webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

532-1

บทที่ 532-1 ข้ามผ่าน

ในตอนแรกจินซื่อเจินก็ไม่ได้รู้สึกดีต่อหลิวซื่อสักเท่าไหร่ คิดว่าการกระทำแบบนี้ของนางนั้นช่างขัดกับคุณธรรมของสตรีที่ดีเสียจริง จึงพูดจาร้ายกาจต่างๆ นาๆ ใส่นาง นางก็มักจะเงียบไม่พูดอะไรอยู่เสมอ ตอนที่พบหน้าเขาก็กลับยิ้มแย้มแจ่มใส อ่อนโยนและเอาใจใส่

ถึงแม้ว่าจะดูอ่อนโยน แต่กลับมีความดื้อรั้นอยู่ในตัว วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ จินซื่อเจินก็ยอมให้นางติดตาม

เมื่อได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันแล้ว จินซื่อเจินก็ค่อยๆ เริ่มมีใจให้แก่หลิวซื่อ พบว่าความงามของนางนั้นไม่มีใครเทียบได้ และเป็นสตรีที่อบอุ่นจริงใจ

นางนั้นเข้าอกเข้าใจตนทุกอย่าง และดูแลตนเป็นอย่างดีและไม่ขาดตกบกพร่อง ความเคยชินเล็กๆ น้อยๆ ของตน นางเองก็รู้อย่างละเอียด ทั้งสองคนสนทสนมกันขึ้นเรื่อยๆ จินซื่อเจินถึงขนาดรู้สึกว่าเหมือนได้พบกับสิ่งล้ำค่าที่ตนเองได้ทำหล่นหายไป และเริ่มที่จะค่อยๆ มอบความรักให้กับนาง

ความรู้สึกของทั้งสองคนค่อยๆ ใกล้ชิดและอบอุ่นมากขึ้น เขารู้สึกว่าความคิดที่อยากจะออกตาม หาเทพเซียนของตนเองมันค่อยๆ หายไป เริ่มที่จะคิดเหมือนกับมารดาและบิดา ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและธรรมดา สอบเคอจวี่เพื่อเป็นขุนนาง แต่งงานกับหลิวซื่อ และมีลูกชายลูกสาว ชีวิตธรรมดาๆ แบบนั้นก็ดูจะไม่เลวเลย

เขาตัดสินใจที่จะออกจากหุบเขาแห่งนี้ เพื่อกลับไปใช้ชีวิตของตัวเอง

หลังจากที่กลับไปแล้ว หลิวซื่อกลับดูมีท่าทีเสียใจอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่ได้รู้ถึงการตัดสินใจของตน นางก็มีอาการเหม่อลอยไปหลายวัน

จินซื่อเจินรู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ก็ไม่ใช่อยากจะหัวเราะก็ไม่เชิง ทั้งสองต่างก็เป็นคู่หมั้นของกันและกัน มันก็ดูสมเหตุสมผล แถมอายุของทั้งสองฝ่ายก็ไม่ไช่น้อยๆ แล้ว กลับไปครั้งนี้เขาได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะทำเพื่อหลิวซื่อเข้าสอบเพื่อเป็นขุนนางให้ได้ แล้วจะมาสู่ขอนางอย่างสมเกียรติ

แต่หลิวซื่อกลับมีท่าทางที่แปลกไป เหมือนว่าไม่ค่อยสนใจกับสิ่งที่ตนพูดไปนัก อีกทั้งยังบอกว่าอยากจะชีวิติอยู่กับตนอยู่ในหุบเขาตลอดไปทั้งชีวิต

ตอนก่อนนั้นก่อนที่จินซื่อเจินจะเข้ามาในหุบเขาแห่งนี้ ตนอยากจะมีโอกาสได้พบกับโอกาสจากสวรรค์อยู่เสมอ แต่ในตอนนี้ตนได้มีความรักให้กับคนๆ หนึ่งแล้ว จึงคิดที่จะกลับไปสู่โลกปุถุชนตามเดิม ตนจึงปฏิเสธคำร้องขอของหลิวซื่อ บอกกับคู่หมั้นของตนเองว่า ตนอยากจะไปคุยเรื่องแต่งงานกับทางผู้ใหญ่ตระกูลหลิวอย่างจริงจัง ไม่อยากที่จะต้องหลบๆ ซ่อนๆ ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ตลอดไป

หลิวซื่อถามเขาอยู่หลายครั้ง และทุกครั้งเขาก็ยังยืนยันคำเดิม และถึงขั้นหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน เพื่อนเตรียมตัวสำหรับการสอบ

ก่อนที่เขาจะเดินทางกลับ หลิวซื่อก็มีอาการสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ราวกับว่ารู้สึกเจ็บปวดเสียใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งทุกๆ คำพูดของนางก็เหมือนกำลังหยั่งเชิงถึงความคิดเห็นที่เขามีต่อภูตปีศาจอยู่เสมอ

สำหรับเรื่องนี้นั้น จินซื่อเจินนั้นมีความมั่นใจและตั้งมั่นเอาไว้มาก และคิดว่าพวกภูตผีปีศาจไม่ควรที่จะมีอยู่บนโลกมนุษย์ ตนไม่ทันได้สังเกตเห็นเลยว่า ทันทีที่หลิวซื่อได้ยินแบบนั้นแล้ว ในแววตาของนางนั้นเต็มไปด้วยความสิ้นหวังขนาดไหน

นางค่อยๆ ซูบผอมลงไปเรื่อยๆ ท่าทางก็ดูนิ่งเฉยไป ในความเศร้าโศกนั้นเหมือนจะแฝงไปด้วยการยอมแพ้ต่ออะไรบางอย่าง ในขณะที่จินซื่อเจินกำลังมัวแต่รู้สึกเป็นสุขใจ จึงไม่ทันได้สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของหลิวซื่อ

ก่อนที่เขาจะไป หลิวซื่อก็ดูเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด นางเอ่ยออกมาทั้งน้ำตาว่า ในก่อนวันที่จะแต่งงาน หากว่าเขาคิดเปลี่ยนใจ ก็ให้กลับมาตามหานางที่นี่ และนางจะรอเขาอยู่เสมอ

จินซื่อเจินที่ได้ยินแบบนั้น ก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจอะไร

หลังจากที่กลับมายังบ้านตระกูลจินแล้ว เขาก็มักจะคำนึงและคิดถึงหลิวซื่ออยู่เสมอ มีบางครั้งที่อยากจะหาโอกาสไปเยี่ยมหาหลิวซื่อ อยากจะคลายความทุกข์จากความคิดถึงนี้

แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หลิวซื่อที่อยู่ในเมืองเหอหยางแตกต่างกับหลิวซื่อที่อยู่ด้วยกันในหุบเขามากมายนัก และเขาก็มักจะพบว่าความรู้สึกของเขานั้นไม่ได้เหมือนกับตอนที่อยู่ในหุบเขาเลยแม้แต่น้อย ระหว่างทั้งสองคนนั้นไม่ได้รู้สึกใจเต้นเมื่อได้อยู่ด้วยกันอีก ความรู้สึกที่มีต่อหลิวซื่อ ก็เหมือนว่าจะเข้าใจซึ่งกันและกันน้อยลงด้วย

แต่จินซื่อเจินกลับคิดว่า บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าต่างที่ก็ได้

ในหุบเขานั้นมีสภาพแวดล้อมที่ปิดกั้นจากโลกภายนอก ทำให้หลิวซื่อมีความกล้ามากขึ้น ดังนั้นถึงได้มีความตั้งใจที่จะทำความรู้จักกับตน เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่จะเข้ามาในใจของตนได้

แต่เมื่อกลับมาอยู่ในเมืองแบบนี้แล้ว หลิวซื่อก็ต้องคอยระมัดระวังสายตาของคนรอบข้างมากขึ้น และจะต้องรักษากิริยามารยาทให้ดี

จินซื่อเจินมักจะปลอบใจตนเองแบบนั้นเสมอ แต่ทุกครั้งที่ตนได้ไปพบกับหลิวซื่อ หัวใจที่มันเคยเต้นระรัวก็เหมือนค่อยๆ จางหายไปทุกที จินซื่อเจินจึงหันไปสนใจกับการอ่านหนังสือแทน และสุดท้ายก็สอบเป็นขุนนางได้จริงๆ

คนในตระกูลต่างก็พากันยินดีปรีดา และช่วยจัดการเรื่องการแต่งงานให้กับตน แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ที่ทำให้จินซื่อเจินเริ่มสงสัยเกี่ยวกับตัวหลิวซื่อที่อยู่ในเมืองเหอหยางและหลิวซื่อที่อยู่ในหุบเขา นางที่มีรูปโฉมหน้าตาเหมือนกัน แต่นิสัยกลับไม่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อย นอกจากใบหน้าแล้ว ก็เหมือนว่าจะไม่มีส่วนไหนอีกเลยที่ให้ความรู้สึกที่เหมือนกัน

ยิ่งตนคิดเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกหวั่นใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่านิสัยและลักษณะท่าทางของหลิวซื่อที่อยู่กับตนในเรือนหุบเขานั่น เหมือนกับ ‘แม่นางเหมย’ ทุกอย่าง

ทุกครั้งที่คิดขึ้นมาได้แบบนั้น ตนก็มักจะคิดย้อนกลับไปตอนก่อนที่จะกลับมาบ้านเสมอ คิดถึงสิ่งที่ ‘หลิวซื่อ’ ได้พูดเอาไว้ นางบอกกับตนว่า ก่อนวันแต่งงาน ถ้าหากว่าตนคิดเปลี่ยนใจ ก็ให้กลับไปตามหานางที่เรือนในหุบเขานั่น

วันแต่งงานค่อยๆ ใกล้เข้ามาทุกที จินซื่อเจินเริ่มที่จะไม่มีความสุขเสียแล้ว เขาเริ่มที่จะรับรู้ว่า หลิวซื่อทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และตนก็เริ่มที่จะสงสัยตัวตนของ ‘หลิวซื่อ’ ที่อยู่กับตนในหุบเขา

คนที่ตนรักจริงๆ ไม่ใช่หลิวซื่อที่เป็นคู่หมั้น แต่น่าจะเป็นนางปีศาจอย่าง ‘แม่นางเหมย’ มากกว่า

กับการที่ตัวเองไปตกหลุมรักนางปีศาจตนหนึ่งเข้า มันทำให้จินซื่อเจินรู้สึกรับไม่ได้ และเกิดความกลัวขึ้นมา

เขาคิดว่าความรู้สึกแบบนี้คงต้องเป็นเพราะ ‘แม่นางเหมย’ ทำอะไรบางอย่างกับเขาแน่ๆ นางจะต้องตั้งใจทำให้เขาสับสน จึงหักใจพยายามที่จะไม่ไปคิดถึงหลิวซื่ออีก กลับกันเขากลับไปบอกกับบิดาและมารดาว่า ให้เริ่มเตรียมงานแต่งงานได้เลย

ก่อนวันแต่งงานหนึ่งวัน เขาได้รับจดหมายแผ่นหนึ่ง ในจดหมายนั้นมีรูปวาดรูปหนึ่ง เป็นหญิงสาวที่มีรูปโฉมงดงามนางหนึ่งกำลังนั่งรอเขาอยู่และในมือนางก็ถือดอกเหมยเอาไว้ บนจดหมายเขียนถามเอาไว้ว่า ‘คำสัตย์สัญญาของสองเรา ยังสามารถเชื่อถือได้หรือไม่?’

กระดาษจดหมายแผ่นนั้นมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เมื่อมองทะลุผ่านแผ่นกระดาษจดหมายบางๆ นั้นไปก็ราวกับว่าจินซื่อเจินจะสามารถจินตนาการได้ถึงแววตาคู่นั้นที่เต็มไปด้วยความเขินอายแต่ก็สื่อความรู้สึกออกมาอย่างชัดเจนของ ‘แม่นางเหมย’ ที่กำลังรอคำตอบจากตน

พวกเขาได้สัญญาอะไรกันเอาไว้อย่างนั้นหรือ?

ในครั้งนั้นที่นางได้เอ่ยเอาไว้ว่าจะรอเขากลับไป แต่ตอนนี้งานแต่งงานกำลังจะถูกจัดขึ้นแล้วและคนที่เขาเลือกก็ไม่ใช่นาง

คืนวันแต่งงาน ด้านนอกนั้นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะครื้นเครง แต่ไม่รู้ว่าทำไมจินซื่อเจินถึงได้รู้สึกกระวนกระวายใจขนาดนี้

คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าตนก็คือหลิวซื่อที่กำลังรอให้ตนเปิดผ้าคลุมหน้าสีแดงออก แต่ในขณะที่ตนกำลังเหม่อกลับได้เห็นว่าแม่นางเหมยได้มาที่นี่แล้ว สีหน้าของนางดูซีดเซียว ท่าทางของนางเศร้าสลดและหดหู่ใจ นางยื่นมือออกมาและแตะลงบนไฝสีแดงบนหน้าผากเขา

ไฝสีแดงที่อยู่กลางหว่างคิ้วเมื่อโดนนางแตะแล้ว มันก็ร้อนวาบไปหมด เหมือนได้ยินเสียงคนเรียกขึ้นอย่างตกใจว่า ‘ท่านพี่ เป็นอะไรไปงั้นหรือ?’

จุดสีแดงที่อยู่บนหน้าผากของเขานั้นค่อยๆ เลือนหายไป พลันมีภาพแต่ละเหตุการณ์วิ่งเข้ามาในหัวเขาไม่หยุด ราวกับว่าได้ตื่นขึ้นมาจากฝันที่แสนยาวนาน ทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวกับอดีตชาติและปัจจุบัน เขาจำมันได้ทั้งหมดแล้ว

เขาและนางที่จริงแล้วต่างก็เป็นเทพที่อยู่บนสวรรค์ด้วยกันทั้งคู่ เพราะว่าต่างฝ่ายต่างตกหลุมรักซึ่งกันและกัน จึงให้สัญญากันว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ไม่ว่าจะกี่ร้อยปีก็ตาม

คนหนึ่งได้กลับชาติมาเกิดเป็นมนุษย์ ส่วนอีกคนได้กลายมาเป็นปีศาจในหุบเขา คนที่ได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ลืมสิ้นทุกอย่าง แต่คนที่ได้เป็นปีศาจกลับยังคงจดจำทุกอย่างได้และไม่ลืมสัญญาที่เคยให้ไว้

และเพราะกลัวว่าจะหาคนรักของตนเองไม่เจอ นางจึงได้หยดเลือดจากหัวใจของตัวเองลงบนหน้าผากของเขา เพื่อให้เป็นโชคชะตาที่จะนำพาทั้งสองให้ได้มาพบกัน เพื่อที่เมื่อกลับชาติมาเกิดแล้วจะได้ตามหากันได้ง่ายขึ้น

ไฝสีแดงที่อยู่บนหน้าผากนั่นค่อยๆ จางลงไป จางจนเกือบจะมองไม่เห็นมันอีกแล้ว หัวใจของ จินซื่อเจินร้อนดั่งไฟ และตะโกนขึ้นมาว่า ‘เซียนหยวน’ ต้องการที่จะออกตามหานาง

‘เซียนหยวน’ ที่เขาเรียกหามาโดยตลอด มันไม่ใช่วาสนาการบำเพ็ญเพียรเป็นเซียนที่ดูเพ้อฝันอะไรนั่น แต่เป็นชื่อของนางต่างหาก ชื่อของนางคือเหมยเซียนหยวน นางเคยมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาแล้ว แต่เขากลับผลักไสนางออกไปท่าเดียว

ในคืนวันแต่งงาน เขาได้หนีกลับไปที่บ้านในหุบเขานั่นอีกครั้ง แต่คนงามก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นอีกแล้ว เหลือทิ้งไว่แค่เพียงกลิ่นหอมที่ลอยฟุ้ง

ยังคงเป็นกระดาษจดหมายที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกเหมย เพื่อเขานางยอมสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง แต่คนที่เอาแต่ทำตัวว่ารักได้ทุกคนบนโลกยกเว้นเจ้าอย่างเขากลับได้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นนางไปแล้ว เหมยเซียนหยวนอาจคำนวณเรื่องราวทุกอย่างไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ ดังนั้นตอนที่นางมาปรากฏตัวต่อหน้าเขานั้น ถึงได้ยังกอดความหวังสุดท้ายเอาไว้ ต้องการที่จะได้คนรักที่เคยให้คำมั่นตราบชั่วฟ้าดินสลายคนนั้นกลับคืนมา แต่ก็กลับวางแผนที่ร้ายกาจที่สุดเอาไว้ด้วยการใช้ใบหน้าของคู่หมั้นเขาเพื่อมาพบตน เพื่อที่ว่าในอนาคตเมื่อเขาได้เข้าใจทุกอย่าง หลังจากที่เสียนางไปแล้ว ก็จะสามารถยอมรับหลิวซื่อคนนี้ได้ไม่ยากนัก ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับนาง เพราะกลัวว่าโชคชะตานี้ จะทำลายอนาคตของเขาไปชั่วชีวิต