webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

539

บทที่ 539 ข้างหน้า

เจียงเซ่อนั่งรถออกไปแล้ว เฝิงหนานเข้าไปรออยู่ห้องรับรองแขก VIP ของโรงหนังอย่างสั่นๆ แม้กระทั่งตัวเธอเองก็ยังไม่รู้ว่าตนเองขึ้นมาได้อย่างไร

เธอยังคงคิดถึงสายตาชวนขนลุกท่ามกลางความมืดคู่นั้นได้ มันดูเรียบนิ่ง แต่กลับทำให้ขนบนแขนของเธอลุกแล้วลุกอีก

จนกระทั่งมีเงามืดเข้ามาปกคลุมเธอเอาไว้ เธอหอบหายใจอย่างรุนแรง พลันยื่นมือออกไป

แขนถูกอะไรบางอย่างขวางเอาไว้ เล็บของเธอเหมือนข่วนโดนใคร

เสียงกรีดร้องอันคุ้นเคยที่แฝงความเจ็บปวดของผู้ช่วยทำให้เฝิงหนานได้สติ จึงพบว่าผู้ช่วยถือผ้าขนหนูและเอามือกุมหน้าเอาไว้ ใบหน้าได้ถูกเล็บของเธอข่วนจนเป็นรอยเลือดหลายรอยแล้ว

“เธอจะทำอะไร”

เฝิงหนานจ้องเธอเขม็ง ผู้ช่วยพยายามอดทนต่อความเจ็บปวด ยื่นมือออกไปลูบหน้า พอเห็นว่ามีเลือดติดบนปลายนิ้วก็ตื่นตระหนกขึ้นมา

“ฉันแค่จะเช็ดผมให้คุณ!”

ก่อนหน้านี้เฝิงหนานตากฝนอยู่ข้างล่างจนตัวเปียก จนกระทั่งผู้ช่วยเตือนเธอจึงรู้สึกถึงความหนาวเย็น ท่าทางจึงดูผ่อนคลายขึ้นบ้าง

ผู้ช่วยกลับโยนผ้าขนหนูทิ้ง หยิบกระจกออกมาส่องใบหน้าของตนเอง น้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้ทั้งยังแฝงความโกรธ

“คุณเฝิง ฉันทำงานนี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว!”

เฝิงหนานข่วนแรงและลึกพอสมควร ใบหน้าอาจจะกลายแผลเป็น

เธอยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธ คนที่อยู่รอบข้างหลายคนหันกลับมามอง ท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ คนเยอะมากเกินไป ในห้องรับรองแขก VIP ผู้คนจำนวนมากที่เห็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ล้วนมองเฝิงหนานด้วยสายตาที่แฝงความดูถูก

เรื่องนี้เฝิงหนานดูไม่มีเหตุผล ผู้ช่วยเข้ามาเพื่อจะเช็ดผมให้เธอ เธอกลับทำร้ายร่างกายอีกฝ่าย บางคนถึงขั้นกระซิบกับเพื่อน

“ไม่แปลกที่ไม่ดังซะที ดูนิสัยสิเหมือนคนเสียสติแน่ะ!”

เสียงกระซิบกระซาบแบบนี้กลับเข้าหูเฝิงหนาน ทำให้เธอรู้สึกเย็นเยียบไปทั่วทั้งร่างกาย

ความจริงที่เธอมาในคืนนี้ก็เพราะเชี่ยซ่าเหลย แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกอย่างไม่ค่อยราบรื่นนัก

เธอไม่เจอหน้าเชี่ยซ่าเหลยด้วยซ้ำ อยู่ๆ เธอก็ตามเจียงเซ่อออกไป ตอนแรกคิดแค่ว่าจะข่มขู่เธอ แต่สุดท้ายกลับถูกเจียงเซ่อข่มขู่เสียเอง

ไม่ว่าจะเป็นคำถามที่เจียงเซ่อถามเธอว่า ‘เป็นใครกันแน่’ หรือชายแปลกใจที่เจอตอนท้าย ล้วนทำให้เธอตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก

ตอนที่คนรอบข้างบอกว่าเธอไม่สมกับการเป็น ‘คุณหนูตระกูลเฝิง’ มักทำให้เธอนึกถึงคำพูดของเจียงเซ่อ คนในตระกูลเฝิงบอกว่านิสัยของเธอเปลี่ยนไปมาก ไม่เหมือนคนเดิม

เธอสั่งให้ผู้ช่วยคนอื่นๆ เก็บของ แล้วก็มีคนถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“ไม่ดูหนังแล้วหรือคะ”

เฝิงหนานพยายามเก็บความโกรธเอาไว้ในใจ แสร้งทำเป็นก้มหน้าลงจัดกระโปรง

“ไม่ดูแล้ว”

ตอนนี้ท่าทางของเธอดูเหน็ดเหนื่อย ถึงแม้จะเจอเชี่ยซ่าเหลยก็คงไม่สามารถสร้างความประทับใจแก่เขาได้

พวกเขาออกจากงานอย่างรวดเร็ว ผู้ช่วยที่เอะอะโวยวายบอกว่าต้องการการชดเชยเป็นการปลอบขวัญ เฝิงหนานกำลังโมโหและในใจก็เต็มไปด้วยความกังวล

คืนนี้เฝิงหนานพลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ คำพูดของเจียงเซ่อทำให้เธอตกใจ ชายที่พยุงเธอข้างถนนก็ทำให้เธอหวาดกลัว ทำให้เธอคิดถึงหลายเรื่องที่ไม่กล้าคิด

เธอกลัวว่าตนเองจะกลับไปเป็นคนเดิม เธอกลัวการหวนคิดถึงเหตุการณ์ก่อนตาย

แต่ทว่า ยิ่งเป็นเรื่องที่กลัวก็ยิ่งหยุดคิดถึงเรื่องนั้นไม่ได้

เธอคิดถึงลูกสาวของเธอกับจ้าวจวินฮั่น ที่ร้อง ‘อุแว้อุแว้’ เมื่อลองนับวันแล้ว คงจะคลอดปลายปีหน้า เธอนึกเรื่องเจียงเซ่อเมื่อชาติที่แล้ว ที่พูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอันโหดเหี้ยมว่า

“อย่างเธอน่ะหรือจะมาแย่งจวินฮั่นกับฉันได้ เธอแก่แล้ว หน้าตาก็สวยสู้ฉันไม่ได้ จวินฮั่นบอกฉันว่าเขาเบื่อเธอมาตั้งนานแล้ว...”

เธอรู้จักเจียงเซ่อมานานแล้ว รู้ว่าหล่อนเป็นคนที่ไม่มีเหตุผล ไม่มีความคิด มีเพียงแค่ความสวย แต่กลับเป็นเหมือนสิ่งของไร้ประโยชน์

เพียงแต่ว่าตอนนั้นจ้าวจวินฮั่นชอบร่างกายของหล่อนมาก ยอมเสียเงินมากมายเพื่อซื้อกระเป๋าและเครื่องประดับให้หล่อน

ต่อหน้าจ้าวจวินฮั่นหล่อนแสร้งทำเป็นน่าสงสาร จ้าวจวินฮั่นคงคิดไม่ถึงว่าหล่อนจะเป็นผู้หญิงแบบนี้

เพราะฉะนั้น เฝิงหนานจึงจงใจทำให้หล่อนโกรธ แล้วเอาปากกาอัดเสียงออกมาอัดเสียงของหล่อนเอาไว้ อยากเอาไปให้จ้าวจวินฮั่นฟัง ไล่มือที่สามที่ดูขัดหูขัดตาคนนี้ออกไปซะ ตำแหน่งสะใภ้ตระกูลจ้าวจะได้เป็นของเธอ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ห้ามแย่งมันไปจากเธอ!

ใครจะคิดว่าผู้หญิงไม่มีสมองอย่างเจียงเซ่อทะเลาะกับเธอไม่กี่คำก็ผลักเธอออกไปอยู่กลางถนนและยังไล่ให้เธอไปตายซะ

เธอถูกรถยนต์ที่ขับมาอย่างรวดเร็วชนจนกระเด็น ก่อนตาย เธอได้ยินเสียงชายคนหนึ่งถามว่า

“เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

เฝิงหนานลุกขึ้นจากเตียงดัง ‘ฟึบ’ ‘เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม’ คำพูดที่ดังอยู่ในหัวนี้ ทับซ้อนกับคำว่า ‘ระวังหน่อย’ ของชายที่เธอเจอที่ชั้นล่างของโรงหนังวันนี้

ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียง โทนเสียงล้วนเหมือนกันทั้งหมด นี่เป็นเสียงที่ได้ยินก่อนตายเมื่อชาติที่แล้ว!

ผู้ชายที่เจอวันนี้ เป็นคนเดียวกันกับคนขับรถที่อาจจะเป็นคนชนเธอจนเสียชีวิตในตอนนั้น!

เธอจึงรู้สึกคุ้นเคยไม่น้อย ตอนที่ได้ยินเสียงของเขา เธอจึงรู้สึกขนลุกโดยที่อากาศไม่ได้หนาวเลยสักนิด

“ไต้เจีย ไต้เจีย!”

เธอตะโกนเสียงดัง หลังจากไต้เจียกลายเป็นผู้ช่วยฝีมือดีสำหรับเธอก็ย้ายมาอยู่กับเธอ คอยดูแลกิจวัติประจำวันของเธอ

“เธอไปสืบให้ฉันที ว่าผู้ชายที่ชนฉันที่ชั้นล่างโรงหนัง IMAX คืนนี้เป็นใคร!”

ไต้เจียรีบเข้ามา เฝิงหนานนั่งอยู่ข้างเตียง น้ำเสียงดูเคร่งขรึม

“จะต้องสืบมาให้ได้!”

ก่อนตายเมื่อชาติที่แล้ว ผู้ชายที่ปรากฏตัวข้างกายเธอพร้อมกับเจียงเซ่อ หลังจากเกิดใหม่ก็มาเจอกันอีก มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ ถ้าจะบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญ ก็คงจะบังเอิญจนน่าเหลือเชื่อ

คืนนี้ ตอนนี้ถูกชายคนนั้นชน เฝิงหนานไม่ได้ตั้งตัว จนเกือบจะถูกเขาชนจนล้มลงกับพื้น เธอนวดแขนที่ถูกเขาจับ พยายามคิดถึงใบหน้าของชายคนนั้น ตอนนั้นเธอรู้สึกเพียงแค่ว่าเคยเห็นเขาที่ไหนสักที ไม่คิดว่าจะคิดถึงเรื่องราวเมื่อชาติที่แล้ว

ตอนนี้แม้จะพยายามคิดถึงใบหน้าของชายคนนั้น แต่สิ่งที่อยู่ในหัวมีเพียงดวงตาชวนสยองของเขา ใบหน้านั่นดูคุ้นเคย เหมือนเคยเห็นที่ไหน

“เขาทำให้คุณไม่พอใจหรือคะ”

ไต้เจียถามด้วยใบหน้าอันเรียบนิ่ง

แม้จะถูกเฝิงหนานปลุกให้ตื่นกลางดึก เธอก็ยังคงเป็นเหมือนหุ่นที่ไร้ความรู้สึก นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เฝิงหนานค่อยๆ เห็นความสำคัญของเธอหลังจากที่เธอมาเป็นผู้ช่วย

เฝิงหนานไม่สนใจคำถามของเธอ หยุดคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะสั่งอีกครั้งว่า

“แล้วเธอก็ไปตามสืบเรื่องของเจียงเซ่อต่อด้วย”

ตอนพูด น้ำเสียงของเธอแฝงความลังเล

“สืบฐานะที่แท้จริงของเธอออกมาให้ได้ ผู้ชายที่เจอคืนนี้ อาจจะเป็น...”

ความจริงแล้ว สำหรับฐานะที่แท้จริงของเจียงเซ่อเธอรู้ตั้งแต่ชาติที่แล้ว ในฐานะที่เป็นผู้หญิงที่คิดจะแย่งผู้ชายของตนเอง แน่นอนว่าเฝิงหนานจะต้องสืบประวัติของเธออย่างละเอียด

รู้ว่าเธอเป็นเด็กไม่รักเรียน หยุดเรียนไปตั้งแต่เด็กและมาเข้าวงการแทน มีผู้ชายเข้ามาในชีวิตไม่รู้กี่คนต่อกี่คน อยู่ในวงการหลายปีแต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งได้เจอกับจ้าวจวินฮั่นและคิดจะแย่งโอกาสเข้าไปเป็นสะใภ้ตระกูลจ้าวจากตนเอง

สำหรับแม่ของเธอถ้าจะพูดให้น่าฟังคือแต่งงานใหม่ แต่เฝิงหนานจ้างคนไปสืบจนรู้ว่าเธอเป็นลูกติด พ่อแท้ๆ ติดคุกอยู่ที่ฮ่องกง จำได้รางๆ ว่าเพราะลักพาตัวใครสักคน จนกลายเป็นคดีความ

เฝิงหนานคิดถึงเรื่องนั้น พลันสูดลมหายใจเข้าด้วยความตะลึง!

เธอคิดออกแล้วว่ามีอะไรที่ผิดปกติบ้าง เธอคิดออกแล้วว่าทำไมถึงคุ้นหน้าผู้ชายคนนั้นและเธอก็นึกถึงตอนที่ตามสืบประวัติของเจียงเซ่อ สืบฐานะที่แท้จริงของเธอเมื่อชาติที่แล้ว จนได้รูปพ่อแท้ๆ ของเธอตอนอุ้มเธอตอนแรกเกิดมา

ผู้ชายที่อยู่ในรูป เป็นคนเดียวกันกับที่ชนเธอในวันนี้

“ฮ่าๆๆๆๆๆ...”

อยู่ๆ เฝิงหนานก็หัวเราะออกมาเสียงดัง ไม่คิดว่าจะจับจุดอ่อนแบบนี้ได้!

เธอในชาติที่แล้วพอได้หลักฐานนี้มาก็เก็บเป็นความลับมาโดยตลอด แม้แต่จ้าวจวินฮั่นก็ไม่เคยบอก เพราะเธอรอคอยโอกาสที่เหมาะสมมาโดยตลอด

ตอนนั้นจ้าวจวินฮั่นรักเจียงเซ่อมาก ลุ่มหลงกับร่างกายสาวอันงดงามของหล่อนที่เข้ามายั่วยวนอย่างไม่อาย เธอรู้จักนิสัยของจ้าวจวินฮั่นดี จึงอดทนมาโดยตลอด

ตอนนั้นเฝิงหนานเข้าใจว่า จ้าวจวินฮั่นถูกตามใจตั้งแต่เด็ก ไม่ชอบให้ใครมาขัดใจ ตอนที่เขาหลงใหลในตัวเจียงเซ่อมากๆ ถ้าเธอเปิดโปงฐานะที่แท้จริงของเจียงเซ่อ ถึงตอนนั้นไม่เพียงแค่เจียงเซ่อที่จะจบไม่สวย ตนเองก็อาจจะโดนจ้าวจวินฮั่นใช้เงินไล่ให้ออกจากชีวิตด้วยเช่นกัน

เพราะฉะนั้นเธอจึงเก็บความลับนี้ไว้ เพื่อรอให้จ้าวจวินฮั่นเบื่อเจียงเซ่อ

เธอไตร่ตรองมาเป็นอย่างดีแล้วว่า ถ้าจ้าวจวินฮั่นเบื่อเจียงเซ่อแล้ว เธอจะงัดหลักฐานนี้ออกมา และมันก็เพียงพอที่จะทำให้เจียงเซ่ออยู่ในวงการไม่ได้อีกต่อไป

ในขณะเดียวกันถ้าเจียงเซ่อมีความสามารถมากพอที่จะปั่นหัวจ้าวจวินฮั่นจนมีผลต่อตำแหน่งของตนเอง เธอก็มีจุดอ่อนนี้อยู่ในมือก็เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลจ้าวไม่ยอมรับหล่อน

ด้วยฐานะของตระกูลจ้าว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางยอมให้หญิงข้างกายจ้าวจวินฮั่นมีพ่อเป็นนักโทษ ชาตินี้ทั้งชาติ หล่อนก็อย่าคิดว่าจะมาแย่งที่ของตนเองได้!

เธอเก็บเรื่องที่คิดว่าเป็นประโยชน์นี้เอาไว้ เพื่อรอเปิดโปงในโอกาสที่เหมาะสมมาโดยตลอด แต่ทว่า เฝิงหนานในตอนนั้นรอแล้วรออีก ท้ายที่สุดสิ่งที่ได้กลับมาไม่ใช่การไล่เจียงเซ่อออกจากชีวิต แต่กลับเป็นการสูญเสียชีวิต!

พอคิดถึงเรื่องนี้ และนึกออกแล้วว่าชายคนนั้นคือใคร เฝิงหนานจึงตระหนักได้ว่า ที่เธอคิดว่าเจียงเซ่อเป็นคนร้ายที่ฆ่าตนเอง จนจงเกลียดจงชังหล่อนมาหลายปี ตอนนี้จึงกระจ่างแล้วว่า สองพ่อลูกอาจจะสมรู้ร่วมคิดเพื่อที่จะฆ่าตนเอง

คืนนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเธอตามเจียงเซ่อลงไป ถ้าไม่ใช่เพราะเธอชนผู้ชายคนนั้น จนทำให้รู้สึกแปลกใจ และคิดถึงเรื่องในอดีต บางทีเธออาจจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ

เมื่อคิดดูให้ดีแล้ว ชายที่เจอคืนนี้ หน้าตาคล้ายคลึงกับเจียงเซ่อจริงๆ

ชาติที่แล้ว พ่อลูกคู่นี้เป็นคนฆ่าตนเอง แต่คิดไม่ถึงว่าในชาตินี้จะกลายมาเป็นลูกไก่ในกำมือเธอ

เฝิงหนานเผยรอยยิ้มแปลกประหลาดตรงมุมปาก หางตาเห็นไต้เจียที่อยู่อีกข้าง พลันขมวดคิ้ว

หลังจากรู้แล้วว่าผู้ชายที่ชนตนเองในคืนนี้เป็นใคร เฝิงหนานก็ไม่จำเป็นต้องสืบอีกแล้ว ไต้เจียเองก็หมดประโยชน์ เรื่องนี้เป็นที่พึ่งที่มั่นคงที่สุดของเธอ เป็นจุดอ่อนสำคัญที่สุดของเจียงเซ่อที่เธอกำมันเอาไว้จึงไม่สามารถเปิดเผยออกไปได้

แม้ไต้เจียที่อยู่ข้างกายเธอก็รู้เรื่องนี้ไม่ได้!

เธอนึกขึ้นได้ว่าเจียงเซ่อเคยประกาศว่าจะแต่งงาน เธออาจจะหมั้นกับเผยอี้เอาไว้แล้ว ไม่รู้ว่าตระกูลเผยและเผยอี้จะรู้ฐานะที่แท้จริงของเจียงเซ่อหรือไม่

ถ้าตระกูลเผยรู้ความจริงเกี่ยวกับเจียงเซ่อ แล้วยังยอมให้หลานชายแต่งงานกับหล่อน นั่นหมายความว่าเผยอี้จริงใจกับเจียงเซ่อ เฝิงหนานจะทนเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรเล่า

ผู้หญิงนิสัยร้ายกาจ ชาติที่แล้วเลวทรามจนไม่อาจเปรียบได้ เป็นแค่คนชั้นต่ำที่คิดจะแย่งสามีชาวบ้านอย่างหน้าไม่อาย มีพ่อเป็นนักโทษแถมเป็นคนเลว ท้ายที่สุดยังจะกล้าฆ่าตนเอง

ตอนนี้ทุกอย่างกลับพลิกผัน หล่อนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ ได้พบกับชายที่รัก ได้เป็นสะใภ้ของตระกูลเศรษฐี

บนโลกใบนี้ มีเรื่องแบบนี้ที่ไหนกัน ฆ่าคนก็ควรจะชดใช้ด้วยชีวิต ฟ้าไม่มีตา!

แต่ทว่า เฝิงหนานเองก็ไม่สนใจ เรื่องแบบนี้ ถ้าพระเจ้าไม่ยอมแก้แค้นให้กับเธอ เธอก็จะทำด้วยตนเอง

เธอคิดมาโดยตลอดว่าที่เธอได้มาเกิดใหม่เพราะพระเจ้าคิดว่าเธอตายไปอย่างไม่ยุติธรรม ให้เธอได้รู้เรื่องราวที่จะเกิดขึ้น ให้เธอได้เป็นเฝิงหนานอย่างที่ชาติที่แล้วอยากเป็น มีทุกอย่างที่สมบูรณ์แบบ และเป็นหญิงที่มีฐานะเหมาะสมกับจ้าวจวินฮั่น รู้ว่าหนังเรื่องไหนจะดังบ้าง สามารถใช้เส้นสายและฐานะเพื่อเข้าวงการบันเทิง จนประสบความสำเร็จ แต่งงานกับจ้าวจวินฮั่น เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา ไม่ต้องคอยคิดมากและหวาดระแวงเหมือนชาติที่แล้ว

แต่ทว่า ตอนนี้เฝิงหนานได้ค้นพบว่า บางทีที่พระเจ้าให้ตนเองเกิดใหม่ ไม่ได้มีจุดประสงค์เพียงเท่านี้ แต่อาจจะอยากให้โอกาสเธอได้แก้แค้นด้วยตนเอง!

ตอนนี้ต่อให้เจียงเซ่อจะโด่งดังมากกว่านี้ บีบเถาเฉินจนได้เข้ามาเป็นนักแสดงหญิงอันดับต้นๆ ของหัวเซี่ยแล้วอย่างไรเล่า?

เผยอี้ชอบหล่อน รักหล่อนเท่าชีวิต จะแต่งงานกับหล่อนแล้วอย่างไร?

ตอนนี้หล่อนยิ่งมีความสุขมากเท่าไหร่ แต่ถ้าก่อนงานแต่งถูกเปิดโปงว่าพ่อของหล่อนเป็นคนร้ายคดีลักพาตัวและติดคุกอยู่ที่ฮ่องกง ถ้ากลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ก็ไม่รู้ว่าตระกูลเผยจะจัดการกับหล่อนอย่างไร จะยังต้องการผู้หญิงที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่คนนี้หรือไม่?

เฝิงหนานหัวเราะด้วยน้ำเสียงอันเย็นเยียบครั้งหนึ่งและยื่นมือออกไปจับผ้าห่มเอาไว้แน่น

“คุณเฝิงคะ ผู้ชายที่ชนคุณคืนนี้ มีอะไรผิดปกติเหรอคะ”

ไต้เจียเห็นเธอที่เดี๋ยวกัดฟัน เดี๋ยวหัวเราะออกมาเสียงดัง ท่าทางดูโหดเหี้ยมจึงอดถามเธอไม่ได้

“อ่อ ไม่มีอะไรแล้ว เธอไม่ต้องสนใจหรอก”

เธอจะต้องหารูปภาพของเจียงเซ่อที่ถูกพ่ออุ้มเมื่อตอนที่เพิ่งคลอดได้ไม่นานมาให้ได้

ภาพถ่ายภาพนี้เป็นหลักฐานสำคัญ ถึงตนนั้นเธอจะส่งมันให้นักข่าว ลงในอินเทอร์เน็ตเพื่อให้กลายเป็นประเด็นใหญ่โต

เธอยังจำได้ว่า ตอนที่จ้างคนไปสืบ คนที่ได้ภาพถ่ายนี้มาบอกว่ามีภาพถ่ายของเจียงเซ่อและพ่อเพียงภาพเดียว คนที่เก็บมันเอาไว้คือเพื่อนที่ถ่ายภาพ ‘ครอบครัว’ ให้กับเจียงเซ่อ ตอนแรกเหตุผลที่เก็บภาพนี้เอาไว้ เพียงเพราะรู้สึกว่าครอบครัวนี้ล้วนมีใบหน้าที่งดงามโดดเด่น จึงเก็บเอาไว้ เพราะพ่อของเจียงเซ่อหายตัวไป คนที่มีภาพนี้เองก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

จนกระทั่งคนที่เฝิงหนานส่งไปเจอเขาเข้า จึงคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา

คนของเฝิงหนาน เสียแรงไปไม่น้อยกว่าจะได้รูปนี้มา

เธอจำได้ว่าตนเองได้ถามนักสืบว่าคนที่มีภาพนี้ในครอบครองคือใคร แต่จำไม่ค่อยได้แล้ว ทว่า ที่อยู่โดยคร่าวๆ ของคนๆ นั้น นักสืบได้พูดถึงและเธอเองก็ยังจำได้รางๆ

ถ้ารู้เบื้องหลังของภาพๆ นี้ และรู้ตำแหน่งคร่าวๆ หากอยากตามสืบมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก

มีภาพถ่ายอยู่ในมือ ถึงเวลาเธอจะใช้ฐานะของเฝิงหนานเป็นเครื่องมือในการสืบข้อมูลเกี่ยวกับพ่อของเจียงเซ่อที่ฮ่องกง แล้วการจะทำลายชีวิตเจียงเซ่อก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายแล้ว!

เรื่องแบบนี้จะให้ไต้เจียไปสืบด้วยตนเองไม่ได้ เธอไม่ใช่มืออาชีพ จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นเสียเปล่าๆ อีกประการหนึ่ง เธอยังเป็นคนข้าวตัวของตนเอง อาจจะทำให้หล่อนเกิดแปลกใจ และสงสัยตนเองในที่สุด

สิ่งสำคัญคือ แม้เฝิงหนานจะใช้เธอ แต่กลับไม่เคยเชื่อใจเธอร้อยเปอร์เซ็นต์

เธอกับเจียงเซ่อเคยมีปฏิสัมพันธ์กัน ทั้งสองเคยร่วมงานกันในเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ แม้จุดจบจะไม่เหมือนกัน แต่ไต้เจียเองก็แสดงท่าทีว่าเกลียดเจียงเซ่อ ทว่า เพราะสิ่งที่ต้องพบเจอเมื่อชาติที่แล้ว ทำให้เธอไม่สามารถเชื่อใจใครเลยจริงๆ

เธอรู้สึกว่าเมื่อครู่นี้ตนเองไม่น่าเรียกไต้เจียเข้ามาคุยเรื่องนี้ง่ายๆ แบบนี้ จึงคิดหาข้ออ้าง เพื่อให้ไต้เจียลืมเรื่องนี้ไป

“คืนนี้ฉันเจอเจียงเซ่อ เราเลยยืนคุยกันครู่หนึ่ง แล้วสุดท้ายก็ถูกผู้ชายคนหนึ่งชนก็เท่านั้น”

เธอพูดด้วยท่าทางที่ดูผ่อนคลายมากจนเกินไป ไต้เจียจึงไม่ค่อยเชื่อนัก

ตอนแรก คืนนี้เฝิงหนานวางแผนจะสานสัมพันธ์กับเชี่ยซ่าเหลย ไม่รู้ว่าไปเจอเรื่องอะไรกระทบจิตใจมา สุดท้ายยังไม่ทันได้เจอเชี่ยซ่าเหลยก็เก็บของแล้วออกมาเลย ทั้งยังไม่ได้อยู่ดูหนัง กลับมาก็ทำท่าทางราวกับเจอผีมา เหมือนคิดถึงเรื่องชวนสยองอะไรบางอย่างขึ้นมา

ใบหน้าขาวซีด หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ บอกว่าจะถามเรื่องผู้ชายที่ชนเธอเป็นใคร ท้ายที่สุดไม่รู้ว่าคิดอะไรออก ก็บอกว่าไม่มีอะไรแล้ว

ขนาดคนโง่ยังรู้เลยว่าต้องมีอะไรแน่ๆ

แต่ทว่า คนๆ นี้เป็นคนมากแผนการ นิสัยเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ตอนนี้จึงขัดใจเธอไม่ได้ ถ้ายังขืนพูดต่ออาจจะทำให้เธอโกรธได้

ไต้เจียพยักหน้า ก่อนจะออกไปก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา ตีสี่สิบห้านาทีแล้ว

ป่านนี้แล้ว ไม่ว่าเฝิงหนานจะโมโหมากเท่าไหร่ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะตื่นมาระบายความโกรธตอนนี้และยังปลุกเธอให้ตื่นแล้วไล่กลับไปแบบนี้อีก

ไต้เจียกำโทรศัพท์มือถือแน่น แล้วหันมองห้องนอนของเฝิงหนานอีกครั้ง คิดถึงเมื่อครู่นี้ที่เธอให้ตนเองไปตามสืบความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายที่ชนเธอคืนนี้กับเจียงเซ่อ

นั่นหมายความว่า เฝิงหนานสงสัยว่าผู้ชายที่ชนเธอคืนนี้เกี่ยวข้องกับเจียงเซ่อ การจะทำให้เธอสงสัยได้ ต้องมีเบาะแสบางอย่างแน่

เธอมีความแค้นอันยิ่งใหญ่กับเจียงเซ่อ ความแค้นนี้ไม่เหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ อย่างเรื่องที่เคยเสียตำแหน่งพรีเซนเตอร์ของ E.B เพราะเจียงเซ่อ แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น

จากนั้นเธอก็เปลี่ยนใจไม่สืบแล้ว อาจจะเพราะคิดอะไรออก

เพราะฉะนั้นการที่ไม่ให้ตนเองไปสืบ บางทีเป็นเพราะเฝิงหนานจะให้คนอื่นจัดการเรื่องนี้แทน

ไต้เจียคอยระวังตัวเอาไว้ และสนใจเรื่องของเฝิงหนานมากขึ้นกว่าเดิม

ในฐานะที่เป็นผู้ช่วยของเฝิงหนาน เธอมีข้อได้เปรียบหนึ่ง นั่นคือสามารถเข้าถึงเรื่องบางเรื่องที่คนอื่นไม่สามารถเข้าถึงได้อย่างเปิดเผย

โดยเฉพาะนิสัยอันแปลกประหลาดของเฝิงหนาน หลังจากที่ทำให้ผู้ช่วยออกไปอีกคนจนต้องขึ้นศาลแล้ว เรื่องที่เธอต้องดูแลก็มีมากขึ้น

หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ ไต้เจียจึงสังเกตเห็นว่า บัญชีส่วนตัวของเฝิงหนานได้โอนเงินจำนวนสามแสนไปยังอีกบัญชี เธอจำชื่อเจ้าของบัญชีนั้นเอาไว้ หลังจากนั้นก็ไปตามสืบ คนๆ นี้แซ่เฉิง เปิดสำนักงานแห่งหนึ่ง เบื้องหลังเป็นพวกรับจ้างทวงหนี้และปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูง มีปฏิสัมพันธ์กับพวกอันธพาล ก่อนหน้านี้เฝิงหนานไม่เคยเกี่ยวข้องกับคนๆ นี้มาก่อน และไม่เคยติดต่อกัน ครั้งนี้อยู่ๆ ก็กลับติดต่อกับเขา ทำให้ไต้เจียสงสัยขึ้นมา

ในขณะเดียวกันก็ให้คนไปสะกดรอยชายแซ่เฉิงคนนี้ รู้ว่าช่วงนี้เขาตามหาเบาะแสบางอย่างอยู่ที่เฉิงซีตี้ตู ได้ข่าวว่ากำลังตามสืบเรื่องของชายแซ่เจียงคนหนึ่ง

เรื่องมาถึงขนาดนี้ ไต้เจียแทบจะเดาออกแล้วว่า เฝิงหนานต้องมีอะไรแน่

เฝิงหนานยังคงคิดว่าไม่มีใครรู้ในสิ่งที่ตนเองทำอยู่ และไม่รู้ตัวว่าการกระทำของตนเองในวันนั้นได้ทำให้ไต้เจียเกิดสงสัยและสืบจนรู้อะไรบางอย่าง

เธอยังคงรอข่าวที่จะได้จากชายแซ่เฉิง เมื่อชาติที่แล้ว เธอรู้จักกับผู้ชายที่ชื่อเฉิงเซ่าเพราะเพื่อนเลวๆ ในวงการบันเทิงที่เธอเคยคบหาในตอนนั้นแนะนำมา และได้จ้างเขาให้ช่วยสืบประวัติของเจียงเซ่อให้ตนเอง

และชายคนนี้ให้คำตอบที่เป็นที่น่าพอใจกับเธอย่างรวดเร็ว ชาตินี้เธอมาเจอชายคนนี้อีกครั้ง ตอนแรกเธอคิดว่าเบาะแสที่ตนเองให้เขานั้นมีมากกว่าชาติที่แล้ว ควรจะสืบเรื่องราวมาได้อย่างราบรื่นสิถึงจะถูก

แต่ไม่รู้เพราะอะไร รอมาครึ่งเดือนแล้ว ชายคนนี้ก็ยังคงอยู่ในช่วงสืบหาเบาะแส ไม่โทรหาตนเองเสียที

เธอเริ่มตื่นตระหนก ยังไม่ทันที่เธอจะโทรไปถามเรื่องนี้ด้วยตนเอง ในที่สุดเฉิงเซ่าก็โทรมา

เฝิงหนานรีบรับสายอย่างทนรอต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ตอนแรกคิดว่าจะได้รับข่าวดี ใครจะรู้ว่าเฉิงเซ่าที่อยู่ในสายกลับพูดด้วยความโกรธว่า

“คุณเฝิง นี่คุณจงใจปั่นหัวผมเล่นใช่ไหม”