ได้ล่ะ” เฝิงจงเหลียงพูดพร้อมรอยยิ้ม

“หนังบางเรื่องต้องดูกับคนที่เข้าถึงแก่นแท้ของหนังสิ ถึงจะสนุก”

เสี่ยวหลิวรู้จักนิสัยของเฝิงจงเหลียงดี เรื่องที่เขาตัดสินใจไปแล้ว เสี่ยวหลิวไม่มีทางเปลี่ยนความคิดของเขาได้

ระหว่างนั้นเขาก็เคยคิดหาคนมาเกลี้ยกล่อมเฝิงจงเหลียง แต่เพราะการทำอะไรไม่ปรึกษาของตนเองก่อนหน้านี้ ทำให้เกือบจะถูกเฝิงจงเหลียงส่งกลับฮ่องกง สุดท้ายเสี่ยวหลิวจึงทำได้เพียงแค่ทำตามคำสั่งของเฝิงจงเหลียง จองห้องส่วนตัวในโรงหนังเอาไว้ห้องหนึ่ง

ช่องทางการติดต่อของเจียงจื้อหยวน เขาได้มาตั้งแต่ตอนที่สืบเรื่องของเจียงเซ่อแล้ว เสี่ยวหลิวไม่คิดเลยว่าชาตินี้จะมีวันที่ตนเองโทรหาเจียงจื้อหยวนก่อน ตอนแรกเขาคิดว่าความคิดของเฝิงจงเหลียงเป็นความคิดที่บ้ามาก เป็นญาติผู้เสียหายในคดีลักพาตัว แต่กลับชวนหัวหน้าแก็งค์ลักพาตัวมาดูหนังเกี่ยวกับการลักพาตัว ตอนที่เสี่ยวหลิวโทรหาเจียงจื้อหยวนด้วยความหวาดระแวงนั้น ก็คิดว่าผู้ชายคนนี้คงจะปฏิเสธอย่างไม่ลังเลแน่

สำหรับความแค้นระหว่างเขาและตระกูลเฝิง เสี่ยวหลิวกำลังคิดว่า ถ้าตนเองเป็นเจียงจื้อหยวน หลังจากติดคุกมาสิบเก้าปี แล้วได้รับสายแบบนี้ ควรจะปฏิเสธอย่างไม่ลังเลถึงจะถูก

เสี่ยวหลิวกดโทรออกเบอร์ของเจียงจื้อหยวนที่อยู่ในบันทึกในมือถืออย่างสั่นๆ เบอร์นี้เป็นเบอร์ที่ทำงานของเขา คนรับสายเป็นตาแก่คนหนึ่ง ตะโกนเสียงดังและเอาแต่ถามว่าเขาเป็นใคร

พอรู้ว่าคนที่เสี่ยวหลิวต้องการพูดสายด้วยคือเจียงจื้อหยวน ตาแก่คนนี้ก็พลางพูดพลางบ่นและพูดว่า

“รอเดี๋ยว!”

จากนั้นเสี่ยวหลิวก็ได้ยินเขาตะโกนว่า

“เจียงจื้อหยวน เจียงจื้อหยวน มีคนจะคุยด้วย!”

ตอนที่ตาแก่คนนี้เริ่มตะโกน เสี่ยวหลิวพลันรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

เขาอยู่ในบ้านตระกูลเฝิงมานานหลายปี และเคยเจอกับเจียงจื้อหยวน เพียงแต่ว่าตอนที่ทั้งสองพบกันเป็นการพบกันในศาล การเจอกันครั้งนั้นเสี่ยวหลิวจำได้ขึ้นใจ เมื่อพอนึกย้อนกลับไปแล้วเหมือนเรื่องราวต่างๆ เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

เขาถูกตำรวจคุมตัวไปขึ้นศาล ตอนนั้นหลักฐานมัดตัวเขาและต้องโทษหนัก มีความเป็นไปได้ที่จะติดคุกมากกว่าสิบปี

พรรคพวกที่ถูกจับมาด้วยกัน ต่างสลดใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่จำยอม มีเพียงเขาที่มีท่าทางนิ่งเฉย สายตาเย็นชา

“ฮัลโหล?”

เสียงของเขาค่อนข้างเรียบเย็น เหมือนความรู้สึกที่ทุกคนสัมผัสได้จากตัวเขามันเป็นความรู้สึกเงียบขรึมโดดเดี่ยว หลังจากที่เขาพูดคำนี้จบ เสี่ยวหลิวก็ตกลงสู่ภวังค์ในอดีตและเงียบไปนาน เขาเองก็ไม่ส่งเสียงเช่นกัน ราวกับกำลังเงียบเพื่อรอให้เสี่ยวหลิวได้สติกลับมา

“ฉันคือ...”

เสี่ยวหลิวได้สติจากห้วงความคิด ตอนที่พูดถึงฐานะของตนเอง เขาก็เงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะฝืนพูดออกมาว่า

“ฉันเป็นผู้ช่วยของคุณเฝิงจงเหลียงแห่งวิสาหกิจจงหนาน”

พอรู้ว่าคนที่โทรมาคือคนของตระกูลเฝิง เขาก็สงบมาก หลังจากฟังเสี่ยวหลิวพูดถึงเรื่องที่เฝิงจงเหลียงจะชวนเขาไปดูหนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ เขาก็ตอบตกลงอย่างนิ่งสงบ

ถึงขั้นถามสถานที่และเวลาอย่างละเอียด เหมือนจะไปตามนัดของเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานาน แต่กลับไม่ถามเหตุผลที่เฝิงจงเหลียงทำแบบนี้ ทำให้หลังจากวางสายไป เสี่ยวหลิวก็ยังคงไม่ได้สติ

ปีนี้เจียงเซ่อโชคไม่ดีนัก

หลังจากหนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ เข้าร่วมเทศกาลหนังฝรั่งเศส เพราะกระแสอันรุนแรงของหนังเรื่อง ‘Evil’ เมื่อปีที่แล้ว เพราะฉะนั้นในปีนี้ ‘PROOF OF LIFE’ เพิ่งจะเข้าร่วมเทศกาลหนัง ก็เป็นที่นิยมและติดตามของผู้ชมอย่างรวดเร็ว เพราะชื่อเสียงของผู้กำกับนักแสดงนำชายและหญิง

‘ตอนที่หนังเข้าฉาย ผลตอบรับถือว่าดีมาก ถึงขั้นที่สื่อต่างชาติเองก็เคยพูดถึงหนังเรื่องนี้ พูดถึงฝีมือการแสดงของเจียงเซ่อในหนังเรื่องนี้และความยอดเยี่ยมจากการร่วมงานกันเป็นครั้งที่สองกับหลิวเย่’

บทถังจิ้งที่เธอแสดง เป็นตัวละครที่ทำให้คนต้องด่ำดิ่งลงสู่ตัวหนัง ราวกับว่าค่อยๆ ประสบกับเคราะห์ร้ายไปพร้อมๆ กับถังจิ้งตามเนื้อเรื่อง

วิธีการถ่ายทำของจางจิ้งอานคือรักษาความเป็นหัวเซี่ยและมีใจกล้าตามแบบฉบับของยุโรปและอเมริกา

ทั้งแสงสี เพลงก็มีความเหมาะสม หลังจากนักข่าวและนักวิจารณ์หนังดูเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ จบแล้ว ล้วนคิดว่าปีนี้เป็นปีของ ‘PROOF OF LIFE’ จางจิ้งอานจะต้องได้รับรางวัลเพราะหนังเรื่องนี้แน่ แต่คนที่มีความเสี่ยงคือเจียงเซ่อ

“ฉันรวบรวมข้อมูลของคณะกรรมการในเทศกาลหนังฝรั่งเศสมาแล้ว”

เทศกาลหนังฝรั่งเศสได้ผ่านมาครึ่งทางแล้ว คำวิจารณ์เกี่ยวกับ ‘PROOF OF LIFE’ ได้ออกมาแล้ว ไม่ได้เหมือนสถานการณ์ตอนที่ ‘Evil’ เข้าฉายแรกๆ ที่ไม่มีใครพูดถึง หลังจากมั่นใจแล้วว่าหนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ มีสิทธิ์เข้าชิงรางวัลในเทศกาลหนังฝรั่งเศส ก็ทำให้สื่อและนักวิจารณ์หนังต่างติดตาม ผู้ชมก็มากขึ้นเรื่อยๆ เป็นหนังที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเทศกาลหนัง

เพราะพัฒนาการของหนังเรื่องนี้ ทุกวันนี้ ในอินเทอร์เน็ตคนที่อยากได้รับสิทธิ์ดูหนัง จะต้องแข่งชิงเพื่อให้ได้ตั๋วมาก่อน ถึงจะมีสิทธิ์ดูหนัง

เซี่ยเชาฉวินอยู่ที่โรงแรมและกำลังประเมินสถานการณ์ในตอนนี้ เพื่อให้เธอได้เตรียมใจไว้

“หนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ จะต้องเข้ารอบเทศกาลหนังแน่”

รางวัลที่อาจจะได้รับเธอก็ทำตารางออกมา และวงให้เจียงเซ่อดู

รางวัลที่ถูกวงไว้ นอกจากรางวัล ‘ผู้กำกับยอดเยี่ยม’ และ ‘บทประพันธ์ยอดเยี่ยม’ แล้วก็ไม่มีรางวัล ‘นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม’ นั่นหมายความว่า เซี่ยเชาฉวินคิดว่าเทศกาลหนังฝรั่งเศสปีนี้ ท้ายที่สุดเจียงเซ่ออาจจะต้องเป็นแค่ตัวประกอบเหมือนเดิม

“เหมือนเมื่อครั้งหนังเรื่อง ‘Evil’ ไม่ใช่เรื่องยากที่เธอจะถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขา ‘นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม’ และจากฝีมือการแสดงในเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับรางวัล”

ในหนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ การแสดงของเจียงเซ่อโดดเด่นเป็นอย่างมาก สามารถดูออกได้จากคำชื่นชมของสื่อใหญ่ๆ หลายสำนักและนักวิจารณ์หนังที่มีต่อเธอ แต่ทว่า หนังที่เข้ารอบในปีนี้มีไม่มากนัก หนึ่งในนั้น หนังเรื่อง ‘Friday’ ของผู้กำกับสัญชาติอเมริกา Kevin Spacey จะเป็นคู่แข่งของ ‘PROOF OF LIFE’

แม้ว่าในความคิดของเซี่ยเชาฉวิน หนังเรื่อง ‘Friday’ นางเอกสาวอลิซที่แสดงเป็นคนมีหลายบุคลิก จะยังมีจุดบกพร่องในการแสดงอยู่หลายจุด ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้วการแสดงของเจียงเซ่อในบทถังจิ้งเหนือกว่ามาก แต่ด้วยชื่อเสียงของจางจิ้งอานและ Spacey ที่อยู่ในระดับเดียวกันแล้ว ถ้าเกิดจางจิ้งอานได้รับรางวัล รางวัล ‘นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม’ ก็อาจจะตกเป็นของนักแสดงนำหญิงของเรื่อง ‘Friday’