webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

484

บทที่ 484 โอกาส

มื้อกลางวันที่เชี่ยซ่าเหลยและเถาเฉินนัดกันเมื่อวานถูกเลื่อนมาเป็นวันนี้ ในฝรั่งเศส อาหารที่ทั้งสองรับประทานคืออาหารท้องถิ่นแท้ๆ ของฝรั่งเศส เถาเฉินราวกับไม่ได้รับผลกระทบจากการที่เชี่ยซ่าเหลยบอกอ้อมๆ ว่ามีแผนทำงานร่วมกับเจียงเซ่อในเมื่อวานที่ผ่านมา ยังคงยิ้มแย้ม

เธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมากๆ คนหนึ่ง มีความทะเยอทะยานและเจ้าแผนการ

“เทศกาลหนังได้จบลงแล้ว ฉันรู้ว่าเวลาของคุณมีค่ามาก” หลังมื้ออาหาร ของหวานถูกยกมาเสิร์ฟ ใบหน้าของเถาเฉินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“แต่ว่า ตั้งแต่ถ่ายเรื่อง ‘The Lost City’ จบ ก็ไม่มีโอกาสได้พบคุณอีกเลย ฉันได้ยินมาว่าวงดนตรี ‘Times’ ของฟินแลนด์กำลังจะมาที่กรุงนีซ และตอนเย็นมียังมีการแสดงดนตรี...”

เชี่ยซ่าเหลยไม่แตะต้องของหวานที่อยู่ข้างหน้า เพียงแค่ปฏิเสธความหวังดีของเถาเฉิน

“ขอโทษด้วย การนัดหมายในตอนเย็น ไม่ได้อยู่ในตารางงานของผม”

วงออร์เคสตราที่ชื่อ “Times” ของประเทศฟินแลนด์เป็นวงออร์เคสตราที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีประวัติศาสตร์มาเจ็ดสิบกว่าปี

วงออร์เคสตราวงนี้ไม่มีสมาชิกที่ชัดเจน แต่ตั้งแต่ที่ตั้งวงมา ก็เลือกแค่สมาชิกที่มีความสามารถโดดเด่น บัตรคอนเสิร์ตหาซื้อได้ยากมาก เป็นที่โปรดปรานของผู้ชมที่ชอบดนตรีมาโดยตลอด และมีผู้ติดตามจำนวนมาก

คำเชิญของเถาเฉินในครั้งนี้ เป็นการยืนยันว่าเธอได้บัตรมาแล้ว สายตาของเชี่ยซ่าเหลยหยุดอยู่บนเค้กที่ทำขึ้นอย่างประณีต

“ผมขอบคุณสำหรับความหวังดีของคุณด้วย” เขาไหวไหล่

“แต่ว่า ตอนเย็นผมยังมีธุระต้องไปจัดการน่ะ”

การปฏิเสธของเขาชัดเจนมาก ตามความเป็นจริง เถาเฉินควรจะเงียบลงอย่างฉลาด แต่ว่า ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำให้เธอนึกถึงเรื่องที่เชี่ยซ่าเหลยชมเจียงเซ่อเมื่อวาน

เถาเฉินที่เป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีชื่อเข้าชิงรางวัล ‘นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม’ เหมือนเจียงเซ่อ เมื่อคืน ก็ได้รับการ์ดเชิญงานเลี้ยงการกุศลที่จัดขึ้นหลังพิธีปิดเทศกาลหนังฝรั่งเศสเช่นกัน เธอเห็นภาพที่เชี่ยซ่าเหลยและเจียงเซ่อคุยกันในงานเมื่อคืน การที่เย็นนี้เชี่ยซ่าเหลยมีธุระ มีความเป็นไปได้สูงว่าเกี่ยวข้องกับเจียงเซ่อ

แม้ตอนแรก บทในเรื่อง ‘The Lost City’ เธอแย่งมาจากเจียงเซ่อ และแสดงภาคหนึ่งมาแล้ว หนังเรื่องนี้มีภาคต่อ ตอนที่ฝ่ายจัดทำหนังเซ็นสัญญาหนังเรื่อง ‘The Lost City’ กับเธอ ก็เซ็นเพียงแค่ภาคที่หนึ่งเท่านั้น ภาคสองและสามกลับไม่ได้เซ็น

และนี่ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่เถาเฉินนัดเชี่ยซ่าเหลยมากินข้าวในวันนี้ และนึกถึงเรื่องที่เชี่ยซ่าเหลยประกาศต่อหน้านักข่าวว่ามีแผนจะร่วมงานกับเจียงเซ่อ คนที่นัดกับเชี่ยซ่าเหลยเย็นวันนี้ อาจจะเป็นเจียงเซ่อ

เถาเฉินเม้มปาก เธอพยายามเก็บความสงสัยในส่วนลึกของหัวใจของตนเองในตอนนี้เอาไว้ วางส้อมตักของหวานลงพร้อมรอยยิ้ม หยิบผ้าขึ้นมาเช็ดปาก

“น่าเสียดายมากนะคะที่ไม่ได้ไปชมวงดนตรีอันไพเราะนี้กับคุณ ถ้าคุณมีเวลาว่างก็สามารถไปชมกับเพื่อนได้นะคะ”

เชี่ยซ่าเหลยชื่นชอบสาวงาม ศิลปะและการถ่ายหนัง ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่ได้ปิดกั้นเรื่องดนตรี การกระทำเพียงง่ายๆ เช่นนี้ของเถาเฉินชนะใจเชี่ยซ่าเหลยได้ เธอฉลาดและรู้วิธีการแก้สถานการณ์ ท่ามกลางคำปฏิเสธของเชี่ยซ่าเหลยยังคงรักษาอาการไม่ให้ดูเสียหน้าได้ และยังหยิบบัตรออกมาอย่างเอาใจราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้เชี่ยซ่าเหลยเผยรอยยิ้มออกมา

เขาไม่ได้ยื่นมือออกไปรับตั๋วสองใบนั้น แต่กลับยอมรับความหวังดีผ่านการกระทำเช่นนี้ของเถาฉินเอาไว้ แม้รู้ว่าเธอทำไปเพราะหวังผล

การแคสติ้งในตอนเย็นวันนี้ถูกจัดขึ้นที่ห้องประชุมที่ยืมทางโรงแรมเป็นการชั่วคราว นอกจากเชี่ยซ่าเหลยแล้ว ยังมีผู้ช่วยของเขาและทีมงาน เจียงเซ่อปรากฎตัวในห้องประชุมโดยสวมกางเกงยีนธรรมดาๆ และเสื้อไหมพรม

ผมยาวของเธอถูกเกล้าขึ้น ในมือถือนิยายเรื่อง ‘นักโทษ’ ที่ยืมมาจากเชี่ยซ่าเหลย หลังจากทักทายเชี่ยซ่าเหลยเสร็จแล้ว เธอจึงยื่นหนังสือให้เชี่ยซ่าเหลยด้วยท่าทางอันเคร่งขรึม

“อ่านจบแล้วหรือ”

เชี่ยซ่าเหลยรับหนังสือกลับมา พร้อมถามด้วยใบหน้ายิ้มๆ

ช่วงที่หนังสือเล่มนี้อยู่กับเจียงเซ่อ เธอรักษาเป็นอย่างดี ไม่ได้ทำให้มีรอยขีดข่วนเลยแม้แต่น้อย ดูออกว่ามีร่องรอยจากการเปิดอ่าน ที่คั่นหนังสือธรรมดาๆ อันหนึ่งสอดอยู่ข้างใน เชี่ยซ่าเหลยเปิดหน้าที่เธอคั่นเอาไว้ ซึ่งเป็นตอนที่เชอรีนปรากฏตัวขึ้นพอดี

เพื่อการแคสติ้งในวันนี้ เจียงเซ่อมีการเตรียมตัวมาจริงๆ

ความตั้งใจของเธอ ไม่ได้ลดน้อยลงเพราะความสัมพันธ์ระหว่างตนเอง การประพฤติตนเช่นนี้ทำให้เชี่ยซ่าเหลยเต็มไปด้วยความหวังในการแสดงของเธอตั้งแต่การแคสติ้งยังไม่เริ่ม

สำหรับเจียงเซ่อแล้ว การจะถ่ายทอดบทของเชอรีนออกมานั้นไม่ง่ายเลย

ระหว่างที่ได้พูดคุยกับเจียงเซ่อในหลายครั้งแม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่กลับทำให้เชี่ยซ่าเหลยได้รู้จักนิสัยของเจียงเซ่อ เธอไม่ใช่สาวกที่ซื่อสัตย์และภักดีต่อศาสนา รูปร่างหน้าตาก็ไม่เหมือนในต้นฉบับ เชอรีนเป็นคนเด็ดเดี่ยว อุปนิสัยก็ไม่ได้เป็นกันเองและถึงขั้นเย็นชา การที่เธอจะแสดงเชอรีนออกมาให้มีชีวิต จะมาพึ่งความสัมพันธ์ที่มีกับเขาและความโชคดีไม่ได้

“อ่านจบแล้วค่ะ”เจียงเซ่อเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของเชี่ยซ่าเหลย หากมีนิยายเล่มนี้ในครอบครอง อนาคตเธอยังจะมีโอกาสพบกับเชี่ยซ่าเหลยอีก และหมายถึงโอกาสที่ไม่มีที่สิ้นสุด

“เธอคิดดีแล้วหรือ”

เชี่ยซ่าเหลยชูหนังสือขึ้นมา แล้วแกว่งไปมา

“ฉันไม่รับปาก ว่าการแคสติ้งในครั้งนี้จะสำเร็จนะ”

สำหรับเขาแล้วนิยายเรื่อง ‘นักโทษ’ เป็นสิ่งที่วิเศษมาก เป็นผลงานที่เขาโปรดปรานเป็นอย่างมากมาตลอดหลายปี อยากทำให้มันได้อยู่บนจอภาพยนตร์ และหวังจะได้นักแสดงที่เหมาะสมมากที่สุดในการแสดง

แม้จะเป็นบทของเชอรีนที่ไม่ได้มีบทบาทและปรากฏอยู่ในเรื่องมากนัก เขาก็อยากจะเลือกคนที่เหมาะสมที่สุด

หลังจากการแคสติ้งในวันนี้ เมื่อกลับอิตาลีเขาจะยังคงหานักแสดงคนอื่นๆ มาแคสติ้ง แล้วค่อยตัดสินใจ

เจียงเซ่อคืนนิยายให้ตนเองตอนนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะตกรอบ ถึงตอนนั้น หากอยากได้โอกาสแบบนี้อีก มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว

“ฉันรู้ค่ะ” เจียงเซ่อพยักหน้า “สำหรับฉัน นิยายเรื่อง ‘นักโทษ’ ก็เป็นนิยายที่ฉันชื่นชอบเช่นกัน มันไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกเดียวของฉัน” หากการแคสติ้งครั้งนี้ไม่สำเร็จ เจียงเซ่อก็ไม่มีทางยึดนิยายเรื่อง ‘นักโทษ’ ของเชี่ยซ่าเหลยเอาไว้ด้วยความหวังที่ไม่อยากจะยอมแพ้

บางทีโอกาสก็มีเพียงแค่หนเดียว การเข้าหาเชี่ยซ่าเหลยด้วยวิธีที่ซ้ำกันในทุกๆ ครั้ง จะยิ่งเป็นทำลายความดีที่ตนเองสะสมมา

คำตอบของเธอทำให้เชี่ยซ่าเหลยเผยรอยยิ้ม เขาเก็บหนังสือ ไม่ได้เร่งให้เจียงเซ่อเริ่มการแคสติ้ง แต่กลับพูดถึงตัวละครที่ชื่อเชอรีน

“ในความคิดของเธอ ในนิยายเรื่อง ‘นักโทษ ’ บทบาทของเชอรีนมีความหมายอย่างไร”

ในนิยาย เชอรีนเป็นสะพานที่ทำให้อังเดรได้สื่อสารกับพระเจ้าและสุดท้ายก็ถูกอังเดรใช้เป็นเครื่องเซ่น ทำให้อังเดรได้สัมผัสกับจุดสูงสุดของพีระมิดได้สำเร็จ จากที่เมื่อก่อนทำได้เพียงแค่ฝันลมๆ แล้งๆ

ในเรื่องอังเดรเป็นแค่บิชอปคนหนึ่งในชุมชนเล็กๆ หากไม่ใช่เพราะเกิดเรื่องไม่คาดฝันเช่นนี้ขึ้น ทั้งชีวิต การเป็นพระสันตะปาปาคงเป็นเพียงแค่ความฝันอันน่าขันที่ไม่มีวันเป็นจริงก็เท่านั้น

แต่เขาช่วยเชอรีนเอาไว้ และรู้คาถาท่อนหนึ่งที่ทำให้สามารถสื่อสารกับพระเจ้าจากปากเธอ และอธิษฐานกับพระเจ้า บอกว่าความปรารถนาของตนเองคือการเป็นพระสันตะปาปา แล้วพระเจ้าก็ยินยอม

พระสันตะปาปาในตอนนั้นก็อายุมากแล้ว และหาผู้สืบทอดมาโดยตลอด ผู้มีอิทธิพลจากทุกภาคส่วนล้วนมีความทะเยอทะยาน หวังจะได้ตำแหน่งนี้

วินาทีนั้น อังเดรดีใจจนแทบคลั่ง แต่ทว่า เขากลับคิดไม่ถึงว่า ในขณะที่ได้รับอำนาจ แม้จิตใจของเชอรีนจะเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่คาถาที่นำมากลับผิดศีลธรรม

วินาทีที่เธอถูกใช้เป็นเครื่องเซ่น ประตูที่เป็นทางเชื่อมไปยังโลกอีกใบถูกเปิดออก ความชั่วร้ายจำนวนมหาศาลรุกคืบเข้ามา

ในเหตุการณ์ที่ราวกับเป็นสงครามในครั้งนี้ แทบจะทุกคนในชุมชนล้วนราวกับตกลงไปในขุมนรก ในสงครามครั้งนี้อังเดรเกือบเอาชีวิตไม่รอด เขาสะกดสิ่งชั่วร้ายเอาไว้ แต่กลับทิ้งรอยแผลที่หนักหนาถึงชีวิตเอาไว้ ท่ามกลางอันตราย คนในโบสถ์สัมผัสได้ว่าความดีความชอบในการต่อสู้ครั้งใหญ่นี้ จะมีผลต่อการเป็นพระสันตปาปาในอนาคตของเขา