webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

517

บทที่ 517 งาน

โดนัลด์ที่เห็นภาพนั้นแล้ว ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยๆ

เชี่ยซ่าเหลยได้ทำการชี้แจงฉากแรกที่จะถ่ายทำเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็ให้โดนัลด์และเจียงเซ่อแยกกันไปจำตำแหน่งของตัวเอง และซักซ้อมตำแหน่งที่ต้องเดินอยู่หลายรอบ ฉากนี้ก่อนหน้าที่หิมะจะหยุดตก จะต้องรีบถ่ายฉากที่มีพายุหิมะตกลงมาให้สมบูรณ์แบบที่สุด

สายตาของลาร่าเอาแต่จ้องมองไปที่เจียงเซ่อ สายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตร

ตอนที่เจียงเซ่อเดินออกมาจากฉาก โม่อานฉีก็รีบเอาเสื้อขนเป็ดหนาๆ ไปห่อตัวเธอเอาไว้เพื่อป้องกันลมหนาวทันที พร้อมกับผ้าพันคอขนแกะที่พันรอบปิดปากและครึ่งหน้าของเธอเอาไว้ แต่ตอนที่เจียงเซ่อเดินออกมา ลมก็พัดเข้ามาอย่างจัง ทำให้ฝีเท้าที่กำลังจะก้าวไปข้างหน้าเซไปด้านหลังแทน และเปลือกตาก็เกือบจะเปิดไม่ขึ้นอยู่แล้ว

อากาศในฤดูหนาวของอิตาลีนั้นหนาวกว่าในตี้ตูมาก บรรยากาศก็ดูเลวร้ายขึ้นกว่าเดิมเมื่อต้องถ่ายหนังไปด้วย

พอโม่อานฉีนึกถึงสถานการณ์เมื่อครู่ขึ้นมา ก็รู้สึกพออกพอใจ แต่ก็รู้สึกกังวลไปด้วย

“การกระทำกับนิสัยของดาราฮอลลีวูดคนนั้นน่าจะให้พวกแฟนคลับมาเห็นจริงๆ น่าขายหน้าจริงๆ เลย” หล่อนช่วยเจียงเซ่อจัดผ้าพันคอให้เรียบร้อย ขาก็เย็นจนสั่นไปหมด

“แต่ว่าในการถ่ายทำในครั้งต่อๆ ไป หล่อนจะทำให้เธอต้องลำบากอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้?”

เจียงเซ่อยิ้มๆ แล้วส่ายหัว เซี่ยเชาฉวินยัดถุงน้ำร้อนใส่ในมือเธอ “ซีนของฉันไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่หรอก อย่างมากแค่หนึ่งเดือนก็คงจะถ่ายเสร็จแล้ว” หรือถ้าจะต้องมีการถ่ายแก้ในภายหลัง ก็คงไม่ได้นานไปกว่าที่เธอคาดเอาไว้แน่ๆ ถึงแม้ว่าจะรู้อยู่แล้วว่าดาราสาวฮอลลีวูดคนนั้นจะต้องมีหาเรื่องกันบ้าง ดังนั้นก่อนหน้านี้ที่หล่อนโดนตอกหน้ากลับต่อหน้าเชี่ยซ่าเหลยและบอร์เจีย หล่อนเองก็ต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ ส่วนเรื่องของเธอ ก็คงทำได้แค่การกลั่นแกล้งเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นแหละ

“ไม่ต้องกังวลไปหรอก แค่ต้องระวังให้มากขึ้นหน่อยก็พอแล้ว”

กับคำพูดร้ายๆ แบบนั้น เจียงเซ่อไม่อยากจะเก็บมาใส่ใจนักหรอก

วันที่สองที่ได้พักผ่อนหนึ่งวันเจียงเซ่อก็เอาแต่ขลุกตัวอยู่ในโรงแรมเพื่อจำบทหนังให้แม่นยำขึ้น ส่วนในเรื่องของการออกเสียง ก็พยายามขอให้ล่ามที่จ้างมากช่วย พยายามที่จะออกเสียงให้มีความเป็นละตินโบราณ บทง่ายๆ เพียงแค่ประโยคเดียว เธอก็คิดว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร สามารถท่องจำมันได้เป็นสิบๆ ครั้ง หรือไม่ว่าจะเป็นในตอนที่ฝึกซ้อมเจียงเซ่อก็เข้มงวดต่อตัวเองไม่แพ้กัน เพียงแค่ในระยะเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่เดือนเจียงเซ่อก็ก็สามารถพูดภาษาอิตาลีพื้นฐานทั่วไปได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว ความตั้งใจของนักเรียนคนนี้ไม่ควรที่จะปกปิดเลยจริงๆ

เวลาของวันๆ หนึ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะเก็บพลังงานให้เพียงพอสำหรับวันถัดไป เจียงเซ่อจึงเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ

การถ่ายทำจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนสี่โมงเย็นเป็นต้นไป แต่เพราะว่ายังต้องมีการแต่งหน้าทำผมแต่งตัว บ่ายกว่าๆ เจียงเซ่อก็มาถึงที่สถานที่ถ่ายทำแล้ว

เมื่อคืนนั้นได้มีหิมะตกหนักไปรอบหนึ่ง ในสถานที่ถ่ายทำนั้นทีมงานแต่ละคนกำลังจัดเตรียมฉากให้พร้อม ตอนที่เจียงเซ่อมาถึงนั้นช่างแต่งหน้ายังมาไม่ถึง กับการที่เธอมาถึงสถานที่ถ่ายทำก่อนเวลานั้น ทำเอาหลายๆ คนเผยความแปลกใจขึ้นมาไม่น้อย

หลังจากทักทายกันเรียบร้อยแล้ว เจียงเซ่อก็ได้เดินเข้าไปดูจุดต่างๆ ที่เชี่ยซ่าเหลยเคยบอกเอาไว้ มันเป็นทางของตัวละครที่เธอรับบทอย่างเชอรีนต้องเดินผ่าน เดินจนไปถึงหน้าโบสถ์ และล้มลงไปเพราะไม่เหลือแรงที่จะยืนอีกต่อไป

ตอนนี้เส้นทางเล็กนั้นได้ถูกหิมะปกคลุมเอาไว้หมดแล้ว มีแต่หิมะไปหมดจนเหมือนไม่เคยมีทางเดิน แต่ไม่คิดเลยว่าพอถึงเวลาที่จะเริ่มถ่ายทำแล้วจริงๆ กลับกลายเป็นว่าไม่มีรอยเท้าหลงเหลือเลยสักรอย

เจียงเซ่อลองเดินไปตามทางเรื่อยๆ เพื่อที่จะสร้างอารมณ์ให้กับตัวเอง

ในตอนที่รถของโดนัลด์ขับเขามาบริเวณกองถ่าย ก็ได้สังเกตเห็นเจียงเซ่อที่กำลังเดินโอนเอนไปมาอยู่บนพื้นหิมะไกลๆ นั่นแล้ว เธอเป็นเหมือนคนหลงทางคนหนึ่งที่กำลังเดินท่ามกลางพายุหิมะ โซซัดโซเซเดินไปตามพื้นที่เต็มไปด้วยหิมะ ไกลๆ ออกไปมีผู้จัดการส่วนตัวและผู้ช่วยของเธอยืนมองอยู่ พร้อมกับถือพวกกระติกน้ำร้อน ผ้าพันคอและสิ่งอื่นๆ เอาไว้

การที่เป็นนักแสดงหลักของเรื่องนี้ แน่นอนว่าโดนัลด์สามมารถมองออกได้ในทันที ว่าทางที่เจียงเซ่อกำลังเดินไปมานั้นก็คือทางที่เชี่ยซ่าเหลยได้ชี้ให้ดูเมื่อวันก่อน เธอน่าจะกำลังฝึกซ้อมอยู่แน่ๆ เพื่อบังคับให้ร่างกายของตัวเองสามารถจดจำความรู้สึกเอาไว้ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในตอนถ่ายทำจริงๆ จนทำให้เกิดผลกระทบต่อการถ่ายทำ

ไม่รู้ว่าเธอมาถึงนานเท่าไหร่แล้ว โดนัลด์ยืนมองอยู่ครู่หนึ่ง มองดูเธอที่เดินกลับไปกลับมาอยู่แบบนั้นอยู่หลายรอบ ทีมงานที่อยู่ในกองถ่ายก็เดินเข้าเดินออก ราวกับว่าชินกับภาพแบบนั้นเสียแล้ว เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วนึกถึงตอนที่ได้เจอกันเมื่อวานนี้ ภาพที่เด็กสาวชาวหัวเซี่ยที่ได้รับการรับประกันจากเชี่ยซ่าเหลยมีท่าทางไม่หือไม่อือกับการกระทำของลาร่าที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่เป็นมิตรนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มมุมปากขึ้นมา

เมื่อวานหลังจากที่เธอไปแล้ว ลาร่าก็ยังหันไปพาลใส่ผู้ช่วยของตัวเอง ยืนด่าอยู่นานพอดู เพราะว่าเกิดไปทำขายหน้าต่อหน้าคุณบอร์เจียเข้า ทำเอาดาราสาวฮอลลีวูดที่กำลังได้รับความนิยมตอนนี้โมโหไม่น้อย เมื่อลองเทียบกันดูแล้ว ก็ดูเหมือนว่าเด็กสาวชาวหัวเซี่ยคนนี้ไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากเหตุการณ์ครั้งนั้นเลยแม้แต่น้อย

“เธอไม่เลวเลยนะ ว่าไหม?” เสียงของเชี่ยซ่าเหลยดังขึ้นข้างๆ หูของโดนัลด์ โดนัลด์หันหน้าไปมอง เพื่อนเก่าทั้งสองทักทายกัน จาดนั้นโดนัลด์ก็พยักหน้ายิ้มๆ

“ก็จริง” เขายกแขนขึ้นกอดอก “จริงๆ แล้วฉันคิดว่าตัวเองจะเป็นคนที่มากองถ่ายเร็วที่สุดเสียอีก ว่าอยากจะทบทวนฉากที่ตัวเองจะต้องถ่ายเสียหน่อย แต่ก็ดันพบว่าเธอมาก่อนฉันเสียอีก”

เจียงเซ่อเป็นคนที่ขยับและอดทนจริงๆ เชี่ยซ่าเหลยที่ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าเธอมีนิสัยที่ดีไม่น้อย แต่ทว่าพอได้มาร่วมงานกันจริงๆ แล้ว กลับต้องเกิดความแปลกใจต่างๆ ขึ้นมาอีกมากมาย

สภาพอากาศของสถานที่ถ่ายทำนั้นไม่ได้ดีเลย เชี่ยซ่าเหลยคิดว่าในสภาพแวดล้อมจริงแบบนี้ มันจะต้องสื่อความรู้สึกให้กับคนดูได้ดีกว่าเอฟเฟคที่มาใส่เพิ่มทีหลังแน่นอน ดังนั้นในหลายๆ ฉากเขาจะพยายามที่จะให้ถ่ายในสถานที่และสภาพแวดล้อมจริง แม้กระทั่งอย่างฉากที่เชอรีนและอังเดรเจอกัน สถานที่เลือกใช้ถ่ายทำก็คือเมืองๆ หนึ่งทางเหนือของอิตาลี และตั้งใจเลือกวันที่มีหิมะตกในฤดูหนาวอีกด้วย

อากาศที่หนาวเย็นนั้นจะทำให้คนรู้สึกเหมือนจะทนไม่ได้ ในขณะที่กลุ่มนักแสดงยังมาไม่ถึงกัน แต่เจียงเซ่อกลับสามารถมาถึงกองถ่ายก่อนเวลาได้นานขนาดนี้ ยอมที่จะท้าลมซักซ้อมบทตัวเอง มันทำให้ เชี่ยซ่าเหลยอดไม่ได้ที่จะชื่นชม

“ฉันว่าฉันพอจะเข้าใจแล้วล่ะ ว่าทำไมนายถึงได้ไม่เสียดายที่จะเกิดขัดแย้งกับบอร์เจีย แล้วยืนหยัดที่จะให้หนังเรื่องนี้ของนายมีเธอคนนี้มาร่วมแสดงด้วย” โดนัลด์เองก็เคยได้เห็นตอนที่เจียงเซ่อมาแคสตัวละครแล้ว เวลาที่เธออยู่หน้ากล้องนั้นเธอก็แสดงออกมาได้อย่างสมจริงสมจัง ฝีมือการแสดงก็ถือว่าถึงขั้น บวกกับที่เป็นคนที่รู้จักฟัง เชี่ยซ่าเหลยขอให้เธอเรียนมวยครึ่งปี เพื่อที่จะเพิ่มคาแรคเตอร์ให้เหมือนกับตัวละครเชอรีนให้ได้มากที่สุด และเธอก็ได้เรียนและฝึกซ้อมอย่างตั้งใจจริงๆ มีพรสวรรค์แล้วก็ยังมีความมานะอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ในหนังเรื่องหนึ่งของเชี่ยซ่าเหลยที่ได้ใช้ดาราชาวหัวเซี่ย ทำเอากลุ่มนักลงทุนและแฟนคลับของเขาแสดงความกังวลและแปลกใจกันหมด แต่ทว่าตอนนี้โดนัลด์เข้าใจเหตุผลที่เชี่ยซ่าเหลยประทับใจขนาดนั้นแล้ว

คนที่มีฝีมือการแสดงนั้นมีมากมาย แม้แต่ตัวลาร่า บราวน์ที่แสดงเป็นบริตนีย์เองก็ตาม เธอได้แสดงหนังฮอลลีวูดมากมายและแสดงได้ดี คนที่เหมาะสมกับกับเชอรีนก็ใช่ว่าจะไม่มีคนอื่น แต่นอกจากจะต้องมีฝีมือการแสดงแล้ว ในตัวเจียงเซ่อนั้นยังมีนิสัยและการประพฤติตนที่เชี่ยซ่าเหลยรู้สึกชื่นชอบอีกด้วย

เชี่ยซ่าเหลยหัวเราะ ‘ฮ่าๆ’ ยกใหญ่ จากนั้นก็ยกมือขึ้นตบลงบนไหล่ของเขา ตอนที่ทั้งสองคนมาถึง เจียงเซ่อก็ได้ซ้อมไปแล้วหลายรอบ แค่ระยะทางสั้นๆ ไม่กี่ก้าวแต่เจียงเซ่อก็เดินกลับไปกลับมาหลายรอบแล้ว เพื่อที่จะให้ร่างกายมันจดจำเอาไว้ ถ้าทำแบบนี้ ตอนที่เริ่มถ่ายทำกันจริงๆ ต่อให้เธอจะต้องโฟกัสไปที่ท่าทางและการสื่ออารมณ์มากกว่า แต่ร่างกายของเธอก็จะสามารถจดจำเส้นทางที่จะต้องเดินได้แน่นอน และในหนังเรื่อง ‘The second coming of Jesus Christ’ เธอก็จะได้สื่ออารมณ์ที่แท้จริงของเชอรีนที่เพิ่งไปต่อสู้กับพวกนอกรีต จนได้รับบาดเจ็บกลับมาถึงหน้าโบสถ์

ก่อนที่จะเย็นจะต้องถ่ายฉากนี้ให้เสร็จ และเช้าตรู่ของพรุ่งนี้ก็จะเริ่มถ่ายฉากของลาร่าและนักแสดงอีกสองคน

เจียงเซ่อเดินกลับไปกลับมาอยู่บนพื้นหิมะมาแล้วกว่าหนึ่งชั่วโมง พอโดนัลด์มาถึง เธอก็ไปแต่งหน้าทันที

เชอรีนนั้นเป็นผู้เลื่อมใสที่ซื่อสัตย์ต่อเทวสถานมาก สิ่งที่ทีมงานได้เตรียมเอาไว้ให้เจียงเซ่อนั้น ก็คือชุดเกราะนุ่มๆ ชุดหนึ่ง ชุดเกราะชุดนี้ทางทีมงานได้เชิญผู้เชี่ยวชาญ มาวัดสัดส่วนของเจียงเซ่อและตัดชุดออกมาโดยเฉพาะ มันเบาและบาง แต่ก็สามารถทำให้เห็นสัดส่วนของร่างกายได้อย่างชัดเจน แต่มีแค่อย่างเดียวที่เหมือนจะทำให้มันมีข้อเสียก็คือสภาพอากาศที่หนาวเย็นจนแทบจะแข็งเป็นน้ำแข็งได้เลยแบบนี้นั่นเอง

ก่อนที่จะสวมชุดเกราะ โม่อานฉีก็ได้แกะแผ่นร้อนและแปะลงไปบนหน้าท้อง แผ่นอกและส่วนอื่นๆ ของเธอเอาไว้

แต่ก็ไม่กล้าที่จะติดเยอะ เพราะกลัวว่าจะส่งผลกระทบต่อการใส่เสื้อผ้าคอสตูม

ในห้องแต่งหน้าก็หนาวมากจริงๆ ถึงแม้ว่าช่างแต่งหน้าและคนอื่นๆ จะสวมชุดขนเป็ดกันหนาวหนาๆกัน แต่ฝ่ามือของพวกเขาก็ยังเย็นเฉียบอยู่ดี หลังจากที่เจียงเซ่อสวมชุดเกราะเรียบร้อยแล้ว และเพราะว่าเสื้อนั้นถูกตัดมาเป็นพิเศษ ทำให้ไม่สามารถนั่งแต่งหน้าได้อีก ช่างแต่งหน้าจึงให้เธอยืนแต่งหน้าแทน

ผ่านไปสองชั่วโมง เจียงเซ่อก็ได้กลายเป็นนักรบหญิงถือดาบคนหนึ่งที่ดูมีความแข็งแกร่งไม่น้อย ปรากฏอยู่ต่อหน้าเชี่ยซ่าเหลย

ดูจากภายนอกแล้ว ตอนนี้เธอดูเหมาะสมกับเชอรีนที่เชี่ยซ่าเหลยได้จิตนาการเอาไว้มากๆ มีรูปร่างที่ดีแต่ก็มีความอ่อยช้อยและมีพลังกำลัง เอวเล็กคอด มันตรงกับคาแรคเตอร์เชอรีนที่เชี่ยซ่าเหลยได้สร้างขึ้นมาไปกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ขึ้นไปแล้ว

และสิ่งที่ทำให้เชี่ยซ่าเหลยรู้สึกประทับใจไม่น้อย นั่นก็คืออารมณ์ที่สื่อออกมาของเธอ

ช่างแต่งหน้าไม่ได้เขียนอายไลน์เนอร์เพื่อที่จะแสดงฝีมือแต่อย่างใด เพื่อที่จะรักษาภาพลักษณ์ของตัวเธอเอาไว้ บุคลิกของเธอเป็นคนที่สงบและเยือกเย็น แค่เติมคิ้วนิดหน่อยก็ดูเป็นคนที่แน่วแน่ขึ้นมามากแล้ว

อาจเป็นเพราะอากาศที่หนาวเย็นก็ได้ ผิวของเธอขาวราวกับหิมะ รอยเลือดและแผลบาดเจ็บที่ถูกแต่งแต้มลงบนใบหน้าไม่สามารถปกปิดนัยน์ตาสีดำสนิทนั่นได้เลย ท่าทางของเธอดูมุ่งมั่นไม่น้อย แววตาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ท่าทางของผู้ศรัทธาที่พร้อมจะต่อสู้กับทุกสิ่งเพื่อนิกายคาทอลิกได้อยู่ต่อหน้า เชี่ยซ่าเหลยแล้ว

“OK”

เชี่ยซ่าเหลยส่งสัญญาณมือ หลังจากเจียงเซ่อแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางโดนัลด์เองก็เสร็จแล้วเหมือนกัน เมื่อเทียบกับเจียงเซ่อที่ต้องมีการแต่งตัวที่ค่อนข้างซับซ้อนแล้ว ของโดนัลด์ก็ถือว่าง่ายกว่ามาก การเปลี่ยนแปลงของเขานั้นไม่ได้มีอะไรมากมาย แค่ต้องเปลี่ยนชุดเป็นชุดบาทหลวง และแต่งหน้าเปลี่ยนลุคอีกนิดหน่อย เพื่อที่จะทำให้เขาดูเป็นคนที่จิตใจดีและไม่มีพิษภัย ต้องมีความขี้กลัวและอ่อนแอ และต้องมีความรู้สึกให้ดูเหมือนเป็นพวกไม่สามารถทนกับเรื่องรุนแรงได้

วันนี้เป็นวันที่เมืองโมเดนามีลมหิมะที่แรงที่สุดในฤดูหนาวปีนี้ เจียงเซ่อโซซัดโซเซ เดินมาตามทางที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ

ช่างภาพที่กำลังคุมกล้องค่อยๆ ตามถ่ายไปเรื่อยๆ หลังจากที่เห็นถึงบาดแผลและรอยเลือดที่อยู่บนร่างกายอย่างชัดเจน ก็ค่อยๆ ลดความเร็วลงและซูมเข้าไป บนชุดเกราะนั่นเต็มไปด้วยเกล็ดหิมะ เพราะอากาศที่หนาวเย็นทำให้น้ำแข็งแทบไม่ทันจะได้ละลายด้วยซ้ำ จนมันเริ่มที่จะกลายเป็นน้ำแข็ง

แต่ฉากๆ นี้ก็ไม่ได้ถ่ายรายรื่นอย่างที่คิด ในสภาวะที่อุณหภูมิลดลงแบบนี้ ประสิทธิภาพในการทำงานก็ลดลง ทำให้ ‘NG’ ไปหลายครั้งติดๆ กัน ท่าทางของเชี่ยซ่าเหลยเริ่มไม่สบอารมณ์ คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น และบรรยากาศในกองถ่ายก็เริ่มตึงเครียดขึ้นมาไม่น้อย

เจียงเซ่อต้องถอยกลับไปเพื่อเริ่มใหม่อีกครั้ง ตอนนี้สีหน้าของเธอเริ่มที่จะซีดมากกว่าเดิม ความเหนื่อยล้าบนใบหน้าเริ่มที่จะเผยออกมาทางสายตา เธอพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ลมหายใจก็กลายเป็นควันไอ และทุกอย่างก็สามารถเห็นผ่านกล้องได้อย่างชัดเจน

ขนตาของเธอเริ่มที่จะมีเกล็ดหิมะเกาะตัว ปลายจมูกขึ้นสีอย่างชัดเจน มือของเธอกำดาบเอาไว้แน่น ถึงแม้ว่าตอนที่เดินไปตามทางจะรู้สึกว่ามันไกลและยากลำบากสุดๆ แต่เธอก็ไม่คิดที่จะปล่อยดาบออกแม้แต่น้อย กลับกันเธอจับมันเอาไว้แน่นเสียยิ่งกว่าเดิม ทำให้เหมือนเป็นการเดินทัพ เป็นนักรบที่เข้มแข็งที่ถึงแม้ว่าจะมีสภาพย่ำแย่แค่ไหนก็ต้องเดินหน้าต่อไปด้วยความมุ่งมั่น

ทางโบสถ์เองก็ได้รับสารแล้ว ว่าจะมีการรวมตัวกันของพวกนอกรีตทางเหนือ และเธอก็มาในนามของโบสถ์ เพื่อเดินทางไปขุดรากถอนโคนคนเหล่านั้น

เชอรีนนั้นนับถือศาสนาคริสต์มาตั้งแต่เด็กๆ และมีความแน่วแน่ในความเชื่อ เป็นผู้นับถือที่ซื่อสัตย์ต่อโบสถ์ มีปณิธานที่แน่วแน่ต่อพระผู้เป็นเจ้าจนมอบได้ให้ทุกอย่าง

เธอทำสำเร็จแล้ว แต่ทว่าเพราะครั้งนี้พวกนอกรีตไม่ได้กวาดล้างได้ง่ายเหมือนพวกกลุ่มศาสนานอกรีต ทำให้ผู้ที่ร่วมรบส่วนใหญ่นั้นต้องสิ้นชีพลงเพื่อความเชื่อและความศรัทธราในสนามรบ และเชอรีนก็เป็นผู้โชคดีเพียงคนเดียวที่ยังเหลืออยู่ หลังจากที่ได้กวาดล้างพวกนอกรีตเรียบร้อยแล้ว มันก็ทำให้เธอได้รู้ถึงคำสอนหนึ่งของพระเจ้าว่าพวกนอกรีตก็คือผู้ที่กำลังไถ่บาปต่อพระเจ้า

ในตอนที่ผู้สวดบทภาวนาได้เปล่งบทไถ่บาปออกมา พระเจ้าก็จะปรากฏขึ้นบนโลกใบนี้ เพื่อที่จะประทานพรให้แก่ทุกคนที่เรียกพระองค์มา ทำให้พวกเขาสมปรารถนา

ข่าวแบบนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่ไม่น้อย เธอไม่กล้าที่จะชักช้าไปแม้แต่วินาทีเดียว อยากรีบไปให้ถึงโบสถ์ เพื่อบอกต่อบาทหลวง

แต่ทว่าบาดแผลบนตัวเธอนั้นก็สาหัสไม่น้อย อดทนเดินมาได้ตั้งหลายวัน แน่นอนว่าร่างกายมันไม่สามารถฝืนทนได้อีกต่อไป

เธอต้องเดินอยู่ท่ามกลางลมหิมะมานานแล้ว ในตอนที่เธอเหนื่อยล้าสุดแสนนั้น เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าเป็นสัญลักษณ์โบสถ์แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน

สำหรับเชอรีนแล้ว แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก

หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณเขตพรมแดนของจักรวรรดิโรมัน ผู้คนไม่ได้มากมาย ส่วนตัวโบสถ์นั้นตั้งอยู่ในมุมๆ หนึ่งของหมู่บ้านซึ่งดูเงียบเหงาไม่น้อย ดูไปดูมาแล้วก็เก่าและเริ่มที่จะผุพัง

แต่ละก้าวของเธอมันค่อยๆ หนักขึ้น ทุกครั้งที่วางเท้าลงบนพื้น ต่างก็ทำให้คนที่ได้เห็นกลัวว่าเธอจะไม่สามารถยกมันขึ้นมาได้อีก ร่างการของเธอค่อยๆ ส่ายไปมา ความหนาวเย็นเริ่มที่จะพัดเอาความร้อนของแผ่นร้อนที่ติดเอาไว้ไปแล้ว เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะแข็งไปหมด

แต่เมื่อสายตาได้เห็นโบสถ์ที่ตามหามานานอยู่ตรงหน้าแล้ว แววตาที่เกือบจะหมดแสงของเธอก็กลับมาเปล่งประกายอีกครั้ง ในวินาทีนี้เอง ที่แก้มของเชอรีนเริ่มขึ้นสีเพราะเลือดในร่างกายมันกำลังสูบฉีด

วินาทีที่ทำสำเร็จ ร่างกายที่เหมือนจะยอมแพ้แล้วก็ได้กลับมาเหมือนมีชีวิตขึ้นใหม่ แผ่นหลังที่โค้งงอของเธอกลับมาตั้งตรงอีกครั้ง ยังไม่ทันที่จะได้เตรียมตัวจัดแจงตัวเองให้ดี แต่ท่าทางและการกระทำที่สื่อว่าภักดีต่อโบสถ์ก็ได้สื่อออกมาหมดแล้ว

ไม่ต้องมีการสาธยายให้มากความ ไม่ต้องให้เชี่ยซ่าเหลยมาคอยกำกับ เชอรีนที่เจียงเซ่อแสดงออกมานั้น ในนาทีนี้เธอได้แสดงถึงความศรัทธราและนิสัยออกมาให้ได้เห็นทางการกระทำหมดแล้ว และมันก็ดีกว่าการพูดออกมาหลายเท่า

“เยี่ยมมาก!” และฉากนี้ก็ผ่านจนได้ เชี่ยซ่าเหลยยกมือขึ้น ทำสัญลักษณ์ชื่นชมให้กับเธอ การถ่ายทำที่เป็นไปได้อย่างราบรื่นและการแสดงออกของเจียงเซ่อนั้น ช่วยลบความหงุดหงิดใจของเชี่ยซ่าเหลยที่เกิดขึ้นเพราะเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นจนทำให้ล่าช้าไปได้เป็นอย่างดี

โม่อานฉีรีบวิ่งถือเสื้อขนเป็ดหนาๆ มา แล้วคลุมลงบนไหล่ของเจียงเซ่อ เซี่ยเชาฉวินเองก็ช่วยรับดาบในมือของเธอ และส่งชาพุทราร้อนให้เธอดื่มเพื่อไล่ความเย็น เจียงเซ่อเดินเข้าไปหาเชี่ยซ่าเหลยและดูฉากที่ตัวเองแสดงไปก่อนหน้านี้ เพื่อที่จะดูว่าตัวเองยังมีตรงไหนที่ไม่ดีพอ

ฉากต่อไปที่ต้องถ่าย คือฉากที่อังเดรและเชอรีนได้พบกัน เจียงเซ่อพักไปไม่กี่นาที หลังจากทำมือให้อุ่นแล้ว ก็รีบกลับเข้าสูงอารมณ์ต่อทันที

ประตูโบสถ์ถูกเปิดเอาไว้ และนั่นก็แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าไม่เคยที่จะปิดกั้นผู้ที่มีความศรัทธรา โบสถ์แห่งนี้คงไม่ได้มีผู้เลื่อมใสอะไรมากมาย ตอนที่เชอรีนเดินโซซัดโซเซมาถึง สิ่งแรกที่เธอทำก็คือการล้มลงไปกับพื้นและจูบลงไปบนประตูและพื้นดิน จากนั้นก็คุกเข่าสวดภาวนา กล่าวขอบคุณท่ามกลางลมพายุหิมะ ขอบคุณพระเจ้าที่ได้ประทานแหล่งพักพิงให้แก่เธอ

อังเดรที่ได้ยินเสียงบางอย่างที่หน้าประตูก็เดินมาดู และพบว่าเป็นนักรบคนหนึ่งที่มีสภาพที่น่าสงสารไม่น้อย

ในฉากๆ นี้ เป็นเพราะว่าอากาศมันหนาวมากจริงๆ ทำให้กล้องถ่ายทำสองเครื่องเกิดขัดข้องขั้น ทำให้ต้องถ่ายกันถึงตีสองกว่า รอจนเชี่ยซ่าเหลยพูดว่ามันผ่านแล้ว เจียงเซ่อก็พบว่าขาทั้งสองข้างของตัวเองนั้นได้ชาจนไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว

ก่อนหน้านี้ลาร่าและคนอื่นๆ ที่เคยมีปัญหากับเธอก็ได้มาถึงที่กองถ่ายแล้ว พวกเธอมีฉากที่ต้องถ่ายกันตอนเช้ามืดนี้ แต่เพราะว่าฉากของเจียงเซ่อและโดนัลด์มันไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด ทำให้ฉากของพวกเธอต้องล่าช้าไปด้วย ทำให้เกิดความไม่พอใจบนใบหน้าของดาราสาวฮอลลีวูดขึ้นจนได้ เอาแต่หันไปบ่นนู่นนี่กับผู้จัดการส่วนตัวต่างๆ นาๆ และลอบมองเจียงเซ่อด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร