บทที่ 522-2 ฉันเอง
“คุณเชี่ยซ่าเหลยคะ ฉันต้องขอโทษด้วยจริงๆ แต่ว่าฉันยังหวังว่า คุณจะยินยอมให้มีการใช้ตัวนักแสดงแทนฉันในการถ่ายทำฉากนี้”
เชี่ยซ่าเหลยค่อยๆ หันหน้าไปมอง สีหน้าดูจริงจังและขึงขัง ลาร่าเริ่มที่จะไม่สบายใจ แต่ก็ยังยืนยันความต้องการเดิมของตัวเองออกไป
“ฉันทราบว่าก่อนหน้านี้ทางกองถ่ายก็เคยมีนักแสดงที่แสดงฉาก ‘ถูกไฟเผา’ ไปแล้ว และตัวนักแสดงคนนั้นก็ไม่ได้ใช้นักแสดงแทนด้วย แต่ก็เป็นเพราะว่าแบบนั้น เธอถึงได้รับบาดเจ็บไม่ใช่หรือคะ?”
หล่อนสูดหายใจเข้าลึก ทีมงานและเหล่าช่างเทคนิคต่างๆ ที่ได้เห็นท่าทางของเชี่ยซ่าเหลยแล้ว ก็รีบอธิบายขึ้นมาทันที
“คุณบราวน์ครับ ฉากที่คุณเจียงแสดงเป็นเชอรีนในก่อนหน้านี้ ที่จริงแล้วมันเป็นครั้งแรกที่เกิดข้อผิดพลาดขึ้น และอาการบาดเจ็บก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไรด้วย หลังจากนั้นก็มีทีมแพทย์ของเราคอยดูแล ถ้าหากว่ามันไม่เหมาะสมที่จะถ่ายต่อจริงๆ ผมก็คิดว่าผู้กำกับเชี่ยซ่าเหลยเองก็คงคิดหาวิธีอื่นต่อไปแล้วล่ะครับ”
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านไฟก็พูดยืนยันขึ้นมาอีก
“ยังไงเสียพวกเราเองก็มีทั้งผู้เชี่ยวชาญ ชุดป้องกัน ชุดกันความร้อน น้ำมันกันความร้อนและมีการตรวจสอบกันอย่างดีแล้วด้วย รับรองว่าจะไม่เกิดปัญหาขึ้นอีกแน่นอน ผมรับรองเลยว่าครั้งนี้จะไม่เกิดข้อผิดพลาดเป็นครั้งที่สอง และการป้องกันในครั้งนี้ รับรองเลยว่าจะไม่มีไฟโดนแม้แต่ผมสักเส้นของคุณ”
การรับรองแบบนั้นไม่ได้ทำให้ลาร่ารู้สึกสบายใจขึ้นเลยสักนิด โดยเฉพาะเจียงเซ่อที่นั่งอยู่อีกฝั่ง หล่อนแอบยิ้มอย่างได้ใจ แววตาที่เต็มไปด้วยเจตนาร้ายยิ่งทำให้ลาร่าหวาดระแวงยิ่งกว่าเดิม และมันก็ยิ่งทำให้หล่อนปฏิเสธที่จะเล่นฉากๆ นี้
ไม่ว่าคนในกองถ่ายจะพูดยังไง หล่อนก็ยังยืนยันว่าจะไม่ถ่าย อีกทั้งยังมีการยืนยันว่าฉากต่อๆ ไปที่เหลือ จะพยายามเล่นให้ได้ดีกว่านี้แน่นอน
“ฉันรู้ถึงกฎเกณฑ์ต่างๆ ในสัญญาที่ได้เซ็นไป สิ่งที่แจ็คพูดกับฉันฉันก็เข้าใจดี แต่ฉันคิดว่าในหลายๆเรื่องก็มักจะมีข้อยกเว้นอยู่เสมอ ไม่ใช่ว่าทุกเรื่องที่จะต้องทำตามกฎเสมอไป”
หล่อนชี้นิ้วไปที่เจียงเซ่อ
“อย่างเช่นกับคนที่ถ่ายเสร็จไปแล้ว ที่จริงก็ควรที่จะออกจากกองถ่ายไปได้แล้ว แต่ก็ยังมานั่งสบายใจอยู่แบบนี้อีก”
ลาร่าจ้องมองไปที่เจียงเซ่อ และภาพๆ นั้นเหล่าทีมงานเองก็เห็นกันหมด
เรื่องความขัดแย้งระหว่างหล่อนและเจียงเซ่อ ทีมงานหลายๆ คนก็พอที่จะได้ยินผ่านหูมาบ้างเหมือนกันต่อหน้าแครอลผู้รับผิดชอบเรื่องการลงทุนของหนังเรื่องนี้ในวันเปิดกล้องวันแรก
เรื่องที่หล่อนขายหน้าต่อหน้าบอร์เจียนั้นกลายเป็นที่พูดถึงของใครหลายๆ คน แต่ทว่านักแสดงหญิงทั้งสองคนนั้นไม่ค่อยได้เจอกันอยู่แล้ว จึงไม่ได้มีการปะทะกันต่อหน้าทีมงาน จนเกิดข่าวฉาวขึ้นอย่างจริงๆ จังๆ
แต่ว่าคำพูดของลาร่าในตอนนี้ทำเอาหลายๆ คนรู้สึกแปลกใจและทำตัวไม่ถูกกันหมด ตามปลายนิ้วของลาร่าที่ชี้ไป คนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างก็หันหน้าไปมองเจียงเซ่อกันหมด เจียงเซ่อถือนิยายเอาไว้ ไม่พูดอะไรสักคำ เชี่ยซ่าเหลยกลับหัวเราะออกมา
“การเป็นนักแสดง เจียงได้ถ่ายบทเชอรีนไปหมดแล้วก็จริง แต่ในฐานะเพื่อน ผมยินดีมากที่จะต้อนรับเธอ”
รอยยิ้มของเขาค่อยๆ ถูกเก็บกลับไป แววตาค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความเฉียบคม
“คุณบราวน์ หรือเป็นเพราะว่าผู้จัดการของคุณไม่ได้บอกกันนะ ว่าในที่ของผม มันไม่มีอะไรที่เป็นข้อยกเว้นทั้งนั้น เพราะตัวผมที่แหละที่เป็นกฎเกณฑ์?”
บรรยากาศเริ่มที่จะตึงเครียดขึ้นมาด้วยคำพูดของเชี่ยซ่าเหลย แจ็คเริ่มที่จะทำอะไรไม่ถูก หลายครั้งที่แอบยกมือถือขึ้นมา อยากจะหาใครสักคนมาเป็นคนกลางในการเกลี้ยกล่อมเชี่ยซ่าเหลย เพื่อที่จะลดความบรรยากาศที่แสนตึงเครียดนี้ลง
ในที่สุดเขาก็เลือกเป็นรองผู้กำกับที่ถูกเลือกมาโดยบริษัทฮว๋านเต่า เขาเอ่ยขอร้องให้รองผู้กำกับช่วยออกหน้าพูดให้ด้วยน้ำเสียงเบาๆ ในขณะที่ทุกคนกำลังเจรจากันอยู่นั้น เจียงเซ่อก็สังเกตเห็นว่ามือถือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของผู้ช่วยของเชี่ยซ่าเหลยมันสั่นและแผดร้องขึ้นมา
ในขณะที่ทุกคนนิ่งเงียบอยู่ในการถกเถียงกันนั้น ไม่มีใครได้ทันสังเกตเห็น เจียงเซ่อกระแอมเสียงในลำคอ แล้วเอ่ยเรียกชื่อเขาเบาๆ หลังจากเรียกความสนใจจากทุกคนได้แล้ว เจียงเซ่อก็ชี้ๆ ไปที่กระเป๋าเสื้อของเขา และทำท่าว่ามีสายเข้า
ผู้ช่วยคนนั้นลนลานขึ้นมาทันที เขาอ้าปากค้าง แล้วบอกขอบคุณเจียงเซ่อแบบไม่มีเสียง จากนั้นเขาก็หยิบมือถือแล้วเดินออกไป แต่ไม่นานก็เดินกลับมาอยู่ข้างๆ เชี่ยซ่าเหลย
“คุณบอร์เจียโทรมาครับ”
เชี่ยซ่าเหลยทำท่าว่าให้หยุดคุยกันก่อน แล้วเดินถือมือถือไปอีกทาง
สีหน้าและอารมณ์ของเขาดูหัวเสียไม่น้อย ดูท่าทางเนื้อความที่ทางผู้จัดการด้านทุนหนังกล่าวจะไม่ค่อนรื่นหูเสียเท่าไหร่
ฟังจากการถกเถียงพูดคุยกันของกลุ่มคนเมื่อครู่นี้แล้ว เจียงเซ่อก็พอจะเดาออกว่าทั้งสองฝ่ายกำลังขัดแย้งกันตรงจุดไหน
เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ที่ตัวเธอได้ถ่ายฉาก ‘ถูกเผา’ ไปและลาร่าก็ลงมือทำบางอย่างกับเธอ ทำให้ตัวเธอ ‘ได้รับบาดแผลจากการถูกไฟลวกอย่างหนัก’ ดังนั้นหลังจากที่เจียงเซ่อถ่ายฉากที่เป็นของเชอรีนจนหมดแล้ว แต่ก็ไม่ได้ไปจากกองถ่ายเสียที แต่ยังคงมาวนเวียนอยู่เหมือนเดิม เพื่อรอที่จะให้หล่อนถ่ายฉาก ‘ถูกเผา’ บ้าง แน่นอนว่าหล่อนจะต้องกังวลว่าเจียงเซ่อจะย้อนกลับมา ‘แก้แค้น’ หล่อน และจะต้องลงมือในฉากๆ นี้ ดังนั้นหล่อนถึงได้ปฏิเสธที่จะแสดงฉากๆ นี้ อีกทั้งยังบอกให้เอานักแสดงแทนมาเล่นแทนอีก
แต่เชี่ยซ่าเหลยก็ได้ปฏิเสธข้อเสนอของหล่อนไป กับการถ่ายฉากที่สำคัญแบบนี้ นอกจากนักแสดงจะต้องพยายามสร้างความกล้าให้กับตัวเองแล้ว ตัวนักแสดงเองก็จะต้องเตรียมใจไม่น้อยไปกว่ากันเลย
ในสถานการณ์ที่ดาราสาวฮอลลีวูดยืนกรานปฏิเสธที่จะถ่ายทำฉาก ‘ถูกไฟเผา’ นั้น ถึงแม้ว่าหล่อนจะมีนักแสดงแทนที่มีรูปร่างคล้ายหล่อน แต่ใบหน้าของหล่อนก็ยังคงเต็มไปด้วยความกังวลอยู่ดี
ตัวแสดงแทนอาชีพคนหนึ่งของกองถ่าย เขาเองก็เป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างผอมบาง แต่ร่างกายของชายหญิง ถึงแม้จะเป็นแค่ด้านหลังยังไงก็ดูออกแน่ๆ
โดยเฉพาะกับการถ่ายทำฉากพิเศษแบบนี้แล้ว จะต้องใส่เสื้อกันความร้อน เพราะฉะนั้นกับเรื่องสัดส่วนเรือนร่างของตัวนักแสดงก็สำคัญมากเช่นกัน
ลาร่าเป็นถึงนางเอกของเรื่อง เพื่อที่จะให้เหมาะสมกับตัวละครบริตนีย์ในเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ มากที่สุด ก่อนที่เชี่ยซ่าเหลยจะเริ่มการถ่ายทำ ก็ให้หล่อนลดน้ำหนักไปกว่าสิบห้าปอนด์ เพื่อที่จะให้หล่อนมีท่าทางที่อ่อนแอและบอบบางเหมือนกับบริตนีย์ ทำให้ในขณะเดียวกันร่างกายของหล่อนจะแตกต่างกับผู้ชายมาก
ถึงแม้ว่าการถ่ายทำจะเป็นช่วงกลางคืน และความมืดก็อาจจะสามารถปกปิดและยังสามารถอาศัยการปรับแต่งในภายหลังได้อีก แต่ทว่าหลังจากที่หนังถูกฉายออกไปแล้ว กับจุดเล็กๆ แบบนี้ก็ไม่มีทางที่จะหลุดพ้นไปจากสายตาของพวกนักวิจารณ์หนังได้แน่นอน เชี่ยซ่าเหลยจะยอมให้ความกลัวของลาร่ามาสร้างความผิดพลาดให้กับตัวเองไม่ได้เด็ดขาด
ท่าทางของเขาดูนิ่งและขรึมสุดๆ ถึงแม้ว่าจะมีผู้จัดการด้านเงินทุนโทรมาขนาดนี้แล้ว แต่ท่าทางของเขาก็ยังดูไม่ยอมง่ายๆ อยู่ดี
ตอนนี้เจียงเซ่อนั่งอยู่ในมุมๆ หนึ่ง ตั้งแต่แรกที่คิดจะตอบโต้ต่อการกระทำของลาร่า บราวน์ จนมาถึงตอนนี้ที่ในใจเต้นเร็วเป็นกลอง ไม่มีใครรู้แล้วว่าภายใต้ใบหน้าที่เรียบเฉยของเธอในตอนนี้ ในใจมันกำลังตื่นเต้นขนาดไหน ลาร่ายังคงปฏิเสธที่จะแสดงฉากถูก ‘ไฟเผา’ และความมุ่งมั่นของเชี่ยซ่าเหลยต่อตัวนักแสดงแทนนั้น ทำให้เธอเหมือนกับว่าได้เห็นโอกาสบางอย่างขึ้นมา เหมือนกับประตูที่ถูกเปิดแง้มเอาไว้ มันเหมือนอยู่ต่อหน้าของเธอในทุกๆ มุม รอให้เธอก้าวเข้าไปเปิดมัน หรือว่าเธอควรที่จะถอยหลังแล้วปิดมันลงดีนะ?
ในใจของเจียงเซ่อ เหมือนว่าแทบไม่ต้องไปคิดแล้วว่าจะเลือกแบบไหน
เธอจัดคอเสื้อของตัวเองให้เรียบร้อย เม้มปากเล็กน้อย วางบทหนังในมือลง แล้วลุกขึ้นยืน
“ฉันคิดว่า ถ้าหากว่าคุณบราวน์หานักแสดงแทนที่เหมาะสมไม่ได้ ฉันคิดว่าตัวฉันก็น่าจะได้อยู่นะคะ”