webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

523-1

บทที่ 523-1 มีการเตรียมตัวที่ดี

สิ้นเสียงของเจียงเซ่อ ทั้งกองถ่ายก็เงียบลงทันตา

พอเซี่ยเชาฉวินที่นั่งมองดูสถานการณ์อยู่ไกลๆ ได้ยินแบบนั้น ก็ลุกขึ้นมาทันที แล้วยืนจ้องเจียงเซ่อจากที่ไกลๆนั่น โม่อานฉีเองก็กำหมัดแน่น รู้สึกไม่เข้าใจเลยสักนิด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

เชี่ยซ่าเหลยเม้มปาก ส่วนอีกคนที่เอาแต่นั่งเงียบๆ ไม่มีปากมีเสียงอยู่ในมุมๆ หนึ่งทั้งๆ ที่ทั้งกองถ่ายกำลังวุ่นวายอย่างโดนัลด์ พอได้ยินเจียงเซ่อพูดแบบนั้นออกมา เขาก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง และรีบหันไปมองที่เชี่ยซ่าเหลย จากนั้นก็เผยรอยยิ้มบางๆ ออกมา

ลาร่าเองก็ตกใจไม่น้อย แจ็คขมวดคิ้ว และมองเจียงเซ่ออย่างสงสัยเคลือบแคลง พยายามคาดเดาถึงเหตุผลของเธอ

ตั้งแต่ที่ลาร่าไม่ยอมที่จะแสดงฉากที่จะถ่ายในวันนี้ จนมาถึงการถกเถียงกันในภายหลัง ร้อนไปถึง บอร์เจียต้องมาไกล่เกลี่ย เธอก็เอาแต่นั่งเงียบๆ อยู่ในมุมๆ หนึ่งมาโดยตลอด ราวกับว่าเป็นแค่คนนอก และมองไปรอบๆ กองถ่ายที่กำลังวุ่นวายด้วยสายตานิ่งๆ แต่จู่ๆ ก็โพล่งขึ้นมาแบบนี้ มันจะต้องมีอะไรแน่ๆ

เจียงเซ่อที่เพิ่งจะเข้ามาอยู่ในกองถ่ายได้ไม่นาน แต่แจ็คก็คิดว่าเธอคนนี้เป็นผู้หญิงที่ฉลาดและเจ้าเล่ห์ มีแค้นต้องชำระ ไม่ได้ต่อกรด้วยได้ง่ายๆ เลย

ตั้งแต่ที่ลาร่าไปทำให้เธอไม่พอใจ เธอก็ไม่ได้ทำอะไรกลับมาเลยสักอย่าง เอาแต่นั่งเงียบๆ อยู่ที่นี่ แต่มันก็สามารถทำให้ลาร่าเกิดผลกระทบในจิตใจขึ้นมาได้อย่างรุนแรง แถมยังกระทบกับการถ่ายทำอีก ลามไปถึงขั้นทำให้เกิดความขัดแย้งกับเชี่ยซ่าเหลย แค่นี่ก็พอจะรู้แล้วว่าเด็กสาวชาวหัวเซี่ยนี่มีนิสัยแบบไหน

แล้วตอนนี้จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะเป็นตัวแสดงแทนลาร่าให้ และนั่นก็ทำให้แจ็คเริ่มที่จะรู้สึกไม่ดีขึ้นมาได้แล้ว

ตั้งแต่ที่เริ่มถ่ายทำเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ มา นี่ก็ผ่านไปเดือนกว่าแล้ว แต่เป็นเพราะว่าเจียงเซ่อ ทำให้ในกองถ่ายลาร่าไม่ได้มีความโดดเด่นอะไรเลย

ก่อนที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองถ่าย แจ็คนึกภาพที่ลาร่าและเชี่ยซ่าเหลยสนิทกันเหมือนเพื่อนมาโดยตลอด แต่ภาพที่ได้รับคำชื่นชมจากเขานั้นกลับมาได้เกิดขึ้นเลยสักนิด กลับกัน สีหน้าที่เหมือนว่าไม่อยากจะกลับมาร่วมงานกันอีกก็แปะไว้อยู่บนใบหน้าของเชี่ยซ่าเหลยอย่างไม่ปกปิดเลยสักนิด

และแจ็คก็เชื่อเลยว่า ถ้าหากว่าให้โอกาสเชี่ยซ่าเหลยได้เลือกอีกครั้ง แน่นอนว่าเขาจะต้องยอมทนกับแรงกดดันของบอร์เจีย ยืนกรานปฏิเสธที่จะให้ลาร่าเป็นนางเอกแน่ๆ

ตอนนี้จู่ๆ เจียงเซ่อก็บอกว่าตัวเองสามารถเป็นตัวแสดงแทนของลาร่าได้ แล้วนี่มันจะมีผลกระทบอะไรต่อการแสดงของลาร่าในภายหลังหรือเปล่านะ?

เขากังวล ว่าการตัดต่อปรับแต่งหลังจากนี้ เชี่ยซ่าเหลยจะค่อยๆ ตัดบทของลาร่าออก

แจ็คลอบมองเจียงเซ่อแวบหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ยืนอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน แต่แจ็คก็ยังต้องยอมรับว่า ในขณะที่ลาร่าดูแย่ในสายตาของเชี่ยซ่าเหลยลงเรื่อยๆ การกระทำของเจียงเซ่อกลับกำลังกลายเป็นที่ประจักษ์ต่อทุกคนว่าตัวเองดีแค่ไหน

ในเวลาถ่ายทำ เธอเป็นคนที่มืออาชีพมากๆ มักจะมาถึงที่กองถ่ายเช้าอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าบางครั้งคิวถ่ายของเธอจะแค่สั้นๆ แต่เธอก็ยังกินและนอนที่กองถ่ายเลยด้วยซ้ำ ไม่ยอมที่จะกลับไปที่โรงแรมก่อน

ฝีมือการแสดงมีถึงเชี่ยซ่าเหลยเป็นคนการันตี หรือแม้แต่คนอย่างโดนัลด์ก็ยังยินยอมที่จะพูดคุยกับเธอ ได้รับใจคนไปเต็มๆ

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฉากที่จะต้อง ‘ถูกเผา’ เลยด้วย เพราะเธอแสดงมันออกมาได้อย่างสมจริงสมจังที่สุดแล้ว

แจ็ครู้ว่าก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำ ตัวน้ำมันกันความร้อนของเธอนั้นถูกทำอะไรบางอย่างเข้า ทำให้ตอนที่ถ่ายทำนั้น ทั้งๆ ที่ใบหน้าและลำคอของเธอโดนไฟลวก และได้ยินมาว่าผมของเธอก็โดนเผาไปด้วย แต่เธอก็ยังคงเงียบและเก็บความรู้สึกเอาไว้ ไม่ร้องออกมาสักคำ และอดทนแสดงต่อไปจนจบ ความอดทนแบบนี้ถือว่าเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ อย่าว่าแต่ลาร่าเลย เพราะแม้แต่ตัวแจ็คเองก็คงไม่สามารถที่จะทนนิ่งได้อย่างที่ เจียงเซ่อทำแน่ๆ

กับเด็กผู้หญิงแบบเธอ นิ่งเงียบและสงบ ขยันขันแข็ง แต่ก็เป็นคนที่คาดเดาได้ยากและมีแรงปรารถนาบางอย่างอยู่ในใจ เมื่อได้โอกาส เธอก็จะคว้ามันไว้และใช้มันอย่างชาญฉลาด

พอคิดได้แบบนั้น แจ็คก็คิดว่าตัวเองจะปล่อยให้เจียงเซ่อคว้าโอกาสนี้ไปไม่ได้เด็ดขาด เธอ แข็งแกร่งเกินไป ช่วงเวลาที่เธอได้มาอยู่ในกองถ่ายนี้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำแต่ก็สามารถส่งผลกระทบต่อลาร่าได้ขนาดนี้แล้ว ถ้าหากว่ายอมเปิดทางให้เธอเดินต่อละก็ น่ากลัวว่าจะต้องส่งผลกระทบต่อการแสดงของลาร่าในภายหลังแน่ๆ

แจ็คมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองคิดแล้ว พอกำลังจะพูดอะไรออกไป เจียงเซ่อก็พูดสิ่งที่ตัวเองเสนอขึ้นมาอีกครั้ง

“ถ้าหากว่าคุณบราวน์ไม่สามารถหาคนที่พอจะมาเป็นนักแสดงแทนได้ ฉันเองก็อยากจะลองดูค่ะ”

แววตาของเชี่ยซ่าเหลยดูนิ่งและเหมือนกำลังคิด เขามองเจียงเซ่ออย่างพิจารณา และไม่ได้พูดอะไร

ถ้าดูจากร่างกายแล้ว เจียงเซ่อและลาร่านั้นก็ไม่ได้ใกล้เคียงกันสักเท่าไหร่ เธอสูงกว่าลาร่าไปเกือบครึ่งหัว คนในกองถ่ายไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเจียงเซ่อไปเอาความมั่นใจในการเสนอความคิดเห็นนี้มาจากไหน

“คุณเจียง ร่างกายของคุณไม่ได้ใกล้เคียงกับลาร่าเลยนะครับ” แจ็คยกมือขึ้น ทำท่าว่าส่วนสูงของทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันมาก และพูดในเชิงปฏิเสธเจียงเซ่อด้วย

“ถ้าเกิดว่าให้คุณมาเป็นนักแสดงแทนลาร่า งั้นเราให้นักแสดงแทนอย่างเจนนี่ไม่ดีกว่าหรือ แถมทางกองถ่ายเองก็มีนักแสดงแทนที่เป็นเด็กผู้ชายรูปร่างผอมยางอยู่ด้วย คนนั่นก็ดูเหมาะสมกว่าเยอะเลย ไม่ใช่หรือครับ?”

เขาหัวเราะขำกลบเกลื่อน เจียงเซ่อจึงเดินออกมาจากหลังกล้อง พลางดึงซิปเสื้อขนเป็ดของตัวเอง จากนั้นก็ถอดเสื้อขนเป็ดหนาๆ นั่นออกแล้ววางทิ้งไว้ข้างๆ เผยแค่เพียงเสื้อไหมพรมสีขาวข้างใน

ในกองถ่ายอากาศหนาวไม่น้อย แต่เธอกลับทำเหมือนว่าไม่ได้รู้สึกถึงความหนาวเลยสักนิด เธอคว้าชายเสื้อไหมพรมเอาไว้ จากนั้นก็ถอดมันออกอีก เหลือแค่เพียงชุดลองจอห์นแนบเนื้อบางๆ และสามารถเห็นสัดส่วนร่างกายที่งดงามได้อย่างชัดเจน

และเพราะว่าได้เพิ่มน้ำหนักไปกว่าสิบปอนด์ แต่เพราะว่าเธอมีรูปร่างที่ผมเพรียว และมีกล้ามเนื้อที่แน่น ทำให้แขนของเธอดูยาว และเอวก็ดูเล็กคอด หัวไหล่ที่ตั้งตรงขึ้นทำให้ร่างกายยิ่งดูสง่า มีความเป็นเชอรีนที่แข็งแกร่งและเต็มไปด้วยพละกำลัง

ลำคอของเธอเด่นสง่าอยู่กลางอากาศ เพราะว่าสภาพอากาศที่หนาวเย็น ทำให้ขนของเธอลุกไปหมด รอบแผลที่เคยอยู่บนลำคอของเธอ เพราะว่าก่อนหน้านี้หลายวันได้มีการดูแลรักษา จึงกลับมาเป็นปกติตั้งนานแล้ว

พอแจ็คได้เห็นแบบนั้น ก็รีบสำรวจดูที่ลำคอทันที จากนั้นก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง

แผลบนลำคอของเจียงเซ่อมันหายไปตั้งนานแล้ว แต่เธอกลับยังทำเป็นว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บร้ายแรงเสียอย่างนั้น แถมยัง ‘แสดงได้อย่างสมจริง’ จนทำให้ลาร่าเชื่อจริงๆ ว่าเธอมี ‘แผล’ ที่หนักหนา นี่เธอตั้งใจทำให้ลาร่าหวาดระแวงไปเอง!

ถ้าหากว่าแจ็คยังไม่ทันได้สังเกตเห็นถึงจุดนี้อีกละก็ หลายปีที่อยู่ในวงการมานี้ก็ถือว่าสูญเปล่าแล้ว

เจียงเซ่อมองไปที่เชี่ยซ่าเหลย

“สิ่งที่ผู้จัดการของคุณบราวน์พูดมาก็ถูกแล้ว ฉันมีรูปร่างที่สูง และแน่นอนว่าสูงกว่าคุณบราวน์ด้วย แต่ว่าฉันเองก็มีจุดเด่นของฉันนะคะ ฉันผอมกว่าคุณบราวน์ พอใส่ชุดกันความร้อนแล้ว ร่างกายของฉันก็คงไม่ต่างไปจากคุณบราวน์สักเท่าไหร่” เธอไม่สนใจสายตาของแจ็คที่กำลังจ้องมองมาเลยสักนิด อีกทั้งยังพูดถึงจุดเด่นของตัวเองออกมาอย่างเหนือกว่า

“ฉันเคยอ่านตัวต้นฉบับของเรื่อง ‘นักโทษ’ มาหลายรอบแล้ว และฉันก็มีความเข้าใจในตัวละครบริตนีย์เป็นอย่างดี อย่างน้อยก็มากกว่าตัวนักแสดงแทนแน่ๆ และฉันก็สามารถแสดงท่าทางและอารมณ์ได้ดีกว่า และมันก็จะสะดวกในการตัดต่อในภายหลังด้วย”

เธอเว้นไปช่วงหนึ่ง แล้วหันไปมองหน้าเชี่ยซ่าเหลยอีกครั้ง

“อีกอย่างตัวฉันเองก็เคยมีประสบการณ์ในการถ่ายฉาก ‘ถูกเผา’ มาแล้วด้วย กับฉากที่กลายเป็นเครื่องสังเวยแบบนี้ ฉันว่าฉันเองเอาอยู่ค่ะ ถ้าหากว่าเกิดข้อผิดพลาดอะไรอีก ฉันก็จะจัดการเอง รับรองว่าไม่ส่งผลกระทบต่อการถ่ายทำแน่นอนค่ะ”

เธอค่อยๆ เผยจุดเด่นของตัวเองออกมาเรื่อยๆ แววตาของเชี่ยซ่าเหลยไม่อาจคาดเดาจ้องมองมาที่เจียงเซ่อ ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้เห็นด้วย

ที่เจียงเซ่อพูดก็ถูก ในวันที่ถ่ายฉาก ‘ถูกเผา’ นั้น ก็เหมือนว่าจะเกิดปัญหาขึ้นกับตัวน้ำมันกันความร้อน แต่เธอก็ยังอดทนแสดงจนจบ ไม่มีร้องให้หยุดสักแอะ