webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

531-2

บทที่ 531-2 เซียนหยวน

โม่อานฉีนั่งลง สายตาเหลือบไปเห็นชื่อเรื่องที่อยู่บนหน้าปกว่า ‘เซียนหยวน’ สองตัว ก็เผลอส่ายหัวทันที

“หนังของหลินซีเหวินเรื่องนี้เกี่ยวกับพวกเทพเจ้า หรือการสู้กันของพวกเซียน อะไรแบบนั้นหรือเปล่าเนี่ย”

หลังจากเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ หนังเรื่องต่างๆ ที่เขาทำหลังจากนั้น ก็เหมือนว่าจะมีหลายเรื่องเลยที่เกี่ยวกับเรื่องเทพนิยาย เรื่องก่อนหน้านี้ก็เหมือนว่าจะเจอกับความล้มเหลวทั้งเรื่องยอดขายบัตรและคำวิจารณ์ไปในเรื่อง ‘เทพเจ้าเอ้อหลาง’ นั่นก็เป็นตำนานโบราณของหัวเซี่ยเช่นกัน ตอนแรกคิดว่าหลังจากที่เขาได้รับความล้มเหลวแบบนั้นแล้ว ก็จะเริ่มปรับเปลี่ยนแล้วเสียอีก ไม่คิดเลยว่าเรื่องใหม่ที่กำลังเตรียมตัว ก็จะยังเกี่ยวข้องกับพวก ‘เทพเจ้า’ อยู่ดี

โม่อานฉีรู้สึกไม่ค่อยชอบบทหนังเรื่องนี้ขึ้นมาเสียแล้ว แต่คนที่จะตัดสินใจนั้นไม่ใช่หล่อน เจียงเซ่อยกบทหนังเรื่อง ‘เซียนหยวน’ขึ้นมา แล้วเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางนิ่งๆ

“จะดีหรือไม่ดี ตอนนี้ยังพูดอะไรไม่ได้หรอกค่ะ ต้องลองดูก่อนถึงจะรู้”

เท่าที่เคยร่วมงานกับหลินซีเหวินมา นิสัยของเขาสำหรับเจียงเซ่อแล้วก็ถือว่ามีความรู้จักและเข้าใจอยู่ไม่น้อย

บางทีคนๆ นี้อาจจะยังมีในเรื่องของธุรกิจด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เขาเป็นคนที่เก็บรายละเอียดของอารมณ์ได้ดี เหมาะมากที่จะถ่ายทำหนังที่เกี่ยวกับอารมณ์

หนังที่จะต้องถ่ายทำเพื่อยอดขายบัตรเขาทำกันอย่างไรนั้นเจียงเซ่อไม่รู้หรอก แต่ว่าตอนที่ถ่ายทำหนังเรื่อง 'The Occasion of Beiping' นั้น เขาถือว่าเป็นผู้กำกับคนหนึ่งที่มีความตั้งใจสุดๆ ทุกๆรายละเอียดยิบย่อยเล็กๆ น้อยๆ ล้วนแล้วมีเขาเป็นคนกำกับและตัดสินใจทั้งนั้น

หนังเรื่อง ‘เซียนหยวน’ เรื่องนี้ เป็นสิ่งที่ทำให้เขาได้ค้นพบตัวเอง และยืดหยัดที่จะรอให้เธอได้ลองอ่านเรื่องนี้ดูก่อนแล้วค่อยทำการตัดสินใจ แน่นอนแล้วว่าเขาจะต้องมีความมั่นใจบางอย่าง ถ้ามันมีจุดไหนที่ไม่ดีเขาคงไม่มีทางที่จะกล้าเอาออกมาแน่ๆ แถมยังรอแต่เธอ รอจนสองปีมาแล้ว

โม่อานฉีที่ได้ยินเธอพูดแบบนั้น ก็รู้สึกได้ว่าความคิดของตัวเองมันดูจะมองด้านเดียวเกินไปเสียแล้ว หล่อนจึงพยักหน้าอย่างรู้สึกผิด และหันไปต้มน้ำชาให้เธอแทน และปล่อยให้เธอได้มีเวลาเงียบๆ เพื่ออ่านบทหนัง

ชื่อบทหนังคือ ‘เชียนหยวน*’ มันง่ายมากที่จะทำให้คนนึกเชื่อมโยงไปถึงคนในสมัยโบราณที่มักจะไล่ตามหาโชคชะตาที่ดูเพ้อฝัน

สมัยราชวงศ์หมิงรัชศกหลงชิ่ง เมืองเหอหยางมีตระกูลแซ่จินตระกูลหนึ่งที่มีชื่อเสียงในเรื่องคุณธรรมและความเมตตา สิ่งที่คนในตระกูลนี้ปฏิบัติอยู่บ่อยๆ ก็คือการช่วยเหลือและการกุศล มีนิสัยเป็นคนใจกว้างเอื้อเฟื้อต่อคนอื่น มักจะมีคนมาขอความช่วยเหลืออยู่เสมอ และพวกเขาก็จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือโดยไม่คิดที่จะลังเลเลยสักนิดเดียว

เขามีลูกชายหนึ่งคน อายุยังน้อยแต่แตกฉานด้านการศึกษา แถมยังได้แต่งงานกับหวังซื่อที่เป็นถึงคุณหนูของตระกูลผู้สูงส่งของเมืองนั้นอีกด้วย ยังไม่ทันเข้าพิธีสวมหมวกก็สอบได้ตำแหน่งซิ่วฉายแล้ว*การสอบของเหล่าปัญญาชนในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง

หลังจากที่หวังซื่อแต่งเข้ามาได้สองปี ก็ตั้งครรภ์ ก่อนที่จะคลอดก็เกิดนิมิตฝันว่ามีเซียนเข้ามาในครรภ์ ในคืนที่ให้กำเนิดบุตรชายออกมา ในตอนนั้นก็เกิดปรากฏการณ์สุดแสนพิสดาร ในห้องมีแต่กลิ่นหอมประหลาดลอยฟุ้งเต็มไปหมด หลังจากที่เด็กคนนั้นถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว บริเวณหน้าผากก็มีไฝสีแดงเล็กๆ ปรากฏอยู่ และคนในตระกูลจินต่างก็คิดว่าเด็กคนนี้จะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

จินซื่อเจินมีผิวพรรณขาวนุ่มราวกับหยกทั้งยังน่ารัก มีความฉลาดเฉลียวเกินวัยตั้งแต่เด็กๆ มีความสามารถในการจดจำสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทำให้ชื่อเสียงของเด็กคนนี้แพร่กระจายไปนอกเมืองอย่างรวดเร็ว

หวังซื่อผู้เป็นภรรยาและสามีนั้นประคบประหงมลูกชายราวกับไข่มุกล้ำค่าก็ไม่ปาน รักสุดหัวใจ รอจนกระทั่งจินซื่อเจินอายุได้สิบเอ็ดสิบสองปี ก็รีบวางแผนจัดการเรื่องแต่งงานให้กับลูกชายของตัวเองทันที

ตอนที่เขาอายุได้สิบห้าสิบหกปี ก็มีรูปโฉมที่หล่อเหลา เป็นบุรุษรูปงามมีชื่อเสียงของเมืองเหอหยาง แต่ทว่าตั้งแต่เด็กๆ จินซื่อเจินนั้นไม่ได้มีความสนใจในสี่ตำราห้าคัมภีร์เลยแม้แต่น้อย และไม่คิดที่จะไปสอบเคอจวี่*การสอบขุนนางด้วย แต่กลับหันไปสนใจอยากบำเพ็ญเพียรเป็นเซียน มักจะฝันถึงว่าตัวเองได้รับชะตาเซียนอยู่บ่อยครั้ง ฝึกฝนจนได้กลายเป็นเซียน

คนในตระกูลจินไหนเลยจะยอมรับได้ที่เขามีความคิดผิดแผกไปเช่นนี้ จึงพยายามบังคับเขาให้เขาเรียนหนังสือ เพื่อที่ในอนาคตจะได้เข้าสอบ และได้เป็นขุนนาง เพื่อเป็นเกียรติเป็นหน้าเป็นตาให้กับวงศ์ตระกูล

หลังจากที่พ่อของจินซื่อเจินมีชื่อเสียงจากการสอบซิ่วฉายได้แล้ว หลายปีที่ผ่านมาก็ไม่เคยสอบได้อีกเลย ทำให้ไม่พอใจลูกชายที่เป็นคนฉลาดเฉลียวมาตั้งแต่เกิดแท้ๆ แต่กลับไม่เอางานเอาการ

สำหรับนายท่านจินแล้ว เทพเซียนไม่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ และไม่มีอะไรที่เรียกว่าชะตาเซียนด้วย ดังนันจึงทำให้ควาสัมพันธ์ระหว่างบิดาและบุตรชายนั้นมีความตึงเครียด และเกิดเรื่องทะเลาะมีปากเสียงกันบ่อยครั้งในตระกูลจิน

เพื่อที่จะทำลายความคิดเพ้อเจ้อของจินซื่อเจิน และการสอบที่ใกล้เข้ามาแล้ว ในภูเขาลึกแห่งหนึ่งที่นอกเมืองเหอหยาง ตระกูลจินได้สร้างที่พักให้กับจินซื่อเจินขึ้นมา และให้เด็กรับใช้ที่เป็นเพื่อนเรียนอยู่เป็นเพื่อนจินซื่อเจินที่นั่น หวังว่าเขาจะสามารถเปลี่ยนความคิด ไม่ต้องไปฝึกฝนบำเพ็ญเต๋าอะไรอีก ให้ตั้งใจท่องตำราหนังสือ เพื่อหาทางออกมาจากสิ่งเหล่านั้น

จินซื่อเจินไม่เข้าในใจการกระทำของบิดาตัวเองก็เกิดความเป็นทุกข์ และยังคงมีความเชื่อต่อไปว่าบนโลกนี้มีผีปีศาจและเทพเซียน แต่ว่าคนที่ไม่มีวาสนาก็จะไม่มีทางที่จะสัมผัสได้ถึงความสูงส่งของสรวงสวรรค์

ในหุบเขาลึก ไม่นานจินซื่อเจินก็ได้พบกับอุปสรรคและความยากลำบาก เขาโดนปีศาจที่อาศัยอยู่ในหุบเขาจับตัวเอาไว้ เพราะคิดว่าในตัวเขานั้นมีกลิ่นอายของเทพเซียนอยู่ และเตรียมเขาไว้เป็นของขวัญ บรรณาการเพื่อมอบให้กับ ‘แม่นางเหมย’ ในโอกาสครบรอบวันเกิดอายุหนึ่งพันปีของ ‘แม่นางเหมย’

หลังจากที่ถูกจับตัวไปอย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ จินซื่อเจินก็ได้พบเจอกับภูตผีปีศาจที่แสนน่ากลัวอีกมากมาย และได้รู้ว่าสิ่งที่เรียกกันว่า ‘แม่นางเหมย’ คือปีศาจตนหนึ่ง เมื่อพันปีก่อนได้มาอาศัยอยู่ในหุบเขาแห่งนี้ เป็นเพราะมีพลังมหาศาล นางจึงกลายเป็นหัวหน้าของปีศาจเหล่านั้น ในทุกๆ วันเกิดครบรอบหนึ่งร้อยปี เหล่าปีศาจก็จะพากันมาเฉลิมฉลองและยินดีให้

ยังไม่ทันที่จะได้พบหน้า ‘แม่นางเหมย’ จินซื่อเจินก็เกิดความเกลียดชังต่อ ‘แม่นางเหมย’ ขึ้นมาเสียแล้ว

ตนเองนั้นต้องการแสวงหาโชคชะตาแห่งการเป็นเซียนและหนทางแห่งเต๋าที่แท้จริง ไม่ได้ชอบเหล่าภูตผีปีศาจ พอรู้ว่า ‘แม่นางเหมย’ เป็นหัวหน้าของเหล่าปีศาจ สามารถออกคำสั่งพวกปีศาจเหล่านี้ได้ แถมยังสั่งให้ปีศาจพวกนี้มาจับตนเองไปเป็นของขวัญวันเกิด เป็นของขวัญครบรอบ แค่นี้ก็รู้แล้วว่า ‘แม่นางเหมย’ นั้นเลวแค่ไหน

ในวันเกิดของ ‘แม่นางเหมย’ เขาโดนมัดอย่างแน่นหนา แต่ก็ไม่สามารถลดทอนหรือปิดบังรูปโฉมที่สง่างามของเขาได้เลย

‘แม่นางเหมย’ ที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าตนเองนั้นไม่ได้เป็นสิ่งน่ากลัวเลยแม้แต่น้อย กลับกันกลับมีรูปโฉมที่งดงามบริสุทธิ์ หนึ่งพันปีที่ผ่านมานี้ นางไม่เคยรับของขวัญเลยสักครั้ง แต่สิ่งที่ทำให้เหล่าปีศาจเกิดความแปลกใจนั้น ก็คือวินาทีที่นางได้เห็นจินซื่อเจิน แววตาคู่สวยกลับมีหยาดน้ำตาคลอ และรับจินซื่อเจินที่เป็น ‘ของขวัญ’ ชิ้นนี้ไว้ด้วยน้ำตา

ในคฤหาสน์ของ ‘แม่นางเหมย’ จินซื่อเจินรู้สึกไร้อิสระ นางปีศาจตนนี้นั้นมีรูปโฉมที่งดงามน่าหลงใหล นางอ่อนโยนกับตนมาก สายตาที่จ้องมองตนนั้นก็เต็มไปด้วยความหลงรัก ราวกับว่าตนเคยได้พบเห็นที่ไหนมาก่อนอย่างนั้น

แต่ทุกครั้งที่มีความรู้สึกเหล่านั้นแวบขึ้นมาในใจ จินซื่อเจินก็จะคอยเตือนตนเองขึ้นมาเช่นกัน ว่านี่คือปีศาจที่ทำแต่เรื่องชั่วร้าย

ดังนั้นพอทุกครั้งที่ ‘แม่นางเหมย’ ทำดีและมีท่าทีอบอุ่นกับตน ตนก็มักจะโต้ตอบกลับด้วยคำพูดร้ายกาจเสมอ ไม่ยอมรับความหวังดีจากนางปีศาจตนนี้ และเตือนตัวเองว่าหากได้กลับไปที่บ้านแล้ว จะต้องประกาศตามหาคนที่จะสามารถจัดการกับนางได้

เมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้นเรื่อยๆ แววตาของ ‘แม่นางเหมย’ ก็ค่อยๆ หม่นหมองลง และสุดท้ายนางก็ปล่อยให้ตนกลับบ้าน

หลังจากที่กลับมายังบ้านตระกูลหวังแล้ว จากสิ่งที่ตนได้พบเจอมาเหล่านั้น ทำให้จินซื่อเจินยิ่งมีความคิดที่อยากจะเป็นเซียนมากยิ่งขึ้น เขาต้องการที่จะได้รับโอกาสจากสวรรค์ อยากจะกลายเป็นเซียน เพื่อที่จะไปทำลายและกวาดล้างปีศาจเหล่านั้น เพื่อความสงบสุขของมนุษย์

เพื่อที่จะทำให้ลูกชายล้มเลิกความคิดความสนใจจากเรื่องเทพเซียน เหล่าผู้ใหญ่ของตระกูลจินจึงพากันเจรจาพูดคุย ทำทุกอย่างจนถึงขั้นเชิญคู่หมั้นอย่างหลิวซื่อมาเยือนที่บ้าน

รูปโฉมของหลิวซื่อนั้นก็งดงามไม่แพ้ใครๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ดวงตาของนางถึงได้คล้ายคลึงกับ ‘แม่นางเหมย’ เป็นอย่างมาก ทันทีที่จินซื่อเจินได้เห็นนาง ก็พลันนึกถึงช่วงเวลาที่ตนเองโดน ‘แม่นางเหมย’ กักตัวไว้ในหุบเขา ทำให้ตนไม่สามารถที่จะเกิดความชอบหรือรักต่อหลิวซื่อได้ เพื่อที่จะหลบหนีความหวังดีของบิดา ตนจึงกลับไปที่บ้านพักในหุบเขานั่นอีกครั้ง

แต่ผู้ใดจะไปรู้ว่าในคืนนั้น หลิวซื่อจะหน้าทนแอบตามตนเองไปด้วย

*เซียนหยวน หมายถึง วาสนาที่จะได้บำเพ็ญเพียรเป็นเซียน