webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

529-1

บทที่ 529-1 กลอุบาย

เฝิงหนานเชื่อว่าไต้เจียนั้นมีความอิจฉาเจียงเซ่อ ไม่แน่ว่าอาจจะมีสักวันหนึ่งที่สามารถใช้งานได้

แต่ถึงแม้ว่าหล่อนคิดจะใช้คน หล่อนเองก็ยังมีการระวังตัวอยู่เสมอ โดยการจับตาดูไต้เจียไว้อย่างเข้มงวด ในการถ่ายทำก่อนหน้านี้ เฝิงหนานเองก็เห็นแล้วว่าไต้เจียกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับใครบางคน ตอนที่ถามออกไป หล่อนเองก็จ้องมองไปที่ไต้เจียงเขม็ง ในมือถือขวดน้ำเอาไว้ สายตาเฉียบคม

ไต้เจียก้มหน้าลง แล้วตอบกลับอย่างราบเรียบ

“ผู้ช่วยของฮั่วจือหมิงโทรมาน่ะค่ะ”

พอหล่อนพูดคำว่า ‘ฮั่วจือหมิง’ ออกมา แววจับผิดในดวงตาของเฝิงหนานก็ค่อยๆ คลายลง ริมฝีปากของหล่อนกระตุกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย แล้วพยักหน้า เป็นสัญญาณว่าให้ไต้เจียพูดต่อ

ไต้เจียมองไปยังจุดที่กำลังมีการถ่ายทำกันอยู่ ผู้กำกับหนุ่มคนั้นยังคงกำลังพูดคุยเกี่ยวกับบทต่างๆกับนักแสดง ในกองถ่ายมีทีมงานเดินขวักไขว่ไปมา ดูไม่มีลำดับขั้นตอนเอาเสียเลย หล่อนลดเสียงตัวเองลงเล็กน้อย

“ผู้ช่วยของฮั่วจือหมิงบอกว่า” พอหล่อนพูดถึงตรงนี้ ก็ชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าของเฝิงหนานก็เริ่มนิ่งขึ้น

“บอกว่าอะไร?”

“บอกว่าบท ‘เฉินซวินหราน’ ในเรื่อง ‘Suspect’ นั้นมีการกำหนดและเซ็นสัญญากับคนอื่นเอาไว้แล้วค่ะ…”

สิ้นเสียงของไต้เจีย เฝิงหนานก็เผลอกลั้นหายใจไปครู่หนึ่ง ก่อนจะวางมือไว้บนแขนของไต้เจีย แล้วกดแรงลงไป ถึงจะสามารถหาเสียงของตัวเองกลับมาได้

“เธอ เธอว่าไงนะ?”

สิ่งแรกที่หล่อนคิดได้ ก็คือฮั่วจือหมิงจะต้องยังคงเป็นเหมือนอย่างในโลกใบเก่าที่หล่อนจำได้ โดยการเลือกฟ่านจืออวิ๋นให้เป็นนางเอกของเรื่อง ‘Suspect’

ความคิดแบบนั้นไหลวนอยู่ในหัวของเฝิงหนานมาโดยตลอด แต่ตอนนี้หล่อนรู้สึกโมโหจนตัวสั่นไปหมดแล้ว

ก่อนหน้านี้หล่อนก็ได้มีการติดต่อกับทางฮั่วจือหมิงไปตั้งนานแล้ว และแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกองถ่ายหนังเรื่องใหม่ของฮั่วจือหมิง ถ้าหากว่าเป็นฮั่วจือหมิงในสมัยก่อนหน้านี้ล่ะก็ ด้วยฐานะในวงการของหล่อนแล้วแน่นอนว่าไม่มีทางได้รับโอกาสได้นี้มา

แต่ในตอนนี้ชื่อเสียงของฮั่วจือหมิงมันแย่ลงทุกวันๆ หล่อนถึงได้มีโอกาสคว้าโอกาสนี้เอาไว้ หล่อนเคยได้ลองแคสตัวละคร ‘เฉินซวินหราน’ มาแล้ว หากพูดถึงเรื่องฝีมือการแสดง เฝิงหนานก็คิดว่าตัวเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมาย แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ฮั่วจือหมิงถึงยังได้ไม่ยอมตอบรับสักที

เฝิงหนานคิดด้วยซ้ำว่าอยากจะลงทุนให้กับหนังเรื่องนี้ด้วย จึงไม่ได้รีบร้อนอะไรมากมาย ไม่ได้ไปเร่งทางฮั่วจือหมิง

อาศัยประสบการณ์จากโลกใบเก่า หล่อนรู้ว่าถ้าตัวเองได้ลงทุนให้กับหนังเรื่อง ‘Suspect’ แล้วก็คงไม่มีอะไรมาขัดขวางหล่อนได้อีก หนังเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยอดขายบัตรหนังหรือคำวิจารณ์ต่างๆ ทุกอย่างจะต้องดีไปหมด ถ้าหากว่าหล่อนได้ลงทุนให้กับหนังเรื่องนี้ และได้แสดงบท ‘เฉินซวินหราน’ ละก็ ถึงตอนนั้นหล่อนก็จะได้ประโยชน์ถึงสองต่อ

แต่เงินที่มีอยู่ในมือหล่อนในตอนนี้มันก็ไม่ได้มากมายอะไร หลายปีที่ผ่านมานี้ เฝิงหนานได้รับงานโฆษณามากมายหลายอย่าง ก็ได้เงินมาบ้าง แต่เพราะว่าก่อนหน้านี้ได้ลงทุนให้กับเรื่อง ‘Revenge’ ไปมาก แต่สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ของเรื่อง ‘Revenge’ ก็ไม่ได้สร้างความพอใจได้ตามที่หล่อนต้องการ

บวกกับหลังจากที่เป็นดารามานี้ จะต้องไปออกงานอะไรต่างๆ มากมาย ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมและเครื่องประดับต่างๆ ที่จำเป็นก็ต้องจัดการเอง เพราะชื่อเสียงของหล่อยมันยังมีไม่มากพอ ทำให้มีหลายๆอย่างที่หล่อนยังต้องใช้เงินตัวเองซื้อมา

แรกๆ ก็ยังพึ่งพาสมบัติเก่าของเฝิงหนานตัวจริงที่มีเก็บไว้อยู่บ้าง แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ของหลายๆ อย่างที่มีค่าก็ถูกหล่อนขายทิ้งจนเหลือไม่เท่าไหร่แล้ว เฝิงจงเหลียงเองก็เลิกปันผลกำไรจากวิสาหกิจจงหนานให้กับหล่อน แถมยังอายัติบัตรเครดิตที่เป็นชื่อของหล่อนทั้งหมด ทำใหหล่อนต้องเจอกับอุปสรรคมากมายหลายอย่าง

เมื่อพูดถึงเรื่องการลงทุนให้กับหนังเรื่อง ‘Suspect’ แล้ว หล่อนนั้นมีความตั้งใจแต่ก็ไม่ได้มีศักยภาพมากพอ หล่อนเคยแบกหน้าไปหยิบยืมจากพวกพี่น้องในตระกูลเฝิงด้วยกัน แต่ตระกูลเฝิงที่ภายนอกดูรักใคร่กลมเกลียวกันนั้น ข้างในกลับมีความขัดแย้งและวางเล่ห์เหลี่ยมใส่กัน คอยแต่จะสืบหาว่าทำไมหล่อนถึงได้มาขอหยิบยืมเงิน

ก็ไม่รู้ว่าคนพวกนี้เคยโดนเฝิงจงเหลียงมาสั่งเอาไว้หรือเปล่า เพราะแต่ละคนต่างก็พากันเบี่ยงประเด็น บางทีก็พูดเยาะเย้ยถากถางกันเลยด้วยซ้ำ

หล่อนเองก็เคยมีความคิดว่าจะไปเกลี้ยกล่อมให้จ้าวจวินฮั่นมาร่วมลงทุนหนังเรื่อง ‘Suspect’ ด้วยกัน ถึงตอนนั้นเขาก็จะได้เงิน หล่อนก็ได้บทมา แต่เฝิงหนานก็คิดขึ้นมาได้ว่า ตอนนั้นที่จ้าวจวินฮั่นเห็นหล่อนก็เบือนหน้าหนีราวกับไม่รู้จักกัน

ตอนนี้ทั้งสองคนยังคงอยู่ในนามของคู่หมั้นกัน แต่จริงๆ แล้วต่างคนต่างอยู่ จ้าวจวินฮั่นเองก็ควงผู้หญิงคนอื่นเป็นว่าเล่นอย่างเปิดเผย หลังจากที่เปิดบริษัทลงทุนเกี่ยวกับวงการบันเทิงขึ้นมา ธุรกิจก็เจริญรุ่งเรืองมาโดยตลอด

ทั้งในนิตยสารและหนังสือพิมพ์ล้วนแล้วจะต้องเห็นข่าวที่เขาควงหญิงสาวไม่ซ้ำหน้า และนั่นก็ทำให้เฝิงหนานรู้สึกเสียหน้าไม่น้อย และแน่นอนว่าคงไม่มีทางยอมจ้าวจวินฮั่นง่ายๆ แน่

จนกระทั่งได้ไต้เจียมาอยู่ข้างหล่อน คอยช่วยหล่อนคิดวางแผน

พอรู้ว่าเฝิงหนานขาดเงิน แต่ยังอยากที่จะลงทุนให้กับหนังของฮั่วจือหมิง ไต้เจียก็เสนอให้หล่อนเลือกรับงานถ่ายหนังหลายๆ เรื่องเสียก่อน หลังจากได้เงินแล้วก็ค่อยคุยกันเรื่องการลงทุนกับหนัง ‘Suspect’ อีกทีหนึ่ง

ฮั่วจือหมิงเก็บบทหนังนี้มาตั้งหลายปี และเหมือนว่าจะมีการเตรียมตัวกับหนังเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่ก็ต้องพบเจอแต่อุปสรรค แค่ระยะเวลาสั้นๆ คงไม่มีทางที่จะถ่ายหนังได้สำเร็จแน่ๆ

หลังจากที่ไต้เจียเสนอข้อคิดเห็นแบบนั้นออกมาแล้ว เฝิงหนานก็คิดว่าหล่อนเองก็มีเหตุผลอยู่ไม่น้อย

เท่าที่หล่อนจำได้ หนังเรื่อง ‘Suspect’ นั้นจะเริ่มถ่ายทำกันในปีหน้า ถ้าดูเวลาแล้วยังไงหล่อนก็ยังทันอยู่ เพราะยังไงในปีนี้หล่อนก็รับเล่นหนังไปแล้วกว่าเจ็ดเรื่องทีเดียว แต่ละเรื่องก็พูดได้ว่าเป็นแค่หนังทั่วๆ ไป แต่แค่ได้เงินก็พอแล้ว

ไม่ได้มีผู้กำกับที่มีชื่อเสียง บทหนังก็ดูมั่วๆ ซั่วๆ ทีมงานในกองถ่ายก็ดูวุ่นวายไม่เป็นงาน ที่หล่อนต้องมารับงานหนังพวกนี้เอาไว้โดยที่ไม่คำนึงถึงชื่อเสียง ก็เพราะว่าเรื่องเงินทั้งนั้น

หนังทั้งเจ็ดเรื่องทำเอาตารางงานของหล่อนแน่นไปทั้งปี มีบ้างทีที่ต้องบินไปถ่ายถึงต่างประเทศด้วย รวมๆ แล้วก็ได้เงินมากว่าสิบล้าน ในขณะที่เฝิงหนานกำลังรู้สึกพึงพอใจแบบสุดๆ แต่กลับต้องมาได้ยินว่าไอ้แก่ฮั่วจือหมิงได้เอาบท ‘เฉินซวินหราน’ ไปให้คนอื่นเซ็นสัญญาแล้ว

ถ้ามันเป็นแบบนั้น งั้นวันเวลาที่ผ่านมาของหล่อน จะถ่ายหนังพวกนี้ไปเพื่ออะไรกัน?

เฝิงหนานรู้สึกเหมือนมีคนมาชกหมัดหนักๆ ลงมาบนอก ชกจนหล่อนแทบจะหายใจไม่ออก

“เธอมานี่สิ”

หล่อนยื่นมือไปคว้าแขนของไต้เจียมา ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเล็บของตัวเองจะไปจิกโดนเนื้อของหล่อนจนเจ็บหรือเปล่า

ผู้ช่วยของเฝิงหนานอีกคนที่ยืนอยู่อีกทางก็ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ ได้แต่มองมาทางไต้เจียอย่างเห็นใจ แต่กลับเห็นว่าสีหน้าของไต้เจียดูไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร แถมยังเดินตามแรงที่เฝิงหนานลากไปอีกด้วย จนกระทั่งเดินไปจนถึงบริเวณที่ไม่ค่อยมีผู้คน เฝิงหนานก็ยกมือขึ้น และ ‘เพียะ’ ตบลงบนใบหน้าของไต้เจียจนหันไปตามแรง

ไต้เจียโดนหล่อนตบจนหน้าหัน เฝิงหนานโมโหจนจังหวะหายใจไม่สม่ำเสมอ

“เธอบอกไม่ใช่หรือ ว่าให้รับงานแสดงหนังพวกนี้ก่อน แล้วหนังของฮั่วจือหมิงก็ไม่มีทางที่จะหาคนที่เหมาะสมกับบทได้ในระยะเวลาสั้นๆ น่ะ?”

หล่อนยื่นมือออกไป เอาแต่จะจิ้มไปที่ลำคอของไต้เจียไม่หยุด ตอนนี้หล่อนโมโหจนไม่รู้ว่าจะควบคุมสติตัวเองได้ยังไงแล้ว สำหรับเฝิงหนานการที่ฮั่วจือหมิงทำแบบนี้ มันเหมือนกับการโดนคนที่รู้จักเอามีดมาแทงข้างหลังกัน มันรู้สึกโกรธและโมโหมากจริงๆ

ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ตำตาแล้วว่าโอกาสมันลอยมาอยู่ตรงหน้าตัวเอง หล่อนยกมือขึ้น เหมือนอยากจะตบหน้าคนอีก