webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

544

บทที่ 544 เป็นหนี้

หนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ กำลังจะเข้าฉายและยังมีโอกาสเข้าเข้าร่วมเทศกาลหนังฝรั่งเศส ตอนนี้จะเกิดปัญหาอะไรขึ้นไม่ได้ ถ้าเรื่องแบบนี้ถูกเปิดเผย ปัญหาที่ตามมาจะเป็นอย่างไร ทุกคนย่อมรู้อยู่แก่ใจ

โดยเฉพาะเนื้อเรื่องของ ‘PROOF OF LIFE’ ที่เกี่ยวกับการลักพาตัวพอดี

ในเรื่องนี้เจียงเซ่อแสดงเป็นคนที่ถูกลักพาตัว ถ้าเฝิงหนานฉวยโอกาสนี้ในการก่อความวุ่นวาย ก็จะนำพาความเดือดร้อนให้กับเจียงเซ่อเป็นอย่างมาก

เนี่ยต้านเข้าใจจุดประสงค์ของเผยอี้ทันที เขาเองก็คิดถึงผลกระทบหลังจากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป เจียงเซ่อที่เป็น ‘เหยื่อ’ ในหนัง จะกลายเป็นคนร้ายคดีลักพาตัวในชีวิตจริง เฝิงหนานจะกลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์และเหยียบหัวเจียงเซ่อขึ้นมาชูหน้าชูตา

ถึงว่าวันนี้ทั้งเจียงเซ่อและเผยอี้ต่างโทรมาให้เขาสืบเรื่องของเฝิงหนาน

“พี่อี้ วางใจเถอะ เรื่องนี้เดี๋ยวผมจัดการให้เอง”

เนี่ยต้านเองเข้าใจความรุนแรงของผลกระทบจากเรื่องนี้ การที่เผยอี้ยอมบอกเรื่องนี้กับเขา แน่นอนว่ามันทำให้เขารู้ว่า ในใจของเผยอี้ ยังคงเห็นความสำคัญของน้องชายคนนี้

นอกจากนี้ สิ่งที่เนี่ยต้านคิดไม่ถึง คือการกระทำของเผยอี้ต่อเจียงเซ่อ

เผยอี้รักและหวงแหนเจียงเซ่อมากตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เวลาผ่านไปหลายปี ก็ยังไม่เคยเปลี่ยนใจ

เป็นทายาทของตระกูลเผย สิ่งเย้ายวนใจรอบข้างเผยอี้มีมากมาย แฟนสาวของเซี่ยงชิวจี๋หลายปีมานี้ ไม่รู้ว่าเปลี่ยนมากี่คนต่อกี่คนแล้ว แต่เขายังคงซื่อสัตย์ต่อเจียงเซ่อคนเดียว

ไม่เพียงเท่านี้ ความซื่อสัตย์ของเผยอี้ ดูออกตั้งแต่ตอนที่ตามจีบเฝิงหนานแล้ว

เจียงเซ่อมีความรู้สึกของเฝิงหนานอยู่เล็กน้อย ถ้าเขาจะชอบก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ทว่า สิ่งที่ทำให้เนี่ยต้านตกใจก็คือสุดท้ายเผยอี้กลับรักจริง คบหาจนกระทั่งกำลังจะแต่งงานกันในที่สุดและตระกูลเผยยังเห็นด้วยกับการแต่งงานนี้อีกด้วย

แม้เวลาจะผ่านมาหลายปี ความรู้สึกก็ไม่เคยจางหายไป แต่กลับมากขึ้น รู้ฐานะที่แท้จริงของเจียงเซ่อ ไม่เพียงแค่ไม่รังเกียจ แต่ยังช่วยเธอปกปิด เนี่ยต้านไม่เคยเห็นใครเป็นแบบนี้มาก่อน

“พี่อี้”

ก่อนวางสาย เขาแสดงความซาบซึ้งใจออกมา

“เรื่องนี้ผมจะไม่บอกใคร รู้ว่าพี่ยังเห็นผมเป็นน้อง เลยบอกเรื่องนี้กับผม ต่อไปถ้ามีเรื่องอะไร ก็โทรมาได้เลย!”

เขาซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก ซาบซึ้งกับความเป็นพี่น้องที่โตมาด้วยกันของทั้งสอง พอพูดจบ เผยอี้จึงตอบกลับนิ่งๆ

“อืม นอนแล้วนะ”

ในโทรศัพท์มีเสียง ‘ตู๊ดๆ’ ดังขึ้น เนี่ยต้านซาบซึ้งใจจนแทบจะไม่ไหวแล้ว

เนี่ยต้านไปขอดูเทปกล้องวงจรปิดที่ฉาวจิ้นเก๋อด้วยตนเอง แม้จะนานแล้ว แต่ฉาวจิ้นเก๋อยังคงเก็บเทปกล้องวงจรเอาไว้เป็นอย่างดี เนี่ยต้านได้คลิปมาอย่างราบรื่น แล้วไปจ้างคนจัดการกับคลิปนี้ เรียบเรียงคลิปตอนที่เฝิงหนานแพ้พนันและจัดการทุกอย่างจนเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว

เขานึกถึงเรื่องที่เจียงเซ่อโทรมาบอกอีกครั้งและต้องการให้คนสืบหนังเรื่อง ‘Revenge’ เหมือนกัน

ตอนนี้เฝิงหนานไม่รู้ตัวว่า ในขณะที่ตนเองกำลังสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างเจียงจื้อหยวนและเจียงเซ่อ ก็มีคนกำลังสืบเรื่องของตนเองเหมือนกัน

ความจริงช่วงนี้เธองานยุ่งมาก หลังจากบทนางเอกในเรื่อง ‘Suspect’ ถูกเถาเฉินแย่งไป ไม่นานเธอก็อยากได้บทจงฉีในหนังเรื่อง ‘Suspect’

แม้ว่าตัวละครตัวนี้จะมีบทไม่มากเท่าเฉินซวินหราน และเป็นเพียงแค่ตัวรอง แต่การที่หนังเรื่อง ‘Suspect’ ได้รับความนิยมหลังจากเข้าฉาย และเพราะชื่อเสียงของเถาเฉิน ถ้าตนเองได้แสดงหนังเรื่องนี้ ก็จะได้ร่วมงานกับเถาเฉินด้วย

ถึงตอนนั้น เพราะการได้ร่วมการกับเถาเฉิน เธอเองก็จะเป็นที่รู้จักมากขึ้น มันจึงไม่ได้เป็นเรื่องแย่สำหรับเธอเท่าไหร่นัก

ก่อนหน้านี้ เธอเคยโทรหาฮั่วจือหมิง บอกว่าอยากแสดงเป็นเฉินซวินหรานในเรื่อง ‘Suspect’ และยังบอกว่าจะร่วมลงทุนกับหนังเรื่อง ‘Suspect’ ตอนนั้นฮั่วจือหมิงซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก

ภายหลังเพราะเถาเฉินเข้ามาแทรก ฮั่วจือหมิงเองก็น่าจะเกรงใจเธอ เพราะฉะนั้นตอนที่เธอเสนอว่าจะร่วมลงทุนกับหนังเรื่อง ‘Suspect’ อีกครั้งเพื่อให้ฮั่วจือหมิงให้โอกาสตนเองได้แคสติ้ง เรื่องนี้จึงมีความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จแปดสิบถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์

สำหรับหนังเรื่อง ‘Suspect’ ฮั่วจือหมิงไม่ต้องเอาบทประพันธ์ไปขอเงินทุนจากทางบริษัททุนเหมือนตอนแรกแล้ว มีเถาเฉินอยู่ทั้งคน มีบริษัททุนมากมายต่างยินยอมที่จะควักเงินออกมา

ไม่ว่าท้ายที่สุดฮั่วจือหมิงจะเห็นคุณค่าเงินอันน้อยนิดของเฝิงหนานหรือไม่ แต่อย่างไร เขาก็เป็นหนี้บุญคุณเฝิงหนาน

เฝิงหนานเคยลองคิดอย่างรอบคอบแล้ว ในหนังเรื่อง ‘Suspect’ จงฉีและเฉินซวินหรานเข้าฉากด้วยกันเยอะมาก การเข้ามามีส่วนร่วมในหนังเรื่องนี้ของเถาเฉินช่วยยกระดับหนังเรื่องนี้ แต่ก็คงจะมีข้อเสียตามมา

ตอนนี้ในบรรดานักแสดงหญิงในประเทศ เถาเฉินเป็นอันดับหนึ่งในหัวเซี่ย ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงฐานะและทักษะการแสดง ไม่มีนักแสดงหญิงคนใดสามารถสู้เถาเฉินได้เลย

ในการแสดงฉากเดียวกับเธอ ออร่าของเธออาจจะกลบคู่ต่อสู้ได้

ถ้าเริ่มถ่ายทำ คนที่ต้องต่อบทกับเธอ ถ้าใจไม่สู้พอ เมื่อเจอกับนักแสดงที่มีชื่อเสียงระดับเถาเฉินแล้ว ก็คงจะไม่สามารถแสดงความสามารถออกมาได้เต็มที่แน่

แต่เฝิงหนานกลับไม่เป็นแบบนั้น เธอมีประสบการณ์จากการเกิดใหม่ รู้ว่าตนเองมีความสามารถมากพอที่จะแสดงเป็น ‘จงฉี’ และมีความเป็นไปได้เป็นอย่างมากที่ตนเองจะไม่ตื่นเวทีเพราะประสบการณ์อันวิเศษแบบนี้

จากการคาดเดาของเฝิงหนาน เธอเสนอว่าจะร่วมลงทุนกับหนังเรื่อง ‘Suspect’ เพราะต้องการโอกาสในการแคสติ้งเป็นนักแสดงสมทบ แทบจะไม่ต้องเสียแรงมาก ก็ทำให้ฮั่วจือหมิงรับปากว่าจะให้โอกาสเธอ

หลังจากกำหนดวันแคสติ้ง เฝิงหนานก็วางสายด้วยความดีใจ แต่ทว่าความดีใจของเธอไม่ได้คงอยู่นานมากนัก เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดรายชื่อผู้ติดต่อ พอนิ้วโป้งที่ทาสีเล็บเลื่อนมาถึงชื่อของเฉิงเซ่าจึงได้หยุดลง

เธอขมวดคิ้วด้วยท่าทางเคร่งเครียด เฉิงเซ่าไม่ได้ติดต่อกลับมาหาเธอหลายวันแล้ว ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังจากสั่งให้เฉิงเซ่าไปสะกดรอยตามเจียงจื้อหยวนที่ฮ่องกง ก็ติดต่อเฉิงเซ่าไม่ได้อีกเลย เขาปิดเครื่องตั้งแต่หลายวันที่ผ่านมา

ไม่ได้รับข่าวจากเขามาหลายวัน เฝิงหนานก็เริ่มนั่งไม่ติด

คนๆ นี้ทำงานใช้ได้ และข้อมูลแม่นยำ เมื่อชาติที่แล้ว เรื่องของเจียงเซ่อและพ่อ เขาก็เป็นคนสืบให้ตนเอง และถึงขั้นที่ได้รูปนั้นมาครอบครอง

แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เฉิงเซ่าในชาตินี้กลับทำให้เฝิงหนานไม่พอใจเป็นอย่างมาก

เขาได้รับเงินสามแสนจากตนเองเพื่อไปสะกดรอยตามเจียงจื้อหยวน แต่ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว เขากลับไม่ได้เบาะแสอะไรที่เป็นประโยชน์เลย อย่าว่าแต่รูปของเจียงจื้อหยวนและเจียงเซ่อเลย แม้กระทั่งเจียงจื้อหยวนเป็นอย่างไรบ้างก็ยังไม่รู้

ตอนนี้กลับไม่รับสายตนเอง บริษัทเงินกู้และฝากเงินดอกเบี้ยสูงของเขาไม่น่าเชื่อถือตั้งแต่แรก เมื่อเฝิงหนานโทรไปถาม พนักงานบอกว่าไม่เห็นเจ้านายมาหลายวันแล้ว

สำหรับงานนี้ เฉิงเซ่าก็ผีเข้าผีออก บางทีหายไปหลายวันโดยไม่ได้เหตุผล ตอนแรกเฝิงหนานเองก็เคยคิดว่าคนๆ นี้หลอกเงินตนเองหรือเปล่า แต่อย่างไรก็ตาม เธอก็มีความเชื่อเดิมตั้งแต่ชาติที่แล้ว จึงคิดว่าเฉิงเซ่าคงไม่กล้าหลอกเธอหรอก

แต่ทว่า เพราะเวลาที่ล่วงเลยมาเรื่อยๆ เฉิงเซ่าก็ยังคงไม่ติดต่อกลับมาหาเธอ เฝิงหนานจึงเริ่มนั่งไม่ติดแล้ว

หนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ กำลังจะเข้าฉาย เมื่อชาติที่แล้วหนังเรื่องนี้เถาเฉินเป็นนักแสดงนำ ชาตินี้เปลี่ยนเป็นเจียงเซ่อ ถ้าในเวลาแบบนี้ สามารถสร้างข่าวเสียๆ หายๆ ให้เจียงเซ่อได้ และสามารถเอาหลักฐานออกมายืนยัน เฝิงหนานรับประกันได้เลยว่าเส้นทางในวงการบันเทิงของเจียงเซ่อจะต้องพังทลายลง เธออาจจะไม่สามารถอยู่ในวงการนี้ได้อีกต่อไป

ตระกูลเผยไม่มีทางยอมให้หญิงสาวที่ประชาชนเกลียดชังมาเป็นภรรยาของเผยอี้แน่ ถึงตอนนั้นเจียงเซ่อจะต้องจนตรอก กลายเป็นหนูข้างถนน!

เฝิงหนานจับโทรศัพท์มือถือเอาไว้และนิ่งไปพักใหญ่ ในที่สุดก็หายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง แล้วโทรหาเฉิงเซ่าอีกครั้ง แต่มีเพียงเสียงที่ตอบกลับมาว่าเฉิงเซ่าปิดเครื่อง

เธอวางสาย แล้วโทรหาใครอีกคน ให้เขาช่วยหาเบาะแสของเฉิงเซ่า ยังไม่ทันวางสาย ก็มีคนเคาะประตูห้องทำงานของเฝิงหนาน

“เข้ามา”

สีหน้าของเธอดูไม่ดีนัก หลังจากวางสาย ไต้เจียก็เปิดประตูห้องทำงานเข้ามา ยังไม่ทันได้พูดอะไร เฝิงหนานก็หยิบกล่องปากกาบนโต๊ะขึ้นมา ก่อนจะขว้างเข้าใส่ไต้เจีย

“เธอรู้ไหมว่าฉันมีธุระต้องจัดการ ฉันสั่งแล้วไม่ใช่หรือว่าถ้าไม่มีเรื่องสำคัญอะไร อย่ารบกวนฉันน่ะ”

เฝิงหนานเป็นคนเจ้าอารมณ์ ทุกครั้งที่โมโห ไม่ชอบให้ใครหลบ

กล่องปากกาทำจากเซรามิก อันใหญ่เท่ามือลอยมากระแทกบนแขนของไต้เจียอย่างแรง จนร่างกายของเธอเอียงเซไป ท้ายที่สุดก็ตกลงบนพื้นดัง ‘เพล้ง’ แล้วแตกกระจาย

เธอถูกกระแทกไม่เบา ถ้าเป็นผู้จัดการคนอื่น คงจะร้องไห้ออกมาแล้ว แต่ไต้เจียกลับอดทนต่อความเจ็บปวดและพูดด้วยท่าทางที่ดูใจเย็น

“คุณเฝิง มีคนมาหาคุณค่ะ”

“ฉันไม่พบ!” เฉิงเซ่ายังคงไม่ติดต่อกลับมา ตอนนี้เรื่องของเจียงจื้อหยวนก็ยังสืบได้ไม่ถึงไหน แม้เฝิงหนานจะรู้ว่าเจียงจื้อหยวนเป็นพ่อของเจียงเซ่อ และอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนที่เคยลักพาตัวเธอในตอนนั้น แต่เธอไม่มีหลักฐาน ข่าวที่ไม่น่าเชื่อถือแบบนี้ ถ้าเธออยากให้นักข่าวเปิดโปง แต่ด้วยชื่อเสียงของเจียงเซ่อและฐานะของเซี่ยเชาฉวิน รวมทั้งอำนาจของตระกูลเผย ไม่มีนักข่าวสำนักไหนยอมเปิดโปงเรื่องนี้แน่

เธอกำลังอารมณ์เสียมาก ไต้เจียกลับเข้ามาตอนนี้ เฝิงหนานพยายามเก็บกดความโกรธ

“โทรไปนัดเวลากับ Givenchy ให้ฉันที ฉันจะไปเลือกเสื้อผ้า”

เธอได้นัดพบกับฮั่วจือหมิงเอาไว้แล้ว การพบกันในครั้งนี้ เฝิงหนานจะต้องสร้างความประทับใจให้ฮั่วจือหมิงให้มากขึ้นกว่าเดิม และคว้าบทของจงฉีมาครอบครองให้ได้

เมื่อสิ้นเสียงของเธอ ไต้เจียยังคงยืนนิ่งอยู่หน้าประตู เฝิงหนานเงยหน้าขึ้นอย่างหมดความอดทน

“เธอจะทำอะไร ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”

“คุณเฝิง มีคนต้องการพบคุณค่ะ เป็นทนายแซ่ไห่ เขาบอกว่าเป็นตัวแทนของคุณเผยที่เป็นลูกค้ามาทวงเงินกับคุณค่ะ”

“ฉันไปเป็นหนี้คุณเผยอะไรนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

เฝิงหนานแปลกใจเป็นอย่างมาก เธอยิ้มอย่างเย็นเยียบและย้อนถาม จากนั้น ก็มีชายคนหนึ่งปรากฏขึ้นข้างหลังไต้เจีย เขาพูดพร้อมรอยยิ้ม “จะเป็นหนี้หรือเปล่า คุณเฝิงควรคิดดูให้ดีอีกครั้งนะครับ”

ตอนที่เขาพูด ในมือยังถือแฟ้มเอกสารแฟ้มหนึ่ง

“ผมแนะนำให้คุณเฝิงดูเอกสารของผมก่อนแล้วค่อยว่ากันดีกว่า ไม่อย่างนั้นถ้าเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ สำหรับคนของประชาชนอย่างคุณแล้ว ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจจะไม่ดีนักนะครับ”

ผู้ชายที่ไต้เจียบอกว่าเป็นทนายคนนี้พูดถึงตรงนี้ เฝิงหนานรู้สึกว่าใครสักคนกำลังแกล้งตนเองก็เท่านั้น ไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาคิดใส่ใจแต่อย่างใด

เธอคิดอยากจะแกล้ง จึงให้ทนายไห่เข้ามาและถามถึงหนี้ที่ตนเองติดไว้

เธอเป็นหนี้อะไรหรือไม่ เฝิงหนานรู้อยู่แก่ใจ

หลายปีมานี้ แม้เธอจะทำรายได้ได้ไม่มาก แต่ก็ไม่ถือว่าน้อย หลายปีที่ผ่านมาทั้งเป็นนักแสดงและถ่ายทำหนังหลายเรื่อง แล้วเธอยังขายของสะสมของเฝิงหนานคนเก่าไปจำนวนหนึ่ง และหุ้นจากวิสาหกิจจงหนานในตอนนั้น รวมทั้งเงินที่หลอกมาจากเฝิงจงเหลียงอีก รวมๆ แล้วเธอก็มียี่สิบสามสิบล้านแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะขาดทุนกับหนังเรื่อง ‘Revenge’ เธอก็คงมีเงินมากกว่านี้

หลายสิบล้านนี้สำหรับคนรวยแล้วอาจจะไม่มาก แต่ตอนนี้ก็เธอก็พอใช้ เธอไม่มีความจำเป็นต้องไปยืมเงินใคร

เธออยากรู้จริงๆ เลยว่า ใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้และจงใจกลั่นแกล้งตนเองเช่นนี้

“คุณเฝิงครับ ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมแซ่ไห่ เป็นผู้รับผิดชอบในสำนักงานฉีเทียน นี่ครับ นามบัตรผม”

ทนายไห่คนนี้แนะนำตัวสั้นๆ และเฝิงหนานก็เริ่มรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ

ทนายไห่คนนี้เป็นทนายจากสำนักงานฉีเทียน สำนักงานฉีเทียนมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในตี้ตูและทำงานรับใช้แต่บุคคลชั้นสูงทั้งนั้น

เธอจำได้รางๆ ว่า บริษัทของครอบครัวจ้าวจวินฮั่นก็ได้ร่วมงานกับสำนักงานฉีเทียนมาก่อน

ถ้ามีคนคิดจะแกล้งและหาทนายมาทำให้ตนเองตื่นตระหนกล่ะก็ ก็ไม่มีทางเป็นถึงคนของฉีเทียนแน่

เธอขมวดคิ้ว ทนายไห่เพียงมองเธอแวบหนึ่งแล้วจึงพูดพร้อมรอยยิ้ม

“คนที่ไหว้วานผมมาแซ่เผย เมื่อหกปีที่แล้ว ในงานเลี้ยงงานหนึ่ง เงินที่คุณติดค้างเขาไว้ห้าสิบกว่าล้าน คุณยังจำได้หรือเปล่าครับ”

เขาพูดถึงเรื่องนี้ เฝิงหนานก็กระจ่างทันที ในที่สุดก็จำได้ว่าตนเองติดหนี้อะไรกันแน่

ตอนแรกเธอก็ไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ถึงจะถูก ฐานะของเผยอี้เป็นอย่างไร ตอนแรกเฝิงหนานกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่แพ้พนัน ต่อมาตระกูลเฝิงได้วางแผนว่าจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ผ่านเฝิงจงเหลียง แต่ทว่า ยิ่งเธอรู้จักเผยอี้ เธอก็ยิ่งไม่ใส่ใจเรื่องที่ตนเองแพ้พนันตอนเล่นไพ่กับพวกของเผยอี้

เงินทองของเผยอี้เพียงพอให้เขาใช้อย่างสุขสบายไปทั้งชีวิต ตอนนั้นพวกเขาไม่ได้จริงจังเรื่องที่ตนเองแพ้พนัน เงินพวกนั้นสำหรับเผยอี้แล้วมันเล็กน้อยมาก เขาแทบจะไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย

และเป็นอย่างที่คิดเอาไว้ เรื่องที่แพ้พนันในครั้งนั้น ไม่มีใครพูดถึงอีก

ไม่เพียงแค่หลังจากนั้นเผยอี้ไม่ติดต่อกับเธออีกเลย เฝิงจงเหลียงเองก็ไม่เคยพูดถึงอีก เรื่องนี้เหมือนเป็นเรื่องล้อเล่นบนโต๊ะพนันไพ่เท่านั้น หลายปีผ่านไป เฝิงหนานเองก็เลยลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท คิดไม่ถึงเลยว่าท้ายที่สุดเผยอี้กลับจ้างทนายมาเร่งให้ตนเองคืนหนี้แบบนี้

เธอหัวเราะออกมาสองทีอย่างกลั้นไม่อยู่

“ใช้หนี้หรือ ตอนนั้นทุกคนแค่เล่นกัน ใช้หนี้อะไรกันล่ะ”

ทนายไห่ได้ยินคำพูดนี้จากเธอ เพียงแค่เผยรอยยิ้มบางๆ และวางซองสีน้ำตาลในมือลงบนโต๊ะทำงานตรงหน้าเฝิงหนาน

“ขอโทษคุณเฝิงด้วยนะครับ คุณชายเผยบอกว่าเรื่องนี้ไม่ได้เรื่องล้อเล่น แต่ว่าคุณเป็นหนี้พนันห้าสิบล้านจริงๆ ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว รายละเอียดทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยอยู่ในซองเอกสารแล้ว” เขาชี้ไปที่ซองเอกสาร “คุณลองอ่านดูก่อน ในนั้นมีคลิปตอนที่คุณเล่นพนัน และมีคำพูดที่คุณเคยพูดเอาไว้ และมีพยานบุคคล คุณชายเผยหวังว่าคุณจะใช้หนี้ภายในสามสิบวัน ไม่อย่างนั้น...”

เขาไม่ได้พูดต่อ แต่สีหน้าของเฝิงหนานเริ่มดูย่ำแย่แล้ว

เธอฉีกซองเอกสารอออกมา เทเอกสารทั้งหมดลงบนโต๊ะทำงาน

ในซองเอกสารมีรูปตอนที่เธอเล่นไพ่กับเผยอี้ และซีดีที่เป็นฉบับก๊อปปี้ เอกสารที่ทนายไห่ระบุหนี้สินทั้งหมด เฝิงหนานเพียงมองแวบหนึ่งแล้วขยำทิ้ง

จนถึงขั้นนี้แล้ว เผยอี้คงไม่ได้กำลังล้อเล่นกับเธอแล้ว มีทั้งหลักฐานและทนาย เธอจะไปเอาเงินหลายสิบล้านมาจากไหนอย่างกะทันหันแบบนี้

เฝิงหนานรู้สึกร้อนรนขึ้นมาในทันที!