บทที่ 461 เสียงฮือฮา
ข่งชิงฉีอุทานออกมาในทันที “อ๊า!”
ในห้องรับแขก ลู่ซินที่กำลังเทน้ำดื่มไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ข่งชิงฉีเงยหน้าขึ้น
“ใน ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ เล่มนี้ มีบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับ ‘Evil’!”
ลู่ซินวางแก้วในมือลงทันทีและเดินเข้าไปอยู่ข้างๆ ข่งชิงฉี!
ในนิตยสาร สายตาของทั้งสองหยุดอยู่ที่รูปของเจียงเซ่อ ชุดเดรสเปิดไหล่ลายลูกไม้สีฟ้าอ่อนห่อหุ้มร่างกายที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งได้รูปของเธอ ผมสีดำยาวของเธอถูกปล่อยไว้กลางหลัง เผยให้เห็นใบหน้าที่ไม่ว่าจะแต่งหน้าเข้มหรืออ่อนก็ยังคงงดงาม ดวงตาคู่ใสของเธอ แม้ว่าอยู่ในหน้านิตยสารก็ยังสามารถดึงดูดสายตาจากคนดูได้
ชุดเดรสลายลูกไม้เลื่อมไม่เหมาะกับสาวๆ อยู่แล้ว สำหรับผู้หญิงจำนวนมากแล้ว คนที่ชอบชุดลูกไม้แบบนี้ ส่วนมากจะเป็นผู้หญิงที่มีอายุ
แต่เจียงเซ่อนำเสนอความงามของตนเองผ่านชุดเดรสลายลูกไม้นี้ สีฟ้าอ่อนนั่นทำให้ผิวของเธอขาวราวกับหิมะ ไหล่งามที่เผยให้เห็นอยู่บ้าง ยิ่งทำให้ดูสวยเป็นพิเศษ
ลู่ซินเห็นรูปนี้ ก็อุทานอย่างกลั้นไม่อยู่
“ฉันนึกถึงคำวิจารณ์ที่ซูเพ่ยเอินเขียนออกมา เหมือนกำลังอ่านเรื่องตลกอยู่งั้นแหละ” เธอยื่นมือออกไปลูบใบหน้าของเจียงเซ่อ บนนิตยสาร “ซูเพ่ยเอินบอกว่า ในเรื่อง ‘Evil’ เจียงเซ่อไม่ได้ใช้ความสวย แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจจากเขาได้คือฝีมือการแสดง แต่ตอนที่เห็นรูปนี้ของเจียงเซ่อ ฉันคิดว่า ขนาดผู้หญิงอย่างฉันยังถูกใบหน้าของเธอดึงดูดเลย เพราะงั้นการที่อาจารย์ซูจะกลายเป็นแฟนคลับของเธอก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร”
ในนิตยสาร ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ หน้านี้พูดถึงเจียงเซ่อทั้งหน้า นิตยสารเกี่ยวกับหนังของต่างชาติเล่มนี้แนะนำหญิงงามคนหนึ่งที่มาจากจีน รวมทั้งข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเธอและอื่นๆ
ข้อมูลเหล่านี้ข่งชิงฉีและลู่ซินรู้อยู่แล้ว แม้ว่าก่อนหน้านี้จะไม่รู้จักเจียงเซ่อดีนัก แต่พอ ‘Evil’ กลายเป็นประเด็นใหญ่ขึ้นมาแบบนี้ แน่นอนว่าต้องมีคนไปขุดข้อมูลเกี่ยวกับเจียงเซ่อขึ้นมา
ข่งชิงฉีเปิดไปอีกหนึ่งหน้า ตอนแรกลู่ซินอยากจะเยาะเย้ยอีกสักหน่อย แต่ใครจะรู้ว่าหน้าถัดไป นิตยสาร ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ นอกจากจะลงรูปของหลิวเย่แล้ว ยังมีการแนะนำเนื้อเรื่องของ ‘Evil’ ประมาณครึ่งหน้า
บทความแนะนำเนื้อเรื่องหน้านี้ เมื่อเทียบกับบทวิจารณ์ที่สั้นๆ ไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องในบทวิจารณ์แล้วดูละเอียดกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ตัวหนังสือบรรทัดแรก นักข่าวของ ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ ยกย่องว่าหนังเรื่องนี้ ‘สามารถเป็นหนึ่งในร้อยของผลงานคลาสสิกระดับโลกได้’ คำพูดแบบนี้ เหนือความคาดหมายของผู้หญิงทั้งสองอย่างเห็นได้ชัด!
นี่เป็นนิตยสารที่มีค่อนข้างเป็นทางการเล่มหนึ่ง ไม่ได้ใช้คำพูดยั่วยุเพื่อดึงดูดความสนใจและไม่สร้างกระแสเพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อของผู้คน
นักข่าวที่เขียนบทความนี้ ใช้คำศัพท์เฉพาะทาง ในการวิจารณ์หนังเรื่อง ‘Evil’ ตั้งแต่แสง มุม การตัดต่อ แล้วจึงพูดถึงบทและประเด็นของหนัง
และยกประเด็นเรื่องฝีมือการแสดงของนักแสดงนำทั้งสองออกมา ชื่นชมว่าทั้งสองเป็น ‘คู่หูที่เหมาะสมกันมากที่สุด’ ยอมรับว่าทั้งสองมีฝีมือการแสดงที่ไม่แพ้ดาราฮอลลีวูดเลย
ข่งชิงฉีและลู่ซินยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจ หากในหัวเซี่ย บทวิจารณ์ที่ซูเพ่ยเอินเขียนขึ้น และคำชื่นชมที่มีต่อ ‘Evil’ มาจากความลำเอียงเพราะเขาชื่นชมเจียงเซ่ออย่างที่ชาวเน็ตกล่าวหาจริงๆ ถ้าอย่างนั้น นักข่าวที่เขียนบทความนี้ใน ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเจียงเซ่อเลย เพราะอะไรถึงเขียนออกมาแบบนี้
แต่ทั้งบทความนี้ การยืนยันของนักข่าวที่เขียนบทความนั้นมันท่วมท้นออกมาอย่างเห็นได้ชัด ข่งชิงฉีอดไม่ได้จึงเปิดหน้าต่อไป ลู่ซินพูดอย่างอดไม่ได้ว่า
“ฉันยังอ่านไม่จบ...” คำว่า ‘นะ’ ยังไม่ทันออกจากปากของเธอ วินาทีต่อมา เธอก็เห็นว่าในหน้าถัดไป ภาพของในหน้าจอของ ‘Evil’ ถูกย่อส่วนอยู่ในนิตยสารหน้านี้
ภาพโฆษณาของหนังที่นักข่าวผู้เขียนบทความใช้ เป็นภาพที่ฉากที่จางยวี่ฉินที่แสดงโดยเจียงเซ่อสงสัยว่าลั่วเซิ่นที่แสดงโดยหลิวเย่เป็นฆาตกร และเป็นครั้งแรกที่นักแสดงนำหญิงและชายเจอกันในร้านเย็บผ้าของลั่วเซิ่น
ในร้านที่มืดครึ้ม หลิวเย่สูบบุหรี่ ท่าทางราวกับยิ้มและไม่ยิ้มในขณะเดียวกัน เจียงเซ่อมัดผมหางม้า ผมหลุดลุ่ยลงจากหน้าผากสองกระจุก สวมเสื้อสูทผู้หญิงสีดำตัวหลวมและสบตากับเขา
อีกฝ่ายที่สบตากับเขา แม้จะปรากฏอยู่ในนิตยสารโดยบังเอิญ แต่ก็ดูมีพลังมาก บรรยากาศการเผชิญหน้าของนักแสดงหญิงและชายสะท้อนสู่สายตาของผู้ชมทั้งสองผ่านหน้ากระดาษ
“นี่มัน นี่มันเจียงเซ่อไม่ใช่เหรอ”
ก่อนหน้านี้ลู่ซินยังหัวเราะเยาะว่า ‘ซูเพ่ยเอินเองก็มีช่วงที่สายตาพร่ามัว’ อยู่เลย แต่ตอนที่เห็นเจียงเซ่อ กลับเบิกตาโตและอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
รูปในนิตยสารรูปนี้ของเจียงเซ่อกับผู้หญิงในชุดเดรสสีฟ้าอ่อนลายลูกไม้ก่อนหน้านี้เหมือนเป็นคนละคนกันเลย คนหนึ่งดั่งวิญญาณ อีกคนราวกับนางฟ้า บุคลิกที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิงทั้งสองนี้ จะเกิดขึ้นในตัวของคนๆ เดียวกันได้อย่างไร
ลู่ซินถึงขั้นทนไม่ได้ที่จะเปิดดูรูปของเจียงเซ่อที่นิตยสาร ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ ถ่ายกับเธอในหน้าก่อนหน้านี้ ในรูปเธอมีเสน่ห์และชวนหลงใหล แต่พอเธอเปิดกลับไปหน้าถัดจากหน้านั้นอีกครั้ง ในรูปของจางยวี่ฉิน แก้มทั้งสองของเจียงเซ่อผอมจนซูบ ความรู้สึกที่ดวงตาคู่นั้นสื่อออกมากลับทำให้ขนลุกไปทั้งตัว
ก่อนหน้านี้ หากผู้หญิงทั้งสองบอกว่าสงสัยที่ซูเพ่ยเอินเคยพูดว่า ‘ในเรื่อง ‘Evil’ เจียงเซ่อไม่ได้ดึงดูดความสนใจว่าเขาเพราะความสวย’ ตอนนี้ก็คงจะไม่มีอะไรให้สงสัยอีกแล้ว
รูปจากหนัง เจียงเซ่อไม่เหลือความสวยให้พูดถึงเลยแม้แต่น้อย ไม่เพียงแค่เธอ แม้กระทั่งหลิวเย่เองก็ทำลายความสง่าของตนเองไปจนหมดสิ้น
ผู้หญิงทั้งสองเหมือนพบทางสว่าง ในหนังเรื่อง ‘Evil’ ยังไม่เข้าฉายในประเทศ ก่อนฉายจ้างร่างเองก็เก็บทุกอย่างไว้เป็นความลับ กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นจากผู้คน
ภาพจากหนังที่นิตยสาร ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ เปิดเผยออกมา คนจีนจำนวนมากคงจะยังไม่เห็น อย่างไรก็ตามนิตยสารเฉพาะทางที่น่าเบื่อแบบนี้ หากไม่ใช่เพราะข่งชิงฉีหยิบติดรถเข็นมาด้วย บางทีเธอเองก็ไม่ซื้อ แต่ข้างในกลับเปิดเผยภาพจากหนัง ‘Evil’ เอาไว้ หากข้อมูลถูกกระจายออกไป ในประเทศคงจะเกิดความฮือฮาและความสงสัยได้เป็นอย่างมาก
ในคืนนั้นเอง ในทวิตเตอร์ ชาวเน็ตสาวที่ใช้ชื่อว่า ‘พี่รองข่ง’ ได้โพสต์ข้อความว่า : เพื่อนๆ ที่อยู่อเมริกาได้ซื้อนิตยสาร ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ เล่มนี้หรือเปล่า ไม่คิดว่าข้างในจะเปิดเผยบทสัมภาษณ์และภาพจากหนัง ’Evil’ การวิจารณ์ของอาจารย์ซูในวันนั้นยังถือว่าน้อยเกินไปด้วยซ้ำ ตอนเห็นภาพจากหนัง บอกเลยว่าตกใจมาก! มีภาพประกอบเป็นหลักฐาน!
ภายในข้อความนี้ ‘พี่รองข่ง’ ท่านนี้ได้แนบรูปภาพเอาไว้สี่ภาพ มีสองภาพเป็นภาพเดี่ยวของนักแสดงนำหญิงและชายในเรื่อง และภาพจากหนัง ‘Evil’ อีกหนึ่งภาพ รวมทั้งสัมภาษณ์ความรู้สึกหลังการดูหนังเรื่อง ‘Evil’ ของนักข่าว ที่ได้ถูกแปลเป็นภาษาจีนอย่างรอบคอบ
ทันทีที่ข้อความถูกโพสต์ออกไป เพราะคำว่า ‘Evil’ กำลังเป็นที่ติดตามและพูดถึงมากที่สุด ทำให้ดึงดูดความสนใจจากผู้คนที่กำลังเฝ้าติดตามได้อย่างรวดเร็ว
ในวินาทีที่เห็นภาพจาหนัง คนที่เคยมีข้อข้องใจเกี่ยวกับคำพูดของซูเพ่ยเอิน ก็เป็นเหมือนกับตอนที่ลู่ซินและข่งชิงฉีเห็นภาพเป็นครั้งแรก ไม่กล่าวหาว่า ‘ซูเพ่ยเอินพูดจามั่วซั่ว’ อีก
ในขณะเดียวกัน คนจีนจำนวนไม่น้อยในอเมริกาที่ติดตาม ‘Evil’ ก็เริ่มซื้อนิตยสารที่ในตอนแรกควรจะดึงดูดความสนใจเฉพาะคนในสายอาชีพเดียวกันเท่านั้นมา