470

บทที่ 470 ล้มเหลว

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเอาสีม่วงที่เป็นที่นิยมในวงการแฟชั่นนี้ให้อยู่มือ แต่เมื่อเจียงเซ่อสวมแล้วกลับทำให้มันดูโดดเด่นมากจริงๆ

ไหล่งามเผยอยู่ข้างนอก ขาเรียวยาวทั้งคู่เปิดให้เห็นวับแวม เธอหยุดบนพรมแดงครู่หนึ่ง ในอินเทอร์เน็ตก็เริ่มมีคนชื่นชมชุดเดรสของเจียงเซ่อขึ้นมา

วินาทีนี้ ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับของเจียงเซ่อหรือเหล่าแฟนคลับที่มีความคิดที่ไม่ดีกับเจียงเซ่อเพราะเถาเฉิน ก็ยากที่จะแสดงความคิดเห็นในเชิงลบกับเสื้อผ้าหน้าผมของเจียงเซ่อออกมาได้

เจียงเซ่อเข้างานพร้อมสติกเกอร์ชื่อ คนที่อยู่บนพรมแดงข้างนอกทยอยเข้าสู่งาน แถบตรงข้อมือของเธอระบุที่นั่งของเธอเอาไว้แล้ว และที่นั่งของเถาเฉินก็บังเอิญอยู่ข้างเธอพอดี

คืนนี้ เถาเฉินมาในชุดสีน้ำเงินที่ทำขึ้นพิเศษของ Valentino ซึ่งมันดูโดดเด่นมาก ตอนที่เจียงเซ่อเดินเข้ามา หล่อนก็เผยรอยยิ้มและพยักหน้าให้กับเจียงเซ่อเล็กน้อย บนใบหน้าไร้ซึ่งความรู้สึกไม่พอใจ

หล่อนหยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้น กางแขนออกเมื่อเห็นเซี่ยเชาฉวินแล้วสวมกอดเซี่ยเชาฉวินทีหนึ่ง พร้อมทักทายว่า

“เชาฉวิน ไม่ได้พบกันนานเลยนะ”

ผู้จัดการของเธอยืนอยู่บนทางเดิน เมื่อเห็นภาพนี้แล้วกัดริมฝีปาก พูดอะไรไม่ออก

“ฉันคิดว่าไม่นานเท่าไหร่นะ” แม้จะทำงานกับเถาเฉินมานานแต่เซี่ยเชาฉวินก็ไม่ได้ยิ้มให้เธอเป็นพิเศษแต่อย่างใด น้ำเสียงที่ตอบไปยังคงเย็นชาเหมือนเก่า

หลังจากที่ทั้งสองทักทายกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่เถาเฉินและเจียงเซ่อนั่งลง เถาเฉินก็หันไปมองเจียงเซ่อและพูดพร้อมรอยยิ้ม

“เชาฉวินเป็นคนที่เก่งมากนะคะ อยู่กับคุณเจียงไม่กี่ปีก็ทำให้คุณโด่งดังมากถึงขนาดนี้ ยินดีกับคุณด้วยนะคะที่หนังเรื่อง ‘Evil’ เข้าสู่รอบตัดสิน” ท่าทางของเธอดูใจกว้าง พลันก้มลงจัดชายกระโปรง ราวกับได้ลืมเรื่องตอนกลางวันที่เจียงเซ่อเข้าไปขัดจังหวะมื้อเที่ยงที่เธอและเชี่ยซ่าเหลยไปหมดแล้ว ราวกับว่า ข่าวลือที่ทั้งสองแย่งบทกันใน ‘The Lost City’ ไม่ได้ส่งผลกระทบกับเธอแม้แต่น้อย

“ฉันเห็นบทสัมภาษณ์ของเชี่ยซ่าเหลยแล้ว เขาชมว่า ‘Evil’ ของคุณยอดเยี่ยมมากและคิดว่าคุณเจียงจะได้รับรางวัลในปีนี้ด้วยนะคะ”

เจียงเซ่อเผยรอยยิ้ม และแสดงท่าทางที่ดูสนิทสนมกับเธอเช่นกัน “ขอบคุณค่ะที่ชม เชี่ยซ่าเหลยคงแค่จะให้กำลังใจฉันเท่านั้นล่ะค่ะ จะเทียบกับคุณเถาได้ยังไงคะ”

เธอไม่ได้มีท่าทีระแวงเพราะความสนิทสนมที่เถาเฉินแสดงออก และไม่ได้ลำพองใจเพราะคำชมของเถาเฉินด้วย เพิ่งจะเข้าร่วมเทศกาลหนังต่างประเทศที่ยิ่งใหญ่แบบนี้เป็นครั้งแรกแท้ๆ ท่าทางกลับไม่เย่อหยิ่ง ทำให้เถาเฉินรู้สึกแปลกใจขึ้นมา

ทั้งสองเลือกที่จะไม่พูดถึงเรื่องหนังและเรื่องงาน แต่กลับพูดถึงเรื่องอาหาร ดอกไม้และอากาศของฝรั่งเศสแทน ตอนแรกเถาเฉินยังคิดว่า เจียงเซ่อเพิ่งจะมีชื่อเสียงมาได้ไม่กี่ปีเสียอีก

หลังจากที่คู่แข่งคนนี้ค่อยๆ มีความสำคัญมากขึ้น จนเริ่มคุกคามฐานะของตนเอง เธอก็พอจะรู้จักเจียงเซ่อมาบ้างแล้ว สถานการณ์ด้านการงานของเจียงเซ่อในช่วงนี้เธอก็รู้อยู่แก่ใจ ตอนแรกคิดว่าเจียงเซ่อมาฝรั่งเศสยังไม่นาน คงจะไม่เข้าใจประเพณีท้องถิ่นของฝรั่งเศสเท่าตนเองที่ทำงานต่างประเทศมานาน

แต่หลังจากที่คุยกับเจียงเซ่อก็พบว่าในคำพูดของเธอนั้นไม่ได้ไร้สาระแม้แต่น้อย ถึงขั้นที่เข้าใจประเทศฝรั่งเศสเป็นอย่างดีเลยด้วยซ้ำ แสดงให้เห็นว่าก่อนมาฝรั่งเศสคงจะทำการบ้านมาเป็นอย่างดี

ความคิดที่จะใช้ความเหนือชั้นของตนเองในเรื่องนี้หักหน้าเจียงเซ่อนั้นก็เป็นอันล้มเหลวไป แน่นอนว่า เถาเฉินเปลี่ยนประเด็นพร้อมรอยยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ

ช่างกล้องจำนวนมากในงานบันทึกภาพที่ทั้งสองก้มหน้าคุยกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่เห็นถึงความขัดแย้งเลยแม้แต่น้อย

จนกระทั่งจ้าวร่าง หลิวเย่เข้ามาตามลำดับ จึงขัดจังหวะการสนทนาของทั้งสองลง

เทศกาลหนังได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ จอขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าฉายภาพสัญลักษณ์ของ เทศกาลหนังฝรั่งเศส หลังจากนั้นพิธีกรหญิงท่านหนึ่งก็ได้ถูกเชิญขึ้นเวที

พิธีกรหญิงที่เทศกาลหนังฝรั่งเศสเชิญมานั้น เป็นสาวงามที่ถูกสื่อทางยุโรปจัดให้เป็นผู้หญิงสวยและมีเสน่ห์ที่สุดในโลกต่อเนื่องมานานหลายปีอย่าง Saussure ทันทีที่หญิงสาวผู้สง่างามคนนี้ขึ้นเวที ก็ได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมอย่างล้นหลาม

เธอกล่าววัตถุประสงค์ในการจัดเทศกาลหนัง หลังจากนั้นสิบนาทีก็เข้าสู่พิธีมอบรางวัลอย่างเป็นทางการ

คณะกรรมการถูกเชิญขึ้นเวทีตามลำดับ บนจอภาพมีภาพบรรยากาศตลอดครึ่งเดือนของเทศกาลหนังฝรั่งเศส ภาพของหนังที่มีความโดดเด่นก็แทรกอยู่ในนั้น รางวัลแรกที่ประกาศคือ รางวัลการถ่ายทำยอดเยี่ยม ทุกครั้งที่มีหนังเข้ารอบ ก็ย่อมมีทั้งคนผิดหวังและคนที่ดีใจจนแทบคลั่ง

ตอนนี้ บทประพันธ์ของหนังเรื่อง ‘Evil’ ได้อยู่ในรายชื่อหนังที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ใบหน้าของจ้าวร่างเผยความดีใจอย่างชัดเจน

ตลอดเทศกาลหนัง ‘Evil’ ทำผลงานออกมาได้สุดยอดมาก ผู้คนในวงการที่ชื่นชมเรื่องนี้ก็ไม่น้อย ใบหน้าของจ้างร่างเต็มไปด้วยความปลื้มปีติ การที่ ‘Evil’ มีสิทธิ์ได้รับรางวัลไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยสำหรับเขาเลย คนรอบข้างต่างหันมาจ้องทีมงานของเรื่องอย่างต่อเนื่อง

เจียงเซ่อไม่มีกะจิตกะใจสนใจสายตาของคนที่คอยมอง แต่จ้าวร่าง หลิวเย่และคนอื่นกลับกำลังท่องบทแสดงการขอบคุณ

“Evil” เดินมาไกลถึงจุดนี้ โอกาสที่จะได้รับรางวัลสูงอย่างไม่ต้องสงสัย ทีมงานได้เตรียมคำกล่าวแสดงความขอบคุณไว้ให้เธอ ไม่ว่าคืนนี้เธอจะได้รับรางวัลหรือไม่ เธอก็ต้องท่องบทแสดงการขอบคุณนี้ให้ได้

หลังจากที่เธอแอบทวนบทพูดในใจจนแม่นยำแล้ว พิธีมอบรางวัลก็ได้เดินทางมาถึงรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมแล้ว

วินาทีที่พิธีกรพูดถึงรางวัลนี้ จ้าวร่างเองก็อดไม่ได้ที่จะกัดริมฝีปากของตนเองหลายต่อหลายที สายตาพลันฉายความตื่นเต้น

บนหน้าจอแสดงรายชื่อผู้เข้าชิง ชื่อของจ้าวร่างเองก็อยู่ในจอ จนกระทั่งแขกรับเชิญที่เป็นผู้เชิญรางวัลประกาศว่า

“รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมในครั้งนี้ มีผู้กำกับมากความสามารถท่านหนึ่งของเราเป็นเจ้าของรางวัล” แขกรับเชิญที่เป็นผู้เชิญรางวัลพูดถึงตรงนี้ เจียงเซ่อก็สังเกตเห็นแล้วว่า ไม่เพียงแค่จ้างร่างที่นั่งอยู่ข้างๆ แม้กระทั่งผู้กำกับหนิงจ้านผิงที่นั่งข้างเถาเฉินเองก็เกร็งไปทั้งตัว สายตาจับจ้องที่แขกรับเชิญบนเวที โชคดีที่ผู้กำกับที่มีชื่อเสียงจากออสเตรเลียท่านนี้ไม่ได้ถ่วงเวลา และให้คำตอบอย่างตรงไปตรงมา

“ขอแสดงความยินดีกับผู้กำกับเรื่อง ‘Evil’ ผู้ได้รับรางวัล ได้แก่ จ้าวร่าง!”

ทันทีที่สิ้นเสียงนี้ เสียงปรบมือก็ดังเกรียวกราวขึ้นในทันที

ตอนที่จ้าวร่างลุกขึ้น บนใบหน้ายังแฝงด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

เขารอวินาทีนี้มานานแล้ว แต่หลังจากที่ได้ยินว่าตนเองได้รับรางวัลจริงๆ เขาก็ยังคงไม่ค่อยได้สตินัก เขากอดหลิวเย่และเจียงเซ่ออย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ และเดินขึ้นเวทีอย่างรวดเร็ว

เพราะจ้าวร่างได้รับรางวัล บนใบหน้าของหนิงจ้านผิงที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็เผยความผิดหวังออกมา

การที่ผู้กำกับคนหนึ่งจะได้เจอกับบทประพันธ์และนักแสดงที่ยอดเยี่ยมไม่ใช่เรื่องง่าย ความจริงแล้ว หนิงจ้านผิงได้เตรียมหนังเรื่อง ‘The Incident’ มานาน การจะเจรจาเพื่อร่วมงานกับนักแสดงหญิงอย่างเถาเฉินเองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ตั้งแต่เริ่มถ่ายทำจนตัดต่อเสร็จสิ้นก็ได้ใช้เวลาไปหลายปี

น่าเสียดายที่รางวัลตกไปอยู่ในมือของจ้าวร่าง แม้ก่อนหน้านี้เพราะคำวิจารณ์จากนักวิจารณ์หนังและการคาดเดาของนักข่าวจะทำให้หนิงจ้านผิงเตรียมใจเอาไว้บ้างแล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังคงรับไม่ค่อยได้อยู่ดี

เถาเฉินที่นั่งอยู่ข้างๆ ปลอบใจเขาเบาๆ ตอนที่ผู้กำกับใหญ่ท่านนี้มองภาพที่จ้าวร่างกล่าวคำขอบคุณบนเวที เขาเองก็ได้เผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยด้วยความฝืดเฝื่อน

“ไม่ต้องกังวลไป ฉันยังมีโอกาสเริ่มใหม่”

น้ำเสียงของเขาแฝงความผิดหวัง เจียงเซ่อที่นั่งข้างเถาเฉินได้ยินแล้วก็สัมผัสได้ เธอหันกลับไป ในขณะที่เถาเฉินเองก็หันมาพอดี วินาทีที่ทั้งสองสบตากัน เถาเฉินเผยรอยยิ้ม ในดวงตาเปล่งประกายสดใส

หนิงจ้านผิงอายุไม่น้อยแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับโอกาสดีๆ สักโอกาสหนึ่ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในเทศกาลหนังฝรั่งเศสเลย ปีนี้คงจะเป็นปีที่เขาใกล้กับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมของเทศกาลหนังมากที่สุดแล้ว ความจริงแล้ว เขามีโอกาสในการเริ่มใหม่น้อยมาก ที่จริงหนิงจ้านผิงเองก็รู้ เถาเฉินก็น่าจะรู้เช่นกัน

ตอนที่น้ำเสียงของหนิงจ้านผิงแฝงความท้อแท้ ทำไมเถาเฉินถึงยังยิ้มออกมาได้อีก?

เจียงเซ่อขมวดคิ้วลง บนเวทีในตอนนี้ จ้าวร่างกล่าวคำขอบคุณเสร็จแล้วและกำลังรับถ้วยรางวัลสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมจากมือแขกรับเชิญที่เป็นผู้เชิญรางวัล

“ยินดีกับพวกคุณด้วยนะคะ” เถาเฉินหันมาแสดงความยินดีกับเจียงเซ่อเบาๆ

น้ำเสียงของเธอแฝงความยินดีอันคลุมเครือ ทำให้ในใจของเจียงเซ่อรู้สึกแปลกประหลาด

ท่าทางของเถาเฉินดูผิดปกติ สำหรับเรื่องที่จ้าวร่างได้รับรางวัล ราวกับเธอจะดีใจมากเป็นพิเศษ สถานการณ์แบบนี้มันผิดปกติมากจริงๆ เธอที่เป็นนักแสดงนำเรื่อง ‘The Incident’ เป็นไปไม่ได้ที่จะดีใจกับการที่จ้าวร่างได้รับรางวัลจากใจจริงๆ

ท่าทางสถานการณ์ที่หนิงจ้านผิงแสดงความผิดหวังออกมาอย่างชัดเจนแบบนี้ เธอควรจะเสียใจไปพร้อมกับหนิงจ้านผิงที่รางวัล ‘ผู้กำกับยอดเยี่ยม’ หลุดมือไป แต่เธอกลับดูดีใจมากเป็นพิเศษ

“ผู้กำกับจ้าวเป็นผู้กำกับที่สุดยอดมากนะคะ”

ตอนนี้เถาเฉินพูดประโยคนี้ออกมา ตรงมุมปากเผยรอยยิ้ม สายตากวาดผ่านหลิวเย่ที่นั่งข้างเจียงเซ่อ และพูดเบาๆ ว่า

“หลิวเย่เองก็เป็นนักแสดงที่สุดยอดมาก”

ตอนที่เธอพูดคำพูดนี้ ก็ได้ดึงดูดความสนใจจากหลิวเย่ หลิวเย่หันกลับมา เถาเฉินรีบส่งยิ้มให้เขา หลังจากที่ทั้งสองพยักหน้าทักทายกันตามมารยาทแล้ว ต่างก็หันหน้ากลับไป

ในวินาทีนี้เอง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ในใจของเจียงเซ่อจึงมีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้น เธอหันไปมองเถาเฉิน ตอนนี้เถาเฉินได้เริ่มท่องบทแสดงการขอบคุณแล้ว เธอหรี่ตาลง ท่ามกลางเสียงปรบมือที่ดังกึกก้องจากทุกคน บทภาษาอังกฤษอันคล่องแคล่วท่องออกมาจากปากของเธอ เธอทำท่าทางราวกับไม่รู้สึกว่าเจียงเซ่อกำลังจ้องมองอยู่ บนใบหน้าเผยประกายแห่งชัยชนะ

แทบจะในขณะนั้นเอง เจียงเซ่อก็เข้าใจในความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของเถาเฉินแล้ว เธอหยุดการกระทำที่ในตอนแรกกำลังท่องบทขอบคุณอยู่ลง เถาเฉินลืมตาขึ้น ในแววตาเผยรอยยิ้มที่ราวกับยิ้มและไม่ยิ้มในขณะเดียวกัน

“เป็นอะไรไปคะ” เธอถามขึ้นเบาๆ

“คุณเจียงท่องบทพูดคล่องหรือยังคะ”

เธอโค้งริมฝีปากขึ้น เจียงเซ่อสูดหายใจลึกๆ ทีหนึ่ง มองเธอแวบหนึ่ง ยังไม่ทันได้พูดอะไร จ้าวร่างก็ได้ลงจากเวทีหลังจากรับรางวัลและกล่าวขอบคุณเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“ลำดับต่อไป ความจริงแล้วควรจะเป็นไปตามกฎผู้หญิงมาก่อน คือการประกาศรายชื่อนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม” เสียงของพิธีกรดังขึ้น “แต่เพราะความเท่าเทียมกันของหญิงและชายในยุคสมัยนี้ ผู้หญิงทั่วทุกมุมโลก…”

พิธีกรบนเวทีเกริ่นว่าเทศกาลหนังฝรั่งเศสในปีนี้จะประกาศรายชื่อนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมก่อน ในขณะที่รายชื่อผู้เข้าชิงปรากฏขึ้นบนเวที คณะกรรมการประกาศชื่อผู้เข้ารอบตามลำดับ ทุกคนที่เข้ารอบชิงชนะเลิศล้วนตื่นเต้น

“ทอร์เรส แบลนโก้ จากเรื่อง ‘Safety’ หลิวเย่จากเรื่อง ‘Evil’ ”

เมื่อได้ยินชื่อว่าของ ‘Evil’ เข้ารอบในรางวัลที่มีความสำคัญอย่างนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมอีกครั้ง ก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้นแทบจะทั่วทั้งงาน

หนังเรื่อง ‘Evil’ ที่ในตอนแรกไม่ได้มีชื่อเสียงไม่เป็นที่สนใจ ในตอนหลังกลับโด่งดังอย่างรวดเร็ว และก้าวเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ

ทุกคนที่มาร่วมพิธีปิดในวันนี้ล้วนเคยดูหนังเรื่อง ‘Evil’ มาแล้ว การแสดงของนักแสดงนำหญิงและชายในเรื่องก็ยอดเยี่ยมมาก นักแสดงชายของเรื่องอย่างหลิวเย่ถึงขั้นเพิ่มน้ำหนักอย่างไม่ลังเลเพื่อหนังเรื่องนี้และแสดงบทร้ายเป็นครั้งแรก

เขาถ่ายทอดตัวละครลั่วเซิ่นออกมาได้อย่างมีชีวิต จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะได้เข้ารอบ

แต่ว่า แม้รายได้จากหนังของหัวเซี่ยในหลายปีมานี้จะไม่น้อย แต่หนังที่ยอดเยี่ยมจริงๆ กลับมีไม่มากนัก ในอดีตเทศกาลหนังต่างประเทศที่สำคัญอย่างเทศกาลหนังฝรั่งเศส หนังที่เข้ารอบมีไม่มากนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจำนวนครั้งที่เสนอชื่อเข้าชิงจนมีสิทธิ์ได้รับรางวัลเลย

ในหัวเซี่ย ผู้ชมที่เฝ้าหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อชมการถ่ายทอดสดเทศกาลหนังฝรั่งเศสจ้องหน้าจออย่างไม่คลาดสายตา ในขณะที่ได้ยินว่าหลิวเย่มีชื่อเข้าชิงจากเรื่อง ‘Evil’ คนจำนวนมากต่างกรีดร้องด้วยความดีใจอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้

ในประเทศ หลิวเย่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก แต่ไม่มีโอกาสได้ดังไปถึงต่างประเทศเสียที คืนนี้หากหลิวเย่ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังฝรั่งเศส ก็เหมือนเป็นการที่เขาได้รับกุญแจสำคัญในการตีตลาดในแถบยุโรป เส้นทางในวงการบันเทิงของเขาต้องก้าวไปได้ไกลกว่านี้แน่!

ตอนนี้ผู้ชมในประเทศไม่เพียงแค่อธิษฐานให้กับ ‘Evil’ และ ‘The Incident’ แต่ยังอธิษฐานให้กับ หลิวเย่ด้วย

ทว่าเจียงเซ่อกลับรู้สึกแย่

รอยยิ้มของเถาเฉิน ทำให้เธอเริ่มเข้าใจแล้วว่าทุกอย่างมันคงไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น โดยเฉพาะตอนนี้ที่ชื่อของหลิวเย่ก็เข้าชิงนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในเทศกาลหนังด้วยเช่นกัน

ตอนนี้ ‘Evil’ โดดเด่นเป็นอย่างมาก เพราะการเสนอชื่อเข้าชิงและการได้รับรางวัลของจ้าวร่าง หากหลิวเย่ได้รับรางวัลอีกคนก็มีความเป็นไปได้สูงว่าเพื่อความยุติธรรม ตนเองอาจจะเสียสิทธิ์ในการได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมไป

เทศกาลหนังที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกแบบนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ทุกรางวัลจะถูกหนังเรื่องเดียวกันครอบครองทั้งหมด ไม่ว่าหนังเรื่องนั้นจะโดดเด่นและยอดเยี่ยมมากเพียงใด!

เพราะฉะนั้น ก่อนหน้านี้เถาเฉินจึงได้เผยรอยยิ้มแบบนั้นและแสดงความยินดีกับจ้าวร่างจากใจจริง ‘Evil’ มีชื่อเข้าชิงในหลายสาขา หากจ้าวร่างได้รับรางวัล ความเป็นไปได้ที่นักแสดงนำหญิงและชายจะได้รับรางวัลก็จะน้อยลง

ในเทศกาลหนังปีนี้ มีหนังที่โดดเด่นไม่น้อยเลย แต่ที่โดดเด่นมากๆ ก็มีไม่มากนัก ในช่วงเทศกาลหนัง เจียงเซ่อเองได้ดูหนังที่เข้าชิงและโอกาสที่หลิวเย่จะได้รับรางวัลก็สูงมาก

และเป็นอย่างที่คิดเอาไว้ วินาทีต่อมา คณะกรรมการได้ประกาศชื่อผู้ได้รับรางวัล

“หลิวเย่ จากเรื่อง ‘Evil’ ”

หลังจากสิ้นเสียงของคณะกรรมการ เสียงปรบมือก็ดังขึ้น หลิวเย่ลุกขึ้นยืน ช่างภาพในงานหันกล้องมาทางเขา เจียงเซ่อที่อยู่ข้างๆ ที่แม้จะเดาผลออกแล้ว แต่ตอนนี้ก็ปรบมือตามทุกคน

โม่อานฉีที่อยู่บนทางเดินตื่นเต้นจนกัดนิ้ว หลังจากรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมก็จะประกาศรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม เธอมองเซี่ยเชาฉวิน ตอนนี้เซี่ยเชาฉวินขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูท่าทางกังวลใจ โม่อานฉีอดไม่ได้ที่จะพูดเบาๆ

“คุณเซี่ยคะ ปีนี้เซ่อเซ่อจะมีโอกาสได้รับรางวัลหรือเปล่าคะ”

เธอเองก็อยู่ในวงการมานานหลายปี สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ การจัดเทศกาลหนังฝรั่งเศสในปีนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ทั้งสามรางวัลหลักจะตกเป็นของหนังเรื่องเดียวกัน เพราะจะทำให้คนนอกสงสัยว่าคณะกรรมการตัดสินตามใจตนเองและมีความลำเอียงเกิดขึ้น

ตอนแรกโม่อานฉียังหวังให้เซี่ยเชาฉวินปลอบใจตนเอง แต่เซี่ยเชาฉวินกลับไม่ตอบ สายตาของเธอมองผ่านทุกคนไปหยุดที่เจียงเซ่อที่นั่งอยู่ข้างๆ เถาเฉิน

จ้าวร่างยังคงถือรางวัลเอาไว้และหลิวเย่ก็ขึ้นเวทีไปแล้ว พื้นที่ทางด้านซ้ายของเจียงเซ่อถูกเว้นเอาไว้

ท่ามกลางแสงไฟ ใบหน้าของเธอเผยรอยยิ้ม ไม่อาจรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงในตอนนี้ได้เลย แต่เธอฉลาดขนาดนั้น หรือจะเดาผลลัพธ์ออกแล้วนะ

ในใจของเซี่ยเชาฉวินมีความคิดแบบนี้เกิดขึ้น คิดว่าตนเองควรจะต้องเข้าไปปลอบใจเธอหลังจากพิธีปิดดีหรือไม่