webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

463

บทที่ 463 เข้าใจผิด

การกระทำของเถาเฉินในตอนนั้น ทำให้เชี่ยซ่าเหลยอาจจะเข้าใจผิดว่าเธอใช้เขาในการเพิ่มค่าตัวให้กับตนเอง ทำให้เจียงเซ่อเสียโอกาสในการแสดง ‘The Lost City’ เรื่องนี้ผ่านมาเกือบจะสองปีแล้วและทั้งสองไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย

ตอนนั้นเจียงเซ่อเองก็ไม่ได้อธิบาย ยิ่งจะทำให้เข้าใจผิดมากขึ้นไปเรื่อยๆ

เส้นทางที่เซี่ยเชาฉวินวางไว้ให้กับเจียงเซ่อโม่อานฉีเองก็เห็น สักวันเจียงเซ่อจะต้องมีชื่อเสียงในต่างประเทศ หากทำให้เชี่ยซ่าเหลยไม่พอใจ มันจึงไม่ดีกับการพัฒนาในอนาคตของเธออย่างไม่ต้องสงสัย

ไม่มีใครรู้ว่า ความเข้าใจผิดที่เชี่ยซ่าเหลยมีต่อเธอ ในอนาคตจะเกิดผลเสียต่อเจียงเซ่ออย่างไรบ้าง

ในยุโรปและอเมริกา ทั้งในด้านมนุษสัมพันธ์ ฐานะและในใจของผู้ชมที่เป็นแฟนหนัง เชี่ยซ่าเหลยถูกพูดถึงในทางที่ดีมาก การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาจะเป็นผลดีต่อเจียงเซ่อ

อีกประการหนึ่ง เทศกาลหนังในครั้งนี้ เขาเป็นหนึ่งในผู้มอบรางวัล เขาเป็นแขกประจำของเทศกาลหนัง คุ้นเคยกับคณะกรรมการของที่นี่เป็นอย่างดี มีความเป็นไปได้สูงที่ปฏิกิริยาของเขาอาจจะมีผลต่อความสำเร็จสูงสุดในเทศกาลหนังของเจียงเซ่อ จึงเป็นคนหนึ่งที่ต้องเอาใจ

เมื่อโม่อานฉีพูดจบ เซี่ยเชาฉวินเองก็ไม่ตอบโต้

พนักงานในสำนักงานล้วนมองหน้ากันอึ้งๆ พวกเขาช่วยเจียงเซ่อเขียนข่าวเพื่อแก้วิกฤตต่างๆ ต่อสาธารณชนได้ แต่ในด้านมนุษยสัมพันธ์ที่ควรจะมี จะต้องพึ่งเจียงเซ่อคนเดียวเท่านั้น

“ได้ข่าวมาว่า คุณเถาเฉินได้ติดต่อกับเชี่ยซ่าเหลยตั้งแต่หลายวันที่ผ่านมาและมีการนัดทานมื้อเที่ยงด้วยกันในวันพรุ่งนี้ครับ”

ผู้ช่วยของเซี่ยเชาฉวินอดไม่ได้ที่จะบอกข่าวที่ตนเองสืบมา ทำให้ในห้องเงียบลงกว่าเดิม

ในเทศกาลหนังฝรั่งเศส ปีนี้หัวเซี่ยมีผลงานที่เหนือความคาดหมาย เพราะมีหนังสองเรื่องเข้าสู่รอบสุดท้าย นอกจาก ‘Evil’ แล้ว เรื่องที่เถาเฉินแสดง ‘The Incident’ ก็เข้ารอบ

เธอเองก็นับว่าได้เปรียบกว่ามาก ตอนนี้นัดพบกับเชี่ยซ่าเหลย ซึ่งจุดประสงค์ก็ชัดเจนอยู่แล้ว

ความตื่นเต้นบนใบหน้าของโม่อานฉีชัดเจนมาก แต่เจียงเซ่อกลับส่ายหน้า “ไม่รีบ”

ที่เธอมาร่วมเทศกาลหนังในครั้งนี้ ความจริงได้เตรียมพร้อมที่จะสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับเชี่ยซ่าเหลยเอาไว้แล้ว

ตอนที่เธอมาฝรั่งเศส เธอได้เอาต้นฉบับ ‘นักโทษ’ ที่เชี่ยซ่าเหลยให้เธอในวันนั้นมาด้วย เชี่ยซ่าเหลยมีสิทธิ์ที่จะโกรธเธอ มีสิทธิ์ที่จะไม่อยากเจอเธอผู้ซึ่งเป็นนักแสดงที่เขาไม่อยากสนใจเลยแม้แต่น้อย แต่เขาจะต้องอยากได้หนังสือที่มีค่ามากเล่มนี้กลับคืนไป ต้นฉบับ ‘นักโทษ’ ที่มีลายเซ็นของนักประพันธ์ Matthew ที่เขาให้เจียงเซ่อยืมในตอนนั้น ถึงขั้นไม่อยากให้ผ่านมือใครและไม่ยอมให้ผ่านระบบขนส่ง หนังสือที่มีคุณค่ากับเขามากขนาดนี้ เขาจะต้องขอคืนแน่

หลังจากนั้น เซี่ยเชาฉวินก็ได้เรียกพนักงานจำนวนหนึ่งมาเข้าร่วมประชุมขนาดย่อม เพื่อหารือเกี่ยวกับการวางแผนงานของเจียงเซ่อหลังจากเทศกาลหนัง และไม่พูดถึงเซี่ยซ่าเหลยอีก

เช้าวันต่อมา หลังจากที่เจียงเซ่อเปลี่ยนชุดเสร็จ ก็ไปโรงหนังแต่เช้า

หากอยากทราบว่าเชี่ยซ่าเหลยอยู่ที่ไหนไม่ใช่เรื่องยาก ในฐานะหนึ่งในผู้กำกับมือทองที่มาเยือนช้ากว่า และเขาเป็นประเด็นที่ทุกคนพูดถึงอยู่ตลอด ตอนที่เจียงเซ่อมาหาเขา เขาอยู่ในโรงที่ใหญ่ที่สุดในโรงหนัง ข้างๆ นอกจากทีมงานแล้ว ยังมีกลุ่มของเถาเฉิน

นักข่าวนั่งอยู่ไกลออกไปล้วนจ้องมาทางนี้ นอกว่านักข่าวจากหัวเซี่ยแล้ว ยังมีนักข่าวจำนวนมากจากต่างชาติ แม้จะบอกว่าในโรงหนังไม่สะดวกที่จะถ่ายรูป แต่คนส่วนใหญ่ได้บันทึกภาพนี้เอาไว้ในใจอย่างไม่มีวันลืมแล้ว

ตอนที่เจียงเซ่อเข้าไป ได้ดึงดูดความสนใจจากนักข่าวจำนวนไม่น้อย

ช่วงนี้สาวชาวหัวเซี่ยคนนี้โด่งดังมากในต่างประเทศ ยอดขายของนิตยสาร ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ ทำให้ชื่อเสียงของเธอเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมาก และบทสัมภาษณ์ของเธอที่ออกมาอย่างต่อเนื่องก็เพิ่มความเป็นที่นิยมให้กับเธอ ตอนที่เธอเดินเข้ามา นักข่าวต่างชาติจำนวนมากล้วนหยุดสายตาลงบนร่างของเธอ

เธอสวมชุดเดรสยาวสีโอลด์โรสเปิดไหล่ ข้างหลังคว้านลึกเป็นรูปตัว V เผยให้เห็นเส้นสันหลังอย่างเลือนราง ชวนหลงใหลเป็นอย่างมาก

คนจำนวนมากที่เคยสัมภาษณ์เธอในช่วงที่ผ่านมากำลังจะเข้าไปทักทายเธอ คนอีกจำนวนหนึ่งก็อยากเข้ามานัดเวลาสัมภาษณ์กับเจียงเซ่อ แต่กลับถูกโม่อานฉีขวางเอาไว้ ตอนที่เจียงเซ่อเห็นเชี่ยซ่าเหลย บนใบหน้าก็พลันเผยรอยยิ้ม แล้วเดินตรงเข้ามาไปเขา

สายตาของทุกคนหยุดอยู่ที่เธอ ตอนที่เห็นฉากนี้ ทุกคนล้วนตะลึง

ช่วงนี้ดูเหมือนว่านักแสดงหญิงจากหัวเซี่ยที่มีชื่อเสียงขึ้นมาบ้างคนนี้เหมือนจะเข้าหาเชี่ยซ่าเหลย ผู้กำกับคนนี้ไม่ใช่คนที่เข้าหาได้ง่าย เพราะชื่อเสียงของเขา เขาคงจะชินกับการที่นักแสดงเข้ามาทักทายไปแล้ว

คนจำนวนมากถึงขั้นแอบรอคอยพร้อมชมท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเจียงเซ่อตอนที่เชี่ยซ่าเหลย ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย และหากข่าวนี้ถูกกระจายออกไปก็คงจะเป็นข่าวใหญ่อีกข่าวหนึ่งเลยทีเดียว

ความคิดเหล่านี้ของคนรอบข้าง ถูกแสดงออกมาจากเสียงซุบซิบของพวกเขา มีคนจำนวนหนึ่งถึงขั้นหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา และเตรียมจะถ่ายรูปในสถานที่นี้โดยไม่สนใจกฎระเบียบ

โม่อานฉีก็เริ่มเหงื่อออกที่มือด้วยความตื่นเต้น ข้อความที่เจียงเซ่อส่งให้เชี่ยซ่าเหลยเหมือนจมทะเลไป ถึงตอนนี้ยังไม่มีการตอบกลับ นี่ไม่ใช่เรื่องดีแน่

แต่วันนี้เจียงเซ่อกลับมาหาเชี่ยซ่าเหลยถึงที่นี่ โดยไม่ผ่านการพูดคุยกันส่วนตัว ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่จ้องอยู่ และยังมีนักข่าวไม่น้อยด้วย โม่อานฉีเหงื่อตกแทนเจียงเซ่อ แต่เธอกลับเดินเข้าไปอย่างกล้าหาญ

“ไฮ เชี่ยซ่าเหลย”

ตอนที่เจียงเซ่อเดินเข้าไป ผู้ช่วยของเชี่ยซ่าเหลยไม่ได้เข้ามาขวางเธอไว้ บางทีอาจเพราะที่นั่งในโรงหนังไม่เอื้อต่อการขยับตัว

เถาเฉินนั่งอยู่ข้างเชี่ยซ่าเหลย บนใบหน้าแฝงรอยยิ้ม ตอนที่เจียงเซ่อเดินเข้ามาทักทายเชี่ยซ่าเหลย ทั้งสองพยักหน้าพร้อมยิ้มให้กันทีหนึ่ง แล้วเธอก็พยายามเก็บขา

เชี่ยซ่าเหลยหยุดการพูดคุยกับทีมงานที่นั่งอยู่ข้างๆ แล้วหันมองเจียงเซ่อ

สาวชาวหัวเซี่ยคนนี้มีความกล้าที่เกินกว่าปกติ เขารู้ว่าช่วงนี้เธอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง แต่ทว่า ตอนที่เธอเดินเข้ามาทักทายตนเอง กลับเดินเข้ามาอย่างเปิดเผย เหมือนไม่กลัวว่าจะถูกนักข่าวล้อเลียนหรือหัวเราะเยาะเลยแม้แต่น้อย

ตอนแรกคิดว่าการไม่สนใจข้อความเมื่อคืนนี้ของเธอ เธอคงจะไม่กล้าเข้ามาทักทายตนเองก่อน แต่เธอก็ยังคงกล้าเข้ามา

เชี่ยซ่าเหลยอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาเหมือนกับจะได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนที่อยู่รอบๆ เจียงเซ่อยื่นมือออกไปและมองเขาด้วยรอยยิ้ม ท่าทางสงบนิ่งแบบนั้น เหมือนลืมความรู้สึกอึดอัดที่ในตอนแรกเขาจะให้เธอแสดงเรื่อง ‘The Lost City’ แต่สุดท้ายกลับต้องเปลี่ยนคนไปจนหมด

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ในขณะที่ทุกคนเริ่มแอบหัวเราะเยาะเจียงเซ่อ เชี่ยซ่าเหลยก็ยื่นมือออกไปแล้วจับมือของเจียงเซ่อ พร้อมลุกขึ้นยืนแล้วกอดเธออย่างเป็นกันเอง เพื่อเป็นการแสดงมารยาทต่อกัน

“เจียง ดีใจจังที่ได้พบคุณ”

ปฏิกิริยาแบบนั้นของเขา ทำให้ใบหน้าของนักข่าวแฝงความแปลกใจ ในโรงหนัง มีเสียงแสดงถึงความตะลึงดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย

เถาเฉินที่นั่งอยู่ข้างๆ รักษารอยยิ้มบนใบหน้าเอาไว้ มือที่วางอยู่บนตักกลับกำแน่นพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย

คิดไม่ถึงว่า หลังจากผ่านเรื่องที่การประชุมลับของเชี่ยซ่าเหลยและเจียงเซ่อถูกเปิดเผยในตอนนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างเชี่ยซ่าเหลยและเจียงเซ่อยังคงสนิทกันถึงขนาดนี้

เธอและเชี่ยซ่าเหลยเคยร่วมงานกันในเรื่อง ‘The Lost City’ แต่ตอนที่พบกันที่เทศกาลหนังฝรั่งเศส เชี่ยซ่าเหลยเพียงยิ้มและจับมือกับเธอ พูดคุยกันตามมารยาทเท่านั้น แต่ตอนนี้ที่เชี่ยซ่าเหลยพบกับเจียงเซ่อ กลับเป็นกันเองมากขนาดนี้ ซึ่งเหนือความคาดหมายของเถาเฉินเป็นอย่างมาก ทำให้เธอต้องประเมินความสัมพันธ์ระหว่างเจียงเซ่อและเชี่ยซ่าเหลยใหม่อีกครั้ง