บทที่ 546 สมเหตุ
หลังจากออกจากคุกเจียงจื้อหยวนก็สงบเสงี่ยมดี ราวกับว่าเรื่องเลวร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของชีวิตเป็นดั่งความฝัน
สำหรับคนที่เคยบ้าบิ่นไม่กลัวฟ้าดิน เป็นคนพเนจร ไม่เคารพกฎหมายและไร้ซึ่งคุณธรรม สุดท้ายกลับถูกจับ
เฝิงจงเหลียงไอสองทีและหัวเราะอย่างไร้เสียงออกมา
เสี่ยวหลิวเอาน้ำอุ่นมาไว้ข้างมือของเขา มองดูเขาที่กำลังเปิดฝาแล้วจิบเบาๆ หลายหน พลางพูดว่า
“ผมเดาว่าเขาอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของผู้ชายที่ชื่อเฉิงเซ่าครับ”
สายตาของเขาแฝงความกังวล ขณะที่เขาพูด เฝิงจงเหลียงก็ยังคงดื่มน้ำ
ช่วงนี้เฝิงหนานได้จ้างวานให้เฉิงเซ่าตามสืบเรื่องของเจียงจื้อหยวน ข่าวจากคนที่เสี่ยวหลิวใช้ให้ไปสะกดรอย บอกว่า เฝิงหนานให้ชายคนนี้ตามสืบความสัมพันธ์ระหว่างเจียงจื้อหยวนกับเจียงเซ่อ แล้วยังพูดถึงรูปเจียงเซ่อตอนเป็นทารกแรกเกิดด้วย
“คนที่ชื่อเฉิงเซ่าเป็นคนที่คุณหนูเฝิงหนานจ้างวานให้ไปตามสืบเจียงจื้อหยวนครับ”
แต่ทว่า ระหว่างที่สะกดรอยตามเฉิงเซ่าก็ไม่ได้เบาะแสที่เป็นประโยชน์อะไร เพราะตอนที่เสี่ยวหลิวสืบเรื่องของเจียงเซ่อจนเชื่อมโยงไปถึงเจียงจื้อหยวนนั้น ด้วยการบอกเป็นนัยของเฝิงจงเหลียง เสี่ยวหลิวจึงได้ลบเบาะแสทั้งหมดทิ้งไปนานแล้ว
คนที่รู้เรื่องนี้ล้วนถูกจัดการและถูกปิดปาก ไม่กล้าพูดถึงเรื่องนี้แน่
แต่ทว่า สิ่งที่น่าสงสัยคือ เฝิงหนานกลับทำเหมือนรู้จักเจียงจื้อหยวนเป็นอย่างดี แถมยังเคยสืบเรื่องของเจียงจื้อหยวนมาบ้างแล้ว หลังจากเฉิงเซ่าได้รับการจ้างวานจากเธอก็สามารถหาตัวเจียงจื้อหยวนเจอได้อย่างง่ายดายเพราะเบาะแสจากเธอ
คนๆ นี้ไม่รู้ว่าเจียงจื้อหยวนเป็นบุคคลที่อันตรายมากเพียงใด จึงถูกเก็บอย่างรวดเร็ว
“บางทีหลังจากเขารู้แล้วว่ามีคนคอยตามเก็บเรื่องนี้อยู่เบื้องหลัง ในระหว่างที่สืบเรื่องนี้ จึงระมัดระวังในการปกปิดฐานะของตนเองเป็นอย่างมาก”
เฉิงเซ่าอยู่ในสังคมตามทวงหนี้ ปล่อยเงินกู้มานานหลายปี คนแบบนี้ทั้งฉลาดและเจ้าเล่ห์เป็นอย่างมาก แม้เขาจะต้องการเงินแต่ก็ต้องเอาตัวรอด ไม่ไปสร้างปัญหาอะไรเข้า
แต่ทว่า ก็เพราะการกระทำแบบนี้ ท้ายที่สุดแล้วการหายตัวไปของเขาจึงไม่มีใครเป็นเดือดเป็นร้อนแทน
“ผมเคยให้คนไปสืบ เขาเป็นคนทำลายเบาะแสทั้งหมดของตนเองทิ้ง ยากที่จะรู้ว่าที่สุดท้ายที่เขาอยู่คือที่ไหน” เสี่ยวหลิวพูดอยู่ดีๆ ก็หยุดไปครู่หนึ่ง
“แต่เพราะคนสุดท้ายที่เขาสะกดรอยตามคือเจียงจื้อหยวน ผมถึงสงสัยว่าการหายตัวไปของเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเจียงจื้อหยวน”
แต่ว่า นี่เป็นเพียงข้อสันนิษฐาน ไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ ท้ายที่สุดเสี่ยวหลิวก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ต่อหน้าเฝิงจงเหลียงอีก
“ตอนแรกคิดว่าจะรายงานท่านหลังจากสืบจนความจริงกระจ่างแล้ว” ท่าทางของเขาดูเคร่งขรึม พลันส่ายหน้า รู้สึกว่าเรื่องการหายตัวไปของเฉิงเซ่าจะต้องมีอะไรมิชอบมาพากล เมื่อคิดดูดีๆ แล้วก็รู้สึกกลัวขึ้นมา
เรื่องที่เฉิงเซ่าหายตัวไป อาจจะยังไม่มีคนรู้ภายในเวลาอันสั้นนี้
คนแบบนี้ เพื่อนที่คบส่วนมากก็เป็นพวกอันธพาลเร่ร่อนในสังคม ไม่มีการงานที่มั่นคง รับจ้างตามสืบเรื่องชาวบ้านไปวันๆ ผีเข้าผีออก และตีตัวออกห่างจากญาติมิตร
หลังจากที่เขาหายตัวไป ไม่มีใครยังรู้สึกแปลกใจ แม้ว่าหลังจากนี้จะมีคนสงสัยเรื่องนี้ แต่ถ้าอยากจะสืบก็คงลำบาก
อย่างน้อยเจียงจื้อหยวนก็อยู่ในสายตาของเสี่ยวหลิวตลอดเวลา และยังไม่มีหลักฐานว่าการหายตัวไปของเฉิงเซ่าเกี่ยวข้องกับเจียงจื้อหยวน
แต่หากได้หลักฐานนี้มาอยู่ในมือ อย่างน้อยก็ยังสามารถเอามาเป็นจุดอ่อนในการต่อรองกับเจียงจื้อหยวนได้
“การติดคุกที่ฮ่องกงนานถึงสิบเก้าปี สำหรับเขาแล้วคงจะเป็นเหมือนการเข้าโรงเรียนสินะ”
เฝิงจงเหลียงพึมพำในขณะที่ในมือก็ยังคงถือแก้ว
“ไม่เคยได้เข้าเรียนจริงจัง ตอนหนุ่มๆ คบแต่เพื่อนที่เป็นพวกอันธพาล”
ชีวิตในอดีตของเจียงจื้อหยวนทำให้เขาเรียนรู้ว่า พวกอันธพาลไร้ความสามารถเหล่านี้ มักใช้อำนาจในการข่มขู่คนอื่น เพียงแค่พวกเขามีบ้าบิ่นมากกว่าพวกเรียกไถ่ค่าคุ้มครองไม่เอาไหนพวกนั้น เพราะฉะนั้น สุดท้ายเขาจึงวางแผนลักพาตัวเฝิงหนานเพื่อเรียกค่าไถ่จนสำเร็จ
เพราะประสบการณ์จากการเข้าออกสถานีตำรวจและคุ้นชินกับตำรวจตอนวัยรุ่น เขาจึงมีวิธีการอันหลักแหลมในเอาตัวรอดจากการสอบสวนจากทางตำรวจ
แม้อายุจะยังน้อย อาจจะมีบ้างที่ไม่รอบคอบ แต่จิตใจของเขาเข้มแข็งมาก ตอนนั้นจึงสร้างปัญหาให้เฝิงจงเหลียงไม่น้อย
แต่ทว่า ท้ายที่สุดแล้ว ด้วยปัจจัยต่างๆ แผนการลักพาตัวของเขาก็ล้มเหลว จึงเป็นเหตุให้ต้องติดคุกเป็นเวลาสิบเก้าปีหลังจากเรื่องนั้น
สำหรับคนจำนวนมากแล้ว การติดคุกสิบเก้าปีอาจจะเหมือนตายทั้งเป็น
โดยเฉพาะในช่วงเวลานั้น เฝิงจงเหลียงไม่มีทางปล่อยคนร้ายที่ทำร้ายหลานสาวของตนเองแน่ ถึงขั้นเคยจ้างคนเข้าไปสั่งสอนเจียงจื้อหยวนในคุก
แต่ทว่า เขากลับไม่เป็นเดือดเป็นร้อน เป็นเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงที่ตกเป็นเชลย ความสงบเสงี่ยมเจียมตัวชั่วคราวแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่านิสัยของเขาจะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
ในทางกลับกัน สำหรับเขาแล้วชีวิตในคุกเหมาะกับคนอย่างเขามากกว่า ทำทุกอย่างตามใจตนเอง ทำเรื่องเลวร้ายได้โดยไม่ต้องสนใจกฎหมาย
ที่นั่นเป็นศูนย์รวมของคนชั่ว อยู่ในนั้นเขาได้ใช้ความฉลาดหลักแหลมของตนเองได้อย่างเต็มที่ และเรียนรู้แผนการอันหลากหลายมากมายจากคนชั่วพวกนั้น
ทั้งฉลาดและน่ากลัว ใจเย็นแต่เหี้ยมโหด
สำหรับการหายตัวไปของเฉิงเซ่าเฝิงจงเหลียงจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเสี่ยวหลิวถึงสืบความจริงออกมาไม่ได้
เจียงจื้อหยวนจงใจลงมือ แต่ไม่อยากทำให้ลูกสาวต้องเดือดร้อน เขาจะไม่ทำลายหลักฐานจนหมดสิ้นได้อย่างไร
เขาในตอนนั้น ลักพาตัวเฝิงหนานไป แต่กลับพ่ายแพ้เพราะเฝิงจงเหลียง “ถ้าเขาในตอนนี้ลักพาตัวเฝิงหนาน บางทีอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ฉันจะสามารถพาเธอกลับมาได้อย่างปลอดภัย”
เฝิงจงเหลียงถอนหายใจ เสี่ยวหลิวได้ยินคำพูดของเขาก็รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก พลันหันไปมองเฝิงจงเหลียง กลับเห็นว่าเขาราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ ท่าทางไม่เหมือนคนกำลังพูดเล่น
เสี่ยวหลิวพูดอะไรไม่ออกทันที ไม่รู้ว่าเฝิงจงเหลียงแค่พูดโดยไม่ได้คิดอะไร หรือต้องการจะสื่ออะไรกันแน่
อย่างไรก็ตาม สาเหตุการหายตัวไปของเฉิงเซ่าหนีไม่พ้นเจียงจื้อหยวนแน่ และเฉิงเซ่าก็ได้รับการจ้างวานจากเฝิงหนานอีกที ซึ่งบ่งบอกว่าขณะนี้เฝิงหนานตกอยู่ในอันตรายเป็นอย่างมาก
เจียงจื้อหยวนที่สามารถทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้ แน่นอนว่ามีความเป็นไปได้ที่จะลงมือกับเฝิงหนานอีก
สำหรับเหตุผล เสี่ยวหลิวไม่จำเป็นต้องอธิบาย บางทีเฝิงจงเหลียงเองก็รู้อยู่แก่ใจ
ช่วงนี้เผยอี้กำลังสั่งคนไปหาเรื่องเฝิงหนาน ในอินเทอร์เน็ต ข่าวของเฝิงหนานถูกเผยแพร่ออกมาอย่างต่อเนื่อง เบื้องหลังของเรื่องนี้ เฝิงหนานเดาออกว่าสาเหตุคืออะไร แน่นอนว่าคนอย่างเฝิงหนานก็ยิ่งรู้ดี แต่ว่า เขากลับไม่ได้สั่งคนให้ไปปกป้องเฝิงหนานเลยแม้แต่น้อย
“สำหรับหนังเรื่อง PROOF OF LIFE’ เธอช่วยไปจองโรงหนังส่วนตัวให้ฉันสักโรง”
หนังเรื่องนี้ไม่ว่ากับตัวเฝิงจงเหลียงหรือเจียงเซ่อก็ล้วนเป็นประสบการณ์พิเศษ เฝิงจงเหลียงจึงไม่อยากดูกับคนแปลกหน้ามากมายในโรงหนัง
คำสั่งนี้ไม่ใช่เรื่องยาก เสี่ยวหลิวพยักหน้า เฝิงจงเหลียงพูดต่อว่า
“เธอไปหาช่องทางการติดต่อของเจียงจื้อหยวนมาให้ฉัน หนังเรื่องนี้ ฉันจะให้เขาไปดูกับฉัน”
เขาโยนระเบิดเอาไว้ลูกหนึ่ง ทำให้เสี่ยวหลิวตะลึงไม่น้อย คำพูดในตอนนี้ทำให้เสี่ยวหลิวตกใจจนเสียสติไปครู่ใหญ่
“ท่าน ท่านหมายความว่า...”
“หนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ ฉันจะให้เขาดูกับฉัน ดูกับฉันจนจบ!”
เสี่ยวหลิวอ้ำๆ อึ้งๆ ใบหน้าเผยความตื่นตระหนก เฝิงจงเหลียงกลับดูมีอะไรในใจ เห็นได้ชัดว่ามีความคิดอันน่ากลัวแบบนี้มาตั้งนานแล้ว