460

บทที่ 460 สังเกต

ข่งชิงฉีเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่มาอาศัยอยู่อเมริกาตั้งแต่จบมัธยมปลาย อยู่ที่วอชิงตัน ดี.ซี. มาร่วมสามปีแล้ว

เธอยังเป็นนักศึกษา เช่าห้องอยู่กับผู้หญิงอีกสองคนที่มาจากประเทศจีนเช่นเดียวกัน ช่วงนี้มักจะยุ่งอยู่กับการเรียน อาหารและของใช้ในบ้านก็จะหมดแล้ว จึงขับรถออกมาเตรียมจะซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน อาหารรวมถึงของใช้จำเป็นอื่นๆ เพื่อดำรงชีวิตในช่วงเวลาอันแสนยุ่งต่อจากนี้

ข่งชิงฉีไม่สังเกตเลยว่าในรถเข็นของเธอมีของที่ในตอนแรกที่ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อเพิ่มเข้ามาชิ้นหนึ่ง หลังจากกลับถึงบ้าน ในขณะที่เธอจัดของที่ซื้อมาในครั้งนี้ รูมเมทของเธอที่ชื่อลู่ซินเดินผ่านห้องรับแขก เห็นบนพื้นมีของกองหนึ่ง แต่กลับถูกหน้าปกของหนังสือเล่มหนึ่งดึงดูดความสนใจเอาไว้ นั่นเป็นนิตยสารหน้าปกดาราฮอลลีวูดชายที่มีชื่อเสียงโด่งดังในตอนนี้อย่างเลสเตอร์ เบิร์ชจึงเกิดแปลกใจขึ้นมา

“ชิงฉี” เธอเรียกชื่อของข่งชิงฉี “เธออ่านนิตยสารเกี่ยวกับหนังอยู่เหรอ”

บนนิตยสารใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษเขียนไว้ว่า ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ เป็นชื่ออันมีเอกลักษณ์ของนิตยสารฉบับนี้ ใบหน้าของเลสเตอร์ดูภูมิฐานและน่าหลงใหลเป็นพิเศษ

นิตยสารยังไม่ได้ถูกแกะออกมา บนหน้าปกพูดถึงเทศกาลหนังฝรั่งเศสที่เพิ่งเริ่มเมื่อหลายวันก่อน และแนะนำหนังหลายเรื่องของอเมริกาที่เข้าร่วมเทศกาลหนัง

ขณะที่ข่งชิงฉีเห็นนิตยสารเล่มนี้ ใบหน้าก็พลันเผยความแปลกใจ

เธอใส่เสื้อกล้ามตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งกับกระโปรงสั้นสีขาว ขาอันเรียวยาวเผยอยู่ข้างนอก เธออายุยังน้อย สำหรับนิตยสารที่ค่อนข้างเฉพาะทางอย่าง ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ เธอไม่ได้สนใจนัก หญิงสาวอายุอย่างเธอ แน่นอนว่าชอบนิตยสารแนะนำการแต่งหน้า ทรงผมแฟชั่นและแฟชั่นเสื้อผ้าเสียมากกว่า เธอจำได้รางๆ ว่า ตอนที่เธอเดินอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ต เธอได้ไปหยุดอยู่หน้าโซนนิตยสารจริงๆ แล้วก็หยิบหนังสือนิตยสารแฟชั่นเล่มหนึ่ง แต่ไม่ได้หยิบนิตยสารที่ออกแนวจริงจังอย่าง ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ มาด้วย ข่งชิงฉีคิดทบทวน

“น่าจะติดรถเข็นมาตอนซื้อของน่ะ”

เธอรับนิตยสารจากมือของลู่ซิน นิตยสารเล่มนี้ราคายี่สิบเอ็ดดอลล่า ไม่ถือว่าถูก ถ้าหากเธอเห็นในซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นไปไม่ได้ที่จะตั้งใจซื้อแน่นอน

ใบหน้าของข่งชิงฉีเผยความไม่ชอบใจ แต่ว่า ในรอบนี้ ใบหน้าของเลสเตอร์ถูกถ่ายอย่างมีมิติ ผมยาวสีทองเข้มถูกปล่อยไว้ข้างหลัง สวมชุดสูทเรียบ ๆ ดาราฮอลลีวูดชายที่มีชื่อเสียงโด่งดังคนนี้เคยเป็นพระเอกในหนังเรื่องหนึ่งที่ข่งชิงฉีเคยชอบ ซึ่งตอนนี้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในอเมริกา

นิตยสารเฉพาะทางแบบนี้แพงกว่านิตยสารธรรมดาอยู่แล้ว รวมทั้งในรอบนี้อาจจะตีพิมพ์ขึ้นเพื่อให้เข้ากับเทศกาลหนังฝรั่งเศสในปีนี้ เป็นเล่มที่หนามากและได้เชิญเลสเตอร์มาขึ้นปก เพราะฉะนั้น ราคาจึงสูงกว่าที่ข่งชิงฉีคิดเอาไว้

เธอไม่ได้สนใจนิตยสารแนวนี้มากนัก ถึงแม้ว่าดวงตาสีน้ำเงินคู่นั้นของเลสเตอร์จะลึกซึ้งและน่าหลงใหล แต่ข่งชิงฉีเพียงมองแค่แวบหนึ่ง แล้วตัดสินใจจะเอานิตยสารไปคืนที่ซูเปอร์มาร์เก็ต

แต่ทว่า การมองที่ไม่ได้ตั้งใจนี้ กลับทำให้เธอเห็นตัวหนังสือภาษาอังกฤษตัวเล็กๆ บรรทัดหนึ่ง ท้ายรูปของเลสเตอร์

ตัวหนังสือบรรทัดนั้นอยู่ใต้สูทสีเทาของเลสเตอร์ ไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่ว่า เมื่อแปลแล้วมีความหมายว่า ‘หัวเซี่ย’ จึงดึงดูดความสนใจจากข่งชิงฉีได้ในทันที

เธอจึงหยิบนิตยสารที่ในตอนแรกเตรียมจะวางขึ้นมาอีกหนแล้วอ่านมันอย่างละเอียด ส่วนข้างบนเขียนไว้ว่า ‘หนังจีนที่ควรแก่การวิเคราะห์เรื่องหนึ่ง คาดว่าจะเป็นคู่แข่งอันดับหนึ่งในเทศกาลหนังฝรั่งเศสของ Spacey’

คำพูดนี้ดึงดูดความสนใจจากข่งชิงฉีได้อย่างง่ายดาย

Spacey ถือเป็นบุคคลในตำนานของหนังอเมริกา เขาจบด้านภาพยนตร์จากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย อดีตหัวหน้าฝ่ายเทคนิคซีจีของหนังฮอลลีวูดที่ทำรายได้สูงหลายเรื่อง จากนั้นก็ไปเป็นผู้กำกับครั้งแรกของหนังแนวผจญภัยที่ลงทุนโดยบริษัทฮว๋านเต่าซึ่งได้รับคำชื่นชมมากมาย ความสำเร็จของหนังเรื่องนี้ ทำให้ Spacey กลายเป็นผู้กำกับคนแรกในประวัติศาสตร์หนังอเมริกาที่สร้างรายได้มากกว่าสองร้อยล้านดอลล่าร์และความโด่งดังของเขาก็มากขึ้นเรื่อยๆ

จากนั้นเขาก็ได้กำกับหนังที่กระตุ้นเศรษฐกิจหลายเรื่องที่มีคุณภาพและมีผู้ชมนั่งเต็มโรงหนังอย่างล้นหลามและเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่มีชื่อเสียงของอเมริกา

ปีนี้เขามีผลงานใหม่และเข้าร่วมเทศกาลหนังฝรั่ง แฟนคลับจำนวนมากของ Spacey ล้วนคิดว่าเขามีความสามารถมากพอที่จะได้รับรางวัลในเทศกาลหนังฝรั่งเศส แต่ตอนนี้ หน้าปกนิตยสาร ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ เรื่องนี้กลับชี้ว่า คู่แข่งขันของเขาเป็นผู้กำกับจาก ‘หัวเซี่ย’ ข่งชิงฉีจึงแปลกใจขึ้นมาทันที

ผู้กำกับที่มีชื่อเสียงของหัวเซี่ยมีไม่น้อย แต่ที่โด่งดังไปถึงต่างประเทศมีไม่มาก ได้ชื่อว่าเป็นคนจีน แน่นอนว่าข่งชิงฉีก็ติดตามข่าวในประเทศของตนเองอยู่บ้าง

สามารถเป็นคู่แข่งอันดับหนึ่งของ Spacey ได้ เธอคิดว่าน่าจะเป็นผู้กำกับยอดเยี่ยมอย่างจางจิ้งอาน

แต่ทว่า หลังจากที่ ‘ปฎิบัติการผู้พิทักษ์’ เข้าฉาย จางจิ้งอานก็ไม่โปรโมทหนังเรื่องใหม่อีกเลย และผลงานชิ้นใหม่ของเขามีข่าวว่าเข้าสู่ขั้นตอนของการถ่ายทำเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งพระเอกก็คือเทพบุตรของเธอ หลิวเย่ที่ร่วมงานกับนักแสดงหญิงที่โด่งดังที่สุดในตอนนี้อย่างเจียงเซ่อเป็นครั้งที่สอง

แม้ว่าหนังของจางจิ้งอานจะเข้าชิงก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าร่วมตอนนี้ เพราะนับเวลาแล้วมันไม่ตรงกัน

นอกจากจางจิ้งอานแล้ว ยังจะมีใครอีก หรือจะเป็น ‘The Incident’ ที่เถาเฉินเป็นนักแสดงนำ

เพราะความสงสัย ข่งชิงฉีไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้แกะนิตยสารเล่มนี้ได้และเปิดมันออกมาอย่างทนรอไม่ไหวอีกต่อไป เธอเปิดหาไม่นานมากนักก็เจอเนื้อข่าวที่บนหน้าปกเขียนด้วยตัวหนังสือเล็กๆ ว่า ‘สามารถเป็นคู่แข่งอันดับหนึ่งของ Spacey ได้’ และทำให้ข่งชิงฉีอุทานอย่างตกใจ นี่เป็นบทสัมภาษณ์ที่เกี่ยวข้องกับหนังเรื่องใหม่ของจ้าวร่างเรื่อง 'Evil'

ในนิตยสาร เจียงเซ่อสวมเดรสยาวสีฟ้าอ่อนลายลูกไม้เลื่อมโชว์ไหล่ งดงามจนไม่สามารถสรรหาคำใดมาเปรียบได้ ข่งชิงฉีคุ้นชินกับความงดงามสไตล์ยุโรปบนหน้าปกนิตยสารมานานแล้ว แต่ตอนที่เห็นเจียงเซ่อก็ยังคงทำให้ข่งชิงฉีอดสูดลมหายใจเข้าด้วยความตกตะลึงไม่ได้อยู่ดี!

สำหรับ 'Evil' ตอนนี้ในหัวเซี่ยอาจจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักหนังเรื่องนี้

แม้ข่งชิงฉีจะไม่อยู่ในประเทศ แต่เพื่อนเก่าและญาติๆ มักจะบอกเล่าข่าวพวกนี้กับเธอเสมอ

อีกประการหนึ่ง ตอนนี้ระบบอินเทอร์เน็ตนั้นแพร่หลาย เธอเล่นอินเทอร์เน็ตทุกวัน สามารถอัพเดตข่าวใหม่ของประเทศตนเองได้และพอดีกับที่ตอนนี้ข่าวที่ใหญ่ที่สุดในหัวเซี่ย คือความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเพราะหนังเรื่อง 'Evil' ที่กำกับโดยจ้าวร่างพอดี!

การเปิดตัวของทีมงานในเรื่อง 'Evil' ในเทศกาลหนังฝรั่งเศส ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในประเทศเพราะข่าวจากนักข่าวสำนักข่าวหลงสิงที่จุดประเด็นเกี่ยวกับข่าวที่ซูเพ่ยเอินแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ 'Evil' และ ‘The Incident’ โดยที่ทีมงานและนักแสดงนำทั้งสองไม่มีใครออกมาโต้ตอบในอินเทอร์เน็ตเลยแม้แต่คนเดียว

แม้ว่าเพจของเจียงเซ่อและหลิวเย่จะถูกชาวเน็ตที่รอคอยคำตอบอย่างใจร้อนถล่มจนเว็บล่ม การวิจารณ์ในเพจ ‘สือไต้ผิงซัว’ ของซูเพ่ยเอินยิ่งทำให้ความสงสัยเกี่ยวกับ 'Evil' ของผู้ชมมากจนถึงขีดสุด แต่ทีมงานทุกคนของ 'Evil' กลับยังอุบเงียบ แม้ว่าในอินเทอร์เน็ตจะมีคนด่าจ้าวร่างว่า ‘จงใจสร้างข่าวเท็จ’ และคิดว่าการวิจารณ์ในวันนั้นของซูเพ่ยเอินเป็นเพราะเขาแก่จนตาพร่ามัว แล้วยังผิดเพี้ยนไปจากนิสัยปกติของตัวเขาเองด้วย

เรื่องนี้สร้างความวุ่นวายมากถึงเพียงนี้และเพราะว่าเกี่ยวข้องกับหลิวเย่ ความจริงแล้วช่วงนี้ ข่งชิงฉีก็กำลังตามข่าวนี้อยู่ ตอนที่เพื่อนเก่าสมัยเรียน รวมทั้งเพื่อนๆ ที่สนิทกันพูดคุยกับเธอ ล้วนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่อง 'Evil' ที่แตกต่างกันออกไป

มีทั้งคนสงสัยและมีคนสนับสนุน แน่นอนว่ามีคนที่ชื่นชมเถาเฉินย่อมไม่เห็นด้วยแน่นอน

แต่ว่า ข่งชิงฉีกลับคิดไม่ถึงว่า หนังเรื่อง 'Evil' ที่ในประเทศไม่เปิดเผยรายละเอียดเลยแม้แต่น้อย จะถูกพูดถึงในนิตยสารเฉพาะทางเจ้านี้ของอเมริกา