webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

528-2

บทที่ 528-2 ไม่ยอมแพ้

เมื่อเถาเฉินได้ฟังรายละเอียดจากซ่งอี้แล้ว ก็หันไปส่งสายตาชื่นชมให้

ผู้จัดการส่วนตัวที่ลัวหยิ่นเลือกให้กับหล่อนเองในครั้งนี้ดีกว่าเฉินเจียวเป็นไหนๆ ทั้งฉลาด มีความสามารถ รู้ว่าเธอจะถามอะไร และเตรียมคำตอบเอาไว้ให้อย่างชัดเจนและละเอียด และไม่ทำเรื่องอะไรให้มากความ ถึงแม้ว่าดูๆ แล้วจะช่วยอะไรหล่อนไม่ได้มาก แต่ก็ไม่คิดที่จะทำให้หล่อนแย่ลง เวลาที่หล่อนจะใช้งานอะไรก็รู้สึกสบายใจดี

“กลับไป ไปบอกกับคุณลัวว่า ช่วยเอาบทหนังเรื่อง ‘Suspect’ มาให้ที ฉันเองก็อยากจะเห็น ว่าหนังที่เจียงเซ่อสนใจ มีดีอะไรตรงไหน”

คำพูดของหล่อนเหมือนกับว่าจะต้องได้หนังเรื่องนี้ให้ได้ ซ่งอี้เองก็ไม่ได้แปลกใจอะไร และพยักหน้าให้หล่อน

“ที่จริงผมรู้อยู่แล้วว่าคุณจะต้องถามถึงเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้ก็เลยได้ติดต่อกับคุณลัวไปเป็นพิเศษแล้ว หาทางกันอยู่พักหนี่ง และตอนนี้ก็ได้บทหนังมาแล้วครับ”

บทหนังที่ฮั่วจือหมิงส่งมามันอยู่ที่เซี่ยเชาฉวิน แต่ในเมื่อลัวอ้าวต้องการบทหนังนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีทางอยู่แล้ว

ในตอนที่เขาพูดแบบนั้นออกมา ก็พบว่าเถาเฉินมีสีหน้าที่พึงพอใจไม่น้อย ในใจก็อดเกิดความดีใจขึ้นมาไม่ได้ จากนั้นก็สั่งให้ผู้ช่วยไปเอาบทหนังเรื่อง ‘Suspect’ ออกมาจากรถของตนเอง และพูดอธิบายต่อ

“ตัวบทหนังซีร็อกซ์มาจากทางเซี่ยเชาฉวินอีกทีหนึ่ง ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ ยังมีดาราสาวแซ่เฝิงอีกคนที่ให้ความสนใจกับบทตัวละครในเรื่อง และเหมือนว่าจะพยายามช่วงชิงมาโดยตลอด”

แต่ทว่าดาราสาวแซ่เฝิงคนนี้ไม่ได้เป็นดาราที่มีชื่อเสียงอะไรมากมาย นอกจากจะเกิดมาในตระกูลที่สูงส่งแล้ว เจ้าตัวเองก็ไม่ได้มีฝีมือการแสดงที่โดดเด่นอะไรมากมาย ไม่ได้มีความสำคัญอะไรต่อเถาเฉินอยู่แล้ว แน่นอนว่าคงไม่มีทางมาแย่งได้แน่ๆ

แต่สิ่งที่ทำให้เถาเฉินรู้สึกสนใจ ก็คือเจียงเซ่อต่างหาก

การที่เซี่ยเชาฉวินได้ทิ้งบทหนังเรื่องนี้เอาไว้ แน่นอนว่าจะต้องมีการเตรียมพร้อมให้กับเจียงเซ่ออยู่แล้ว แต่คราวนี้เถาเฉินต้องการที่จะได้บทหนังเรื่อง ‘Suspect’ แล้ว ถ้าแสดงตัวออกไปตรงๆ ว่าต้องการที่จะแย่งชิงบทหนังเรื่องนี้กับเจียงเซ่อ ก็อาจจะต้องได้คุยกับลัวหยิ่นแน่ๆ

เมื่อบทหนังเรื่อง ‘Suspect’ มาอยู่ในมือของเถาเฉินแล้ว และเพราะว่ามันเป็นตัวที่ซีร็อกซ์มาจากเซี่ยเชาฉวินอีกที รอยเขียนที่เซี่ยเชาฉวินได้ขีดกำกับเอาไว้ว่าตรงไหนเป็นส่วนนางเอกในก่อนหน้านี้ก็ถูกก็อปปี้มาด้วยเช่นกัน เถาเฉินมองดูมันอยู่ครู่หนึ่ง นี่มันเป็นชื่อของนางเอกของเรื่องเรื่องนี้ เป็นตำรวจที่มีความเมตตาสุดๆ คนหนึ่ง

หล่อนไม่ค่อยสงสัยกับเรื่องอะไรแบบนี้เสียเท่าไหร่ จุดยืนของเจียงเซ่อในตอนนี้ ถ้าอยากจะแสดงหนังของฮั่วจือหมิงนอกจากนางเอกแล้ว ก็ไม่มีตัวละครไหนที่น่าเลือกอีก

แต่เมื่อได้เห็นชื่อที่ถูกวงกลมเอาไว้แล้ว มันสามารถยืนยันสิ่งที่ซ่งอี้พูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้อย่างชัดเจน เจียงเซ่อมีความสนใจกับหนังเรื่องนี้จริงๆ และได้คิดเอาไว้แล้วด้วยว่าต้องการจะแสดงเป็นตัวละครไหน

ใช้เวลาไปกว่าสองวัน เถาเฉินก็ได้อ่านบทหนังเรื่อง ‘Suspect’ จนจบไปรอบหนึ่ง จากนั้นก็อ่านข้อมูลโดยรวมของแต่ละตัวละครอีกทีหนึ่ง และเริ่มไม่แปลกใจว่าทำไมเจียงเซ่อถึงได้ให้ความสนใจกับหนังเรื่องนี้ บทหนังเรื่องนี้ของฮั่วจือหมิงมันดูโดดเด่นมากจริงๆ

เมื่อได้ลองดูจากหลายๆ ทางแล้ว จากเนื้อเรื่องทั้งหมดของตัวละครหลัก นางเอกอย่าง ‘เฉินซวินหราน’ นั้นเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ เพราะมันเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยความดีอย่างที่คนดูชื่นชอบ มีความเมตตาและยุติธรรมสุดๆ แต่ก็ยังมีความอ่อนน้อมและนุ่มนวลราวกับน้ำแบบหญิงสาว แถมยังมีความเชื่อมั่นในความเป็นธรรมสูงด้วย

เจียงเซ่อเป็นคนที่รู้จักเลือกตัวละครจริงๆ หนังเรื่องนี้ถ้าหากว่าเธอได้แสดงจริงๆ ละก็ ขอแค่นักแสดงไม่ได้มีฝีมือการแสดงที่แย่ และสามารถแสดงตามบทบาทของตัวละครของฮั่วจือหมิงได้แล้ว บางทีเมื่อหนังได้ออกฉายแล้ว ยอดขายบัตรหนังอาจจะดีไม่น้อย

แต่ว่าขอโทษด้วยนะ เถาเฉินลูบๆ บทหนัง จากนั้นก็ไล้นิ้วผ่านไปที่ตัวอักษร ‘เฉินซวินหราน’ ที่ถูกวงกลมเอาไว้ มองมันด้วยแววตาที่แน่วแน่ ตอนนี้ตัวละครบทนี้ มันไม่ได้เป็นของเจียงเซ่ออีกต่อไป เพราะว่าหล่อนตัดสินใจที่จะแสดงมันแล้ว!

ที่จริงแล้วเถาเฉินยังมีเป้าหมายอื่นที่วางแผนเอาไว้แล้ว และตารางงานของเธอก็ได้จ่อคิวยาวไปถึงปลายปีแล้วด้วย เพราะฉะนั้นถ้ารับเล่นเรื่อง ‘Suspect’ ก็จะต้องเจียดเวลาอื่นมาถ่ายทำ และแบบนั้นก็คงต้องรอให้ถึงปีหน้าเสียก่อนถึงจะถ่ายได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรหล่อนก็จะต้องเล่นหนังเรื่องนี้ให้ได้ ฮั่วจือหมิงเองก็จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องทุนหนังอีก และเชื่อว่าเขาจะต้องยอมรอหล่อนแน่ๆ

การที่หล่อนตัดสินใจรับเล่นหนังเรื่องนี้ซ่งอี้เองก็ไม่ได้รู้สึกสงสัยอะไร ซ่งอี้จึงบอกการตัดสินใจของเถาเฉินให้กับบริษัททันที

แต่ว่าเบื้องบนของบริษัทจะวางแผนกันอย่างไร ซ่งอี้ก็ไม่มีทางรู้ได้ ลัวหยิ่นจะปวดหัวกันรึเปล่า ซ่งอี้ก็ไม่อาจที่จะคาดเดา แต่ไม่ว่าฐานะและจุดยืนของเจียงเซ่อจะขึ้นสูงมากเท่าไหร่ ยังไงหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ก็ยังคงอยู่ในช่วงถ่ายทำ ชื่อเสียงของเถาเฉินเองก็ไม่ใช่แค่ดาราเล็กๆ ในซื่อจี้หยินเหอยังไงลัวหยิ่นก็น่าจะยังไว้หน้าหล่อนบ้าง

และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ สองวันหลังจากนั้น ซ่งอี้ก็ได้ข่าวมาจากลัวอ้าวว่า บท ‘เฉินซวินหราน’ นั้นเป็นของเถาเฉินแล้ว

ฮั่วจือหมิงเองก็ได้มีการมาพบกับเถาเฉินครั้งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นฝีมือการแสดงหรือชื่อเสียง การที่เถาเฉินต้องการที่จะแสดงเป็น ‘เฉินซวินหราน’ ในเรื่อง ‘Suspect’ นั้นถือเป็นอะไรที่เหลือเชื่อมากๆ เมื่อเทียบกับฟ่านจืออวิ๋นที่ฮั่วจือหมิงเล็งเอาไว้ก่อนหน้าก็ถือว่าดีกว่าเป็นไหนๆ

หลังจากเซ็นสัญญากับเถาเฉินเรียบร้อยแล้ว เมื่อเฝิงหนานได้รับข่าวเหล่านั้น หล่อนก็กำลังอยู่ที่กองถ่ายหนังพอดี

ปลายสายก็คือผู้ช่วยของฮั่วจือหมิง ไต้เจียรับสายแทนเฝิงหนาน เมื่อผู้ช่วยคนนั้นพูดว่า ‘ขอโทษด้วย’ ด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกแย่มากๆ นั้น มุมปากไร้เจียก็กระตุกยิ้มขึ้นมาเล็กๆ

เมื่อสองเดือนก่อน ไต้เจียได้ทิ้งงานบริกรมา และตอบตกลงที่จะเป็นผู้ช่วยของเฝิงหนาน และอาศัยจากการที่ได้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยของเฝิงหนานนี้ในการหาช่องทางโอกาสให้กับตัวเอง และมันก็ง่ายมากในการเข้าหาเฝิงหนาน

เมื่อเทียบกับผู้ช่วยคนก่อนหน้านี้ที่โดนเฝิงหนานด่าสารพัดสารเพแล้ว หล่อนก็ถือว่ามีความสามารถและฉลาดกว่ามาก ตั้งแต่เริ่มแรกก็สามารถจัดการเรื่องวุ่นๆ ของเฝิงหนานได้มากทีเดียว

ตอนี้ในกองถ่ายกำลังดูวุ่นวายกันไปหมด ผู้กำกับที่กำลังกำกับการแสดงนั้นเป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง ประสบการณ์ยังไม่ได้มากมายอะไร ฉากๆ นี้ก็ถ่ายทำมาแล้วสามสี่วัน เฝิงหนานเองก็กำลังหามุมๆ หนึ่งที่ไม่มีคนอย่างอารมณ์เสีย เพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเอง

การถ่ายทำเป็นไปอย่างไม่ราบรื่น ซีนๆ หนึ่งต้องถ่ายอย่างต่ำสองรอบขึ้นไป สีหน้าของนักแสดงหลายๆ คนเริ่มที่จะไม่พอใจ ผู้กำกับเองก็ตะโกนออกมาว่าให้หยุดด้วยความเบื่อหน่ายอยู่หลายครั้ง ตอนที่เฝิงหนานมาถึง ไต้เจียก็ได้เปิดขวดน้ำแร่ แล้วส่งไปตรงหน้าเฝิงหนาน

การกระทำที่เอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอนั้น ทำให้ได้รับสายตาชื่นชมจากเฝิงหนาน

“เมื่อกี้เธอกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับใครหรือ?”

หล่อนดื่มน้ำเข้าไปอีกหนึ่ง เฝิงหนานจึงถามขึ้นอย่างไม่ใส่ใจนัก

สิ่งสำคัญที่ทำให้หล่อนรับไต้เจียเข้ามาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวนั้น ไม่ใช่แค่เพราะว่าได้เจอไต้เจียตอนที่ผู้ช่วยคนเก่าลาออกหรือเป็นเพราะว่าหล่อนอยู่ในเหตุการณ์พอดีเท่านั้น แต่เป็นเพราะว่าไต้เจียรู้จักกับเจียงเซ่อต่างหาก

หล่อนเองก็เป็นถึงนักเรียนของโรงเรียนสอนการแสดง ตอนนั้นมีจุดเริ่มต้นที่ดีกว่าเจียงเซ่อมาก หนังเรื่องที่สองของเจียงเซ่ออย่างเรื่อง ‘ฝันที่เป็นจริง’ ก็ยังเป็นเพราะหล่อนแนะนำไปให้ถึงได้เข้าแสดงได้

แต่สุดท้ายแล้วเจียงเซ่อก็อยู่ในวงการได้ดีกว่าหล่อน เพราะว่าไม่ได้รู้จักบริษัทต้นสังกัดมากพอ ทำให้สุดท้ายแล้วไต้เจียต้องพลั้งมือฆ่าคนไป ต้องเข้าไปอยู่ในคุกหลายปีถึงจะได้ออกมา วันเวลาที่ผ่านไปอย่างยาวนาน เจียงเซ่อที่แต่ก่อนไม่มีอะไรเทียบหล่อนได้กลับประสบความสำเร็จได้เป็นดาราดังที่มีชื่อเสียง แต่เด็กสาวอย่างไต้เจียที่ควรจะมีอนาคตที่ดี สุดท้ายแล้วกลับกลายเป็นแค่พนักงานในร้านอาหาร

และนี่ก็เป็นจุดที่เฝิงหนานยอมที่จะให้ไต้เจียมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัว ศัตรูของศัตรู ก็คือเพื่อนของหล่อน