459

บทที่ 459 ก่อให้เกิด

ทุกคนล้วนรู้ดีว่า ซูเพ่ยเอินไม่เคยเป็นแฟนคลับใคร เขาทำอาชีพเกี่ยวกับหนังมานานหลายปี มักได้พบเจอกับทั้งนักแสดงและผู้กำกับ ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าเขาขอลายเซ็นหรือขอถ่ายรูปกับดาราคนไหน

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า การที่เขาโพสต์ภาพโปสเตอร์และลายเซ็นของเจียงเซ่อและหลิวเย่จะสร้างความฮือฮาได้มากขนาดไหน

‘เพราะพรหมลิขิตระหว่างตัวฉันกับ 'Evil' ต้องเกริ่นตั้งแต่การหลงทางโดยไม่ได้ตั้งใจ แม้จะเคยมาโรงหนังของเทศกาลหนังหลายครั้งแล้ว แต่โรงหนังที่ซับซ้อนนั้นก็เป็นปัญหาที่ทำให้ฉันปวดหัวอยู่ทุกปี จากแผนเดิม คือเตรียมจะเริ่มจากหนังเรื่อง ‘The Incident’ ของเพื่อนเก่าอย่างหนิงจ้านผิง แต่ระหว่างทางหาโรงหนัง กลับไปเจอกับ 'Evil' โดยไม่ได้ตั้งใจ

ในบทวิจารณ์ของซูเพ่ยเอิน พูดถึงเหตุผลที่ตัวเองต้องดูหนังเรื่อง 'Evil' ก่อน

เรื่องนี้ จริงแล้วเขาควรจะเป็นผู้เสียหาย เพราะข่าวจากสำนักข่าวหลงสิง ทำให้นักวิจารณ์หนังคนหนึ่งต้องกลายเป็นประเด็น ที่จริงแล้วเขาสามารถไม่ยุ่งเกี่ยวและออกมาลบล้างข่าวลือและไม่เข้าข้างการแย่งชิงของแฟนคลับของทั้งสองฝ่าย โดยทำเหมือนไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองก็ได้

แต่เขากลับไม่เดินตามหมากที่วางเอาไว้ ทว่ากลับอดทนต่อข่าวในอินเทอร์เน็ต ยังยืนยันที่จะแสดงความคิดเห็นของตนเองออกมา

‘จ้าวร่างซ่อน 'Evil' เอาไว้เกือบสามปี นับตั้งแต่ตอนที่ข่าวการร่วมงานระหว่างหลิวเย่และเจียงเซ่อถูกกระจายออกไป การถ่ายทำก็เป็นความลับ ไม่เคยเปิดเผยการฟิตติ้งเสื้อผ้าหน้าผม ตอนแรกที่เห็น 'Evil' จริงๆ แล้วฉันไม่ได้ชื่นชมหนังเรื่องนี้ นอกจากหลิวเย่ที่มีชื่อเสียงแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเจียงเซ่อก็เป็นเด็กใหม่ เมื่อทั้งสองมาร่วมงานกัน ฉันคิดว่าความคิดของทุกคนก็ไม่ต่างกับฉัน คือเจียงเซ่อจะถูกหลิวเย่กดหรือไม่’

‘ฉันเดินเข้าโรงที่ฉายเรื่อง 'Evil' พร้อมคำถามเหล่านี้’

‘เรื่องราวของ 'Evil' ที่จ้าวร่างเก็บเอาไว้ไม่ได้ซับซ้อน ผู้หญิงที่จมอยู่กับชีวิตการแต่งงานที่นิ่งสงบดั่งสายน้ำ วันหนึ่งเพราะการหายตัวไปของลูกสาว ทำให้การใช้ชีวิตของเธอมันปั่นป่วนไปหมด แต่สิ่งที่ทำให้ฉันทึ่ง คือฝีมือการแสดงของเจียงเซ่อ’

‘เธอเป็นนักแสดงหญิงคนหนึ่งที่โดนดูถูก การพัฒนาของเธอเป็นไปอย่างน่าตกใจ แล้วก็มีความสามารถมากพอที่จะต่อบทกับหลิวเย่ได้’

‘วันหนึ่งคนที่สงสัยในความสามารถของเธอกลับพบว่า สิ่งที่ดึงดูดผู้ชมกลับไม่ใช่ใบหน้าของเธอ แต่เป็นฝีมือการแสดงของเธอ แน่นอนว่าหากมีอคติเหล่านี้ก็ไม่สามารถเปิดใจได้’

เมื่อไม่สามารถเปิดเผยเรื่องราวของหนังเรื่อง 'Evil' ซูเพ่ยเอินจึงวิเคราะห์หนังเรื่องนี้จากนักแสดงนำทั้งชายและหญิง เขาแสดงออกว่าตนเองคิดว่าหนังเรื่อง 'Evil' จะได้รับรางวัล แต่กลับไม่ได้พูดถึง ‘The Incident’

ในขณะที่ชาวเน็ตเห็นการอัพเดตของเขา แม้แฟนคลับของหลิวเย่และเจียงเซ่อเองจะมีความคิดเห็นและข้อสงสัยที่ว่า ‘ไม่รู้ว่าเจียงเซ่อจะสามารถร่วมงานกับหลิวเย่ได้อย่างราบรื่นโดยไม่ทำให้เขาลำบากหรือไม่’ แต่หลังจากที่ซูเพ่ยเอินบอกว่า 'Evil' เป็นหนังที่มีคุณภาพและคิดว่าหลิวเย่อาจจะได้รับรางวัลเพราะหนังเรื่องนี้ แฟนคลับจำนวนไม่น้อยของหลิวเย่ก็ล้วนเผยความดีใจออกมา

แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนสงสัยหลายประเด็นที่ซูเพ่ยเอินพูดถึง

แม้ตอนนี้ที่หัวเซี่ยจะยังเป็นตอนเช้าตรู่อยู่ แต่หน้าหลักสือไต้ผิงซัวของซูเพ่ยเอินยังคงมีคนแย่งกันแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

เดินจับมือไปด้วยกัน : สำหรับความคิดเห็นของอาจารย์ซู ฉันมีข้อสงสัยมากมาย ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องความยุติธรรม เพียงแค่ที่อาจารย์บอกว่า ใน 'Evil' สิ่งที่เจียงเซ่อดึงดูดความสนใจจากทุกคนไม่ใช่ความสวยแต่เป็นฝีมือการแสดง ฉันขอเขียนเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ๆ เอาไว้หลังประโยคนี้ ฉันเป็นแฟนคลับของเถาเฉิน แม้โดยส่วนตัวฉันคิดว่าทั้งฝีมือการแสดงหรือในด้านไหนเถาเฉินก็เหนือกว่า แต่หากดูจากหน้าตา ฉันคิดว่าเจียงเซ่อสวยกว่า

ทุกคนล้วนรู้ดีว่า ที่เจียงเซ่อมีชื่อเสียงโด่งดังก็เพราะฉายา ‘หญิงสาวในฝัน’ จากหนังเรื่อง ‘99 Love Letter’ ของจ้าวร่าง นักแสดงหญิงที่โด่งดังเพราะความสวยแบบนี้ ตั้งแต่เข้าสู่วงการไม่ว่าจะแสดงหนังเรื่องไหนก็หนีไม่พ้นการขาย ‘ความสวย’ แต่ตอนนี้ ในบทวิจารณ์ของอาจารย์ซู กลับกลายเป็นว่าดึงดูดความสนใจได้เพราะ ‘ฝีมือการแสดง’ ไม่ใช่ ‘ความสวย’

ฉันทำได้เพียงแค่เน้นคำว่า ‘ฝีมือการแสดงเอาไว้’ และรอคอยการเข้าฉายของหนัง

ชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยเห็นด้วยกับความคิดเห็นนี้ แต่ก็มีคนจำนวนหนึ่งขอให้ซูเพ่ยเอินวิจารณ์หนังเรื่อง ‘The Incident’

แต่กลับไม่มีวี่แววที่ซูเพ่ยเอินอัพเดตบทวิจารณ์อีก แม้ว่าเขาไม่ยอมรับเรื่องข่าวจากสำนักข่าวหลงสิง แต่การการกระทำแบบนี้ก็เป็นการจงใจยอมรับว่า ‘The Incident’ สร้างความประทับใจให้กับเขาได้ไม่เท่า 'Evil'

อีกเจ็ดวันหนังเรื่อง ‘Evil’ ก็จะเข้าฉายในหัวเซี่ย เพราะเกิดเรื่องนี้ขึ้น จึงได้รับการจับตาจากผู้ชมเป็นอย่างมากตั้งแต่ยังไม่เข้าฉาย

นอกจากคำพูดของซูเพ่ยเอิน นอกจากจะทำให้คนจำนวนหนึ่งอยากดูและรอคอยหนังเรื่องนี้จริงๆ ก็ยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่อยากดูหนังเรื่อง ‘Evil’ ให้จบเพราะต้องการจับผิด และโต้เถียงกับซูเพ่ยเอิน ในขณะเดียวกันก็มีคนจำนวนน้อย ที่อยากไปดูเพราะซูเพ่ยเอินบอกว่าหนังเรื่องนี้จะได้รับรางวัลจากเทศกาลหนังต่างประเทศ

ในหัวเซี่ย กลุ่มของเนี่ยต้านที่จดทะเบียนและก่อตั้ง ‘หัวอิ่งมีเดีย’ ขึ้น ตอนนี้ก็กำลังโฆษณาหนังเรื่อง 'Evil'

เพราะคำพูดเหล่านั้น เนี่ยต้านเลยทำให้เรื่องนี้เป็นที่ฮือฮามากขึ้นเรื่อยๆ เพียงไม่กี่วัน ‘Evil’ ก็ถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความสามารถของพวกของเนี่ยต้าน และชื่อเสียงของประธานบริษัทซื่อจี้หยินเหออย่างลัวหยิ่น รอบหนังของเรื่อง ‘Evil’ ก็ได้เพิ่มขึ้นมากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ หนังยังไม่ทันเข้าฉาย รายได้ของตั๋วหนังที่เตรียมเอาไว้ก็กำลังจะถึงสี่ร้อยล้าน เพราะการวิจารณ์ที่มากขึ้น ทำให้ยอดจำหน่ายตั๋วยังคงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ไม่ว่าหนังจะถูกพูดถึงอย่างไร แต่จากการขายในตอนนี้ ‘Evil’ กำลังจะเป็นหนังอีกเรื่องที่เนี่ยต้านได้กำไรมหาศาลจากการลงทุน

ในเทศกาลหนังฝรั่งเศส หลังจากที่ฉายรอบแรกไปแล้ว หนังเรื่อง ‘Evil’ไม่เพียงแค่สร้างความฮือฮาในหัวเซี่ย แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสในต่างประเทศเช่นกัน

วันที่หนังฉายเป็นวันแรกในเทศกาลหนัง หลังจากที่นักข่าวจากนิตยสารของสื่ออเมริกา ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ หลายคนที่ในตอนแรกเตรียมจะเข้าไปหลับในโรงหนังได้ดู ‘Evil’ และสัมภาษณ์ทีมงานของหนังอย่างง่ายๆ ถ่ายรูปนักแสดงนำหญิงและชายรวมทั้งผู้จัดแล้ว ก็ได้ขอภาพตัวอย่างหนังจากฝ่ายภาพแล้วลงใน ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ ในเดือนนี้ และบอกอย่างชัดเจนเป็นพิเศษว่านี่เป็นหนังของหัวเซี่ย

ตอนที่นิตยสารในรอบนี้ เรื่อง ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ ตีพิมพ์ออกมา ก็ไม่ได้รับความสนใจจากผู้คนมากนัก

ในยุคนี้ที่โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์และเครื่องมืออื่นๆ ที่ใช้อินเทอร์เน็ตที่สามารถส่งสารได้รวดเร็วเข้ามาแทนที่หนังสือแบบเก่า อย่างนิตยสารเรื่อง ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ ก็ดึงดูดได้เพียงแค่กลุ่มคนจำนวนน้อยเท่านั้น

หลังจากที่นิตยสาร ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ รอบใหม่ตีพิมพ์ออกมาและในขณะที่ถูกส่งไปยังสถานที่ขายแต่ละที่โดยพนักงาน ทุกอย่างก็เป็นไปตามปกติ

ด้วยความที่เป็นสถานที่นิตยสารเจริญรุ่งเรืองมากที่สุด อเมริกามีนิตยสารเกือบสองหมื่นชนิด ซูเปอร์มาร์เก็ตร้านหนึ่งในวอชิงตัน ดี.ซี. นิตยสาร ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ ที่ภายนอกไม่ได้ดูสวยงาม แต่การออกแบบดึงดูดความสนใจวางอยู่ในชั้นวางนิตยสารอย่างสงบ

จนกระทั่งเด็กสาวชาวจีนคนหนึ่งที่ในตอนแรกอยากจะซื้อนิตยสารแฟชั่นการแต่งหน้า กลับหยิบหนังสือ ‘ว่าด้วยเรื่องของหนัง’ ติดมาในรถเข็นโดยไม่ได้ตั้งใจ และมีของจำนวนมากเข้ามากลบจนมิด เด็กสาวคนนี้ไม่รู้เลยการกระทำของตัวเองจะทำให้ได้ของอีกชิ้นที่อยู่นอกเหนือจากที่วางแผนไว้เพิ่มอีกหนึ่งชิ้น