525-2

บทที่ 525-2 เจรจา

“เยี่ยมมาก”

เจียงเซ่อยังไอค่อกแค่ก หลังจากที่ทีมงานช่วยกันดับไฟเรียบร้อยแล้ว ก็มีคนลดความสูงของสาย สลิงลงมาก่อน ส่วนคนข้างล่างก็อ้าแขนรอรับตัวเธอเอาไว้ เพื่อที่จะได้ให้เธอถึงพื้นอย่างปลอดภัย

“เธอยังโอเคใช่ไหม?”

มีใครบางคนถามขึ้น เจียงเซ่อกำลังหลับตาอยู่ แต่ก็พยักหน้าให้

สภาพภายนอกของเธอตอนนี้ดูแย่สุดๆ แต่การถ่ายทำสำหรับฉากนี้ ก็ถือว่าผ่านไปได้ง่ายกว่าตอนที่แสดงเป็นเชอรีนโดนสังเวยชีวิตมาก เพราะว่ามีหน่วยป้องกันอยู่เต็มรอบกองถ่าย ทำให้ตอนที่เธอกำลังถ่ายทำนั้น แค่พยายามกดความกลัวต่อไฟลง การถ่ายก็ผ่านไปได้อย่างฉลุยแล้ว

ผู้ช่วยของโดนัลด์ยกเสื้อคลุมขึ้นคลุมตัวเขาเอาไว้ ก่อนที่เขาจะลงจากแท่น ก็ยังหันมามองที่เจียงเซ่อ ครู่หนึ่ง เธอยังคงไออยู่ แต่เพราะว่ารอบๆ บริเวณนี้มีแต่ฝุ่นละอองเต็มไปหมด ทำให้ใบหน้าของเธอมันเห่อแดงไปทั่ว

ผู้จัดการของเธอถือผ้าเปียกที่เตรียมไว้และช่วยเช็ดปากและจมูกให้เธอ เพื่อป้องกันไม่ให้เธอสูดมันเข้าไปมากกว่านี้

หลังจากปลดมัดพันธนาการออกแล้ว เธอก็ยังต้องเดินลงจากแท่นเพื่อไปแกะสายสลิงออกอีกด้วย

โดนัลด์ยืนอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่ง เชี่ยซ่าเหลยก็เดินเข้ามา การถ่ายทำฉากเมื่อครู่นี้ ในใจของเขารู้ดีว่ามันคืออะไร

ที่หน้ากล้อง โดนัลด์กำลังถือแก้วน้ำร้อนเอาไว้ และกำลังดูการแสดงของตัวเอง แน่นอนว่าเขาไม่พลาดที่จะมองเจียงเซ่อที่อยู่ด้านหลังตัวเองด้วย และเช่นกัน เขาไม่พลาดที่จะสังเกตเห็นถึงสีหน้าและท่าทางของเจียงเซ่อ เห็นทุกๆ รายละเอียดการแสดงของเธอ

“นายคิดว่ายังไงล่ะ?”

เชี่ยซ่าเหลยถามเข้าขึ้นมา เขาที่กำลังจะยกน้ำดื่มก็ชะงักไปเล็กน้อย นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าให้ จากนั้นก็ตอบออกมาเบาๆ

“ดีมากเลยล่ะ”

กับฉากๆ เดียวที่เขาได้แสดงถึงสองครั้ง แน่นอนว่าเขาจะต้องแสดงได้ดีกว่าเดิม

การร่วมงานกันระหว่างโดนัลด์และลาร่า ทั้งสองคนล้วนแล้วมีเสน่ห์เป็นของตัวเอง ราวกับว่าต่างคนต่างก็ไม่มีทางที่จะยอมแพ้ให้กัน ล้วนแล้วอยากจะแย่งความสนใจจากคนดูทั้งสิ้น ทำให้ฉากๆ นี้ที่ควรจะเป็น จุดพีคของหนัง กลับกลายต้องมาเป็นการเปรียบเทียบนักแสดง และทำให้หาจุดสำคัญของเรื่องนี้ไม่เจอ

แต่เมื่อได้แสดงคู่กับเจียงเซ่อนั้น เพราะว่าการแสดงของเจียงเซ่อ ทำให้การแสดงของโดนัลด์นั้นกลายเป็นตัวละครที่เด่นที่สุดในฉากๆ นั้น ทำให้สามารถกลายเป็นเป้าสายตาของทุกๆ คนได้

“เธอฉลาดมากเลยนะ”

โดนัลด์แย้มยิ้มขึ้น จากนั้นก็จิบน้ำร้อนเข้าไป เพื่อขับไล่ความหนาวเหน็บ ก่อนจะวาดยิ้มออกมาเต็มๆ

“และรู้จักที่จะไขว่คว้าโอกาส แถมยังเกลี้ยกล่อมนายได้ด้วย”

ตอนนี้เจียงเซ่อได้เดินออกไปจากฉากแล้ว การแสดงออกของเธอดูฉลาดเฉลียวกว่าลาร่ามาก ภายในการเตรียมการวันเดียว กับฉากๆ เดิมที่ต้องแสดงต่อหน้าทุกคน ความหัวดกลัวและความไม่สบายใจของลาร่ามันแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ในตอนที่ทุกคนกำลังจ้องมาไปที่ฉากนั้น ในใจจะต้องเกิดความรู้สึกแน่นอนว่าฉากต่อไปจะต้องสะเทือนใจมากแน่ๆ

ในทางกลับกัน การแสดงออกที่แตกต่างกันไปของเจียงเซ่อนั้น นอกจากจะยังช่วยเพิ่มเสน่ห์ของการแสดงของโดนัลด์ ด้วยการแสดงเป็น ‘ผู้ศรัทธาที่มีความเชื่อมั่นให้หมดทั้งใจ’ ความโง่เขลาและความบริสุทธิ์ของเธอ จะทำให้คนดูรู้สึกเป็นห่วงเธอ

การแสดงทั้งสองแบบนี้ จะทำให้คนดูเกิดความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป

ดังนั้นการ ‘เทสการแสดง’ ที่แสนพิเศษนี้ เจียงเซ่อได้เหยียบลาร่าลงเสียมิดดินทีเดียว

เชี่ยซ่าเหลยถอนหายใจออกมา เพราะเห็นด้วยกับความคิดของเขา “ถ้าเกิดว่าไม่เคยได้ดูการถ่ายทำฉากนี้ละก็ ความยุ่งยากมันจะลดน้อยลงไปกว่านี้ไหมเนี่ย?”

เขาพูดบ่นกับตัวเอง โดนัลด์วางแก้วน้ำลง แล้วดึงเสื้อของตัวเอง

“ฉันว่าก็คงอย่างนั้น แต่ว่านะเพื่อน ฉันคิดว่านายคงจะต้องเสียใจมากแน่ๆ ที่จะต้องพลาดจากตัว ละครบริตนีย์ที่อยู่ในใจของนาย”

เชี่ยซ่าเหลยที่ได้ยินแบบนั้น ก็ดูจะดีใจขึ้นมาไม่น้อย เขาจึงพยักหน้า

“นั่นสินะ ถึงแม้ว่าการที่ได้เห็นฉากนี้ จะทำให้ฉันต้องรู้สึกวุ่นวายขึ้นมา แต่ถ้าหากว่าไม่ได้เห็นมันละก็ มันก็คงจะกลายเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสุดๆ ไปเลย”

สำหรับนิยายเรื่อง ‘นักโทษ’ ในใจของนั้นให้คุณค่ากับมันแตกต่างกันออกไป แต่เพราะมันเป็นนิยายที่นำมาแปลงเป็นบทหนัง เขาถึงต้องใช้เวลานานอยู่หลายปีกว่าจะทำมันเสร็จสมบูรณ์ ทุกๆ ตัวละครในเรื่องนี้ ล้วนแล้วต้องมีการคาดหวังและมีการคัดเลือกนักแสดงที่จะมารับบทเป็นอย่างดี

สายเรียกเขามือถือของเชี่ยซ่าเหลยดังขึ้นมาอีกครั้ง ผู้ช่วยของเขาถือมันมา สีหน้าดูไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อแล้ว

ครั้งนี้เชี่ยซ่าเหลยไม่ได้ปฏิเสธที่จะรับสายอีก เขาคว้ามือถือมา แล้วมองไปที่โดนัลด์แวบหนึ่ง ส่วนคนโดนมองก็อยู่ในสภาพที่ยังมีฝุ่นขาวๆ ติดอยู่เต็มหัว มีเสื้อขนเป็ดหนาๆ คลุมตัวเอาไว้และในมือก็กำลังถือแก้วน้ำ พลางจ้องมองไปที่จอกล้องถ่ายทำ

“เรื่องพูดเกลี้ยกล่อมแครอล ถ้ามีนายมาช่วยร่วมด้วย ฉันว่าน่าจะผ่านไปได้อยู่นะ”

พอเขาพูดแบบนั้นจบ ตอนแรกเขาคิดว่าต้องใช้วิธีเกลี้ยกล่อมที่มากกว่านี้ถึงจะโน้มน้าวโดนัลด์ได้เสียอีก แต่ยังไม่ทันที่เชี่ยซ่าเหลยจะได้พูดกล่อมอะไร โดนัลด์ก็พยักหน้ามาก่อนแล้ว

“ก็คงงั้น”

เชี่ยซ่าเหลยถือมือถือขึ้นมา แล้วเผยรอยยิ้มขึ้น

โชคดีที่หนังเพิ่งเริ่มถ่ายมาได้ไม่นานเท่าไหร่ แถมระหว่างนั้นการถ่ายทำของลาร่าก็เหมือนจะมีเรื่องติดๆ ขัดๆ ตลอด ทำให้จริงๆ แล้วการถ่ายทำไม่ได้คืบหน้าไปเสียเท่าไหร่เลย

ถ้าหากว่ามีการเปลี่ยนตัวนักแสดงในตอนนี้ สิ่งที่จะต้องเป็นเรื่องวุ่นวาย ก็คงจะเป็นฉากทั้งหมดของเชอรีนนั่น

เพราะตัวละครตัวนี้จะต้องหานักแสดงคนใหม่ และอาจจะทำให้ไม่ทันเวลาก็เป็นได้

ฤดูหนาวของโมเดนาใกล้จะหมดลงแล้ว ขอแค่ให้ถ่ายฉากพวกนี้ให้เสร็จก่อน หลังจากหาคนใหม่แล้ว ปีหน้าก็ค่อยเริ่มถ่ายฉากพวกนั้นใหม่อีกครั้ง

ถึงเวลานั้นแล้วอาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาอีก แต่หลังจากที่เชี่ยซ่าเหลยเห็นการแสดงของเจียงเซ่อแล้ว ก็คิดว่านี้มันคุ้มสำหรับทุกอย่างจริงๆ

แต่การที่จะพูดเกลี้ยกล่อมกับฝ่ายนักลงทุนนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะว่าหลังจากที่แครอล บอร์เจียได้รับสายจากเชี่ยซ่าเหลยแล้ว วันถัดมาเขาก็บินมาที่โมเดนาทันที

ท่าทางของผู้รับผิดชอบการลงทุนคนนี้ดูจริงจังและเคร่งขรึมไม่น้อย คนที่มาพร้อมๆ กับเขานั้นก็ยังมีคนของบริษัทฮว๋านเต่าด้วย จึงต้องมีการหยุดถ่ายหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ เอาไว้ก่อน หนังเรื่องนี้ได้มีการใช้งบประมาณไปแล้วกว่าสองร้อยล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งแต่แรกที่ได้มีการเลือกตัวนักแสดงให้เป็น ลาร่า บราวน์ นั้น นอกจากจะเป็นเพราะว่าบริษัทต้นสังกัดของเธอจะมีคอนเนคชั่นที่ค่อนข้างแข็งแกร่งแล้ว ตัวหล่อนเองก็ยังมีดีกรีเป็นถึงดาราฮอลลีวูดที่กำลังได้รับความนิยมอีกด้วย

ด้านทางบริษัทเงินทุนที่ได้จ่ายเงินทุนให้อย่างมหาศาล แน่นอนว่าจะต้องนึกถึงกำไรที่จะได้คืนกลับมาด้วย

ถึงแม้ว่าเจียงเซ่อจะมีชื่อเสียงมากในหัวเซี่ย แต่ในระดับยุโรปอเมริกานั้นก็ไม่มีชื่อเสียงอะไร หลังจากที่หนังฉายออกไปแล้ว นอกจากชื่อของเชี่ยซ่าเหลยที่จะเป็นตัวค้ำยันหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ แล้ว ก็ยังต้องพึ่งชื่อเสียงของตัวนักแสดงหลักชายหญิงในการสร้างยอดขายบัตรด้วย ถ้าเทียบจุดๆ นี้กับลาร่า บราวน์ แล้ว เธอก็ถือว่ายังอ่อนกว่ามาก

ตลาดหนังของยุโรปอเมริกาไม่ได้เหมือนกับของหัวเซี่ย ยอดขายของหนังไม่ได้พึ่งแต่ยอดขายของบัตรเข้าชมภาพยนตร์เท่านั้น ยังมีการโปรโมท และการโฆษณาตามหน้าจอโทรทัศน์ จนรวมไปถึงการผลิตแผ่นหนังภาพยนตร์ DVD อีก ของพวกนี้มันต้องใช้แรงขับเคลื่อนของเหล่านักแสดงกันทั้งนั้น และยังตัวเสน่ห์ของตัวหนังๆ นั้นเองด้วย

เบื้องต้นในการถ่ายทำหนัง ผลลัพธ์หลังจากที่ถ่ายหนังเรื่องนี้เสร็จจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ยังไม่แน่นอน แต่จู่ๆ เชี่ยซ่าเหลยก็บอกว่าจะขอเปลี่ยนตัวนางเอกกลางคันแบบนี้ ทำให้เกิดอัตราความเสี่ยงขึ้นมาอย่างมาก

ทางด้านนักลงทุนนั้นรู้สึกไม่พอใจกับคำขอของเชี่ยซ่าเหลยเป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่แปลกก็คือ แม้แต่ตัวนักแสดงหลักอย่างโดนัลด์เองก็ยังยืนอยู่ข้างเดียวกันกับเชี่ยซ่าเหลย คิดว่าเจียงเซ่อเหมาะสมที่จะเป็นนางเอกของหนังเรื่องนี้

วันนั้นหลังจากที่มีการ ‘เทสการแสดง’ เป็นกรณีพิเศษแล้ว ถึงแม้ว่าเชี่ยซ่าเหลยจะไม่ได้แสดงท่าทีออกมาอย่างชัดเจน แต่การที่มีการหยุดถ่ายทำแบบนี้ ก็ทำเอากลุ่มนักลงทุนแตกตื่นกันไม่น้อย แต่มันก็ถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ดี

ตอนนี้เจียงเซ่อกำลังพักผ่อนร่างกายอยู่ในโรงแรม ในขณะเดียวกันก็กำลังติดต่อกลับไปที่ประเทศตัวเองด้วย

ทางหัวอิ่งนั้นได้มีการติดต่อกับทางบอร์เจียและฮว๋านเต่าเรียบร้อยแล้ว เนี่ยต้านได้ส่งข่าวกลับมาให้กับเจียงเซ่อ บอกกับเธอว่าไม่ต้องกังวลไป เพราะหลังจากที่พวกเขากำลังเจรจากับทั้งสองบริษัทนั้นแล้ว ก็อาจจะมีการบินออกจากประเทศ เพื่อคว้าโอกาสนี้มาให้เจียงเซ่อให้ได้