webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

529-2

บทที่ 529-2 กลอุบาย

ตอนที่ไต้เจียเสนอความคิดเห็นนั้นออกมา หล่อนเองก็คิดว่ามันดี แต่ในขณะที่กำลังโกรธสุดๆ เฝิงหนานก็ไม่เคยมีสติอยู่แล้ว หลังจากที่หล่อนพูดจบ ไต้เจียก็หันหน้ากลับมา เลียแผลบริเวณมุมปากที่โดนเฝิงหนานตบเล็กน้อย แล้วพูดออกมาอย่างใจเย็น

“คุณเฝิงคะ แน่นอนว่าตัวบทไม่สามารถที่จะมีการกำหนดตัวนักแสดงได้เร็วขนาดนี้แน่ๆ”

“เธอยังจะกล้าหลอกฉันอีกเหรอ? หรือว่าจริงๆ แล้วเธอเป็นคนที่เจียงเซ่อส่งมา หวังที่จะขัดขวางฉันใช่ไหม?”

น้ำเสียงของเฝิงหนานดูเยือกเย็นสุดๆ ไต้เจียก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิม

“ฉันไม่ได้หลอกคุณหรอกค่ะ เพราะว่าคนที่ได้บท ‘เฉินซวินหราน’ ในเรื่อง ‘Suspect’ ไม่ใช่ ฟ่านจืออวิ๋น แต่เป็นเถาเฉินของซื่อจี้หยินเหอต่างหากค่ะ”

พอหล่อนพูดจบ มือของเฝิงหนานที่ยกค้างไว้ที่เหมือนยังอยากจะตบคนก็ชะงักไป ก่อนจะเอ่ยออกมาราวกับว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้

“เถาเฉินงั้นหรอ?” เป็นเพราะว่าหล่อนอึ้งมากไปหน่อย ทำให้น้ำเสียงของหล่อนดังขึ้น

“นี่มันเป็นไปไม่ได้!”

“เป็นเถาเฉินจริงๆ ค่ะ”

ไต้เจียยกมือขึ้นลูบแก้มบริเวณที่โดนตบจนบวมแดงแสบร้อนนั่น หล่อนหลุบตาลง เพื่อปกปิดแววตาของตัวเอง

“และเพราะว่าคนที่รับเล่นหนังเรื่องนี้คือหล่อน ทำให้บทนางเอกของเรื่อง ‘Suspect’ ถูกกำหนดเอาไว้ได้เร็วกว่าที่คิดไว้”

ไม่ว่าจะเป็นในด้านจุดยืน หรือว่าเรื่องชื่อเสียงและฝีมือการแสดง ล้วนแล้วไม่ใช่สิ่งที่ฟ่านจืออวิ๋นจะเทียบกับเถาเฉินได้ เพราะงั้นการกำหนดตัวละครหนังของฮั่วจือหมิง ถึงได้เป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีอะไรติดขัด

และเพราะว่าคนที่สนใจบท ‘เฉินซวินหราน’ ก็คือหล่อน ทำให้เฝิงหนานต้องพลาดโอกาสโอกาสนี้ไป

แต่สิ่งที่ทำให้ไต้เจียรู้สึกแปลกใจ คือทำไมเฝิงหนานถึงได้เอาแต่พุ่งเป้าว่าฟ่านจืออวิ๋นจะเป็นคนที่ได้เล่นเรื่อง ‘Suspect’

แต่หลังจากที่ได้ยินว่าเถาเฉินเป็นคนได้บทนี้ไป หล่อนก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเรื่องนี้ไม่ควรที่จะเป็นไปได้

ถึงแม้ว่าเรื่องนี้ไต้เจียจะมองออกได้อย่างชัดเจนว่ามีบางอย่างแปลกๆ แต่ตัวฮั่วจือหมิงเองก็เป็นถึงผู้กำกับใหญ่ ถึงแม้ว่าตอนนี้ชื่อเสียงเขาจะไม่ได้ดีเหมือนเมื่อก่อน แต่ระดับผลงานแต่ก่อนของเขาอยู่ในระดับไหน การที่เขาจะได้ร่วมงานกับเถาเฉินก็อาจจะเป็นที่แปลกใจของใครหลายๆ คนแน่นอนอยู่แล้ว แต่เฝิงหนานเองก็ดูจะมั่นใจมากเหมือนกัน

มันทำให้ไต้เจียเกิดความรู้สึกว่า หล่อนรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับหนังเรื่อง ‘Suspect’ เป็นอย่างดี เหมือนมั่นใจอย่างมากว่านางเอกของหนังเรื่องนี้จะต้องเป็นฟ่านจืออวิ๋น และเหมือนจะไม่คิดเลยสักนิดว่าจะมีใครคนอื่นได้บทนี้ไป

ในขณะที่คนในวงการต่างก็ไม่ได้รู้สึกดีกับฮั่วจือหมิงจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่เฝิงหนานเองก็ดูเหมือนว่าจะมีความมั่นใจในหนังเรื่อง ‘Suspect’ มากๆ แถมยังยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้มีเงินไปลงทุนต่อ สถานการณ์แบบนี้ เหมือนว่าหล่อนรู้อยู่แล้ว ว่าหนังเรื่อง ‘Suspect’ จะต้องโด่งดังมาก ยอดขายบัตรหนังจะต้องไม่ธรรมดา คนที่ได้แสดงเป็นนางเอกจะโชคดีถึงสองชั้น

พอไต้เจียคิดถึงตรงนี้ ก็เผลอเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง

เฝิงหนานคนนี้แปลกพิลึก ชาติตระกูลหล่อนก็เป็นถึงวิสาหกิจจงหนาน เป็นถึงลูกคุณหนู แต่ท่าทาง และการพูดการจา กลับไม่เหมือนคนที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดีเลยสักนิดเดียว ดูแข็งกร้าวกับคนในครอบครัว นิสัยไม่ค่อยดี ชอบหาเรื่องอยู่ตลอด

ได้ยินมาว่าคู่หมั้นของหล่อนเป็นถึงผู้ก่อตั้ง ‘เจียงหนานบันเทิง’ หลายวันที่ไต้เจียได้มาอยู่ข้างๆ เฝิงหนานนี้ กลับพบว่าหล่อนและจ้าวจวินฮั่นนั้นไม่ได้มีการติดต่อหรือสนิทสนมกันเลยสักนิด ได้ยินจากเพื่อนร่วมงานในบริษัทพูดๆ กันว่า คู่หมั้นคู่นี้เกลียดกันอย่างกับอะไรดี

เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ในบริษัทล้วนแล้วไม่ใครชอบหล่อนกันทั้งนั้น ลับหลังนั้นมีแต่คนหัวเราะเยาะเย้ยที่เฝิงหนานไม่ได้มีชื่อเสียงหรือเงินทองอะไรมากมาย แถมยังเป็นแค่ดาราระดับล่างในวงการบันเทิง ไม่มีทางที่จะได้เชิดหน้าชูตา

ที่สำคัญก็คือ ดูเหมือนว่าหล่อนจะดูจงเกลียดจงชังเจียงเซ่อเอามากๆ แต่เรื่องมันเป็นมาอย่างไร ไต้เจียยังต้องลองสืบดูให้ละเอียดกว่านี้

ไต้เจียจำได้ว่า พอเฝิงหนานได้เห็นถึงประวัติความเป็นไปของตัวหล่อนแล้ว รู้ว่าตัวหล่อนนั้นเคยเซ็นสัญญากับบริษัท ‘จวี้เฟิงบันเทิง’ แถมยังเคยฆ่าคนมาก่อน แววตาของหล่อนที่มองมานั้นไต้เจียยังคงจดจำได้ขึ้นใจ ว่ามันน่าสงสัยมากแค่ไหน

ทั้งสองคนต่างก็กำลังเกิดความสงสัย เฝิงหนานกำลังรู้สึกว่าเรื่องทุกอย่างมันอยู่เหนือการควบคุมของตัวเองไปหมดแล้ว ราวกับว่าเรื่องราวทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงและยุ่งเหยิงต่างไปจากความทรงจำที่มี ประสบการณ์ที่เคยพบเจอมันดูจะไม่มีประโยชน์เลยสักนิดเดียว

มีหลายๆ เรื่องที่มันเปลี่ยนแปลงมากเกินไปแล้ว มันทำให้หล่อนถึงกับคิดว่าหรือตัวเองจะจำอะไรผิดลำดับขั้นตอนไปหรือเปล่า หรือบางทีหล่อนอาจจะไม่ได้มีชาติที่แล้ว และหล่อนอาจจะไม่ได้มาเกิดใหม่ก็ได้

หล่อนรู้สึกกระวนกระวายไปหมด ทำให้ไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าตอนนี้ไต้เจียเองก็กำลังเหม่ออยู่

คนที่แย่งบท ‘เฉินซวินหราน’ ไปคือเถาเฉิน แน่นอนว่าเฝิงหนานได้สูญเสียโอกาสนี้ไปแล้วจริงๆ

ถ้าหากว่าเป็นฟ่านจืออวิ๋น หล่อนก็ยังพอที่จะแย่งชิงกลับมาได้ แต่เมื่อเจอกับเถาเฉินแล้ว หล่อนเองก็ไม่มีอะไรที่จะไปเทียบได้เลย ไม่ว่าจะเป็นในชาติที่แล้วหรือในตอนนี้ก็ตาม

คนที่รู้ว่าเถาเฉินได้เข้าร่วมแสดงเรื่อง ‘Suspect’ นั้น นอกจากจะมีเฝิงหนานและคนในวงการอื่นๆ ที่อยู่ในประเทศรู้แล้ว เซี่ยเชาฉวินที่อยู่กับเจียงเซ่อที่อิตาลีเพื่อถ่ายทำหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ก็ได้ข่าวเรื่องนี้แล้วเหมือนกัน

เนื่องจากมีการสับเปลี่ยนนักแสดงกลางคัน เจียงเซ่อจึงกำลังถ่ายฉากที่ลาร่า บราวน์เคยถ่ายทำไปแล้วใหม่อยู่ การที่เธอได้มาแสดงคู่กับโดนัลด์มันเหมือนกับว่าต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันดี ทำให้การถ่ายทำเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้นกว่าเดิม

หลังจากที่ถ่ายใหม่เรียบร้อยไปหนึ่งฉาก เชี่ยซ่าเหลยก็สั่งพักกอง

ช่วงนี้เจียงเซ่อเองก็ผอมลงไปมาก เพราะเชี่ยซ่าเหลยได้ขอให้เธอรีบลดน้ำหนักลงอย่างน้อยแปดปอนด์ บทตัวละครบริตนีย์นั้นมีความแตกต่างกับตัวละครเชอรีนเป็นอย่างมาก ตอนนี้เธอจะต้องดูผอมลงราวกับว่าคงยืนต้านแรงลมไม่ไหวแล้วอย่างไรอย่างนั้น ไม่ใช่หญิงสาวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลังเหมือนกับเชอรีน

นอกเวลาถ่ายทำ เธอเองก็ไม่สามารถที่จะพักผ่อนได้ เธอหยิบเอาลูกบอลที่มีน้ำหนักถึงสิบห้าปอนด์ขึ้นมาทำท่าลุกนั่งไปเรื่อยๆ จนเหงื่อออกท่วมตัวไปหมด

โม่อานฉีพูดขึ้นเบาๆ

“คุณเซี่ยคะ เซ่อเซ่อรู้ข่าวที่ว่าเถาเฉินรับเล่นหนังเรื่อง ‘Suspect’ แล้วหรือยังคะ?”

บทหนังของฮั่วจือหมิงเรื่องนี้มันอยู่ที่เซี่ยเชาฉวินมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้เจียงเซ่อเองก็ได้เลือกมันเอาไว้ และเซี่ยเชาฉวินเองก็แสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าจะเก็บหนังเรื่องนี้ไว้ให้เจียงเซ่อ

ก่อนหน้านี้มีคนในบริษัทโทรมาบอกเรื่องนี้ให้กับเซี่ยเชาฉวินแล้ว ถ้าหากว่าคนที่รับเล่นหนังเรื่องนี้เป็นคนอื่นก็ว่าไปอย่าง แต่กลับเป็นเถาเฉินไปเสียได้ มันจึงทำให้โม่อานฉีรู้สึกคิดมากขึ้นมา

“นี่มันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ หรือว่าเป็นเพราะเถาเฉินตั้งใจกันแน่นะ?”

ตอนหนังเรื่อง ‘The Lost City’ ของเชี่ยซ่าเหลย เถาเฉินก็ได้ลงมือเพื่อแย่งบทนั้นไปจากเจีงเซ่อ

แต่ว่าตอนนั้นหนังเรื่อง ‘The Lost City’ มันเป็นหนังฟอร์มใหญ่ อีกทั้งผู้กำกับก็ยังเป็นถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างเชี่ยซ่าเหลย เถาเฉินต้องการที่จะแย่งมันไปก็ยังดูสมเหตุสมผล

หลายปีมานี้ฮั่วจือหมิงเองก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรเท่าไหร่แล้ว บทหนังภาพยนตร์ของเขา อย่าง เถาเฉินไม่น่าจะเอามาดูเลยด้วยซ้ำ

“มันจะมีความบังเอิญได้ยังไงกันล่ะ?”

เซี่ยเชาฉวินมองไปยังเจียงเซ่อที่ยืนอยู่ไกลๆ นั่น แล้วขำออกมา

เถาเฉินเป็นคนที่เวลาจะทำอะไรต้องคิดพิจารณาเป็นอย่างดี ไม่เคยเชื่อว่ามันจะมีความบังเอิญอยู่แล้ว เรื่องนี้จะต้องมีคนจัดการให้หล่อนแน่นอน

ผู้กำกับของหนังเรื่อง ‘Suspect’ ก็คือฮั่วจือหมิง ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะว่าเจียงเซ่อเตยได้อ่านบทหนังเรื่องนี้มาก่อนแล้วละก็ โอกาสที่หล่อนจะให้ความสนใจ หรือเปิดบทหนังเรื่องนี้อ่านก็คงเท่ากับศูนย์

“ไม่ใช่เรื่องบังเอิญงั้นหรือคะ? งั้นแบบนี้ก็ถือว่าเถาเฉินต้องการที่จะแย่งบทไปไม่ใช่หรือ?” โม่อานฉีขมวดคิ้ว แล้วกดเสียงต่ำลง ท่าทางดูหงุดหงิดไม่น้อย

เซี่ยเชาฉวินเบนสายตาที่กำลังจ้องมองเจียงเซ่อกลับมา แล้วจ้องไปที่โม่อานฉี ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างขำๆ แต่ก็เหมือนไม่ได้ขำ

“แย่งบทงั้นหรือ? แย่งบทอะไรกัน?”

โม่อานฉีที่โดนหล่อนถามแบบนั้นก็นิ่งงันไป ก่อนจะพึมพำออกมา

“ก็บทนางเอก ‘เฉินซวินหราน’ ในเรื่อง ‘Suspect’ ไงคะ…”

“ตั้งแต่แรกเจียงเซ่อก็ได้อ่านบทหนังเรื่อง ‘Suspect’ แล้วจริงๆ” เซี่ยเชาชวินเอ่ยขึ้น “แต่ว่าตั้งแต่ต้นจนจบ ตัวละครที่ดูเอาไว้มันไม่ใช่ ‘เฉินซวินหราน’ แต่เป็นตัวละครที่ชื่อว่า ‘จงฉี’ ในเรื่อง ‘Suspect’ ต่างหาก”

ตอนนั้นเป็นเพราะว่าเคยโดนเถาเฉินใช้ลูกเล่นแย่งบทเรื่อง ‘The Lost City’ ไปแล้ว หลังจากที่เซี่ยเชาฉวินได้บทหนังเรื่อง ‘Suspect’ มา เมื่อเจียงเซ่อได้เลือกเรียบร้อยแล้วหล่อนก็จงใจวงชื่อตัวละครในบทหนังที่ไม่ใช่ ‘จงฉี’ เอาไว้ แต่เลือกที่จะวงชื่อนางเอกอย่าง ‘เฉินซวินหราน’ แทน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีก

บางทีเถาเฉินอาจจะไม่ทันได้คิดเลยก็ได้ ว่าเจียงเซ่อมีความสนใจต่อหนังเรื่อง ‘Suspect’ จริงๆ แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้เธอสนใจนั้น ไม่ใช่ตัวละครเอกที่เป็นตำรวจหญิง แต่เป็นผู้ร้ายที่ไม่ได้มีบทบาทอะไรมากมายต่างหาก