บทที่ 541 เปิดโปงเธอ
มีข่าวจากไต้เจียบวกกับการคาดเดาเกี่ยวกับเฝิงหนานของเจียงเซ่อก่อนหน้านี้ หลายเรื่องที่คิดไม่ตก ล้วนได้คำตอบแล้ว
ไต้เจียบอกว่าเฝิงหนานความสามารถเหลือล้น เธอสามารถคาดเดารายได้ของหนังจำนวนมากตั้งแต่ยังไม่เข้าฉาย
ตอนนั้นหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ยังไม่ถ่ายทำ เธอก็หมายตาหนังเรื่องนี้ไว้แล้ว
หนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ จางจิ้งอานเป็นคนกำกับ ด้วยชื่อเสียงและฐานะของจางจิ้งอานในประเทศ หนังของเขาน่าดึงดูดทุกเรื่อง ผู้ชมจำนวนมากก็ยอมเสียเงินเพราะชื่อเสียงของเขา การที่เฝิงหนานสามารถคาดเดารายได้จากหนังได้นั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลก แต่สิ่งที่แปลกคือเธอสามารถคาดเดารายได้ของหนังได้อย่างแม่นยำนี่สิ
เธอกล้าพูดแบบนี้ และขัดคำสั่งของเฝิงจงเหลียงมาเข้าวงการและรีบฉวยโอกาสแสดงในเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ และคาดเดาตัวเลขรายได้อย่างมั่นใจ มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว นั่นก็คือ เฝิงหนานรู้รายได้รวมของหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ อยู่แล้ว
เหตุผลที่รู้ ก็อาจจะเกี่ยวข้องกับการที่เธอเคยผ่านเรื่องราวทั้งหมดนี้มาแล้ว
ถ้าเจียงเซ่อไม่ได้ผ่านมาเกิดใหม่มาก่อน ก็คงคิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องแปลกๆ แบบนี้ แต่แม้กระทั่งตัวเธอเอง เป็นเฝิงหนานอยู่ดีๆ ยังสามารถเกิดใหม่เป็นใครอีกคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตนเองได้ ถ้าจะมีความคิดแบบนี้ก็คงไม่แปลก
มีเพียงเหตุผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถอธิบายเรื่องนี้ได้ สำหรับหนังที่ยังไม่เข้าฉายหรือแม้กระทั่งหนังที่ยังไม่ได้ถ่ายทำ เฝิงหนานรู้ดีอยู่แล้วว่าหนังเรื่องไหนจะกระแสดี และเรื่องไหนจะดังบ้าง
เพราะฉะนั้น เธอจึงทำทุกวิถีทางเพื่อสร้างความเดือดร้อนให้ตนเอง แม้กระทั่งตอนแรก ทั้งสองยังไม่มีความแค้นอะไรต่อกัน หล่อนยังแนะนำให้ตนเองเข้าสังกัดจวี้เฟิงบันเทิง เพราะอยากจะผลักเธอลงเหว
เจียงเซ่อลองตั้งสมมติฐาน ถ้าชาติที่แล้วของเฝิงหนาน ไม่ได้มีการเกิดใหม่มาอยู่ในร่างนี้ เพราะฉะนั้น ตอนนั้นเธอก็ยังคงเป็นเฝิงหนาน เจียงเซ่อก็ยังคงเป็นเจียงเซ่อ ถ้าอย่างนั้น อาจจะเป็นเจียงเซ่อที่ทำให้เฝิงหนานไม่พอใจ ทั้งสองจึงเคยมีความแค้นต่อกัน
ความแค้นในครั้งนี้ถือว่าใหญ่หลวงมากพอสมควร จึงทำให้หลังจากเกิดใหม่ คิดแต่จะทำร้ายตนเองและสายตาที่มองตนเองเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
มีความเป็นไปได้เป็นอย่างมาก ที่ความแค้นนี้จะเกี่ยวข้องกับการเกิดใหม่ของเฝิงหนาน เพราะฉะนั้น หลังจากเกิดใหม่เธอก็ไม่เคยอยู่นิ่ง คิดแต่จะขัดขวางความสำเร็จของตนเอง
แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดาของเธอ หากต้องการหลักฐานว่าเฝิงหนานเกิดใหม่จริงๆ หรือไม่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
หวนคิดถึงเรื่องที่เฝิงหนานเคยทำเมื่อหลายปีที่ผ่านมานี้ ล้วนสามารถยืนยันได้ เธอนึกถึงหลังจากเฝิงหนานถ่ายเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ เสร็จ ก็ไม่ได้มีผลงานใหม่ปรากฏอีกเลย ตอนนั้นโม่อานฉีเคยบอกว่า เธอคิดแต่จะถ่ายทำหนังที่ชื่อว่า ‘Revenge’
หนังเรื่องนี้เลือกเวลาเข้าฉายได้ไม่เหมาะสม ชนกับเรื่อง ‘Evil’ ของเจียงเซ่อและ ‘The Incident’ ของเถาเฉินพอดี ท้ายที่สุดแล้วเข้าฉายเพียงไม่กี่วัน ก็ต้องรีบออกโรง
หนังที่ทำให้เฝิงหนานลงทุนทิ้งหน้าที่การงานที่กำลังรุ่งเรืองเพื่อไปถ่ายทำ เป็นการยืนยันว่า หนังเรื่องนี้มีคุณค่ามากพอ
ถ้าการคาดเดาของเจียงเซ่อเป็นความจริง เฝิงหนานมาจากโลกอนาคตจริงๆ เคยรู้มาก่อนแล้วว่าในวงการหนัง หนังเรื่องไหนบ้างที่จะขายดิบขายดี ถ้าอย่างนั้นที่เธอเลือกสร้างหนังเรื่อง ‘ Revenge’ เธอจะต้องมีเหตุผลของเธอ
เธอคิดทบทวนครู่หนึ่ง แล้วหยิบมาส์กตาออก พลันส่งข้อความถึงเนี่ยต้าน ให้เขาหาที่มาของหนังเรื่อง ‘Revenge’
เนี่ยต้านตอบกลับไวมาก เขาพูดอย่างไม่ค่อยเข้าใจ ‘เซ่อเซ่อ อยู่ดีๆ เธอมาสนใจหนังเรื่องนี้ทำไม เมื่อกี้หรูหนิงหาข้อมูลแล้ว รายได้ของหนังเรื่อง ‘Revenge’ ไม่ค่อยดีนัก ท้ายที่สุดแล้ว แม้กระทั่งต้นทุนก็ดูเหมือนได้กลับมาไม่หมดด้วยซ้ำ’
อีกอย่างหนังเรื่องนี้เข้าฉายเมื่อสองปีที่แล้ว ไม่ได้เป็นที่นิยมในหัวเซี่ยเลย เนี่ยต้านไม่เข้าใจว่า ทำไมอยู่ๆ เจียงเซ่อก็มาสนใจหนังเรื่องนี้
เจียงเซ่อส่งข้อความกลับไปว่า ‘หนังเรื่องนี้เฝิงหนานเป็นทั้งผู้กำกับและนักแสดงใช่ไหม’
อาจจะเพราะขี้เกียจพิมพ์ เนี่ยต้านจึงโทรเข้ามา
“เซ่อเซ่อ หนังเรื่องนี้เฝิงหนานเป็นทั้งผู้ประพันธ์ผู้กำกับและยังเป็นหนึ่งในนักแสดง ว่ากันว่าตอนนั้นเธอไปพบกับต่งหมิงเซิงพร้อมบทประพันธ์เรื่องนี้ และพูดอย่างมั่นใจว่าหนังเรื่องนี้จะทำรายได้มหาศาล และยังพูดอย่างเย่อหยิ่งกับต่งหมิงเซิงว่า ให้เขาลงทุนห้าล้าน แล้วหนังเรื่อง ‘Revenge’ จะทำกำไรคืนให้เขาอีกห้าเท่าอย่างแน่นอน”
ตอนนั้นเพราะเรื่องนี้ ยังมีการลงเดิมพันกันเอาไว้ด้วย แต่หลังจากนั้นหนังเรื่อง ‘Revenge’ กลับไม่ได้ดังอย่างที่เฝิงหนานคิดเอาไว้ เพราะกลับแทรกอยู่ระหว่าง ‘Evil’ และ ‘The Incident’ กระแสของหนังเรื่องนี้จึงหมดไปอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดแล้วรายได้ไม่ถึงสี่สิบล้าน เมื่อหักภาษีและค่าใช้จ่ายกับทางโรงหนังแล้ว จึงขาดทุนย่อยยับ
หลังจากนั้น ต่งหมิงเซิงก็ดูแคลนคุณหนูแห่งวิสาหกิจจงหนานท่านนี้เป็นอย่างมาก คิดว่าเธอเป็นเพียงแค่ดอกไม้ประดับที่ไม่มีค่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองเปลี่ยนจากหุ้นส่วนที่สนิทสนมกันเป็นศัตรู
เนี่ยต้านพูดถึงเรื่องนี้ ยิ่งทำให้เจียงเซ่อมั่นใจสิ่งที่ตนเองคาดเดา เธอครุ่นคิดครู่หนึ่ง
“อาต้าน เธอช่วยอะไรฉันสักอย่างสิ ช่วยฉันหาข้อมูลว่าผู้ประพันธ์คนเดิมของ ’Revenge’ ว่าใช่เฝิงหนานหรือเปล่า”
หนังเรื่อง ‘Revenge’ ต้นทุนต่ำแต่ผลตอบแทนสูงมาก เฝิงหนานกล้าพนันกับต่งหมิงเซิง แสดงว่าเธอเห็นคุณค่าของหนังเรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้ว
ที่เธอเห็นคุณค่าของหนังเรื่องนี้ ก็น่าจะเพราะรู้อะไรบางอย่างอยู่แล้ว
เหตุผลที่ท้ายที่สุดหนังเรื่องนี้ไม่ประสบความสำเร็จ อาจจะเป็นเพราะเธอแต่งเองและกำกับเอง เธออาจจะเป็นนักแสดง แต่ไม่ใช่ผู้กำกับที่มีคุณสมบัติมากพอ
เมื่อก่อนหนังเรื่อง ‘Revenge’ ประสบความสำเร็จ แต่พอเฝิงหนานเอามาทำกลับไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากนัก
และการที่เธอตัดสินใจเข้าไปเป็นนักแสดงสมทบหญิงของหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’ ของจางจิ้งอานในตอนแรก อาจเป็นเพราะชื่อเสียงของจางจิ้งอานและคำชื่นชมที่ผู้คนมีต่อหนังเรื่อง ‘ปฏิบัติการผู้พิทักษ์’
เธอทั้งแต่งและกำกับ ‘Revenge’ ด้วยตนเอง อาจเป็นเพราะทั้งในด้านการประพันธ์และกำกับล้วนยังไม่มีชื่อเสียงเท่าจางจิ้งอาน
สำหรับหนังต้นทุนต่ำ มีความเป็นไปได้มากว่าเป็นผู้กำกับมือใหม่ ยังไม่มีชื่อเสียง หาคนลงทุนไม่ได้ จึงฝืนถ่ายให้จบ
เมื่อเชื่อมโยงจากเบาะแสเหล่านี้แล้ว เธอจึงบอกกับเนี่ยต้านว่า
“เธอลองหาจากข้อมูลผู้กำกับมือใหม่ บางทีอาจจะได้เบาะแสอะไรบ้าง”
“ได้เลย”
เนี่ยต้านถาม ก่อนจะรู้สึกสงสัยขึ้นมา
“เซ่อเซ่อ หรือเธอสงสัย ว่าหนังเรื่อง ‘Revenge’ ของเฝิงหนานเป็นผลงานก๊อปของคนอื่นมา”
ไม่ว่าอย่างไรเธอก็เป็นถึงคุณหนูแห่งวิสาหกิจจงหนานและถือว่าเป็นทายาทคนหนึ่งของตระกูลเฝิง ตอนนั้นยังเป็นหลานรักของคุณปู่เฝิง แถมยังถูกเผยอี้ตามจีบอยู่หลายปี ถ้าเอ่ยปากขอ ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ได้
หลายปีมานี้ แม้ทุกอย่างจะแย่ลง แต่ก็คงจะมีต้นทุนเดิมอยู่บ้าง ไม่ว่าอย่างไรก็คงไม่ถึงขั้นทำผลงานไร้คุณภาพออกมาหรอก
ถ้าหนังเรื่อง ‘Revenge’ เป็นหนังที่ได้รับความนิยมก็ว่าไปอย่าง ทั้งขาดทุนและยังกลายเป็นศัตรูกับต่งหมิงเซิง หนังแบบนี้เฝิงหนานยังคิดว่าเป็นหนังที่ควรทำอีกหรือ
“แค่รู้สึกแปลกใจ เลยอยากลองสืบดูน่ะ” เธอพูดถึงตรงนี้ พลันนึกถึงเรื่องที่พวกเขาเป็นหุ้นส่วนกัน เนี่ยต้านสนิทกับเผยอี้ คนๆ นี้แม้จะดูเป็นคนซื่อๆ แต่ความจริงแล้วฉลาดมาก
ตนเองสามารถรับรู้ได้ถึงความผิดแปลกของเฝิงหนานจากเบาะแสเพียงเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่แน่ว่าเขาจะสัมผัสได้ถึงความปกติจากคำพูดของตนเองก็ได้
คิดถึงเรื่องนี้ เจียงเซ่อจึงบอกรายละเอียดอีกเล็กน้อย
“ช่วงนี้เฝิงหนานกำลังสืบเรื่องของฉัน อาจจะอยากหาเรื่องฉันน่ะสิ”
นั่นก็หมายความว่า เธอจะต้องรีบลงมือก่อนและต้องหาอะไรสักอย่างให้เฝิงหนานทำ เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องมีเวลาสนใจเรื่องนี้
หนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ อยู่ในช่วงที่กำลังจะเข้าฉาย เจียงเซ่อไม่อยากให้มีข่าวเสียๆ หายๆ เกิดขึ้นในเวลาแบบนี้