webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

494

บทที่ 494 ขอแต่งงาน

เจียงเซ่อไม่เคยมั่นใจอะไรง่ายๆ แบบนี้มาก่อน เธอให้เผยอี้คุกเข่า เขาก็ไม่คิดที่จะถามเลยว่า ‘เพราะอะไร’

ทั้งชีวิต ไม่มีผู้ชายคนไหนเหมือนเขาอีกแล้ว รักเธอ เข้าใจเธอและเคียงข้างเธอ เธอเก็บความใส่ใจเหล่านี้เอาไว้ในใจ ทำให้เขาเข้าไปอยู่ในใจของเธอและทำให้เธอหลงรักเขาเข้าเสียแล้ว

เธอยื่นมือออกไปจับกระเป๋าที่อยู่ข้างหลังตนเอง เปิดซิปและหยิบกล่องๆ หนึ่งออกมา

แสงแดดสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้ข้างในโบสถ์อบอุ่น ในสถานการณ์แบบนี้ ผู้ศรัทธาที่นั่งอธิษฐานอยู่แถวหน้าสุด ดูจะศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษ ในบริเวณที่ไกลออกไป มีเสียงร้องเพลงดังขึ้นเป็นพักๆ เจียงเซ่อเปิดกล่อง เผยให้เห็นแหวนเพชรสีแดงสองวง

เธอมองหน้าใบอันหล่อเหลาของเผยอี้พร้อมรอยยิ้ม เพราะอายุที่มากขึ้น ทำให้เค้าโครงหน้าของเขาชัดเจนมากขึ้น ความไร้เดียงสาและความดื้อดึงในตอนนั้นถูกแทนที่ด้วยความหนักแน่น ไม่ได้ประณีตงดงามเป็นพิเศษ แต่ถูกใจเธอ

“คุณเผยอี้คะ”

น้ำเสียงของเธอไม่รีบไม่ร้อน ตอนนี้ฟังดูแล้วเต็มเปี่ยมไปด้วยความอ่อนหวานนุ่มละมุน

“คุณยินดีรับฉันเป็นภรรยาหรือไม่ ไม่ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของฉันจะเปลี่ยนไปอย่างไร หรือฐานะของฉันจะเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าฉันจะมีหรือจน คุณยินดีรับฉันเป็นภรรยาหรือไม่”

ในขณะที่พูด เธอก็ยื่นมือไปหยิบแหวนสำหรับผู้หญิงวงหนึ่งออกจากกล่องและยื่นไปตรงหน้าเผยอี้

เขาขนลุกและเกร็งไปทั้งตัว เอามือไปจับขาเธอเริ่มสั่นและบีบแรงขึ้น

เขาที่เป็นเด็กที่ไม่กลัวฟ้ากลัวดินตั้งแต่เล็ก ตอนนี้กลับทำอะไรไม่ถูก และซาบซึ้งใจจนพูดอะไรไม่ออก

“เซ่อเซ่อ...”

เขาปากสั่นและพึมพำสองคำนี้ เขารู้สึกเพียงแค่ว่าความสุขอันล้นหลามกำลังพุ่งเข้าหาตนเอง

ตอนนี้เผยอี้ได้ยินเสียงดอกไม้จำนวนมหาศาลเบ่งบานอยู่ในใจ เสียงนกพิราบ ‘ฮูวๆ’ ดังขึ้นเป็นพักๆ บนหลังคาโบสถ์ยังไพเราะดั่งเสียงสวรรค์

ภาพแกะสลักอันงดงามบนกำแพงเป็นพยานให้กับการถูกขอแต่งงานในครั้งนี้ของเขา ตอนที่ผู้ศรัทธาที่นั่งอยู่ข้างหน้าสุดได้ยินคำพูดของเจียงเซ่อ ก็หันมาด้วยความแปลกใจ

เมื่อเห็นเผยอี้ที่คุกเข่าอยู่บนพื้นและเจียงเซ่อที่นั่งอยู่บนเก้าอี้และถือแหวนเอาไว้ แม้ชายชาวต่างชาติจมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาน้ำข้าวผู้นี้จะฟังคำพูดก่อนหน้านี้ของเจียงเซ่อไม่ออก แต่ก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าตั้งแต่แวบแรกที่เห็น ใบหน้าพลันเผยรอยยิ้มอวยพร

“เซ่อเซ่อ...”

ตอนนี้เผยอี้ตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก ตั้งแต่เดินเข้ามาในโบสถ์อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เขาถึงขั้นแอบคิดอยู่ตลอดเวลาว่าควรจะขอเธอแต่งงานอย่างไร ขอเธอแต่งงานด้วยวิธีใด จึงจะสร้างความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนให้แก่เธอได้

เธอคือแสงสว่างเดียวในใจของเขา สมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากเขา

แต่ว่า ในขณะที่เขากำลังลังเลว่าควรจะเริ่มอย่างไร กลับคิดไม่ถึงเลยว่าเจียงเซ่อจะมาขอแต่งงานโดยไม่ทันได้ตั้งตัวแบบนี้

เขาจมอยู่ท่ามกลางความสุขอันมหาศาลนี้ จนรู้สึกว่าน้ำตากำลังจะไหล

“คุณยินดีรับฉันเป็นภรรยาหรือไม่ ไม่ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของฉันจะเปลี่ยนไปอย่างไร หรือฐานะของฉันจะเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าฉันจะมีหรือจน คุณยินดีรับฉันเป็นภรรยาหรือไม่”

เผยอี้พูดอะไรไม่ออก เจียงเซ่อจึงถามอีกรอบ

ผู้ศรัทธาที่นั่งอยู่แถวหน้าลุกขึ้นมา มองภาพอันแสนโรแมนติกนี้ เมื่อเห็นว่าเผยอี้เพียงแค่จ้องเจียงเซ่ออย่างอึ้งๆ เขาจึงเผยท่าทางที่แสดงความเข้าใจและปรบมือ

“มิสเตอร์ คนรักของคุณกำลังรอคำตอบจากคุณนะ ตอบเธอสิ”

เพราะแสงแดดที่หักเหเข้ามาส่องสะท้อนบนแหวนเพชร ทำให้เกิดแสงระยิบระยับเป็นประกาย แต่ทว่า ตอนนี้เผยอี้กลับไม่สามารถละสายตาจากเจียงเซ่อได้เลย

เธอยังคงรอคำตอบจากตนเอง ใบหน้าอันอบอุ่นมีภาพของเฝิงหนานในความทรงจำของเขาเข้าทับซ้อน

ไม่ว่าชื่อ รูปลักษณ์ ฐานะของเธอจะเปลี่ยนไปอย่างไร ในใจของเขาเธอยังคงเป็นผู้หญิงที่แสนอบอุ่นคนนั้น

“ผมรู้เพียงว่า ในใจของผม ไม่ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของพี่จะเปลี่ยนไปยังไง ไม่ว่าพี่จะอยู่ในฐานะไหน จะยากจนหรือร่ำรวย แข็งแรงหรือเจ็บป่วย สะสวยหรือว่าขี้เหร่ พี่ก็ยังคงเป็นผู้หญิงของผม”

ท่าทางของเขาจริงจังจนน่าประทับใจ ไม่ต่างจากผู้ศรัทธาที่ขอพรจากพระเจ้าเมื่อครู่ที่ผ่านมาเลย ในดวงตาราวกับมีหยดน้ำตากำลังจะไหลออกมา

“คนที่ขอแต่งงานควรจะเป็นผมสิ”

เขากดเสียงให้ต่ำลง ราวกับเป็นเสียงจากสายไวโอลินที่ถูกสัมผัสเบาๆ หางเสียงยังคงสั่นเล็กน้อย

“ผมอยากให้พี่มาเป็นภรรยา ตื่นมาพร้อมพี่ในอ้อมกอดทุกวัน อยากเห็นภาพของผมในดวงตาของพี่อยากเก็บพี่ไว้ในหัวใจของผม”

เขากุมมือเจียงเซ่อพร้อมแหวนไว้ในฝ่ามือของตนเองอย่างแน่นหนา

“แม้ไม่มีดอกไม้และแสงเทียน ไม่มีเสียงปรบมือเป็นพยาน แต่ในโบสถ์แห่งนี้ ต่อหน้าพระเจ้า ผมขอให้พี่โปรดแต่งงานกับผม”

เขาเป็นคนไม่นับถือพระเจ้า แต่ตอนนี้เผยอี้กลับรู้สึกว่าพระเจ้าอาจจะมีจริง จึงได้มอบเธอให้กับตนเอง ทำให้หัวใจของตนเองได้รับการเติมเต็มอีกครั้ง

ตอนนี้เขาถึงขั้นอยากให้พระเจ้าปรากฏตัวขึ้นจริงๆ จะได้สามารถควักหัวใจของตนเองออกมาให้เธอดูได้

เผยอี้พูดถึงตรงนี้ ก็เอามือของเจียงเซ่อมาจรดริมผีปากลงไป และพูดระลึกถึงความหลัง

“หากเจอลมพายุผมจะคอยปกป้องพี่ ไม่ทำให้พี่ต้องเสียใจ มีเรื่องอะไรผมจะไม่มีวันปิดบังพี่ ทุกอย่างของผมมีพี่เป็นเจ้าของนะ เซ่อเซ่อ รวมทั้งร่างกายและหัวใจของผม”

แม้ว่าเธอต้องการชีวิตของเขา เขาก็จะให้เธออย่างไม่ลังเล

“แต่งงานกับผมนะ ผมอยากให้ในอนาคตเรามีกันและกัน มีพี่อยู่เคียงข้างผม”

พูดถึงตรงนี้ เขาก็หยิบแหวนในมือของเจียงเซ่อออกมา แหวนวงนี้เผยอี้จำได้ ว่าเป็นแหวนเพชรสีแดงที่ทั้งสองสั่งทำที่กังหัว

ความจริงเขารู้สึกโมโหเล็กน้อย หลังจากเลือกเพชรเสร็จ ทางกังหัวก็ทำงานช้ามาก แม้ว่าเขาจะต้องการให้สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตออกมาดีที่สุด แต่ว่า หากในวันขอแต่งงานไม่มีแหวนเพชรที่ทั้งสองเลือกเลย เผยอี้ก็คงจะเสียใจอยู่ไม่น้อย

แต่ว่า เขาคิดไม่ถึงว่าเจียงเซ่อจะเอาแหวนคู่นี้มา

แหวนเพชรเล็กๆ อยู่ที่ปลายนิ้วของเขา ดูเบาจนไม่มีน้ำหนัก แต่ว่า ท่าทางของเขากลับเคร่งขรึม ราวกับในมือถือของที่มีน้ำหนักเป็นพันกิโลกรัมเอาไว้

เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับเจียงเซ่อ ดวงตาทั้งคู่ของเธอบริสุทธิ์และลึกซึ้ง ราวกับความงดงามทั้งหมดบนโลกใบนี้ล้วนมารวมกับอยู่ในดวงตาอันเป็นประกายคู่นี้ และตอนนี้ก็ถูกไอน้ำเข้ามาทาบทับ

ผู้ศรัทธาคนนั้นยังคงปรบมือ เจียงเซ่อยื่นมือออกไป นิ้วมือของเธองดงามและขาวเนียน ข้อนิ้วของเธอไร้ซึ่งริ้วรอยและนุ่มนิ่มราวกับหน่อไม้อ่อน เผยอี้หายใจเข้าลึกๆ สองครั้ง ก่อนจะถือแหวนอย่างสั่นๆ และสวมลงบนนิ้วนางของเธอ

ภาพนี้ช่างงดงามนัก จนกระตุ้นประสาทสัมผัสของเขา มือทั้งคู่ของเขาประคองใบหน้าของเจียงเซ่อเอาไว้ กำลังจะโน้มตัวไปจูบเธอ แต่กลับถูกเจียงเซ่อยื่นมือออกไปจับไหล่เอาไว้ และออกแรงเหยียบบนเข่าที่คุกเข่าอยู่กับพื้นของเขา

“เซ่อเซ่อ”

เผยอี้ทำอะไรไม่ถูก เจียงเซ่อกลับหน้าแดง แก้มทั้งสองข้างมีเส้นผมอันเงางามหลุดลงมา มือข้างหนึ่งของเธอถูกเผยอี้กุมเอาไว้ มืออีกข้างถือกล่องแหวนและวางอยู่ที่หน้าตักของตนเอง พลันหยิบแหวนอีกวงออกมา

“ยื่นมือมา”

เธอกำลังรอคอยด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ริมฝีปากอิ่มยิ้มหวานปานน้ำผึ้ง ใต้คิ้วอันงดงามคือดวงตาอันอ่อนโยนและอบอุ่น เผยอี้มองจนราวกับตกอยู่ในภวังค์

“หยุดเหม่อได้แล้ว”

เธอหน้าแดงกว่าเดิมและเหยียบเข่าของเผยอี้แรงกว่าเดิม อยากทำให้เขาได้สติโดยเร็ว