520-1

ตอนที่ 520-1 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน

ก่อนที่จะมาที่นี่ เซี่ยเชาฉวินก็ได้เตรียมงานชิ้นหนึ่งเอาไว้ให้เจียงเซ่อแล้วด้วย ผมของเธอนั้นยาวสลวยและมีน้ำหนัก ดูนุ่มลื่นเป็นธรรมชาติ เป็นเป้าหมายของแบรนด์ยาสระผมหลายแบรนด์ทีเดียว แต่ตอนนี้นี้มันกลับโดนเผาไปแล้ว เหมือนว่าผมจะหายไปในหนึ่งส่วนสามเลยด้วยซ้ำ เซี่ยเชาฉวินกำลังนิ่งสงบ แต่จริงๆ แล้วความโกรธที่อยู่ในใจนั้นกำลังจะปะทุขึ้นมาแล้ว

ผิวบริเวณลำคอด้านหลังนั้นเริ่มที่จะอักเสบแล้ว โชคดีที่ทางทีมงานใช้น้ำมันเผาไหม้อุณหภูมิต่ำเท่านั้น ไม่อย่างนั้นผิวของเธอจะต้องได้รับบาดเจ็บมากกว่านี้แน่ๆ บวกกับที่ตัวเจียงเซ่อเองก็นิ่งสงบ ไม่โวยวายออกมา หลังจากนี้จะต้องพูดถึงอาการของตัวเองให้ชัดเจน ตอนที่แต่งหน้าก็จะต้องบอกช่างว่าให้เบามือหน่อย จะได้ไม่ทำให้เธอต้องเจ็บแผลยิ่งกว่าเดิม ทายารักษาอีกหน่อย ก็คงไม่เหลือแผลเป็นแล้ว

แต่เพราะว่าเป็นแบบนั้น จึงทำให้สีหน้าของเซี่ยเชาฉวินดูไม่พอใจมากขึ้น

ในขณะที่กำลังถ่ายทำ ถ้าหากว่ามันเป็นอุบัติเหตุก็แล้วไป แต่กับกองถ่ายของเชี่ยซ่าเหลยแบบนี้ ทีมงานทุกคนก็เหมือนว่าจะทำงานด้วยกันมานาน สนิทสนมกลมเกลียวกันไม่น้อย ทุกคนต่างก็ดูเข้าใจซึ่งกันและกัน เชี่ยซ่าเหลยเองก็เป็นถึงผู้กำกับใหญ่ ประสบการณ์การถ่ายทำฉากพิเศษแบบนี้ก็ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง ยังไงก็ไม่ควรที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

ถ้าหากว่าการถ่ายทำฉากนี้ เจียงเซ่อได้รับบาดเจ็บสาหัสเพราะว่ามีคนตั้งใจทำให้มันเกิดขึ้นละก็ มันก็ดูจะเลวร้ายไปหน่อยแล้ว

“ลองไปสอบถามมาแล้ว ขวดน้ำมันกันความร้อนที่ถูกเปิดใช้นั่นดูเหมือนจะถูกเอาไปทิ้งแล้ว เมื่อกี้ฉันลองไปดูมา มันถูกเก็บไปแล้ว” โม่อานฉีกระซิบข้างๆ หูให้เจียงเซ่อได้ยิน พลางทายาที่มีฤทธิ์เย็นลงบนลำคอและปลายคางของเจียงเซ่อ ยิ่งมีคนมาเก็บทุกอย่างไปหลังแบบนี้ก็ยิ่งมั่นใจว่าต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง

“ฉันลองไปถามทีมงานมา ได้รายชื่อของคนที่เคยแตะน้ำมันป้องกันนั้นมาด้วย ฉันจำเอาไว้หมดแล้ว” โม่อานฉียังคงโทษตัวเองอยู่ “เดี๋ยวหลังจากนี้จะลองสืบไปเรื่อยๆ จะต้องจับตัวการที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มาให้ได้!”

ที่จริงไม่จำเป็นต้องสืบ เจียงเซ่อเองก็มีคนที่สงสัยอยู่ในใจอยู่แล้ว

วันนี้คนที่ต้องถ่ายทำฉากพิเศษมีแค่เธอเพียงคนเดียว และคนที่จะต้องใช้น้ำมันกันความร้อนก็มีแค่เธอเพียงคนเดียว กับคนที่สามารถจับต้องของเหล่านี้ได้ คนที่ตั้งใจแตะต้องของพวกนี้ จะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนแน่นอนอยู่แล้ว ว่าจุดมุ่งหมายก็คือตัวเธอ

หลังจากที่ได้เข้ามาในกองถ่ายนี้ คนๆ เดียวที่เธอผิดใจด้วย ก็มีแค่นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘ขวัญใจ ฮอลลีวูด’ อย่างลาร่า บราวน์ วันนั้นเจียงเซ่อได้ใช้วิธีตาต่อตา ฟันต่อฟัน จนทำให้เป็นที่ไม่พอใจต่อลาร่า บราวน์ ทำให้หลังจากนั้นเวลาที่มีคิวถ่ายทำ ในระยะเวลายี่สิบกว่าวันมานี้ เมื่อทั้งสองได้เจอกันในกองถ่ายก็จะเบือนหน้าหนีไม่สนใจกันทันที

คุณบราวน์คนนี้มีแนวโน้มที่ต้องการจะขัดแขนขัดขาเธอได้สูงที่สุด เพราะหล่อนนั้นอยากจะกำจัด เจียงเซ่ออยู่ตลอดเวลา อีกทั้งทั้งสองคนเองก็เคยปะทะกัน ไม่เพียงแค่เจียงเซ่อเท่านั้นที่สงสัยลาร่า บราวน์ เพราะแม้แต่เซี่ยเชาฉวินเองก็สงสัยหล่อนอยู่เหมือนกัน

“งั้นจะทำยังไงต่อ?”

โม่อานฉีสูดหายใจเข้า แล้วเสนอออกมา

“ยังไงเราลองบอกกับเชี่ยซ่าเหลยดูไหม ฉันเชื่อว่าเขาคงไม่ปล่อยความผิดพลาดของทีมงานที่ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแน่ๆ”

ในห้องแต่งตัวที่ถูกสร้างขึ้นมาภายในกองถ่าย โม่อานฉีทายาให้เธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็ค่อยช่วยสวมเสื้อคลุมให้เธออย่างระมัดระวัง “การกระทำแบบนี้ของลาร่า บราวน์มันแรงเกินไปแล้ว”

เจียงเซ่อยังดูสงบมากจริงๆ ช่างทำผมได้ทำการตัดผมในส่วนที่โดนไฟเผาออกไปแล้ว เธอทัดผมไปไว้หลังหู และมองรอยแดงๆ รอบๆ บริเวณใบหูผ่านกระจก เธอกัดฟันแน่น แล้วส่ายหน้า

“ไม่ได้”

เซี่ยเชาฉวินเองก็พูดขึ้นมาพร้อมๆ กับเธอ

“แบบนั้นไม่ได้”

“ทำไมล่ะคะ?”

โม่อานฉีไม่เข้าใจสุดๆ เจียงเซ่อต้องมาเสียเปรียบขนาดนี้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรร้ายแรง ถึงแม้ว่าจะแค่โดนไฟลนเผานิดหน่อยจนเกิดอาการบาดเจ็บ ไม่ได้ทำให้ถึงแก่ชีวิต แต่ถ้าหากเธอไม่สุขุมล่ะก็ เป็นไปได้ว่าใบหน้าสวยๆ ของเธอจะต้องททิ้งร่องรอยแผลเป็นเอาไว้แน่ๆ

สำหรับนักแสดงแล้ว ถือว่าต้องพึ่งหน้าตาในการทำมาหากิน การที่ลาร่าทำแบบนี้ก็ถือว่าเลวร้ายมากจริงๆ

“เชี่ยซ่าเหลยและเธอเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เขาจะต้องยืนอยู่ข้างเธออยู่แล้ว” ถ้าเจียงเซ่อพูดว่าไม่ได้ก็แล้วไป แต่โม่อานฉีไม่เข้าใจว่าทำไมเซี่ยเชาฉวินถึงได้ไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของหล่อนเหมือนกัน

ทั้งๆ ที่ก็เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเซี่ยเชาฉวินเองก็ดูจะโกรธกับเรื่องที่เจียงเซ่อบาดเจ็บ และเผลอๆ อาจจะมากกว่าหล่อนด้วยซ้ำ ลาร่ากล้าที่จะก่อเรื่องกลางกองถ่ายแบบนี้ ถือเป็นการยั่วยุที่รุนแรงดีไม่น้อย อีกนิดเดียวก็เกือบจะกลายเป็นเรื่องร้ายแรงแล้ว ยังไงก็จะต้องให้บทเรียนกับหล่อนบ้าง เพื่อที่จะไม่ให้คนพวกนั้นมาดูถูกกันได้

เซี่ยเชาฉวินไม่พูดอะไร เจียงเซ่อพยายามข่มกลั้นความปวดแสบปวดร้อนบนลำคอ แล้วพูดออกมาเบาๆ

“เพราะว่าเรื่องนี้ไม่ได้ร้ายแรงออะไร”

เพราะยังไงเธอก็ไม่ได้เสียโฉม และไม่ได้ได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาล ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นมันไม่ได้ร้ายแรงอะไรเลย ถึงแม้ว่าเชี่ยซ่าเหลยจะรู้ว่าลาร่ามีเจตนาร้าย สุดท้ายแล้วเรื่องนี้อาจจะกลายเป็นเรื่องที่ถูกให้ความสำคัญอย่างมาก แต่สุดท้ายก็จะค่อยๆ ถูกลดหลั่นลงไปเรื่อยๆ

ที่นี่คือต่างประเทศ ไม่ใช่บ้านเกิดหรือถิ่นของเธอ และเธอก็เป็นแค่นักแสดงตัวประกอบของหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ ยังถือว่าเป็นแค่จุดเล็กๆ เท่านั้น กว่าจะได้บทนี้มาก็แสนยากลำบาก หรือถึงแม้ว่าจะโดนเปลี่ยนตัวไปก็คงจะไม่ได้ส่งผลอะไรมากมาย

แต่ลาร่านั้นไม่เหมือนกัน หล่อนเป็นถึงนางเอกของหนัง ตัวบทนั้นสำคัญกว่ามาก

การที่หล่อนได้บทบริตนีย์ในเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ มา นอกจากฝีมืออันโดดเด่นของหล่อนแล้วยังมีผู้หนุนหลังอีกด้วย

แต่ถ้าหากว่าผลลัพธ์ที่ออกมาในวันนี้มันหนักหนา ก็เป็นไปได้ที่ลาร่าจะต้องโชคร้าย แต่ก็เพราะว่ามันไม่ได้เกิดเรื่องร้ายแรงอะไร สุดท้ายแล้วก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เจียงเซ่อเองก็ไม่สามารถทำให้มันเป็นเรื่องขึ้นมาได้

ก่อนที่ลาร่า บราวน์คิดจะลงมือก็คงจะมีการคำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะออกมาแล้วเหมือนกัน ดังนั้นถึงได้กล้าที่จะลงมือขนาดนี้

พอเจียงเซ่อพูดออกมาแบบนั้น โม่อานฉีก็รู้สึกอับจนหนทาง

ที่จริงพวกเหตุผลเหล่านี้ใช่ว่าหล่อนจะไม่เข้าใจ แต่ว่าการที่ต้องมาถูกเล่นงานแบบนี้มันน่าโมโหไม่น้อยเลย