บทที่ 523-2 มีการเตรียมตัวที่ดี
ตอนนี้ไม่มีใครสงสัยในสิ่งที่เธอพูดเลยสักนิด อีกทั้งก็เหมือนว่าคนในกองถ่ายเองก็กำลังโดนเธอพูดโน้มน้าวกันไปหมด รองผู้กำกับลอบมองเจียงเซ่ออย่างพิจารณาครู่หนึ่ง และเอ่ยขึ้นอย่างลังเล
“เชี่ยซ่าเหลย...”
“ไม่ได้!”
แจ็คยังคงคัดค้านลูกเดียว แต่ก็ไม่ได้สนใจคำพูดของเขา สายตาของเชี่ยซ่าเหลยมองสลับเจียงเซ่อและ ลาร่าไปมาอย่างพิจารณา ลาร่าก็เหมือนว่าจะยังไม่ทันได้รู้ตัวอะไรเลยด้วยซ้ำว่าจะเกิดอะไรขึ้น สายตาของเจียงเซ่อดูมุ่งมั่นไม่น้อย ถึงแม้ว่าจะมีสายตาจากคนรอบๆ ข้างจ้องมองมา แต่เธอก็ไม่ได้กลัวและหลบสายตาเลยสักนิด
“ก็ได้ เจียง ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ!”
เชี่ยซ่าเหลยเริ่มยิ้มแย้มออกมาเล็กน้อย ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจออกมา น้ำเสียงที่พูดออกมาก็ดูลึกซึ้งมากขึ้น
“เธอต้องแสดงดีๆ นะ อย่างให้ฉันผิดหวังล่ะ!”
“ได้ค่ะ”
เจียงเซ่อพยักหน้า โม่อานฉีรีบเดินเข้ามาหา แล้วรีบหยิบเสื้อขนเป็ดที่เจียงเซ่อวางทิ้งไว้ขึ้นมาคลุมตัวเธอ ทีมงานหลายๆ คนจนรวมไปถึงช่างแต่งหน้าต่างก็พากันเข้าไปในห้องแต่งหน้าเพื่อช่วยกันเปลี่ยนเสื้อผ้า
ลาร่ายังคงยืนอยู่ที่เดิม สีหน้าของแจ็คผู้จัดการของหล่อนดูเหนื่อยหน่ายเป็นอย่างมาก หล่อนเอียงหน้ายิ้มเยาะให้กับแผ่นหลังของเจียงเซ่อ จนกระทั่งเจียงเซ่อเดินเข้าห้องแต่งหน้าไปแล้ว หล่อนก็สบถออกมา จากนั้นก็หันหน้ากลับมาเหมือนเดิม
“เธอไม่ควรทำแบบนี้นะ ลาร่า”
น้ำเสียงของแจ็คแข็งขึ้น เขาสัมผัสได้เลยว่า คำพูดของเชี่ยซ่าเหลยก่อนหน้านี้จะต้องมีอะไรแน่ๆ เขาบอกว่าให้เจียงเซ่อแสดงออกมาให้ดีที่สุด อย่างทำให้เขาผิดหวังเด็ดขาด ถ้าหากว่าเป็นคนนักแสดงแทนธรรมดาๆ จะมีอะไรให้ต้องผิดหวังกัน?
เขากลืนน้ำลาย ลูกระเดือกขยับตามแรงกลืน รู้สึกหน่วงหน้าอกไปหมด
“เธอไม่ควรที่จะให้ยัยนั่นได้มีโอกาสนะ เธอเกลียดยัยนั่น ก็น่าจะเหยียบมันให้จมดินสิ อย่างให้มันพลิกตัวกลับมาได้อีกแบบนี้”
“แจ็ค ทำไมนายจะต้องกังวลอะไรแบบนี้ด้วย? เธอก็แค่ตัวแสดงแทน ถึงแม้จะแสดงได้ดี แต่แม้แต่เสี้ยวหน้าก็คงไม่ได้ออก ตอนที่หนังเข้าฉาย ความสำเร็จก็ยังต้องเป็นของฉันอยู่ดี! ยัยนั่นก็เป็นแค่คนหัวเซี่ย แค่อยากจะเอาใจกับคนที่พอจะมีประโยชน์กับตัวเองเท่านั้นแหละ แต่ว่าทำแบบนั้นก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกน่า”
แจ็คนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ถอนหายใจออกมา แล้วส่ายหน้า
เจียงเซ่อเข้าไปในห้องแต่งหน้า และเตรียมตัวที่จะแต่งตัว
เธอถอดลองจอห์นบางของตัวเองออก โม่อานฉียังคงมีท่าทางที่ไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก ทั้งที่เจียงเซ่อควรที่จะถือโอกาสนี้ในการทำให้ลาร่าได้เห็นถึงอำนาจของตัวเองแท้ๆ ปล่อยให้หล่อนได้รับผลกระทบจากเจียงเซ่อ ทำให้ไม่สามารถที่จะถ่ายหนังได้อย่างรายรื่น
สถานการณ์ในวันนี้ เจียงเซ่อควรที่จะนั่งมองลาร่าซวยไปอย่างเงียบๆ เพราะยังไงเรื่องนี้มันก็กำลังจะได้ที่อยู่แล้ว และตัวลาร่าเองก็เริ่มที่จะโดนเชี่ยซ่าเหลยและทางนักลงทุนไม่ชอบแล้วด้วย
แต่สุดท้ายกลับมีเหตุการณ์ไม่คาดคิด ว่าเจียงเซ่อจะยอมออกหน้าให้ลาร่า ยอมที่จะเป็นนักแสดงแทนเสียอย่างนั้น ช่วยให้หล่อนได้หลุดพ้นจากเรื่องวุ่นวายนี้ไป
“เซ่อเซ่อ ทำไมเธอถึงต้องยอมไปเป็นตัวแสดงแทนของลาร่าด้วยล่ะ?”
ฉากคนถูกไฟเผาอะไรนี่ก็ไม่เห็นจะน่าถ่ายตรงไหน ตอนนั้นที่แสดงเป็นเชอรีน เจียงเซ่อก็น่าจะรู้แล้วว่ามันยากลำบากมากแค่ไหน ความรู้สึกในตอนที่แก๊สดับเพลิงมันถูกฉีดใส่หน้าใส่ตัวยังคงติดชัด และแผลที่ลำคอของเธอก็เพิ่งจะหายไปได้แค่ไม่กี่วัน
“เธอไม่กลัวหรือ?”
ภาพที่เธอถูกไฟคลอกบนร่างกาย ทุกครั้งที่โม่อานฉีนึกขึ้นมาก็ยังใจไม่ดีตลอด ยิ่งหลังจากนั้นที่เจียงเซ่อได้แผลไฟลวกที่ลำคอมา ถึงแม้ว่าพอทายาแล้วมันจะจางหายไปและไม่ทิ้งรอยแผลเป็นก็เถอะ แต่รอยแดงและสภาพผิวของเธอในตอนนั้น โม่อานฉียังคงมีภาพติดตาเสมอ
“กลัวสิ” เจียงเซ่อจ้องมองกระจกอย่างนิ่งเงียบ โม่อานฉีและเซี่ยเชาฉวินต่างก็กำลังช่วยเจียงเซ่อใส่ชุดกันความร้อน สายตาของเธอจ้องมองไปยังดวงตาของตัวเองที่สะท้อนอยู่บนกระจก เจียงเซ่อมองเห็นถึงความทะเยอทะยานอยู่ในแววตาของตัวเอง และแววตาที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานนั้นมันก็เปล่งประกายสุดๆ
“แต่ที่กลัวยิ่งกว่าก็คือโอกาสที่กำลังจะหลุดลอยไป”
เธอจ้องมองรอยยิ้มของตัวเองที่อยู่ในกระจก เหมือนกับกำลังให้กำลังใจตัวเอง
“ฉันไม่ได้กำลังจะเป็นตัวแสดงแทนของลาร่า แต่มันเพื่อตัวฉันเองต่างหาก”
เธอต้องการที่จะแสดงเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ อยากจะแสดงเป็นตัวละครที่สำคัญกว่านั้น
ในช่วงเวลาที่ไม่ได้เอื้อต่อตัวเธอ เธอก็สามารถที่จะกดความทะเยอทะยานของตัวเองลงได้ การที่ได้แสดงเป็นเชอรีน ก็ไม่ได้หมายความว่าในใจของเธอต้องการที่จะแสดงเป็นเชอรีนจริงๆ เสียงหน่อย
แต่มันเป็นเพราะว่าเชี่ยซ่าเหลยได้ให้โอกาสนั้นกับเธอ และมอบบทเชอรีนให้กับเธอ เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องตัวละครอื่นๆ ของ ‘The second coming of Jesus Christ’ เหมือนปิดกั้นทางไปต่อของเจียงเซ่อ ให้เธอได้ลองเพียงแค่บทบาทเชอรีน และแน่นอนว่าเจียงเซ่อก็จะต้องให้ความมุ่งมั่นกับตัวละครเชอรีน แต่ตอนนี้มันมีโอกาสที่เธอจะได้ลองเล่นเป็นบริตนีย์แล้ว แน่นอนว่าเธอจะต้องคว้ามันเอาไว้
สำหรับโม่อานฉี ลาร่าและคนอื่นๆ แล้ว ในฉากๆ นี้เจียงเซ่อก็เหมือนเป็นแค่ตัวแสดงแทนของลาร่า แต่ในสายตาของเจียงเซ่อแล้ว เธอกลับรู้สึกว่านี่คือการได้ลองแสดงเป็นบริตนีย์ นางเอกในเรื่อง ‘The second of Jesus Christ’ ถึงแม้ว่ามันจะดูช้าไปหน่อย แต่ก็ดีที่โอกาสมักจะมาแบบนี้ เธอเองก็อยากจะให้เชี่ยซ่าเหลยได้เห็น ว่าตัวเธอนั้นมีศักยภาพมากแค่ไหน ไม่ใช่แค่ตัวประกอบที่ออกมาไม่กี่ฉากแล้วตายไป
แน่นอนว่าเจียงเซ่อเองก็กลัวกับการถ่ายฉากที่ต้อง ‘ถูกเผา’ แบบนี้ ประสบการณ์โดนไฟลวกที่แสนน่ากลัวจากครั้งก่อนยังติดลึกอยู่ในความทรงจำของเธอ ทั้งลำคอ ปลายคางและจุดต่างๆ บนร่างกายที่ถูกไฟลวกมันเหมือนยังคงหลงเหลืออยู่บนตัวเธอ คิดถึงขึ้นมาทีไรก็ยังรู้สึกได้ถึงความแสบร้อน
แต่เจียงเซ่อรู้สึกได้ว่า สิ่งที่น่ากลัวที่สุดนั้นไม่ใช่ความทรงจำจากการถ่ายทำ แต่คือการที่โอกาสใหญ่ขนาดนี้มันมาอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่เธอกลับกลัวจนต้องเสียมันไป
ขนาดความทรงจำแย่ๆ ในวัยเด็กที่เคยถูกลักพาตัวไปเธอก็ยังผ่านมันมาได้ แค่กับฉากที่ไม่ได้มีความอันตรายอะไรมากมายแบบนี้ ทำไปเธอจะต้องกลัวมันด้วยล่ะ?
อาการบาดเจ็บจากครั้งที่แล้ว นั่นมันก็เป็นเพราะว่าลาร่าได้ทำอะไรบางอย่างกับน้ำมันกันความร้อนของเธอ ถึงได้ทำให้เธอได้รับความเสี่ยงและบาดเจ็บแบบนั้น แต่ในวันนี้ทั้งผู้จัดการของลาร่าและทีมงานทุกคนต่างก็มีการตรวจสอบเป็นอย่างดีแล้ว เพราะว่าเกิดเรื่องในครั้งที่แล้วเข้า แน่นอนว่าทีมงานจะต้องเพิ่มการตรวจสอบเป็นพิเศษ แล้วเธอจะยังต้องกลัวอะไรอีกล่ะ?
“พี่เชาฉวินคะ เรื่องหลังจากนี้ รบกวนพี่ด้วยนะคะ”
เจียงเซ่อพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ เซี่ยเชาฉวินนิ่งไปอยู่แวบหนึ่งก่อนจะพยักหน้าให้เบาๆ
“อืม...”
ตัวเองได้พยายามทำส่วนของตัวเองให้ดีที่สุดแล้ว แต่สุดท้ายแล้วผลมันจะออกมาเป็นอย่างที่หวังหรือไม่ ก็ยังต้องพึ่งโชคต่อไป เจียงเซ่อได้คว้าโอกาสที่ตัวเองอยากได้มาแล้ว แต่ว่าโอกาสนั้นมันจะยอมมาอยู่ในมือเธอหรือไม่ ก็ยังต้องรอดูปัจจัยหลายๆ อย่าง และแรงขับเคลื่อนของผู้จัดการส่วนตัวนั้นก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ
“เรื่องของตัวเงิน พี่ช่วยจัดการส่งข่าวให้กับหัวอิ่งมีเดียด้วยนะคะ”
ในตอนที่เจียงเซ่อได้คว้าโอกาสนี้มา เธอก็ได้คิดพิจารณาถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาแล้ว ดูจากเบื้องต้น เพราะว่ากลุ่มนักลงทุนนั้นต่างก็เป็นบริษัทลงทุนยักษ์ใหญ่ของต่างประเทศ ถ้าจะเลือกคนที่ชอบละก็ พวกเขาก็ชอบใบหน้าของดาราฝั่งยุโรปอเมริกามากกว่า กับเธอที่เป็นชาวหัวเซี่ยแน่นอนว่าจะต้องดูอ่อนกว่ามากแน่ๆ แต่ทว่าเจียงเซ่อก็สัมผัสได้ว่าตัวเองคงยังไม่หมดโอกาสเพียงแค่นี้
ตอนนี้เชี่ยซ่าเหลยกำลังรู้สึกรำคาญลาร่า บราวน์มากแล้ว และมีโอกาสเลือกคนที่ดีกว่า แน่นอนว่าเขาไม่มีทางที่จะยอมทนร่วมงานกับลาร่าต่อ
เบื้องต้นหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ นั้นเพิ่งจะเริ่มถ่ายทำได้ไม่ถึงสองเดือน ถึงแม้ว่าถ้าจะมาเปลี่ยนตัวละครในตอนนี้จะเป็นเรื่องที่วุ่นวาย แต่ว่าระยะการถ่ายก็ไม่ได้นานเท่าไหร่ แน่นอนว่าการเริ่มถ่ายใหม่นั้นไม่มีทางที่จะส่งผลอะไรมากมายต่อระยะเวลาการถ่ายทำ ส่วนเรื่องเงินทุนนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับบอร์เจียและฮว๋านเต่าอยู่แล้ว กับแค่เกมการลงทุน เบื้องหลังของเจียงเซ่อก็ยังมีบริษัทที่เผยอี้ เนี่ยต้านและคนอื่นๆ ก่อตั้งขึ้นมา ก็ไม่ว่าไม่มีหนทางแล้วเสียหน่อย
ตอนนี้เธอสวมชุดใยหินกันร้อนเสร็จแล้ว สิ่งต่อไปที่เจียงเซ่อจะต้องทำก็คือการเป็นตัวแสดงแทนในบทบาทของบริตนีย์นางเองของเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’
บริตนีย์ในเรื่องนี้ เป็นผู้หญิงที่อ่อนแอและต้องให้คนอื่นคอยช่วยเหลือเสมอ ร่างกายที่มีก็ไม่ใช่ร่างกายที่มีพละกำลังหรือแข็งแรงอะไร ดังนั้นหลังจากที่สวมชุดกันร้อนแล้ว ด้านนอกก็ไม่สามารถสวมชุดป้องกันอะไรได้อีก
ตอนนี้ช่างแต่งหน้ากำลังแต่งสีผิวลงบนชุดใยหินของเธอ ตรงจุดๆ นี้จะต้องใช้ความละเอียดอ่อนของงานฝีมือมากๆ