webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

528-1

บทที่ 528-1 ไม่ยอมแพ้

แววตาของเถาเฉินกลับมาดูมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยวขึ้นในทันที ความศรัทธาต่อการไม่ยอมแพ้ที่มีกดความรู้สึกที่เหมือนอยากจะถอยของตัวเองเอาไว้ หล่อนเชิดหน้าตรง แล้วหัวเราะออกมา

“จะให้พักนานแค่ไหน?”

ซ่งอี้ไม่กล้าพูดอะไรออกมา เถาเฉินกำหมัดแน่น แนบมันเอาไว้ข้างลำตัว ที่จริงแล้วการที่เจียงเซ่อได้รับโอกาสเป็นนักแสดงหลักของเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ นั้นก็มีผลกระทบต่อเถาเฉินไม่น้อย แต่ในเวลานี้ ทั้งในและนอกบริษัทก็คงต่างอยากจะหัวเราะหล่อน ทั้งคนดูและชาวเน็ตต่างก็รอดูท่าทีของหล่อน แล้วต่อมาหล่อนก็จะต้องเห็นใครอีกหลายๆ คนที่เวลาเจอหน้ากันก็จะมีท่าทีระแวดระวังอย่างซ่งอี๋ในตอนนี้

ท่าทางอาการแบบนั้นสำหรับเถาเฉินแล้ว มันเหมือนเป็นการเยาะเย้ยกันสุดๆ แล้ว

หล่อนพยายามเก็บสีหน้าของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติ เพื่อไม่ให้ซ่งอี้ได้สังเกตถึงความไม่พอใจของตัวเอง แล้วถามออกไป

“ฉันพอจะจำหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ได้อยู่ ตอนที่มีการประกาศรายชื่อนักแสดงอย่างเป็นทางการของหนังเรื่องนี้ เจียงเซ่อไม่น่าจะได้เป็นนักแสดงหลักนะ”

ตอนนั้นคนที่ได้แสดงคู่กับโดนัลด์ ก็คือดาราสาวฮอลลีวูดอย่างลาร่า บราวน์ การที่เจียงเซ่อได้เป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทำหนังเรื่องนี้นั้น จากนั้นก็ยังมีการถอดตัวนักแสดงหลักฝ่ายหญิงออกทั้งๆ ที่เป็นนักฟอร์มใหญ่แบบนี้แล้ว เรื่องแบบนี้ทำเอาเถาเฉินรู้สึกตกใจไม่น้อย

“สถานการณ์ทั้งหมดนั้นยังไม่ค่อยชัดเจนสักเท่าไหร่ เมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อนคุณเซี่ยก็เพิ่งจะกลับมาที่หัวเซี่ย และมีการเข้าพบกับท่านประธานเป็นการส่วนตัว แต่ข่าวที่ออกมาจากทางบริษัทนั้น ดูเหมือนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเกี่ยวข้องกับเชี่ยซ่าเหลยเป็นเสียส่วนใหญ่”

เชี่ยซ่าเหลยมีสิทธิจากการเป็นเจ้าของบทหนัง ‘นักโทษ’ อยู่ส่วนหนึ่ง ทำให้มีสิทธิ์มีเสียงในการทำหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ สูงด้วย ไม่ได้เป็นแค่ผู้กำกับที่สามารถสร้างหนังเรียกเงินได้ธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ยังเป็นถึงผู้กำกับที่สามารถแบ่งส่วนแบ่งยอดขายบัตรได้อย่างมหาศาลอีกด้วย เจียงเซ่อได้เขาเป็นแรงขับเคลื่อน “ได้ยินมาว่าโดนัลด์เองก็ยืนอยู่ข้างเจียงเซ่อ และมีกลุ่มคนจากทางหัวเซี่ยอีกกลุ่มคอยสนับสนุน” บวกกับตัวซื่อจี้หยินเหอและกับด้านต่างๆ ที่เข้ามาสนับสนุน ทำให้เจียงเซ่อได้เป็นนางเอกของเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่ ซ่งอี้ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าเจียงเซ่อจะโชคดีอะไรขนาดนั้น

การที่ได้ร่วมงานกับผู้กำกับอย่างเชี่ยซ่าเหลยถือว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากมากๆ นี่ไม่ใช่เป็นแค่ครั้งแรกที่เธอได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังยุโรปอเมริกา เพราะเธอยังได้ร่วมงานกับผู้กำกับใหญ่อย่างเชี่ยซ่าเหลย แถมยังโชคดีสุดๆ ที่ได้เป็นถึงนางเอก และได้แสดงคู่กันกับโดนัลด์

ไม่ว่าสุดท้ายแล้วยอดขายบัตรหนังมันจะออกมาเป็นอย่างไร จุดยืนและฐานะของเจียงเซ่อก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น เธอไม่เพียงแค่สามารถสร้างชื่อเสียงในวงการต่างประเทศได้เท่านั้น เธอยังจะได้รับโอกาสอีกมากมาย อย่างเช่นภายในประเทศ เธอเองก็ถือว่ามีศักยภาพมากพอที่จะอยู่เทียบเท่าเถาเฉินแล้ว ไม่ได้โดนเถาเฉินอยู่เหนือกว่าอีกต่อไป

ซ่งอี้รู้สึกเหนื่อยหน่าย หลังจากที่เถาเฉินได้ยินว่าเรื่องที่เจียงเซ่อได้กลายเป็นนางเอกของหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ นั้นมีแรงขับเคลื่อนมาจากเชี่ยซ่าเหลยด้วย ก็เหมือนว่าความรู้สึกที่อยู่ในใจของหล่อนมันตีรวนไปหมด และความรู้สึกเหล่านั้นก็เหมือนจะปะทุออกมาให้ได้

หล่อนเองก็เคยคิดที่จะซื้อใจเชี่ยซ่าเหลย อยากจะได้รับโอกาสเหล่านั้นบ้าง แต่ทว่าคนๆ นี้นั้นไม่ใช่คนที่จะเข้าใกล้และสนิทได้ง่ายๆ เลย มีเพียงแค่เจียงเซ่อเท่านั้นที่สามารถสร้างไมตรีที่ดีต่อเขาได้

เถาเฉินนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พยายามที่จะระงับอาการท้อแท้อย่างเงียบๆ คิดอะไรครู่หนึ่งแล้วจึงถามขึ้น

“ในบริษัท มีใครรู้อะไรที่เกี่ยวกับแผนการต่อไปของเจียงเซ่อหลังจากที่ถ่าย ‘The second coming of Jesus Christ’ เสร็จบ้างไหม?”

ในเทศกาลหนังภาพยนตร์ ทั้งเถาเฉินและเจียงเซ่อนั้นต่างก็ได้รับการเข้าชิงรางวัล ‘นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม’ แค่นั้นก็เถาเฉินก็รู้แล้วว่าระหว่างตัวเองกับเจียงเซ่อนั้นได้ต้องมีการแก่งแย่งกันเรื่องจุดยืนและชื่อเสียงแล้ว

ซื่อจี้หยินเหอจะต้องมีนักแสดงหญิงที่เป็นดาวเด่นเพียงคนเดียวเท่านั้น ทางบริษัทไม่มีทางที่จะส่งเสริมทั้งสองคนอย่างเท่าๆ กันได้ จะต้องมีสูงมีต่ำไปตามลำดับ

พอเถาเฉินถามจบ ซ่งอี้เองก็ดูเหมือนว่าจะมีการเตรียมพร้อมเรื่องนี้เอาไว้แล้ว และเดาถึงการตัดสินใจของหล่อนถูก เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง

“ก่อนหน้านี้ผมได้ยินมาว่า เซี่ยเชาฉวินจัดการเรื่องงานโฆษณาและงานหนังของเธอเอาอย่างเข้มงวดมาก และไม่ได้เลือกที่จะใช้ผลประโยชน์จากตัวเธอในตอนนี้ในการรับงานเยอะๆ ให้”

เมื่อเทียบกับดาราสาวคนอื่นๆ ในบริษัทที่มีงานยุ่งรัดตัวแล้ว เจียงเซ่อเองก็ถือว่าเป็นคนหนึ่งที่งานรัดตัวสุดๆ แต่เธอก็ไม่ได้เลือกที่จะรับงานไปมั่วๆ หลังจากที่รับเล่นเรื่องหนึ่งไปแล้ว ก็จะไม่รับเล่นเรื่องที่สองอีก ต้องรอให้ถึงวันปิดกล้องของอีกเรื่องเสียก่อน ถึงจะค่อยไปพิจารณาเรื่องต่อไป

“ตารางงานต่อไปของเจียงเซ่อนั้นยังไม่แน่ไม่นอน แต่ทางบริษัทก็มีการเตรียมพร้อมเอาไว้ให้เธออยู่แล้ว แค่รอให้เธอเลือกเท่านั้น”

ซ่งอี้เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วลอบมองเถาเฉิน “แต่ว่า ก่อนที่จะมีการรับเล่นหนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ ของจางจิ้งอาน” ในตอนที่ซ่งอี้พูดถึงหนังเรื่อง ‘PROOF OF LIFE’ ของจางจิ้งอานขึ้นมา เถาเฉินก็เม้มปากแน่นแล้วเขาก็พูดต่อ

“จากที่พูดๆ กันในบริษัท ตอนนั้นเซี่ยเชาฉวินได้เลือกบทหนังให้เจียงเซ่อเอาไว้ด้วย และเธอก็เคยได้อ่าน บทหนังเรื่องใหม่เรื่องหนึ่งของฮั่วจือหมิง”

ในความเงียบนิ่งของเถาเฉินนั้นเกิดความสนใจขึ้นมา ซ่งอี้จึงพูดต่อไปอย่างรู้งาน

“คุณเถาครับ ผมเดาว่า ถ้าไม่ใช่เพราะว่าตอนหลังมามีการทำสัญญากับจางจิ้งอานล่ะก็ บางที เจียงเซ่ออาจจะรับเล่นหนังเรื่องนี้เอาไว้แน่ๆ” และเหมือนว่าเขาจะรู้อะไรมากอีกเรื่องด้วย

“ขณะเดียวกันก่อนที่จะมีการรับถ่ายหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ นั้น ทางบริษัทซ่างเจียของหลินซีเหวินก็ได้ติดต่อไปหาเจียงเซ่อด้วย อยากจะจะเชิญเธอไปร่วมแสดงในหนังเรื่องใหม่ของเขา”

แต่น่าเสียดายที่หลังจากนั้นเจียงเซ่อได้เข้าร่วมกับหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ เสียก่อน คำขอของหลินซีเหวินจึงไม่สำเร็จ

เถาเฉินยกมือขึ้น

“หลินซีเหวินงั้นเหรอ?” เธอเคาะนิ้วชี้ลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ

“ไม่ต้องไปสนใจเขา ผลงานของเขา ก็คงมีแค่เรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ นั่นแหละที่พอจะเป็นหน้าเป็นตาให้ตัวเองได้” ตอนนั้นเจียงเซ่อก็อาศัยหนังเรื่องนี้ในการสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง แถมในปีนั้นเธอก็ยังได้รางวัล ‘นักแสดงสมทบหญิงยดเยี่ยมอีกด้วย เพราะงั้นถึงได้เป็นที่สนใจชองเชี่ยซ่าเหลยขึ้นมา

บางทีในใจของเจียงเซ่อ หลินซีเหวินสำหรับเธอก็อาจจะเป็นแค่คนมีบุญคุณที่เคยยกเธอขึ้นมาก็ได้ ยังไงเสียตอนที่เธอรับเล่นหนังเรื่อง ‘The Occasion of Beiping’ นั้นเธอเองก็ยังไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร ยังไม่ได้เซ็นสัญญากับซื่อจี้หยินเหอตอนที่ถ่ายทำตอนนั้น ด้ยินมาว่าค่าตัวก็ยังต่ำเตี้ยเรี่ยดิน

ผลงานของหลอนซีเหวินมันเอาแน่เอานอนไม่ได้ หนังเรื่องก่อนของเขาทั้งเรื่องบัตรหนังและคำวิจารณ์ต่างๆ มันน่าขายหน้าไม่มีชิ้นดี หนังที่ถ่ายแต่ละเรื่องล้วนแล้วโดนชาวเน็ตด่ากันทั้งนั้น

การที่เขาไปขอให้เจียงเซ่อมาเล่นหนังของตัวเอง ก็อาจเป็นได้ว่าก็แค่ต้องการอาศัยความเป็นเพื่อนกัน ขอร้องให้เจียงเซ่อมาช่วยเรียกคำวิจารณ์ดีๆ กลับมาก็เท่านั้นเอง

เจียงเซ่อไม่คิดจะรับก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้รับเล่นเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ เธอก็คงไม่รับเล่นหนังของหลินซีเหวินอยู่ดี

เถาเฉินไม่ได้สนใจหลินซีเหวินสักเท่าไหร่ แต่กลับรู้สึกสงสัยและอยากจะรู้ว่าทำไมเจียงเซ่อถึงสนใจบทหนังของฮั่วจือหมิงมากกว่า

“แต่เป็นหนังเรื่องใหม่ของฮั่วจือหมิงมากกว่า…”

ที่จริงหล่อนเองก็เคยได้ยินเรื่องที่ฮั่วจือหมิงกำลังเตรียมการกับหนังเรื่องใหม่ของตัวเองมาบ้างแล้ว แต่ทว่าก็ไม่ได้ไปสืบหาข้อมูลอะไรเพิ่มเติม

ฮั่วจือหมิงมีนิสัยส่วนตัวที่ไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่ อายุของเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว ไม่ค่อยจะยอมรับกับตลาดสมัยนี้ หนังช่วงที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยจะเข้าตาคนดูสักเท่าไหร่ด้วย อีกทั้งยังไม่สามารถเรียกความสนใจจากนักลงทุนได้อีก ทุกครั้งที่เหล่าคนสร้างหนังพูดถึงชื่อของเขาขึ้นมาก็พากันเบือนหน้าหนีกันหมด และคนๆ นี้ก็ยังเป็นคนที่ดื้อรั้นในความคิดของตัวเองสุดๆ นิสัยอารมณ์ก็เปลี่ยนกันไม่ได้ง่ายๆ จุดยืนในวงการของเขาจึงดูเป็นที่น่าอึดอัดไม่ใช่น้อย

ซ่งอี้เองก็เหมือนจะเข้าใจในความหมายของหล่อนอยู่แล้ว พอเถาเฉินพูดจบ ซ่งอี้ก็ตอบกลับทันที

“หนังเรื่องใหม่ของผู้กำกับฮั่วนั้น เหมือนว่ากำลังทำให้เหล่านักลงทุนพากันปวดหัวไปหมด

เขามองเถาเฉิน เหมือนกับว่ากำลังส่งสายตา ‘รู้กัน’ ให้

เพราะว่านิสัยส่วนตัวของฮั่วจือหมิงแน่นอนว่านักลงทุนหลายๆ คนก็คงไม่อยากจะช่วยลงทุนกับหนังของเขา และแน่นอนว่าดาราที่เป็นแนวหน้าเขาก็คงไม่มีทางที่จะได้ร่วมงานด้วย ดาราหน้าใหม่เองก็ไม่มีประสบการณ์และฝีมือการแสดงมากพอ ในสถานการณ์ที่ฮั่วจือหมิงกำลังไม่มีที่ไปแบบนี้ แน่นอนว่าจะต้องคอยถือบทหนังไปเร่หาทุนแน่นอน “และสุดท้ายก็มาหาท่านประธาน”

ผลงานของฮั่วจือหมิงที่ผ่านมานี้ก็ไม่ค่อยจะเป็นที่ยอมรับของคนทั่วๆ ไปสักเท่าไหร่ เขาเองก็โดนคนด่ามาเยอะ แต่คนๆ นี้ก็ยังมีที่พึ่งและความสามารถอยู่บ้าง เขามีคอนเนคชั่นที่ดีกับพวกกลุ่มศิลปิน เกิดมาในครอบครัวที่มีความรู้สูง และมีความสัมพันธ์อันดีกับลัวหยิ่น

ลัวหยิ่นเองก็คงไม่มีทางปฏิเสธ ต้องรับบทหนังเอาไว้ แต่ตอนนั้นเถาเฉินยังเป็น ‘นางเอกอันดับหนึ่ง’ ของซื่อจี้หยินเหออยู่ แน่นอนว่าลัวหยิ่นคงไม่มีทางที่จะปล่อยให้เถาเฉินที่มีความสามารถสูงแต่ต้องมารับเล่นหนังที่ไม่มีความมั่นคงแบบนี้แน่ๆ เพราะงั้นเถาเฉินถึงไม่ได้เห็นบทหนังเรื่องนี้เลย

ในขณะที่เซี่ยเชาฉวินช่วยจัดการเรื่องบทหนังให้กับเจียงเซ่อนั้น บทหนังเรื่องนี้ก็ได้เข้าไปเป็นหนึ่งในตัวเลือกเพื่อให้เจียงเซ่อได้เลือก จากนั้นก็ส่งมันให้กับเจียงเซ่อ

แต่ใครจะไปรู้ว่าสุดท้ายแล้วเจียงเซ่อไม่ได้สนใจบทหนังที่เซี่ยเชาฉวินได้เลือกให้เอาไว้อย่างดีเลยด้วยซ้ำ แต่กลับให้ความสนใจกับหนังเรื่อง ‘Suspect’ ของฮั่วจือหมิงแทน ถ้าไม่ใช่เพราะว่าหลังจากนั้นจางจิ้งอานต้องการตัวเจียงเซ่อละก็ บางทีเจียงเซ่ออาจจะถ่ายเรื่อง ‘Suspect’ เสร็จไปแล้วก็ได้ และตอนนี้หนังก็คงอยู่ในช่วงการตัดต่อแล้ว