webnovel

สักวันฉันจะเป็นซุปตาร์

เธอ เฝิงหนาน คุณหนูตระกูลเฝิงผู้ร่ำรวยล้นฟ้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในร่างของ เจียงเซ่อ เด็กสาวยากจนที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา วันๆ เอาแต่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง แม้ชะตาจะเล่นตลกทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรไม่มีอะไรเหมือนกับชีวิตเดิมก่อนหน้านี้เลยสักนิด แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสที่สวรรค์มอบให้เธอเพื่อให้เธอได้เลือกทางเดินชีวิตของตนใหม่อีกครั้งก็ได้ ชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกเอง ตอนนี้โอกาสกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอบ้าง… เมื่อคนรู้จักในชีวิตครั้งเก่าได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอจะได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นใหม่อีกครั้งในมุมมองที่ต่างออกไป

กว่านเอ๋อร์ wr · Urban
Not enough ratings
710 Chs

457

บทที่ 457 คลื่นลูกใหญ่

ครั้งนี้ซูเพ่ยเอินไม่ได้เดินผิดทาง ตามหาโรงหนังที่ฉายเรื่อง ‘The Incident’ ตามในแผนที่จนเจอได้อย่างราบรื่น

ตอนที่ซูเพ่ยเอินไปถึง หนังก็เพิ่งจะเริ่มฉาย โรงหนังโรงนี้ใหญ่กว่าโรงที่ฉายเรื่อง 'Evil' เล็กน้อย ดูแล้วน่าจะบรรจุคนได้ราวร้อยกว่าคน แล้วก็มีคนนั่งจนเต็มไปแล้วประมาณเจ็ดแปดสิบเปอร์เซ็นต์

น่าจะเกี่ยวกับการที่ช่วงนี้เถาเฉินมีชื่อเสียงในยุโรปและอเมริกา จากการที่เธอรับเล่นหนังของผู้กำกับสัญชาติอิตาลีอย่างเชี่ยซ่าเหลยเรื่อง ‘The Lost City’ สื่อยุโรปเลยขนานนามเธอว่าเป็นสาวสวยแห่งหัวเซี่ย

เพราะเหตุผลนี้ ในโรงหนังนอกจากคนส่วนใหญ่ที่เป็นคนเอเชียแล้ว ก็ยังมีสื่อจากทางยุโรปจำนวนหนึ่งและนักวิจารณ์หนังที่หน้าตาเป็นที่คุ้นเคยอีกหลายคน อาจจะเข้ามาเพราะการร่วมงานระหว่างเถาเฉินและเชี่ยซ่าเหลย และยังมีนักวิจารณ์หนังจำนวนหนึ่งที่คุ้นเคยกับซูเพ่ยเอินเป็นอย่างดีด้วย

เพราะหนังกำลังจะเริ่มฉายแล้ว จึงไม่ได้ทักทายกัน ซูเพ่ยเอินพยักหน้าทักทายคนรู้จัก ตอนที่นั่งลงก็นึกถึงเรื่อง 'Evil' ที่ในโรงหนังมีผู้ชมอยู่อย่างกระจายแล้วก็ถอนหายใจออกมา

หนังที่มีคุณภาพเรื่องหนึ่ง แต่เป็นเพราะนักแสดงและผู้กำกับไม่มีชื่อเสียงมากพอในระดับโลก การเข้าฉายในรอบแรก เห็นได้ชัดว่าจำนวนคนสู้เรื่อง ‘The Incident’ ไม่ได้

เป็นไปตามที่ซูเพ่ยเอินคิดเอาไว้ เรื่อง ‘The Incident’ เองก็ไม่เลวนัก เนื้อเรื่องเริ่มจากการที่หลิวซีที่รับบทโดยเถาเฉินบังเอิญอยากทำความดีขึ้นมา แต่กลับทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ร้ายแรงขึ้น จนทำลายชีวิตของเด็กคนหนึ่งลง

เนื้อเรื่อง แฝงเอกลักษณ์มุมมองความคิดอย่างแรงกล้าของหนิงจ้านผิง การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างลื่นไหล เป็นการถ่ายทอดบทของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความตั้งใจดี แต่กลับทำเรื่องให้แย่ลงได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ตอนที่หลิวซีที่รับบทโดยเถาเฉินรู้ว่าเด็กผู้ชายคนหนึ่งจะต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิตเพราะตนเอง เธอก็ร้องไห้ออกมาอย่างควบคุมไม่ได้

แน่นอนว่าฉากร้องไห้ของเถาเฉินนั้นยอดเยี่ยมอย่างถึงที่สุด แต่ในใจของซูเพ่ยเอินนั้น เขามักจะเอาเธอไปเทียบกับจางยวี่ฉินที่เจียงเซ่อแสดงอยู่ตลอด

ในเรื่อง 'Evil' ตั้งแต่ต้นจนจบ จางยวี่ฉินไม่ได้เสียน้ำตาเลยแม้แต่หยดเดียว ไม่ว่าจะเป็นตอนที่รู้ว่าลูกสาวหายตัวไป หรือจะเป็นตอนที่มั่นใจแล้วว่าพบศพของลูกสาว เธอล้วนเก็บความรู้สึกเอาไว้ได้เป็นอย่างดี

แต่ทว่า ความเจ็บปวดแบบนั้นกลับวนเวียนอยู่ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนจบเรื่อง บรรยากาศแห่งความหมดหวังแบบนั้น มากกว่าน้ำตาของหลิวซีที่เถาเฉินถ่ายทอดออกมาอยู่มาก

เรื่องที่เถาเฉินแสดงดีก็จริงอยู่ แต่กลับไม่สามารถโน้มน้าวความรู้สึกของซูเพ่ยเอินได้ ในหัวของเขาถึงขั้นมีฉากสุดท้ายของ 'Evil' ปรากฏขึ้นมา ภาพที่จางยวี่ฉินและเด็กหญิงแปลกหน้าเผชิญหน้ากัน และพูดบทพูดนั้นออกมา

“ฉันยังมีลูกอีกคน เพียงแค่เธอไม่อยู่ข้างกายฉันก็เท่านั้น”

รอยยิ้มของจางยวี่ฉินในตอนนั้น ไม่รู้ว่าเพราะอะไรจึงสะกิดใจคนได้มากกว่า

หนังเรื่องหนึ่งยังฉายไม่จบ เขาก็เหม่อไปแล้วหลายครั้ง

ตอนนี้ในหัวเซี่ย สำนักข่าวหลงสิงได้ส่งข่าวที่มีการพาดหัวข่าวที่น่าดึงดูดออกมาข่าวหนึ่ง

‘เทศกาลหนังฝรั่งเศส ซูเพ่ยเอินคาดว่า 'Evil' จะสามารถเฉือนเอาชนะเรื่อง ‘The Incident’ จนได้รับรางวัลไปได้’

ใต้พาดหัวข่าว มีบทความเกี่ยวกับสิ่งที่เถาเถาและซูหมิ่นได้พบเจอในเทศกาลหนังฝรั่งเศส

ข่าวนี้มีเขียนคำชมที่ซูเพ่ยเอินมีต่อ 'Evil' เอาไว้อย่างละเอียด และเป็นการการันตีความสามารถในการแสดงของเจียงเซ่อและหลิวเย่ผ่านหนังเรื่องนี้ และยังกล่าวถึงคำชมเชยที่ซูเพ่ยเอินมีต่อ 'Evil' ด้วย

ข่าวนี้ใช้หัวข้อที่สะดุดตา เพียงไม่นานก็สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ชมในประเทศเอาไว้ได้ แน่นอนว่าแฟนคลับของเจียงเซ่อและหลิวเย่เองก็รอคอยหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็ทำให้แฟนคลับของเถาเฉินรู้สึกเคืองขึ้นมา

เถาเฉินมีชื่อเสียงในประเทศมานานหลายปี ชื่อเสียงและฐานะไม่ใช่สิ่งที่นักแสดงธรรมดาๆ จะสามารถเทียบได้ แน่นอนว่าแฟนคลับจำนวนมากของเถาเฉินไม่พอใจที่ไอดอลของตนเองถูกเหยียดหยาม

ชาวเน็ตจำนวนมากเข้าไปแสดงความคิดเห็นในเพจของสำนักข่าวหลงสิง และมีเสียงด่าทอบนเพจเกิดขึ้นมากมายในเวลาอันรวดเร็ว จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ สุดท้ายไฟสงครามนี้ยังลุกลามเผาไปจนถึงซื่อจี้หยินเหอ มีชาวเน็ตนึกถึงเรื่องที่ตอนแรกเถาเฉินและเจียงเซ่อมีผู้จัดการคนเดียวกันคือเซี่ยเชาฉวิน แต่สุดท้ายเซี่ยเชาฉวินกลับทิ้งเถาเฉิน แล้วเลือกเจียงเซ่อแทน

ตอนนั้นการตัดสินใจของเซี่ยเชาฉวินทำให้แฟนคลับจำนวนหนึ่งของเถาเฉินไม่พอใจ ตอนนี้ยังมีข่าวที่ดูอย่างไรก็เป็นการเหยียดหยามหนังเรื่องใหม่ของเถาเฉินและยกย่องเจียงเซ่อแบบนี้เกิดขึ้นอีก แน่นอนว่าแฟนคลับของเถาเฉินยิ่งไม่ยอมให้อภัยง่ายๆ

เมื่อสำนักข่าวหลงสิงลงข่าวนี้ในเว็บไซต์ ชาวเน็ตล้วนมีปฏิกิริยาที่แตกต่างกันไป

ปีศาจนักไต่เขา : เจียงเซ่อประสบการณ์น้อย แม้จะมีผลงานและได้แสดงหนังหลายเรื่องที่มียอดขายไม่น้อย แต่หากเทียบกับเถาเฉินแล้วยังคงห่างชั้นกันอยู่มาก ในข่าวนี้ซูเพ่ยเอินชื่นชมว่าเธอมีฝีมือการแสดงที่ยอดเยี่ยม ถึงขั้นกลบหนังเรื่อง ‘The Incident’ ที่เถาเฉินแสดง ถือว่าชมเกินจริงไปหรือเปล่า ฝีมือการแสดงของเถาเฉินก็ประจักษ์ต่อสายตาของทุกคนดี ฝีมือการแสดงหนังของเจียงเซ่อก็เห็นๆ กันอยู่ ไม่ว่ายังไงก็ยังเด็ก เมื่อเทียบกับเถาเฉินแล้ว แน่นอนว่ายังห่างชั้นกันมาก

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงประเด็นอื่น แค่เรื่องรายได้รวมจากหนังของทั้งสองคน รวมทั้งค่าพรีเซนเตอร์ ผลประโยชน์ที่สร้างให้กับซื่อจี้หยินเหอ ก็สามารถเทียบฐานะของทั้งสองได้แล้ว นี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึงต้นทุนของทั้งสองคนเลยนะ ตอนนี้เถาเฉินได้รับความสนใจจากผู้กำกับที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างเชี่ยซ่าเหลย มีประสบการณ์จากการร่วมมือกับผลงานฟอร์มยักษ์ของยุโรปและอเมริกา เจียงเซ่อจะมาเทียบได้ยังไง?

ถ้าหากเรื่องที่ซูเพ่ยเอินคิดว่าเจียงเซ่อและหลิวเย่จะสามารถคว้ารางวัลจากหนังเรื่อง 'Evil' ได้เป็นความจริง ถ้าอย่างนั้น ฉันคิดว่าซูเพ่ยเอินคงแก่จนตาพร่ามัว ไม่เหมาะกับการเป็นนักวิจารณ์หนังที่ซื่อสัตย์และยุติธรรมแล้ว

ชาวเน็ตที่ใช้ชื่อ ‘ปีศาจนักไต่เขา’ คนนี้ใช้คำพูดที่รุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่าโกรธเคืองเพราะหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

ใต้ความคิดเห็นของเขา มีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยเห็นด้วยกับความคิดของเขา ต่างคิดว่าเขาพูดถูก ถึงขั้นมีคนแสดงความคิดเห็นว่า : ฉันคิดว่า ข่าวนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าเจียงเซ่อจะยัดเงินนักข่าวเพื่อเขียนข่าวมั่ว

คุณชายสามแห่งตระกูลซู : ทุกคนต่างก็รู้กันดีอยู่ว่า เถาเฉินต่างหากที่ทำรายได้มากที่สุดในซื่อจี้หยินเหอ ประเด็นนี้ไม่ต้องสงสัยเลย ฝีมือการแสดงของเธอจะดีหรือไม่ ล้วนใช้สถิติในการยืนยันได้ การเลือกบทของเธอ แฟนคลับที่ตามเธอมานานหลายปีล้วนรู้ดี และครั้งนี้ผู้กำกับที่เธอร่วมงานด้วยคือหนิงจ้านผิง เก่งเจอเก่ง แน่นอนว่าต้องไม่ออกมาแย่แน่

แฟนหนังของเถาเฉินล้วนกำลังรอการเข้าฉายของหนังเรื่อง ‘The Incident’ ที่เธอเป็นตัวเอกคนเดียว ขาดก็แต่ถ้วยรางวัลจากเทศกาลหนังฝรั่งเศส ช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างปีนี้ แฟนหนังรอมานานหลายปีแล้ว แต่การรอคอยกลับถูกตอบแทนด้วยข่าวแบบนี้

หากข่าวนี้เป็นความจริง ถ้าอย่างนั้นฉันพูดได้เลยว่าคำพูดของซูเพ่ยเอินขาดความยุติธรรม หากข่าวนี้ไม่เป็นความจริง ฉันก็ทำได้แค่สาปแช่งนักข่าวพวกนี้ที่ทำเพื่อดึงดูดให้คนอ่าน ช่างมีความพยายามเหลือเกิน

สโมสรสนับสนุนแฟนหนังเถาเฉิน : @คุณชายสามแห่งตระกูลซู เรื่องนี้มีความเป็นความเป็นไปได้สูงว่าเป็นความจริง เธอจำได้หรือเปล่า ว่าหลายปีมานี้ซูเพ่ยเอินวิจารณ์หนังน้อยมาก แต่ว่าการวิจารณ์หนังในช่วงเวลาเกือบสิบปีของเขา คำวิจารณ์หนังถึงเจียงเซ่อมีถึงสองครั้ง มีความเป็นได้สูงที่เขาจะเป็นแฟนคลับของเจียงเซ่อ ออกมาพูดเอาดีเข้าตัวเธอ ออกมาสร้างกระแสให้หนังใหม่ของเธอ กลัวแต่ว่ามันคงจะไม่ใช่แค่นักข่าวที่พูดจามั่วซั่วเท่านั้นหรอก

แสงไฟตระกูลว่าน : คอลัมน์ของอาจารย์ซูยังไม่ได้อัพเดต ภาพรวมของข่าวเป็นยังไงก็ยังไม่ชัดเจน หลายคนก็รีบมาต่อว่าแล้ว

แอบรักใครคนหนึ่ง : จากระยะเวลาแล้ว ตอนนี้เทศกาลหนังฝรั่งเศสคงจะเปิดงานได้ไม่นานนัก แม้อาจารย์ซูจะดูหนังเรื่อง 'Evil' จบแล้ว แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะดู ‘The Incident’ จบ จากนิสัยของเขาแล้ว หากยังไม่ได้ดูหนังทั้งสองเรื่องจบด้วยตัวเอง คงไม่มีทางพูดอะไรไร้ความรับชอบอย่างเรื่องที่ว่า 'Evil' ดีกว่า ‘The Incident’ แน่

ทั้งสองฝ่ายล้วนแสดงความคิดเห็นและทะเลาะกันอย่างดุเดือด หนังทั้งสองเรื่องยังไม่เข้าฉายในประเทศ แต่กลับมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ซูเพ่ยเอินที่อยู่เมืองนอกคิดไม่ถึงเลยว่า คำพูดที่ตนเองพูดออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ จะกลายเป็นข่าวไปเสียแล้ว