webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

456

บทที่ 456 แฟนคลับ

ลองคิดทบทวนดูแล้ว สิ่งที่ผู้กำกับต้องการจะสื่อ ไม่เพียงแค่สิ่งที่เห็นในหนังเท่านั้น แต่ต้องการให้ผู้ชมกลับไปค่อยๆ สัมผัสอย่างละเอียด

เสียงปรบมือดังไม่หยุด เถาเถาถึงขั้นปรบมือด้วยความตื่นเต้นจนมือแดงไปหมด เทศกาลหนังที่ฝรั่งเศสไม่เคยเอาเปรียบหนังที่มีคุณภาพจริงๆ เสียงปรบมือถือเป็นการยืนยันที่ดีที่สุด

บางทีเทศกาลหนังที่ฝรั่งเศสในปีนี้ จ้าวร่างอาจจะใช้หนังเรื่อง 'Evil' เป็นตัวยืนยันความทะเยอทะยานและความสามารถของตนเอง เขาไม่เพียงแค่หยุดอยู่ในประเทศ แต่ยังสามารถก้าวสู่ระดับโลกได้

ซูเพ่ยเอินคิดว่าถ้าในเทศกาลปีนี้หนังเรื่อง 'Evil' จะได้รับรางวัลไปก็สมควรอยู่ หนังเรื่องนี้พิสูจน์ถึงธรรมชาติของมนุษย์ มีสิ่งที่สามารถวิจารณ์ได้อย่างลึกซึ้งมากมายและเป็นประเด็นที่คณะกรรมการเทศกาลหนังฝรั่งเศสชอบมากที่สุด

เพราะการเดินไปผิดทางแท้ๆ พอได้ดูไปส่วนหนึ่งก็ทำให้เขารู้สึกอยากจะดูต่อจนจบและยังทำให้เขารู้สึกว่ามันช่างเป็นผลงานที่ลึกซึ้ง ซูเพ่ยเอินรู้สึกอารมณ์ดีมากเป็นพิเศษอย่างเห็นได้ชัด

เสียงปรบมือในโรงหนังดังประมาณสิบห้านาที ตอนที่ซูเพ่ยเอินเดินออกมา หลิวเย่และเจียงเซ่อยังคงนั่งอยู่หน้าโรงหนัง นักข่าวต่างชาติหลายคงจะจำหน้านักแสดงนำทั้งสองได้ จึงมีท่าทางตื่นเต้นและอยากจะนัดนักแสดงนำทั้งสองเพื่อสัมภาษณ์

เจียงเซ่อและหลิวเย่ให้ความร่วมมือกับนักข่าวต่างชาติโดยการโพสต์ท่าให้พวกเขาถ่ายรูป ช่วงเวลาอันงดงามในโรงหนังถูกเสียงฮือฮาปลูกจนตื่นขึ้น ซูเพ่ยเอินถอนหายใจทีหนึ่ง จิตใจยังคงดื่มด่ำอยู่ในหนังเรื่อง 'Evil' เขายืนมองการสัมภาษณ์อย่างเรียบง่ายของเจียงเซ่อและหลิวเย่จนจบ แล้วนักข่าวต่างชาติก็เดินจากไปอย่างพออกพอใจ

หลิวเย่หันกลับมาเห็นซูเพ่ยเอิน ก็เรียกขึ้นอย่างแปลกใจ

“อาจารย์ซู”

หนังจบไปเกือบจะครึ่งชั่วโมงแล้ว ก่อนหน้านี้หลิวเย่และเจียงเซ่อถูกนักข่าวดึงความสนใจเอาไว้ คิดว่าซูเพ่ยเอินคงจะออกไปแล้วเสียอีก ไม่คิดว่านักวิจารณ์หนังผู้ถ่อมตัวท่านนี้จะยังหลบอยู่ในมุมมุมหนึ่ง ท่าทางเหมือนกำลังรอจะพูดอะไรกับทั้งสองคน

“หลิวเย่ หนังเรื่อง 'Evil' นี้ไม่เลวเลยจริงๆ นะ ตัวลั่วเซิ่นนี้แตกต่างจากบทที่เธอเคยเล่น เทศกาลหนังในปีนี้ ฉันชื่นชมหนังเรื่องนี้มาก และชื่นชมการแสดงของพวกเธอด้วยนะ”

ซูเพ่ยเอินเดินเข้าไปจับมือหลิวเย่และออกปากชื่นชมอย่างควบคุมตนเองไม่อยู่

คำชมนี้ซูเพ่ยเอินไม่ได้ทำเพื่อเอาใจ เขารู้สึกว่าหนังเรื่อง 'Evil' สนุกมากจริงๆ เป็นนักวิจารณ์หนังมาก็นานหลายปี วิสัยทัศน์ของเขามีความเป็นเอกลักษณ์และการตัดสินก็น่าทึ่ง

หลายปีที่ผ่านมานี้ หนังที่เข้าตาซูเพ่ยเอินมีน้อยมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการชมเชยแบบนี้เลย หนังเรื่อง ‘ปฎิบัติการผู้พิทักษ์’ ที่หลิวเย่และจางจิ้งอานร่วมงานกัน หลังจากที่เขาดูจบ ความคิดเห็นที่มีต่อหลิวเย่ก็มีเพียงแค่ไม่กี่คำเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาถึงขั้นเอ่ยปากชื่นชมอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้

โดยเฉพาะความคิดเห็นของเขาที่บอกอย่างเป็นนัยว่า ‘หลิวเย่จะต้องได้รับรางวัลจากหนังเรื่องนี้ในเทศกาลหนัง’ ก็ยิ่งทำให้หลิวเย่รู้สึกดีใจ

ทั้งสองพูดถึงบท 'Evil' ที่หลิวเย่แสดงอย่างเรียบง่ายเพียงไม่กี่ประโยค สายตาของซูเพ่ยเอินก็เคลื่อนไปหยุดอยู่ที่เจียงเซ่อ เธอสวมชุดเดรสลายลูกไม้ที่มีไข่มุกประดับอยู่ มีท่าทางทั้งเคร่งขรึมและสงบ

ตอนที่เขาคุยกับหลิวเย่ เธอไม่แสดงอาการว่าถูกมองข้ามจนอึดอัดหรือไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย แต่กลับฟังบทสนทนาของทั้งสองอย่างตั้งใจ เป็นผู้หญิงที่มีสัมมาคารวะดีมาก

ผู้หญิงคนนี้อายุยังน้อยมาก แต่ด้วยการแต่งหน้าและการแต่งกายที่เหมาะสมก็ทำให้เธอดูสง่าและงดงามเป็นพิเศษ ไม่ว่าใครก็คงยากที่จะเชื่อมโยงตัวเธอกับจางยวี่ฉินในหนังที่เสียใจจนหมดหวังเข้าด้วยกันได้

เจียงเซ่อแยกแยะระหว่างหนังกับความจริงออกจากกันได้เป็นอย่างดี ในหนังเธอลบเอกลักษณ์ทั้งหมดของตัวเองออกจนหมดสิ้น ถ่ายทอดตัวจางยวี่ฉินออกสู่สายตาของผู้ชมได้อย่างสมบูรณ์แบบ และนั่นไม่ใช่ตัวเธอ

สำหรับซูเพ่ยเอินแล้ว นี่เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมาก

บางทีก็มีคนจำนวนหนึ่ง เกิดมาเพื่อเจิดจรัสในเส้นทางของการเป็นนักแสดง

เขานึกถึงหนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ ที่จ้าวร่างกำกับและเจียงเซ่อเป็นนักแสดงนำด้วย ตอนนั้นเพราะซูเพ่ยเอินไม่ค่อยชื่นชมหนังแนวความรักเท่าไหร่ เขาจึงไม่ได้ไปดูหนังเรื่องนี้ ต่อมาก็เคยได้ยินผู้คนพูดถึง ‘ยอดขายตั๋ว’ ที่หนังเรื่องนี้ได้สร้างขึ้นขึ้นมา

สำหรับคนที่ชอบแน่นอนว่าชื่นชมหนังเรื่องนี้มาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีเสียงวิจารณ์ว่า ‘เจียงเซ่อไม่ได้มีความสามารถจริงและใช้ความสวยในการยึดบทนางเอกในหนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’

การแสดงของเจียงเซ่อในเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ ดีหรือไม่นั้นซูเพ่ยเอินไม่รู้ แต่ว่าในเรื่อง 'Evil' เธอใช้ความสามารถของตัวเองในการแสดงให้เห็นว่า เธอไม่ใช่คนที่สวยแต่ไร้ความสามารถ เธอมีความสามารถมากพอที่จะสู้กับหลิวเย่ ทั้งมีความแน่วแน่ในการทำทุกอย่างโดยไม่เสียดายเพื่อการแสดง

ความสวยของเจียงเซ่อนั้นไม่จำเป็นต้องพูดถึง แต่ในเรื่อง 'Evil' จะบอกว่าเธอสวยก็ไม่ได้ เพราะเธอปรากฏตัวพร้อมกับร่างกายที่ผอมแห้งราวกับโครงกระดูก แต่เธอกลับใช้ทักษะการแสดงอันยอดเยี่ยม จนสามารถทำให้ทุกคนหยุดสายตาที่เธอจนไม่สามารถละสายตาไปได้ตั้งแต่ต้นจนจบเหมือนที่ผ่านมา

อายุยังน้อยแต่มีศักยภาพ พยายามและเอาจริงเอาจัง มีความงดงามที่สวรรค์สรรสร้าง แต่ก็ไม่ยึดติดกับความงดงามนี้

ด้านนิสัยก็ไม่ใจร้อนรู้กาลเทศะและมีมารยาท เคยร่วมงานกับหลิวเย่ แต่ก็ไม่เย่อหยิ่ง ได้ยินคำวิจารณ์และคำชื่นชมก่อนหน้านี้ของเขาก็ไม่ลืมตัว

ในตัวของเธอมีบางอย่างที่โตเกินอายุ รู้ความสามารถของตัวเอง แต่ไม่จองหองและเย่อหยิ่ง ซูเพ่ยเอินคิดไม่ออกเลยว่า จะมีอะไรสามารถขวางความเจิดจรัสในวงการบันเทิงของผู้หญิงคนนี้ได้

“คนหนุ่มสาวเก่งนำหน้าคนรุ่นก่อนจริงๆ”

ซูเพ่ยเอินอุทานคำหนึ่ง เพราะเจียงเซ่อในเรื่อง 'Evil' ทำให้ตอนนี้เขาถึงขั้นตัดสินใจว่าจะกลับประเทศไปดูหนังเรื่อง ‘เกี่ยวกับฉันที่รักเธอ’ ที่เธอแสดงเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

“บรรดานักแสดงหญิงในรุ่นเดียวกกัน เจียงเซ่อโดดเด่นมากจริงๆ” ซูเพ่ยเอินกล่าวชม “บทจางยวี่ฉินในครั้งนี้เธอถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก ได้ข่าวว่าหนังเรื่องต่อไปเธอก็ยังคงร่วมงานกับหลิวเย่เหรอ”

“ใช่แล้วค่ะ อาจารย์ซู”

เจียงเซ่อคิดไม่ถึงว่านักวิจารณ์หนังที่มีชื่อเสียงระดับประเทศท่านนี้จะมาชื่นชมเธอด้วยตัวเอง เธอจึงตอบกลับด้วยความดีใจ

“หนังใหม่ที่ได้ร่วมมือกับพี่เย่ถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว คงจะต้องรบกวนคุณช่วยชี้แนะด้วยค่ะ”

เธอเผยรอยยิ้ม ส่วนซูเพ่ยเอินเองก็หัวเราะออกมา

อีกเดี๋ยวเขายังต้องไปดูหนังเรื่อง ‘The Incident’ ที่เถาเฉินเป็นนักแสดงนำ ตอนนี้ก็เสียเวลามามากแล้ว ซูเพ่ยเอินก้มหน้าลงมองนาฬิกาแวบหนึ่ง เขาเข้าไปเช็ครอบหนัง ‘The Incident’ ซึ่งอีกไม่กี่นาทีก็จะฉายแล้ว

ซูเพ่ยเอินเก็บความต้องการที่อยากจะคุยต่อไว้ สายตาเขาตัดสินคนไม่เคยพลาด เจียงเซ่อมีพรสวรรค์และมีความพยายาม ที่สำคัญคืออายุยังน้อย ทั้งยังมีผู้จัดการฝีมือดีข้างกาย พูดได้เลยว่าหากพัฒนาอย่างต่อเนื่องเหมือนตอนนี้แล้วล่ะก็ ในอนาคตวงการหนังของหัวเซี่ยจะต้องมีเธอประดับวงการแน่นอน

เธอเป็นนักแสดงและซูเพ่ยเอินเป็นนักวิจารณ์หนัง อนาคตยังคงมีโอกาสที่จะพูดคุยเรื่องหนังด้วยกันอีก

นักข่าวหัวเซี่ยจำนวนหนึ่งที่ออกมาจากโรงหนังจำซูเพ่ยเอินได้ จะถึงเวลาฉายของหนังเรื่อง ‘The Incident’ อีกครั้งแล้ว ซูเพ่ยเอินไม่เคยเป็นแฟนคลับของใครมาก่อน แต่ก่อนไป กลับขอโปสเตอร์ของ 'Evil' จากทีมงานของหนังเรื่องนี้และขอลายเซ็นหลิวเย่และเจียงเซ่อโดยไม่สนใจสายตาแฝงความแปลกใจของนักข่าวหนุ่มสาวในประเทศที่มองด้วยความสงสัย ก่อนจะรีบเดินออกไป