webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

477

บทที่ 477 บุญคุณความแค้น

อยู่ๆ เฝิงจงเหลียงก็หัวเราะ เขาเข้าใจความกังวลของเสี่ยวหลิว แต่เขาไม่มีอะไรต้องกลัว

เขาอายุขนาดนี้แล้ว ไม่กลัวว่าเจียงจื้อหยวนจะหาเรื่องเขา เขาคิดถึงตอนที่ตนเองพาตำรวจฮ่องกงเข้าไปช่วยคนในบ้าน เมื่อเผชิญหน้ากับเจียงจื้อหยวนในตอนนี้ มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องหลบอยู่ข้างหลังเสี่ยวหลิว ดังนั้นเขาจึงผลักเสี่ยวหลิวที่ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับศึกอันใหญ่หลวงออก

เสี่ยวหลิวยังไม่ทันได้พูดอะไร เจียงจื้อหยวนก็หันกลับมองเขาครู่หนึ่ง ท่าทางไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เสี่ยวหลิวคิดเอาไว้ ถึงขั้นที่ในสายตาไร้ซึ่งความเกลียดชังเสียด้วยซ้ำ

เขาเพียงแค่เผยรอยยิ้มบางๆ ถอยไปข้างหลังก้าวหนึ่ง โดยไม่มีท่าทีว่าจะเข้ามาทำร้ายเขา ราวกับว่า ความแค้นในอดีต ได้ค่อยๆ สลายหายไปพร้อมกับเวลายี่สิบปีหมดแล้ว

เขาก้มหน้าลง เดินออกไปจากฝูงคน แล้วหันหลังเหมือนจะไปขึ้นบันได

ประตูลิฟต์ค่อยๆ ปิด เนี่ยต้านมองเสี่ยวหลิวที่ศีรษะเต็มไปด้วยเหงื่อ ราวกับกำลังจะทรุด แล้วถามอีกครั้งว่า

“เกิดอะไรขึ้น มีอะไรผิดปกติหรือ”

สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ ล้วนอยู่ในสายตาของเนี่ยต้าน เขาหยิบมือถือขึ้นมา แล้วถามว่า

“คุณปู่เฝิง เจอใครหรือครับ อยากให้ผมเรียกกำลังคนมาเพิ่มมั้ยครับ”

เป็นถึงลูกหลานตระกูลเนี่ย เนี่ยต้านมีสัญชาตญาณในการสัมผัสได้ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น

ท่าทางของเสี่ยวหลิวและความผิดปกติของเฝิงจงเหลียงก่อนหน้านี้ล้วนอยู่ในสายตาของเนี่ยต้าน เมื่อเขาถามเสร็จ เฝิงจงเหลียงก็หัวเราะอย่างเย็นเยียบทีหนึ่ง แล้วส่ายหน้า

“ไม่ต้อง”

“คุณท่าน...”

เสี่ยวหลิวเป็นกังวลเล็กน้อย เฝิงจงเหลียงมองเขาแวบหนึ่งและพูดย้ำอีกครั้ง

“ฉันบอกว่าไม่ต้องก็ไม่ต้องสิ มาดูหนัง ไม่ได้มารบ” คำพูดของเขากำลังเตือนเสี่ยวหลิวว่า อย่าพูดถึงเจียงจื้อหยวนต่อหน้าพวกของเนี่ยต้าน

วินาทีนี้เอง เฝิงจงเหลียงก็นึกถึงเรื่องราวมากมาย เจียงจื้อหยวนเป็นพ่อของเจียงเซ่อ หากพวกของเนี่ยต้านรู้ว่าเสี่ยวหลิวกำลังระแวงใคร เพียงแค่สืบอีกนิดก็สามารถสาวถึงเรื่องที่เจียงจื้อหยวนลักพาตัวเฝิงหนานในตอนนั้นได้อย่างง่ายดาย

และหากเรื่องเหล่านี้ถูกเปิดเผย อาจจะกระทบต่อเจียงเซ่อเป็นอย่างมาก เธอกับเผยอี้กำลังคบหากัน และเป็นความสัมพันธ์ที่มั่นคง ในอนาคตจะต้องเป็นสะใภ้ตระกูลเผย

เรื่องนี้ ยิ่งคนรู้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีกับเธอมากเท่านั้น แม้ว่าเผยอี้และพวกของเนี่ยต้านจะเป็นเพื่อนกัน แต่เรื่องที่ควรจะเก็บเป็นความลับก็ยังคงต้องเป็นความลับต่อไป

เมื่อครู่นี้ ท่าทางอ่อนแอที่เจียงจื้อหยวนแสดงออกมาตอนเห็นตนเอง อาจจะเพราะคิดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน และไม่อยากทำให้เจียงเซ่อต้องเดือดร้อน จึงถอยห่างออกไปก่อน

ทั้งสองที่ควรจะเป็นศัตรูกัน แต่กลับเลือกที่จะสงบศึกเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง

เสี่ยวหลิวยังคงเป็นกังวล แต่ก็สู้ความเอาแต่ใจของคุณท่านไม่ได้

ปฏิเสธข้อเสนอของเนี่ยต้านที่จะไปส่งตนเองที่บ้านอีกครั้ง เฝิงจงเหลียงยืนอยู่หน้าลิฟต์อย่างดื้อรั้น และส่งสัญญาณให้เสี่ยวหลิวไปขับรถของตนเองมา

เสี่ยวหลิวตื่นตระหนกจนแทบร้องไห้ออกมา หลังจากที่เห็นเจียงจื้อหยวน เขาก็ระแวงอยู่ตลอดเวลา กลัวเป็นอย่างยิ่งว่าคนๆ นั้นจะหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักที่ เพื่อปองร้ายเฝิงจงเหลียง เขาไม่ยอมออกห่างเฝิงจงเหลียงแม้แต่ก้าวเดียว พวกของเนี่ยต้านถูกเฝิงจงเหลียงไล่กลับไปแล้ว ดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน ท่ามกลางแสงไฟสลัว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่างเฝ้าอยู่ตรงทุกประตูทางออกของโรงจอดรถ เสี่ยวหลิวไม่ไว้ใจ

“เธอห่วงอะไร”

เฝิงจงเหลียงขมวดคิ้วพร้อมต่อว่า

“กลัวเขากลับมาแก้แค้นฉันหรือ”

เขาใช้ไม้เท้าพยุงตัวเองเอาไว้ เงาของเขาถูกแสงไฟดึงจนทอดยาว พูดด้วยเสียงที่ทั้งดังและทรงพลัง

“ฉันยังไม่กลัวเลย เธอยังจะต้องกลัวอะไร”

“การเจอกันในคืนนี้ มันบังเอิญเกินไปหรือเปล่าครับ” เสี่ยวหลิวยังคงกังวล ความโหดร้ายที่เจียงจื้อหยวนทำต่อตระกูลเฝิง จนถึงตอนนี้ก็ยังทำให้เสี่ยวหลิวหวาดระแวง “ผมกังวลว่าเขาจะจงใจจะตามท่านมาถึงที่นี่ ควรจะให้พวกคุณเนี่ยต้านไปส่งท่านนะครับ”

“บางเรื่องไม่จำเป็นต้องเปิดเผย คืนนี้ฉันแค่อยากมาดูหนังเท่านั้น”

ไม่แน่ว่า เป้าหมายของเจียงจื้อหยวนเองก็เหมือนกับเขา คือการมาดูหนังของเจียงเซ่อและเป็นห่วงคนๆ เดียวกับเขาอย่างห่างๆ เท่านั้น

เฝิงจงเหลียงถอนหายใจ เสี่ยวหลิวยังคงลังเลว่าควรจะโทรกลับไปบอกคนตระกูลเฝิงในฮ่องกงหรือไม่ เฝิงจงเหลียงทนไม่ไหวจึงไล่คนออกไปอย่างเหลือทน

ตอนที่เสี่ยวหลิวขับรถเข้ามาด้วยความหวาดระแวง ชายชราผู้นี้ก็ยังคงยืนอยู่หน้าลิฟต์ ไม่ได้ถูกทำร้ายอย่างที่คิดเอาไว้ ทำให้จิตใจที่เป็นกังวลของเสี่ยวหลิวผ่อนคลายลง

“เขา...”

เสี่ยวหลิวไม่อยากจะเชื่อ เจียงจื้อหยวนเพียงแค่มาดูหนังจริงๆ หรือ

“หนังคืนนี้ เจียงเซ่อเป็นนักแสดงนำ” เจียงเซ่อเป็นลูกสาวของเขา หากเจียงจื้อหยวนยังมีความเป็นคน ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางก่อเรื่องในวันที่หนังของลูกสาวของเขาฉายรอบปฐมทัศน์แบบนี้แน่

แม้ว่าเขาจะโกรธจนอยากจะแก้แค้นตนเองมากแค่ไหน เขาก็ต้องคิดได้ว่า หากเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะฐานะของตนเอง ซึ่งเป็นเรื่องไม่ดีต่อเจียงเซ่อ

เฝิงจงเหลียงหลับตา นึกถึงภาพของเจียงจื้อหยวนตอนที่อยู่ในศาล เขาในตอนนั้นอายุยังน้อยและถูกตัดสินว่าเขามีความผิด จะต้องติดคุกสิบเก้าปี

ตอนนั้น ทั้งสองก็เคยเผชิญหน้ากัน เฝิงจงเหลียงอยากจะให้เขาตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด จึงจะสาสมให้กับความโหดเหี้ยมที่เขาทำต่อเฝิงหนาน

การที่เขาเจอกับเจียงจื้อหยวนในคืนนี้ เสี่ยวหลิวรู้สึกว่าเขาอาจจะเข้ามาทำร้ายตนเอง แต่สำหรับเฝิงจงเหลียงแล้ว การที่เจียงจื้อหยวนยอมจากไปเอง ก็เป็นการยืนยันว่าเขาเกรงกลัวตนเอง

เขากลัวว่าจะทำให้ ‘ลูกสาว’ ของตนเองต้องเดือดร้อน จึงเลือกที่จะถอย และยิ่งไปกว่านั้น เขากลัวว่าเฝิงจงเหลียงจะทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และสร้างปัญหาให้กับเจียงเซ่อ

ตั้งแต่เจียงจื้อหยวนออกจากคุก ที่อยู่ของเขาสืบได้ง่ายมาก เขาออกจากฮ่องกง กลับไปใช้ชีวิตที่ตี้ตู ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำในทุกๆ วัน อาจจะอยู่ในสายตาของคนที่เสี่ยวหลิวส่งไปทั้งหมดแล้ว

แต่เขาในปีนั้นโหดเหี้ยมและเจ้าเล่ห์ แฝงตัวเข้ามาในเมือง ใช้ความฉลาดในทางที่ผิด ตอนที่ลักพาตัวเฝิงหนาน ก็มีสภาพจิตใจที่ปกติเต็มร้อย นิสัยเยือกเย็น และมีความคิดต่อต้านที่ชัดเจน

กว่าทางตำรวจจะพบตัวเขา ก็เสียความพยายามไปอย่างมาก

เขาติดคุกอยู่ที่ฮ่องกงเกือบยี่สิบปี คลุกคลีอยู่กับนักโทษที่เหี้ยมโหดมาโดยตลอด สามารถเอาชีวิตรอดในที่แบบนั้นได้ ทั้งยังเอาตัวรอดจากการโจมตีจากสังคมมืด เป็นการยืนยันว่าคนๆ นี้ไม่ธรรมดาเลย

เขาในยี่สิบปีก่อน ยังสามารถลักพาตัวเฝิงหนานทั้งที่อยู่ในสายตาของตระกูลเฝิงได้อย่างง่ายดายและหลบหนีไปพักใหญ่

เขาในยี่สิบปีให้หลัง เฝิงจงเหลียงไม่เชื่อว่า หากเขาอยากหลบหนีจริงๆ เสี่ยวหลิวจะหาตัวเขาเจออย่างง่ายดายในเวลาอันสั้น

แทนที่จะบอกว่าเสี่ยวหลิวสืบเรื่องของเขาได้อย่างละเอียด ควรจะบอกว่าเจียงจื้อหยวนจงใจเปิดเผยตัวเองให้เสี่ยวหลิวได้สืบจนชัดเจนเสียมากกว่า

บุคคลอันตรายเช่นนี้ ปล่อยให้คนของเสี่ยวหลิวตามติดชีวิตของตนเองอย่างไม่หลบไม่ซ่อน เต็มใจใช้ชีวิตอยู่ในสายตาของคนอื่น เกรงว่าจะทำเพื่อให้ตระกูลเฝิงวางใจว่าเขาจะไม่ทำให้ตระกูลเฝิงต้องลำบากอีก และทั้งหมดนี้ก็เพราะไม่อยากทำให้ลูกสาวของเขาต้องเดือดร้อนเท่านั้น

เขาติดคุกมายี่สิบปีและออกจากคุกที่ฮ่องกงแล้ว แต่ในใจของเจียงจื้อหยวน อาจจะมีตราบาปติดอยู่ตลอดไป ไม่มีวันสิ้นสุด

เฝิงจงเหลียงคิดถึงตรงนี้ ก็พลันถอนหายใจ