webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

455

บทที่ 455 ปีศาจ

ในหนัง ลั่วเซิ่นแม่ลูกยืนอยู่บนตาชั่งแห่งความตาย ลำคอของทั้งสองล้วนมีเชือกที่สามารถพรากชีวิตผูกไว้อยู่ หลังเท้ามีก้อนอิฐที่รักษาน้ำหนักของทั้งสองทับเอาไว้

หากอยากจะรักษาชีวิตของอีกฝ่ายเอาไว้ ทั้งสองก็ต้องเขย่งปลายเท้าเพื่อรักษาความยาวของเชือกที่ผูกกับลำคอของอีกฝ่าย ให้สามารถหายใจได้

นี่เป็นการวัดค่าความเป็นคน หากใครอยากมีชีวิตอยู่ อีกฝ่ายก็ต้องตาย

การแก้แค้นของจางยวี่ฉิน ทำให้สองแม่ลูกต้องเผชิญกับทางเลือกที่น่าหวาดกลัว

“ได้โปรดไว้ชีวิตลูกชายฉัน...”

แม่ของลั่วเซิ่นยังคงร้องขอชีวิต เมื่อต้องเผชิญกับตัวเลือกที่ยากลำบาก แม้จะเป็นคนที่โหดเหี้ยมอย่างลั่วเซิ่นก็ยังต้องตื่นตระหนก เพราะด้านหนึ่งคือความตาย อีกด้านคือแม่ของเขาเอง

เขาสามารถฆ่าจูจูได้อย่างง่ายดายและหั่นศพของเธออย่างเลือดเย็น แต่ทว่า เมื่อเผชิญกับแม่บังเกิดเกล้าของตนเอง กลับยากที่จะลงมือได้

แม่ของลั่วเซิ่นยังคงร้องขอชีวิตให้กับเขา

“โปรดให้อภัยเขา ให้อภัยเขาเถอะ ฉันรู้ว่าเธอเองก็เป็นแม่คนหนึ่ง...”

จางยวี่ฉินชื่นชมภาพทั้งหมดนี้ด้วยรอยยิ้ม

ดูถึงฉากนี้ จู่ๆ ซูเพ่ยเอินก็รู้สึกชาวาบไปทั้งตัว ความจริงเรื่องราวดำเนินมาจนถึงขั้นนี้แล้ว คงจะเป็นการเริ่มเข้าสู่บทสุดท้ายของเรื่องที่จ้าวร่างวางไว้อย่างไม่ต้องสงสัย

ความรู้สึกในตอนแรกของซูเพ่ยเอินและทุกคนในโรงหนังนั้นเหมือนกัน นั่นก็คือมั่นใจว่าด้วยการดำเนินเรื่องและชื่อเรื่องแล้ว ‘ปีศาจ’ น่าจะหมายถึงตัวลั่วเซิ่น

อย่างไรเขาก็เป็นคนฆ่าเด็กผู้หญิงอย่างเลือดเย็นโดยไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย เมื่อถึงเวลาเผชิญหน้ากับผู้เสียหายก็ยังตอบโต้อย่างโอหัง

แต่ตอนนี้ ซูเพ่ยเอินเริ่มสงสัยจุดประสงค์ของจ้าวร่างเสียแล้ว เพราะท่าทางของจางยวี่ฉินในหนังตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าโหดเหี้ยม ตอนนี้รอยยิ้มของเธอดูน่ากลัวเป็นพิเศษ ดูแล้วให้ความรู้สึกเย็นเยียบ

ชื่อหนัง 'Evil' หมายถึงลั่วเซิ่นที่เป็นฆาตกรหรือหมายถึงจางยวี่ฉินที่กลายเป็น 'ปีศาจ' หลังจากที่เสียลูกไปกันแน่

ความจริงแล้วท่าทางตายด้านของเธอในตอนที่เผชิญกับการร้องขอชีวิตของแม่ลั่วเซิ่น จนถึงขั้นแสดงท่าทางเหมือนกำลังชื่นชมผลงานของตัวเองนั้น มันเหมือนกับท่าทางของลั่วเซิ่นในตอนแรกที่ถูกจับได้ว่าเป็นฆาตกรไม่มีผิด!

ในมือของเธอขาดก็แต่บุหรี่มวนที่จุดแล้วเท่านั้น

“ให้อภัยเหรอ” จางยวี่ฉินยิ้มบางๆ พร้อมกับพูดเบาๆ “ฉันไม่มีสิทธิ์ให้อภัยใครหรอก คนที่สามารถให้อภัยเขาได้ มีเพียงจูจูที่ถูกเขาฆ่าเท่านั้น”

และสิ่งที่เธอต้องทำ ก็เพียงแค่ส่งลั่วเซิ่นไปให้จูจูตัดสินความผิดเท่านั้น

เธอออกจากโรงงานย้อมผ้าที่เต็มไปด้วยความผิดแห่งนี้ ทุกๆ ย่างก้าว ล้วนรู้สึกได้ว่าฝีเท้าเบาขึ้นเรื่อยๆ

เธอไม่สนใจว่าระหว่างลั่วเซิ่นและแม่ของเขาใครจะมีชีวิตรอด เพราะไม่ว่าใครรอด ก็จะอยู่ในสภาพเดียวกับเธอ และสัมผัสกับความเจ็บปวดจากการสูญเสียสิ่งที่รัก

ไม่สิ พวกเขาควรจะเจ็บปวดมากกว่าเธอ เพราะคนในครอบครัวต้องตายเพราะการเลือกของอีกฝ่าย

จางยวี่ฉินเดินไวขึ้นเรื่อยๆ เธอออกจากอาณาเขตโรงงานย้อมผ้าอย่างรวดเร็ว ร่างกายอาบอยู่ท่ามกลางแสงแดด

ตอนแรกแสงอาทิตย์ไม่สามารถทะลุผ่านกลุ่มม่านหมอกที่อยู่ในบ้านและไม่สามารถส่องสว่างเข้าไปในหัวใจของเธอได้ แต่ในตอนนี้เธอไม่มีอะไรต้องหวาดกลัวอีกแล้ว

เธอถึงขั้นฮัมเพลง เดินผ่านอาณาเขตของโรงงานรกร้างและเข้าสู่ตัวเมืองอันคึกคัก

ที่นี่เป็นย่านที่คึกคัก เมื่อก่อนเธอไม่เคยมา หลังจากที่จูจูหายตัวไป ชีวิตของเธอก็ไม่มีความหมาย แต่ตอนนี้เธอกลับปลดปล่อยตัวเอง ลานกว้างที่อยู่ไกลออกไป มีเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นกันอยู่รอบๆ รูปปั้น

เด็กที่ร่าเริงและไร้เดียงสาเหล่านี้อายุมากสุดไม่เกินสิบขวบ เธอนึกถึงลูกสาวของตนเอง หากจูจูยังมีชีวิตอยู่ ปีนี้คงจะอายุเท่านี้แล้วและคงจะดึงแขนของเธอเพื่ออ้อนและเรียกเธอว่าแม่

“คุณน้า” จางยวี่ฉินคิดจนเหม่อลอย กลับมีมือนิ่มคู่หนึ่งดึงเธอเอาไว้ เธอสะดุ้งทีหนึ่ง ขณะที่ก้มหน้าลง เห็นเด็กหญิงคนหนึ่งกำลังกวักมือ เพื่อบอกให้เธอก้มลงไป

“คุณน้าบาดเจ็บหรือเปล่าคะ”

ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยคราบเลือด เป็นแผลที่เกิดขึ้นตอนสู้กับลั่วเซิ่นนั่นเอง

จางยวี่ฉินเพิ่งจะรู้ตัว แต่เธอไม่รู้สึกเจ็บ ความรู้สึกของเธอได้ตายไปพร้อมกับจูจูตั้งนานแล้ว เธอลูบหน้าหลายที ซึ่งตอนนี้มันคงจะบวมมากจนน่ากลัว

เด็กสาวเขย่งเท้าเพื่อเป่าให้เธอ สัมผัสไม่ได้เลยแม้แต่น้อยว่าเมื่อครู่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเพิ่งจะพรากชีวิตหนึ่งไปอย่างโหดเหี้ยมและเลือดเย็น

“ไม่เจ็บเหรอคะ”

“ไม่เจ็บหรอกจ้ะ” จางยวี่ฉินส่ายหน้าพร้อมยิ้มฝืน เมื่ออยู่ต่อหน้าเด็กหญิงคนนี้ เธอรู้สึกอับอาย เด็กที่บริสุทธิ์และขาวสะอาดเหล่านี้ ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองเต็มไปด้วยความชั่วร้าย แต่เธอก็ยากที่จะปฏิเสธ เพราะมันทำให้เธอคิดถึงลูกสาวของตัวเอง

“คุณน้าอยู่คนเดียวเหรอคะ”

เด็กหญิงยังคงถามเธอด้วยความกังวล จางยวี่ฉินชะงักไป สายตาค่อยๆ อบอุ่นดั่งสายน้ำ และเลื่อนลงไปหยุดอยู่ตรงใบหน้าของเด็กหญิง เธออายุไม่ต่างจากจูจู ท่าทางที่เธอเงยหน้าขึ้นด้วยความเป็นห่วง ยิ่งเหมือนลูกสาวของเธอมาก

“เปล่าหรอกจ้ะ” เธอส่ายหน้าเบาๆ และคุกเข่าลงให้อยู่ในระดับสายตาเดียวกับเด็กหญิง และตอบเด็กหญิงอย่างตั้งใจ

“ฉันยังมีลูกอีกคน เพียงแต่เธอไม่อยู่ข้างกายฉันก็เท่านั้น”

ในวินาทีนั้น เธอพูดประโยคนี้ออกมาอย่างสงบนิ่ง แต่กลับทำให้ซูเพ่ยเอินรู้สึกเศร้ามาก

ในขณะที่จางยวี่ฉินพูดคำๆ นี้ออกมา ในโรงหนังมีเสียงสะอื้นเบาๆ ของคนจำนวนหนึ่งดังขึ้น

เธอก้มหน้าลงพร้อมรอยยิ้ม ในดวงตาราวกับมีน้ำตาคลออยู่

แสงไฟในโรงหนังสว่างขึ้นมา หน้าจอถูกหยุดเอาไว้ที่ใบหน้าของจางยวี่ฉิน

เพลงจบของหนังเรื่อง 'Evil' ดังขึ้น ซูเพ่ยเอินรู้สึกว่ายังไม่เต็มอิ่มและไม่อยากลุกขึ้นเลย

ทุกคนที่นั่งอยู่ในโรงหนังก็เหมือนกับเขา ทุกคนล้วนไม่รู้ว่าตนเองกำลังรออะไรอยู่ แต่กลับพร้อมใจกันไม่ลุกขึ้น จดจ่อคอยรายชื่อนักแสดงของหนังเรื่องนี้ปรากฏขึ้นอย่างแน่วแน่ จนกระทั่งเพลงที่มีความยาวสิบนาทีในตอนท้ายจบลง

ซูเพ่ยเอินรู้สึกว่ายังไม่ค่อยพอใจ หนังก็ได้จบลงแล้วแต่หลังจากที่ดูจบเขากลับยังรู้สึกค้างคาใจ

เขายังอยากรู้การตัดสินใจสุดท้ายของลั่วเซิ่นและแม่ของเขา ว่าใครจะรอด และจะแก้แค้นจางยวี่ฉินหรือไม่ แต่ซูเพ่ยเอินกลับแอบรู้สึกว่าไม่ว่าใครจะมีชีวิตรอด สำหรับจางยวี่ฉินแล้วมันไม่ต่างกันเลย

ลองคิดดูให้ดี หากคนที่มีรอดคือลั่วเซิ่น เขามีโอกาสรอดชีวิตมาได้เพราะการเสียสละชีวิตของผู้เป็นแม่ ทั้งชีวิตนี้ ‘ปีศาจ’ ตนนี้ก็จะตกอยู่ในนรกขุมนี้จนอยากที่จะถอนตัว

หากเขาต้องการจะแก้แค้นจางยวี่ฉิน จางยวี่ฉินก็ไม่มีอะไรต้องเสีย เธอไม่ได้กลัวมันเลยแม้แต่น้อย

ถ้าหากลั่วเซิ่นเลือกที่จะเสียสละตนเองให้แม่มีชีวิตอยู่ต่อ ชีวิตที่เหลือของแม่ของเขาก็ไม่ต่างกับ จางยวี่ฉินที่จมอยู่ท่ามกลางความทุกข์อย่างแสนสาหัส

ไม่ว่าอย่างไร จางยวี่ฉินก็สำเร็จเป้าหมายในการแก้แค้น จากมุมมองหนึ่งท้ายที่สุดเธอเองก็กลายเป็น ‘ปีศาจ’ บางทีอาจจะถึงขั้นที่น่ากลัวกว่า ‘ปีศาจ’ เสียด้วยซ้ำ

ซูเพ่ยเอินปรบมือ เสียงปรบมือที่เสียงดังฟังชัดดังขึ้นในโรงหนัง ตอนแรกมาจากซูเพ่ยเอินคนเดียว จากนั้นทุกคนก็เริ่มปรบมือตามเขา

นักข่าวจากสื่อต่างชาติหลายคนที่ในตอนแรกเตรียมจะเข้ามาหลับในนี้ก็ปรบมืออย่างสุดแรงเกิด ด้วยท่าทางที่ดูตื่นเต้น

ไม่ต้องสงสัยเลยแม้แต่น้อย หนังเรื่อง 'Evil' เป็นหนังยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ไม่ว่าจะดูจากธรรมชาติของตัวละคร หรือว่าความกระชับของบทและการแสดงอันยอดเยี่ยมของนักแสดงนำทั้งสอง ก็ล้วนสร้างความประทับใจได้เป็นอย่างดี

แม้หนังจะจบไปแล้ว แต่ทุกคนก็ยังคงระลึกถึงทั้งแสงไฟ บทพูดที่แสนจะลงตัว แม้กระทั่งการสนทนาระหว่างจางยวี่ฉินและเด็กหญิงในตอนท้ายก็สร้างความประทับใจให้ทุกคนอย่างเห็นได้ชัด